ตอนที่ 23 เจ้าเป็นปีศาจใช่หรือไม่ (2)
เฟิงหรูชิงสีหน้ายิ้มแย้มพอใจ นางรับตำราฝึกสัตว์ไว้ “มีสัตว์วิเศษพวกนี้คอยช่วย ข้าก็จะช่วยพวกเจ้าปลูกยาวิเศษ แต่ในเมื่อพวกเจ้าอยากให้ข้าเป็นพ่อแม่ผู้เลี้ยงดูเจ้า ก็ต้องจ่ายค่าอาหารมา ตำราฝึกสัตว์นี่ถือเป็นส่วนหนึ่ง หากเจ้ายังมีของอะไรเก็บซ่อนไว้อีก ก็เอาออกมาแลกเปลี่ยนกับยาวิเศษของข้า”
ฝูเฉินอึ้งไป เขามองเฟิงหรูชิงด้วยท่าทีทำอะไรไม่ถูก ผ่านไปพักใหญ่ๆ จึงถามขึ้นว่า “เจ้าเป็นปีศาจใช่หรือไม่”
สิ่งล้ำค่าสองสิ่งที่เขามีก็ให้นางไปแล้ว นางยังคิดจะขูดรีดเอาจากเขาอีก
“พวกข้าไม่มีของอย่างอื่นแล้ว” ชิงหานเสียใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา “ไม่มีแล้วจริงๆ แม้แต่ตำราฝึกสัตว์ก็ให้เจ้าไปแล้ว พวกเราไม่เหลือของรักของหวงอะไรที่ซุกซ่อนไว้อีกแล้ว”
มองดูสภาพของชิงหานที่น่าสงสาร เฟิงหรูชิงรู้สึกผิด เหมือนว่าตนเองทำเกินไปกับเจ้าตัวเล็กสองตัวนี้
แม้พวกเขาอายุมากแล้ว แต่จิตใจยังเหมือนเด็ก การที่นางทำแบบนี้มันทารุณเกินไป
“ไม่มีก็ไม่มีสิ ต่อไปข้าจะเอายาวิเศษมาให้พวกเจ้า รอให้พวกเจ้ามีกำลังเพียงพอที่จะออกไปจากที่นี่แล้วค่อยมาช่วยข้า จริงสิ พวกเจ้าทำอะไรเป็นบ้างล่ะ”
ชิงหานกะพริบตาทำสีหน้าใสซื่อ ที่หางตาของนางยังมีคราบน้ำตา นางมองดูเฟิงหรูชิงแบบอึ้งๆ
มนุษย์คนนี้กลายเป็นคนพูดง่ายไปแล้วหรือ
ชิงหานกัดเล็บไปพลางคิดไปพลาง “ข้าช่วยเจ้ารับมือกับคนชั่วได้ ข้ากัดคนเป็น จริงๆ นะ ข้าดุมาก ขอแค่มียาวิเศษกิน เจ้าให้ข้าไปกัดใครข้าก็จะไปกัดคนนั้น!”
เฟิงหรูชิงอึ้งพูดอะไรไม่ออก
นางเป็นหมาอย่างนั้นหรือ
“เอาตำรายาวิเศษกับตำราอาหารบำรุงสุขภาพมาให้ข้า เดี๋ยวข้าจะไปศึกษาวิธีการปลูกยาวิเศษ” เฟิงหรูชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
นี่ก็สายมากแล้ว นางไม่อาจอยู่ที่นี่นานๆ ได้ หากพวกหลิวลี่มาที่ห้องแล้วไม่พบนาง เกรงว่าจะพวกนางจะรีบไปรายงานเสด็จพ่อ ถึงตอนนั้นผู้คนคงรู้กันไปทั่ว
“ตำราการปลูกยาวิเศษกับตำราอาหารบำรุงสุขภาพไม่มีหรอกนะ มันอยู่ในหัวของข้าต่างหาก ข้าจะถ่ายทอดให้เจ้าเดี๋ยวนี้ล่ะ”
ฝูเฉินเดินไปข้างหน้า นิ้วมือแตะไปที่หน้าผากของเฟิงหรูชิง เสียงดังว้าบ ตัวหนังสือนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในหัวของเฟิงหรูชิง ราวกับนางมีความรู้พวกนี้อยู่แล้วแต่กำเนิด
ผ่านไปสักพักใหญ่ ฝูเฉินเก็บมือกลับแล้วพูดว่า “ข้าถ่ายทอดความรู้ทั้งหมดให้เจ้าแล้ว เจ้ารีบไปเถอะ อีกอย่าง ตำราฝึกสัตว์มีประโยชน์สำหรับเจ้ามาก กลับไปแล้วอ่านให้เยอะๆ ล่ะ”
เวลาเฟิงหรูชิงเข้ามายังที่แห่งนี้ อาศัยแค่ด้ายแดงที่ข้อมือ แต่ถ้าจะกลับออกไป ต้องให้ฝูเฉินส่งนางไปเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ เมื่อฝูเฉินพูดจบแล้วคิดเพียงขณะจิตเดียว ก็ส่งเฟิงหรูชิงออกไปจากโลกนั้นได้
เมื่อเห็นภาพเฟิงหรูชิงลับตาไป ฝูเฉินจึงเอามือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากโดยไม่ต้องคิด เขาพูดอย่างดีใจ “เกือบไปแล้ว อีกนิดเดียวสมบัติของตระกูลคงโดนนางขูดรีดไปหมด ยังดีที่ข้าเก็บซ่อนไว้ได้หนึ่งชิ้น”
ชิงหานปาดน้ำตาที่หางตา หันหน้าไปมองฝูเฉิน “พี่ฝูเฉิน กระบี่ที่หัวหน้าพรรคคนก่อนทิ้งไว้ให้เจ้า มันใช้ทำอะไรได้หรือ”
“ใช้ทำอะไรได้ข้าก็ไม่รู้หรอก แต่ข้าว่ากระบี่เล่มนี้ดูน่าอร่อย ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้ข้าย่อยมันไม่ได้ละก็ ข้าคงกินมันเข้าไปแล้ว” ฝูเฉินถอนหายใจ “ดังนั้นข้าต้องเพิ่มกำลังตัวเองก่อน ไว้วันหลังค่อยกินมัน”
ของอย่างอื่นถูกเฟิงหรูชิงขูดรีดไปช่างมัน แต่กระบี่เล่มนี้เป็นของกินของเขาในอนาคต ยังไงก็ไม่ยอมให้นางได้ไปหรอก! ดังนั้น ถ้าไม่ส่งนางกลับไปเร็วๆ ของมีค่าของเขาก็คงไม่เหลือ
ตอนที่ 24 เจ้าเป็นปีศาจใช่หรือไม่ (3)
หลังจากเฟิงหรูชิงถูกส่งออกจากมิตินั้น นางก็นั่งอยู่บนเตียง นางเก็บตำราที่อยู่ในมือ แล้วเดินมุ่งหน้าไปทางประตูอย่างช้าๆ
เมื่อเปิดประตูออก แสงอาทิตย์ช่วงบ่ายจากด้านนอกส่องทะแยงเข้ามาข้างใน ส่องสว่างที่ตัวนางบิด ขี้เกียจกลางแสงแดด ยิ้มอย่างพอใจและชื่นใจ
“ออกจากวังหลวงมาแล้วรู้สึกดีจริงๆ”
ถึงแม้ในวังหลวงจะมีคนที่เป็นห่วงนางที่สุด แต่สถานที่นั้นมันทำให้นางรู้สึกอึดอัด แม้แต่แสงแดดที่สดใสก็สู้นอกวังหลวงไม่ได้
“องค์หญิง” หลิวลี่เดินมาจากที่ไม่ไกล แล้วทำท่าถวายคำนับเฟิงหรูชิง “ครั้งนี้ที่ท่านออกจากวังหลวงมีเพียงบ่าวกับชิงหลิงติดตามมา ไม่มีคนอื่นๆ ไม่ทราบว่าองค์หญิงต้องการให้บ่าวไปหาคนเพิ่มไหมเพคะ”
เฟิงหรูชิงส่ายหน้า “ไม่ต้อง ทหารอารักขาของจวนองค์หญิงข้าจะเป็นคนเลือกเอง ส่วนสาวรับใช้ พวกเจ้าสองคนก็เพียงพอแล้ว”
ถึงมีคนมากก็สู้พวกสัตว์วิเศษที่ทำสัญญาด้วยไม่ได้ ตอนนี้มีตำราฝึกสัตว์อยู่ในมือ นางไม่มีความจำเป็นต้องหาคนมาดูแลความปลอดภัยของจวนองค์หญิงแล้ว
“หลิวลี่ เจ้ากับชิงหลิงไปจัดการให้ข้าหน่อย ไปเตรียมแปลงนาให้ข้าผืนหนึ่งที่สวนด้านหลังจวน ข้าจะใช้ปลูกยา”
หลิวลี่มึนงงไปหมด องค์หญิงจะปลูกยาหรือ ยาไปซื้อตามร้านค้าก็ได้นี่? ทำไมตอนนี้องค์หญิงทำเหมือนตัวเองว่างขนาดนั้น
แน่นอนว่าเฟิงหรูชิงบอกให้หลิวลี่รู้ไม่ได้ นางปลูกยาก็เพื่อทำให้ยาธรรมดากลายเป็นยาวิเศษ อีกอย่าง ในบรรดาความรู้ที่ฟูเฉินถ่ายทอดไปยังสมองของนางมีเวทมนตร์พรางตาไม่ให้คนดูออก
เวทมนตร์นี้ทำให้ยาวิเศษเหมือนกับยาธรรมดาทั่วไป ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเห็นก็ดูไม่ออก แบบนี้จวนองค์หญิงของนางก็ไม่ตกเป็นที่หมายปองของผู้คน
“รีบไปเถอะ ข้ามีเรื่องต้องไปข้างนอก พอกลับมา ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะเตรียมแปลงนาเสร็จ”
“เพคะ”
หลิวลี่ตั้งสติได้ จึงขานรับด้วยความเคารพ
องค์หญิงปลูกยาจรรโลงใจ ก็ยังดีกว่าออกไปก่อเรื่องข้างนอก และตั้งแต่องค์หญิงฟื้นจากที่หมดสติไป ก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน ต่อไปนางไม่จำเป็นต้องคอยดูคอยจัดการ องค์หญิงก็ไม่มีทางทำเรื่องผิดพลาดแน่นอน
เฟิงหรูชิงไม่รู้สิ่งที่หลิวลี่กำลังคิด นางก้าวเท้าเดินออกจากจวนองค์หญิงไปแล้ว ในขณะที่นางเหลียวหลังจึงพบว่าป้ายประตูที่ถูกสั่งให้เปลี่ยนถูกแขวนขึ้นไปเรียบร้อย ไม่ใช่ป้ายทองประกายแวววับ แต่อักษรที่เขียนกลับดูนักเลงกว่าเดิม
“จวนองค์หญิงอันดับหนึ่ง”
เฟิงหรูชิงหยีตาใช้นิ้วจับคางเบาๆ แล้วพูดว่า “อันดับหนึ่งคำนี้ไม่เลว ต่อไปนี้ข้าคืออันดับหนึ่งของแคว้นหลิวอวิ๋น!”
จวนองค์หญิงอันดับหนึ่ง สามหาว จองหอง!
แต่นางกลับชอบ เฟิงหรูชิงละสายตาออกจากป้ายด้วยความรู้สึกพอใจ จากนั้นเดินต่อไปบนถนนทิศใต้
…
ในทวีปนี้ สัตว์วิเศษกับมนุษย์ไม่ข้องแวะกันและกัน ที่อาศัยก็อยู่ห่างกันมาก แต่ว่าก็ยังมีมนุษย์บางคนที่จับเอาสัตว์วิเศษไปขายได้
แน่นอนว่าสัตว์วิเศษพวกนั้นมีกำลังความสามารถไม่มาก หากเป็นสัตว์วิเศษที่มีความแข็งแกร่ง ต่อให้ต้องฆ่าตัวตาย มันก็ไม่ยอมให้มนุษย์จับไปเป็นของสำหรับซื้อขาย ศักดิ์ศรีทำให้พวกมันไม่ยอมก้มหัวเด็ดขาด
ในโรงค้าสัตว์ สัตว์วิเศษแต่ละตัวถูกขังอยู่ในกรง พวกมันหางจุกตูด ท่าทางซึมเซา ด้านนอกกรง หนุ่มสาว พวกหนึ่งกำลังเลือกชมอย่างจดจ่อ ภาพตรงหน้าดูคล้ายกับร้านขายสัตว์เลี้ยงสมัยอยู่ที่หัวเซี่ย
“ท่านพี่เพคะ”
ขณะที่เฟิงหรูชิงเดินเข้าไปยังโรงค้าสัตว์ ที่ไม่ไกลออกไปมีสาวน้อยหน้าตางดงามคนหนึ่งหันหน้ามาพอดี เมื่อมองเห็นเฟิงหรูชิง นางหยุดชะงักไปครู่หนึ่งจากนั้นสายตาก็เต็มไปด้วยความยินดี แต่ขณะที่เฟิงหรูชิงมองเห็นสาวน้อยคนนั้น นางกลับมีสีหน้าไม่สบอารมณ์
แบบนี้ถือว่าโลกแคบหรือเปล่านะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอกับเฟิงหรูซวงที่นี่