เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ – ตอนที่ 96 สวีเหยากวงสนใจแค่ของสองสิ่ง

ฉินหร่านเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย ไม่คิดว่าซูเปอร์คาร์คันนี้มาหาตัวเอง

 

 

เธอเพิ่งเบี่ยงหลบ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งลงมาจากซูเปอร์คาร์

 

 

อีกฝ่ายสวมเสื้อเชิ้ตสีชมพูดูเจ้าชู้ ใบหน้ามีรอยยิ้มหยัน เขาถอดแว่นกันแดดออก พอกวาดตา ก็เห็นฉินหร่านที่ยืนอยู่ริมถนน ดวงตาลุกวาวขึ้นมา

 

 

“คุณหนูฉิน จำผมได้ไหม ผมเฉียนจิ่นอวี้” เขาโบกมือให้ฉินหร่านอย่างเป็นกันเองแล้วเข้าไปใกล้เธอ “เราเคยเจอกันที่คลับครั้งก่อน”

 

 

ฉินหร่านเหลือบมองเขาทีหนึ่ง ไม่ค่อยสนใจมากนัก สีหน้าเฉยชา “อืม”

 

 

พูดคำนี้เสร็จ เธอก็หันหลังจะเดินกลับไป

 

 

เฉียนจิ่นอวี้ไม่คิดว่าฉินหร่านจะจากไป เขาอึ้งไป คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีปฏิกิริยาแบบนี้

 

 

เขาเคยจีบผู้หญิงมามาก ส่วนใหญ่แค่เขายืนอยู่ข้างรถ กวักมือเรียกอีกฝ่ายก็เข้ามาแล้ว

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เจอคนที่เย็นชาขนาดนี้

 

 

นิ่งไปครู่หนึ่ง เฉียนจิ่นอวี้ก็วิ่งอ้อมมาอยู่ตรงหน้าฉินหร่าน มุมปากประดับด้วยรอยยิ้ม

 

 

หนิงฉิงรู้สึกผิดหวังในตัวฉินหร่านไม่น้อยเลย ตัวเองเตือนเธอชัดเจนขนาดนี้แล้ว แต่เธอก็ไม่เปิดใจ หมดอารมณ์เตรียมตัวจะกลับแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าแค่พริบตาเดียวจะมีรถอีกคันจอดลงตรงหน้าฉินหร่าน

 

 

รถคันนั้นไม่เหมือนบีเอ็มดับเบิลยูที่เธอนั่ง แต่เป็นซูเปอร์คาร์คันหนึ่ง

 

 

หากมองจากสายตาของหนิงฉิงตอนนี้ ราคาสูง แม้คนที่จะมีปัญญาซื้อรถแบบนี้ได้ในเมืองอวิ๋นเฉิงจะไม่น้อย แต่น้อยคนที่จะซื้อ เพราะมีคนไม่มากที่ยอมจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้รถคันหนึ่งแบบนี้

 

 

“หรานหร่าน” หนิงฉิงเปิดประตูลงจากรถ เสียงดังขึ้นนิดหน่อย เดินเข้าไปยืนข้างฉินหร่าน “เพื่อนลูกเหรอ”

 

 

หนิงฉิงกวาดตามองซูเปอร์คาร์อย่างนิ่งสงบ สุดท้ายก็หยุดลงที่ใบหน้าของเฉียนจิ่นอวี้

 

 

หน้าตาใช้ได้ ลักษณะท่าทางดูงามสง่า

 

 

คนที่เธอรู้จักในแวดวงมีไม่น้อย แต่ไม่เคยได้ยินว่ามีตระกูลไหนในเมืองอวิ๋นเฉิงแซ่เฉียนมาก่อน

 

 

มือของฉินหร่านซุกอยู่ในกระเป๋า เดินผ่านเฉียนจิ่นอวี้ไปอย่างไม่แสดงอารมณ์อะไรอีกครั้ง มุ่งหน้าไปทางโรงเรียน ใบหน้าที่ก้มลงดูหงุดหงิดและรำคาญใจ แต่ก็บดบังความสวยไม่ได้

 

 

เหมือนดั่งเปลวไฟ แผดเผาจนรู้สึกร้อนรุ่มในใจ

 

 

ตอนแรกเฉียนจิ่นอวี้อยากจะขวางฉินหร่านไว้ แต่ตอนที่เห็นเธอ ก็นิ่งอยู่กับที่

 

 

“คุณคือ…” แต่แน่ใจแล้วว่าเธอเป็นนักเรียนของเหิงชวนอีจง เฉียนจิ่นอวี้ก็หายห่วงแล้ว หันกลับไปคุยกับหนิงฉิงแทน

 

 

“ฉันเป็นแม่ของหรานหร่าน…” หนิงฉิงยิ้ม

 

 

 

 

ฉินหร่านเดินมาถึงห้องเก้าโดยไม่สนใจใคร

 

 

ตอนนี้ยังไม่หมดคาบเรียนด้วยตัวเอง

 

 

ตอนที่เธอเข้ามา สวีเหยากวงก็กำลังออกจากห้องพอดี

 

 

ฉินหร่านเบี่ยงตัวเล็กน้อย ให้สวีเหยากวงออกไป สวีเหยากวงยังคงก้มหน้าก้มตา ไม่แม้แต่จะเงยหน้า เย็นชาอย่างยิ่ง

 

 

สวีเหยากวงจะไปเอาควิซที่ห้องพักครู

 

 

ปกติแล้วฟิสิกส์จะสอบย่อยอาทิตย์ละครั้ง ควิซก็ยากขึ้นทุกวัน

 

 

ตอนที่เขาไป ฉินอวี่ก็มาเอาควิซวิชาฟิสิกส์เหมือนกัน ยังไม่ได้ออกจากห้องพักครู

 

 

“ครั้งนี้ควิซวิชาฟิสิกส์ยากมาก” ฉินอวี่ยกมือขึ้นเอาผมทัดหลังหูแล้วยิ้ม “ฉันได้แค่ 81 คะแนน ข้อใหญ่ข้อสุดท้ายคิดไม่ออก”

 

 

ควิซวิชาฟิสิกส์มีคะแนนครั้งละ 100 คะแนน

 

 

สวีเหยากวงมองเธอแวบหนึ่ง ใบหน้าฉายอารมณ์ที่เกิดขึ้นน้อยครั้ง “ได้แปดสิบคะแนนก็ดีมากแล้ว คะแนนของเราสองคนพอๆ กัน”

 

 

ฉินอวี่ยิ้ม เหมือนมีความรู้สึกที่เรียกความมั่นใจกลับมาได้

 

 

“คืนวันศุกร์ฉันมีซ้อมใหญ่ของงานโรงเรียน” เธอหยิบควิซพลางมองสวีเหยากวง เม้มปากราวกับเผลอพูดออกมา

 

 

สวีเหยากวงชอบดูเธอเล่นไวโอลินเสมอมา

 

 

โดยเฉพาะช่วงนี้ ชอบเพลงใหม่ของเธอมากเป็นพิเศษ

 

 

ราวกับฉินอวี่เดาใจเขาได้ ช่วงนี้ไม่ฝึกไวโอลินในโรงเรียนเลย

 

 

พอได้ยินว่าฉินอวี่จะซ้อมใหญ่ สวีเหยากวงต้องไม่พลาดโอกาสนี้แน่

 

 

เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าเบาๆ ในดวงตามีแต่ความสดใส “ได้ ฉันจะไปดู”

 

 

 

 

หลินซือหรานกำลังนั่งทำโจทย์ฟิสิกส์อยู่ที่โต๊ะ มีสมุดจดที่ฉินหร่านให้เธอวางอยู่ข้างๆ ตลอดระยะเวลานี้ ถ้าว่างเธอก็มักจะทำโจทย์ฟิสิกส์

 

 

ฉินหร่านกลับเข้าไปนั่ง แล้วดึงหนังสือเล่มหนึ่งออกมาเริ่มอ่านเหมือนกัน

 

 

“หรานหร่าน จันทร์หน้ามีงานโรงเรียน คืนวันศุกร์นี้จะซ้อมใหญ่ เธอจะดูพวกเราซ้อมไหม” หลินซือหรานวางปากกาลง มองฉินหร่านด้วยตาที่เป็นประกาย

 

 

ฉินหร่านพลิกกระดาษพลางเหลือบมองเธอ ตอบสนองอย่างเชื่องช้า “ดูอีกทีแล้วกัน”

 

 

ไม่รับปาก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ หลินซือหรานดีใจขึ้นมา

 

 

ฉินหร่านเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ มือเท้าคาง หลับตาลงน้อยๆ ขบคิดอย่างสบายๆ คืนวันศุกร์หาเวลาว่างสักหน่อยแล้วกัน

 

 

สวีเหยากวงกลับเข้ามาแจกควิซวิชาฟิสิกส์ที่สอบไปแล้ว

 

 

ควิซถูกครูฟิสิกส์ม้วนไว้ สวีเหยากวงคุยกับฉินอวี่มาตลอดทาง แถมยังถกเรื่องโจทย์ฟิสิกส์กันด้วย ไม่ทันได้ดูควิซ แต่เขาก็คาดเดาคะแนนของตัวเองได้

 

 

ตอนที่ถึงห้อง เขาเพิ่งเปิดควิซวิชาฟิสิกส์ออก

 

 

ครูฟิสิกส์มีนิสัยอย่างหนึ่ง ชอบเรียงควิซจากคะแนนที่ต่ำที่สุดไปหาคะแนนที่สูงที่สุด

 

 

แน่นอนว่าคนแรกย่อมเป็นฉินหร่าน

 

 

พอสวีเหยากวงก้มดู ได้ 38 คะแนน

 

 

ครั้งนี้ควิซวิชาฟิสิกส์ยาก สอบไม่ผ่านกันเป็นแถว ข้างล่างมีอีกหลายแผ่นที่ได้สี่สิบกว่าคะแนน 38 คะแนนไม่นับว่าสะดุดตามากนัก

 

 

แต่คะแนนนี้ไม่ทำให้สวีเหยากวงรู้สึกอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

เขายื่นควิซให้ฉินหร่านโดยตรง จากนั้นก็แจกให้คนอื่นๆ ต่อ

 

 

กริ่งเลิกคาบเรียนด้วยตัวเองดังขึ้น มีคนในห้องเริ่มเคลื่อนไหว เฉียวเซิงก็ได้ควิซแล้ว เขาเอาควิซของตัวเองมาเปรียบเทียบกับฉินหร่าน

 

 

แต่ยังไม่ทันได้เทียบดู ก็เห็นสวีเหยากวงถือควิซของหลินซือหรานเดินเข้ามาเงียบๆ สีหน้าผิดปกติ

 

 

คนอื่นไม่รู้ แต่เฉียวเซิงกลับรู้ดีว่า สองเรื่องที่สวีเหยากวงสนใจ

 

 

หนึ่งคือไวโอลิน

 

 

สองคือฟิสิกส์

 

 

ทั้งๆ ที่เก่งคำนวณมาก แต่กลับมาเป็นตัวแทนวิชาฟิสิกส์เสียอย่างนั้น

 

 

และประจวบเหมาะ ตอนนั้นฉินอวี่มีทั้งสองข้อ

 

 

เฉียวเซิงมองท่าทางของสวีเหยากวง งงๆ นิดหน่อย “คุณชายสวี มีอะไรเหรอ”

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

ด้วยว่าพ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่ยังเล็ก และ ฉินหร่าน ไม่ใช่เด็กประพฤติดี นอกจากจะไม่ตั้งใจเรียนจนผลการเรียนย่ำแย่แล้ว เธอยังหัวรั้นและก่อเรื่องทะเลาะวิวาทจนโดนพักการเรียนไปเป็นปี แตกต่างจาก ฉินอวี่ น้องสาวที่เป็นนักเรียนดีเด่นผู้แสนเพียบพร้อมราวฟ้ากับเหว ด้วยเหตุนี้แม่ของเธอจึงเลือกพาน้องสาวไปอยู่ด้วยเพียงคนเดียวและทิ้งฉินหร่านเอาไว้ท่ามกลางชนบท ปล่อยให้เธอเติบโตเพียงลำพังในความดูแลของคุณยายวัยชรา สองยายหลานร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาสิบสองปี จนกระทั่งวันหนึ่งคุณยายเกิดป่วยหนักอาการโคม่าต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในเมือง ครอบครัวฉินจึงได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง เมื่อคุณยายไม่สามารถดูแลฉินหร่านด้วยตัวเองได้ต่อไปได้อีก แม่ของเธอจึงอาสารับเลี้ยงเธอไว้แทน กระนั้นก็ยังไม่วายเหน็บแนมหญิงสาวอยู่ตลอดว่าอย่าทำตัวน่าขายหน้า ให้เอาอย่างฉินอวี่ผู้เป็นน้องบ้าง กระนั้นกลับไม่มีใครล่วงรู้เลยว่านอกจากฉินหร่านจะมีใบหน้างดงามเกินเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งตัวตนปริศนาที่ซุกซ่อนเอาไว้อยู่ เพราะใครกันล่ะที่ทำข้อสอบกากบาททุกข้อแล้วผลคะแนนสอบจะออกมาได้เท่ากับศูนย์ในทุกๆ วิชา เธอโง่จริงๆ หรือว่าตั้งใจกันแน่… เช่นเดียวกับ เฉิงเจวี้ยน หมอหนุ่มประจำโรงเรียนที่แสนธรรมดาคนนั้น ทว่า…เขาเป็นแค่หมอประจำโรงเรียนจริงหรือ เมื่อโชคชะตานำพาให้คนสองคนที่ปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้ได้มาพบกัน หน้ากากของใครจะถูกกระชากออกมาก่อนนะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset