ตอนที่ 233 เป็นต้องพบคน ตายต้องพบศพ (2)
ไม่อาจให้จวนเฟิงอวิ๋นผูกสัมพันธ์กับเฟิงหรูชิงได้
มิฉะนั้น
เมื่อมีการดำรงอยู่ของจวนเฟิงอวิ๋น กอปรกับฐานะธิดาของน่าหลานฮองเฮา ก็อยู่เกินขอบเขตของโลกปุถุชนแล้ว คนพวกนั้น…มีสิทธิ์ลงมือ!
“เด็กนั่นไม่ยอมมาพบข้า ข้าไปหานางสักเที่ยวจะดีกว่า กันไม่ให้คนใจดำนั่นลืมข้าแล้ว” จิ่วหมิงยกมุมปากเป็นรอยยิ้ม
เขาลุกขึ้น สะบัดชายเสื้อและเดินออกจากเก๋งสำเภา
…
“อุ๊กๆ”
เฟิงหรูชิงออกจากการเก็บตัว มองเห็นกระต่ายวิเศษสีขาวน่ารักยืนอยู่หน้านาง ใช้ขาดึงชายประโปรงนางไว้ ดวงตาสุกสกาวโตสีฟ้าราวอัญมณี ดูน่ารักและมีชีวิตชีวา
“หืม เจ้าบรรลุระดับสูงขั้นสองแล้วหรือ” แววตาเฟิงหรูชิงเผยความแปลกใจ
ยาวิเศษไม่เพียงมีผลกับคนเท่านั้น ซ้ำยังให้ประโยชน์กับสัตว์วิเศษเช่นเดียวกัน
เดิมทีระดับของกระต่ายวิเศษค่อนข้างต่ำ ตอนแรกเป็นเพียงสัตว์วิเศษระดับกลางขั้นหนึ่งเท่านั้น ผลคือระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่เดือนก็บรรลุถึงระดับสูงขั้นสองแล้ว
ขาดอีกแค่ก้าวเดียวก็เข้าสู่ขั้นสามแล้ว
เฟิงหรูชิงตาวาวเป็นประกาย หยิบโสมจื่อหลัวระดับสามต้นหนึ่งโยนให้กระต่ายวิเศษ
“เอาไปกิน หลังจากนั้นเจ้าก็จะเข้าสู่ขั้นสามแล้ว”
เจ้ากระต่ายวิเศษเข้าถึงขอบเขตที่จะบรรลุแล้ว ขอเพียงใช้กำลังจากภาพนอก ก็จะบรรลุชั้นสามได้
“อุ๊กๆ”
ไชเท้าใหญ่!
กระต่ายวิเศษคว้าโสมจื่อหลัวไว้ ดวงตายินดี
“อีกอย่าง ไปพาสัตว์วิเศษทั้งหมดมาหาข้า ช่วงนี้ข้ายุ่งเกินไป ไม่มีเวลาตรวจพลังของทุกตัวเลย”
แต่ว่าในจวนองค์หญิงนี้ ไม่ว่าจะเป็นยาวิเศษหรืออาหารบำรุงสุขภาพล้วนมีให้ใช้อย่างไม่จำกัด คาดว่าความสามารถของสัตว์วิเศษเหล่านี้จะทะลวงได้ไวมาก
“อุ๊กๆ”
กระต่ายวิเศษส่งเสียงร้อง กอดหัวไชเท้าใหญ่วิ่งออกไปด้านนอก
เฟิงหรูชิงบิดขี้เกียจ เดินออกไปนอกเรือน
ไม่ช้าสัตว์วิเศษทั้งหลายก็วิ่งมาตามคำเรียกของเฟิงหรูชิง ยืนเบียดกันอยู่เต็มเรือน
หมีปฐพี หมาไม้ประกายม่วง นกอินทรี จิ้งจอกแดง แร้งหัวสิงโต ลิงสี่แขน รวมถึงกระต่ายวิเศษสองตัว
หนึ่งในบรรดาสัตว์วิเศษที่อ่อนแอที่สุดก็คือกระต่ายวิเศษระดับสูงขั้นสองสองตัวนั้น
หมาไม้ประกายม่วง นกอินทรี ลิงสี่แขนต่างก็บรรลุถึงระดับสามขั้นต่ำกันแล้ว ส่วนแร้งหัวสิงโตและจิ้งจอกแดงอยู่ระดับสามขั้นกลาง ส่วนเจ้าหมีปฐพีเป็นยอดสัตว์วิเศษยังคงอยู่ระดับสามขั้นสูง
หากคิดว่าจำได้ยุ่งยากนัก ก็ได้แต่จดเจ้ากระต่ายวิเศษชั้นสองเอาไว้ ส่วนตัวอื่นๆ อยู่ชั้นสามก็พอแล้ว
“ดูท่าพวกเจ้าคงกินยาวิเศษไปไม่น้อย” เฟิงหรูชิงหัวเราะร่าลูบคาง
ประโยคนี้ของนาง ทำเอาสัตว์วิเศษทั้งหลายตกใจจนหมอบลงที่พื้น
นอกจากผลไม้วิเศษที่จัดให้ทุกวันแล้ว ก่อนหน้านี้เฟิงหรูชิงยังตั้งใจเพาะปลูกที่ดินผืนหนึ่ง ขอเพียงเป็นยาวิเศษในที่ดินผืนนั้น ก็ให้หมาป่าพ่อบ้านแบ่งให้พวกมันกินกันอย่างเต็มที่
ดังนั้นพวกมันไม่ต้องขโมยกิน
“พวกเจ้ากลัวอะไร พัฒนาฝีมือเป็นเรื่องดี ข้าจะโทษพวกเจ้าได้อย่างไรกัน” เฟิงหรูชิงเอาเหล้าวิเศษออกจากห้อง “อินทรี เจ้าเอาเหล้าวิเศษไปให้ท่านตา ผ่านไปตั้งสองเดือนแล้ว เหล้าวิเศษของเขาคงเกือบจะหมดแล้ว ส่วนสัตว์วิเศษอื่นๆ ข้ามีเรื่องอื่นจะบอก”
อินทรีร้องรับเสียงต่ำ รับเหล้าวิเศษไปแล้วทะยานขึ้นฟ้า หายไปท่ามกลางท้องฟ้าคราม
เจ้าหมีปฐพีไปหยิบเก้าอี้ออกจากห้องอย่างรู้ความ มาตั้งให้เฟิงหรูชิง
ลิงสี่แขนถือถาดผลไม้ มือข้างหนึ่งถือถาด อีกข้างปอกเปลือกผลไม้ มืออีกข้างส่งผลไม้ให้เฟิงหรูชิงถึงปาก
………………………..
ตอนที่ 234 เป็นต้องพบคน ตายต้องพบศพ (3)
เจ้ากระต่ายวิเศษสองตัวกระโดดขึ้นบ่าเฟิงหรูชิง ใช้สองเท้าทุบบ่านาง…
จิ้งจอกแดงยืนโมโหอยู่ท่ามกลางสัตว์วิเศษทั้งมีสีหน้าอิจฉา มันชิงกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดเฟิงหรูชิง ทำตัวประดุจพรมหมอบคลุมขานางไว้
สัตว์วิเศษที่เหลืออยู่ยืนอย่างพินอบพิเทา รอคำอบรม…
…
ตอนนี้ที่ถังอิ่นพาเชียนหนิงมาถึงก็เห็นภาพแปลกพิสดารตรงหน้า
หน้าอ้าปากตาค้าง ชี้นิ้วใส่หญิงสาวบนเกาอี้ ตะลึงงันจนพูดไม่ออก
นี่…นี่มันอะไรกัน
ผีหลอกแล้ว!
เฟิงหรูชิงในเวลานี้คล้ายกับราชินี สูงส่งทรงอำนาจ เป็นผู้นำใต้หล้า
ไม่รู้เพราะอะไร ดวงตาหญิงสาวฉายแววคมกริบ เรือนร่างอรชร กระทั่งท่าทางยามขมวดคิ้ว ยังจู่โจมหัวใจถังอิ่นเข้าอย่างจัง
ความรู้สึกแบบนี้ช่างแปลกประหลาดนัก
นางไม่เคยรู้สึกมาก่อน ราวกับต้องอาคมก็ไม่ปาน
“เจ้ามาอีกแล้วหรือ” เมื่อเห็นถังอิ่นที่ยืนตะลึงอยู่ เฟิงหรูชิงเลิกคิ้ว ยิ้มอย่างสง่าสงาม “ดูท่าเจ้าจะไม่เลิกรากับข้าจริงๆ นะ หากไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นผู้หญิง ข้าชักจะสงสัยแล้วว่าเจ้าคิดไม่ซื่อกับข้าหรือเปล่า”
แม่เด็กนี่มีภูมิหลังแข็งแกร่งมาก ทว่ามานานตั้งนานแล้วกลับไม่ทำอะไร เพียงแต่แฝงตัวเข้าจวนองค์หญิงมาไม่เลิกรา ถูกนางจับได้ไล่ออกไปสองสามครั้งแล้ว ก็ยังฉวยโอกาสที่นางไม่ทันใส่ใจแอบเข้ามาอีก
“ข้า…” ถังอิ่นได้สติ หน้าแดงก่ำ ดวงตาโกรธเคืองมองเฟิงหรูชิง “ใคร ใครจะคิดไม่ซื่อกับเจ้า! ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น”
นางเพื่อตามเย้ากั๋วซือเท่านั้น คิดไม่ซื่อกับผู้หญิงที่ใด
“อ้อ” เฟิงหรูชิงตอบรับเรียบๆ “หมีหนึ่ง โยนพวกนางออกไป”
“โฮก!”
หมีหนึ่งส่งเสียงคำราม เดินเข้าไปดึงคอเสื้อถังอิ่นและเชียนหนิง เดินไปที่กำแพงเรือนด้านหน้าอย่างไม่เกรงใจ โยนพวกนางออกไป จากนั้นเดินกลับมารับคำสั่งอย่างเชื่อฟัง
ด้านหลังกำแพง ถังอิ่นนั่งคุกเข่าหน้าเศร้า เบะปากเอ่ยว่า “ผู้หญิงคนนี้ไฉนดื้อดึงเช่นนี้”
เชียนหนิงดึงถังอิ่นขึ้นมา “คุณหนู มิฉะนั้น นางก็ยอมรับไปว่าคิดไม่ซื่อกับนางจริงๆ”
ถังอิ่น “…”
เชียนหนิงคิดว่าวิธีของตัวเองดีที่สุดแล้ว นางจึงตั้งใจเกลี้ยกล่อมต่อว่า “คุณหนู ขอเพียงเราแฝงตัวเข้าจวนองค์หญิงได้พอแล้ว ท่านใช้หญิงงามไม่ได้ผล ไม่สู้…ท่านโผเข้าอ้อมอกนาง นางกอดท่านแล้ว ท่านก็บอกว่านางแตะต้องร่างกายท่าน ต้องให้นางรับท่านเอาไว้”
“จริงหรือ” ถังอิ่นดวงตาวาวโรจน์ “เชียนหนิง ทำไมเจ้าถึงฉลาดเยี่ยงนี้”
เชียนหนิงเชิดหน้าอย่างภาคภูมิ “แน่นอนอยู่แล้ว เพื่อคุณหนูแล้วข้าอ่านตำราวางกลยุทธ์นับไม่ถ้วน เพื่อช่วยคุณหนูหาทางอยู่ต่อไปได้”
“งั้นข้าต้องทำอย่างไรเฟิงหรูชิงถึงกอดข้า”
“เรื่องนี้ง่ายมาก ในตำราบอกว่า ท่านต้องแสร้งล้ม นางต้องเอามารับท่านไว้ จากนั้นท่านก็เกาะไว้เสีย ตำราเขียนเช่นนี้ไม่ผิดแน่”
ดวงตาถังอิ่นทอประกาย
วิธีนี้ดี!
ไม่ว่าอย่างไรนางต้องเข้าจวนองค์หญิงให้ได้! ต่อให้นางใช้สติปัญญาทั่วชีวิตจนหมดก็ตามที!
ถังอิ่นกำลังเพ้อเห็นภาพเฟิงหรูชิงใช้เกี้ยวแปดคนหามรับนางเข้าจวน นางอดไม่ไหวหัวเราะออกมา มุมปากหยักยิ้มเป็นรอยยิ้มร้าย
…
ในเรือนหลัง เฟิงหรูชิงเห็นเสี่ยวหลัวลี่ไม่มารบกวนนางอีก นางค่อยคลายใจ รู้สึกปวดหัวน้อยจึงนวดจุดไท่หยาง[1]
“ต้องรีบหาทางสร้างค่ายกลแล้ว”
เจ้าเด็กนี่ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น นางก็ไม่อาจปฏิบัติต่อผู้อื่นรุนแรงเกินไป แต่อย่างไรโลกใบนี้ก็อันตรายนัก จำเป็นต้องกันคนเอาไว้บ้าง
…………………………..
[1] จุดไท่หยาง คือ ตำแหน่งอยู่บริเวณขมับ