ตอนที่ 287 ความสงสัยของผู้คน (3)
หลังจากการปรากฏตัวขึ้นของถังอวี้ จวนเฟิงอวิ๋นก็ส่งคนออกไปสืบดูภูมิหลังของนาง
แต่ผลที่ได้คือไม่พบข้อมูลอะไรเลย!
นอกจากคนสกุลถังแล้ว ถังอวี้ไม่เคยเกี่ยวข้องกับคนอื่นเลย! และการขอเป็นศิษย์ของนางไม่ได้ทำโดยเปิดเผย คนสกุลถังจึงไม่ทราบแน่ชัดในเรื่องดังกล่าว
แน่นอนว่าตอนที่ถังลั่วผู้นำตระกูลถังพาผู้หญิงที่สูญเสียความจำคนหนึ่งมาที่บ้าน คนสกุลถังกลัวจะขายหน้าเลยไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ ต่อให้เป็นคนรับใช้ในบ้านก็ไม่มีใครรู้ว่าในบ้านสกุลถังมีคนแปลกหน้าเข้ามาอาศัยอยู่
ยิ่งกว่านั้นคือหรงเยียนไม่เคยออกจากเขาท้ายจวนเลยแม้แต่ก้าวเดียว จึงทำให้ไม่มีใครรู้เรื่องนาง จวนเฟิงอวิ๋นก็พลาดโอกาสที่จะพบตัวนางด้วย
แต่เฟิงอิงกลับไม่เชื่อเรื่องหลอกลวงพวกนั้น ถ้าสืบหาไม่พบ เขาก็จะสืบต่อไปเรื่อยๆ อย่างไรเสียก็ต้องพบเบาะแสเกี่ยวกับภูมิหลังของถังอวี้!
“หงอวี้” ชิงหย่วนมองดูหงอวี้ด้วยความเห็นใจ เขาลุกขึ้น “ช่วงหลายวันนี้ คงต้องลำบากเจ้าแล้ว”
หงอวี้ส่ายหน้าพร้อมยิ้มน้อยๆ “ไม่เป็นไรหรอก นางให้ข้าไปคอยปรนนิบัติก็เพราะนางรู้ว่าสมัยก่อนนายหญิงดีต่อข้ามาก สิ่งที่ข้าทนดูไม่ได้ คือการที่นางยึดเรือนคนอื่นมาเป็นของตัว เข้าไปอาศัยอยู่ในเฟิงชิงย่วน”
ไม่ว่าถังอวี้จะเป็นศิษย์ของนายหญิงจริงหรือไม่ เฟิงชิงย่วนก็เป็นสถานที่ที่นายหญิงทุ่มเทแรงกายแรงใจในการสร้างมันขึ้นมาเพื่อลูกสาวแท้ๆ ของนาง
เพื่อรอสักวันที่นางล้างแค้นสำเร็จ นางจะรับลูกสาวกลับมาอยู่ที่นี่
แต่ตอนนี้กลับถูกคนอื่นมายึดครอง ต่อให้สักวันนางได้มาอยู่ที่นี่ เฟิงชิงย่วนก็ไม่ใช่เรือนใหม่ไม่เคยมีคนอยู่อีกต่อไป
“ช่างเถอะ…ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยอมตามความต้องการของนาง” เฟิงอิงถอนหายใจ รู้สึกเสียดาย
ถึงอย่างไรเฟิงชิงย่วนก็เป็นเรือนที่คนทั้งหลายในจวนเฟิงอวิ๋นทุ่มเทแรงกายและหยาดเหงื่อลงไปมากมาย เพื่อสร้างเป็นที่อยู่ให้ลูกสาวแท้ๆ ของนายหญิง
เมื่อโดนศิษย์คนหนึ่งยึดไป มีหรือที่พวกเขาจะไม่เสียดาย
แต่ตอนนี้ไม่มีหนทางอื่น ทำได้เพียงรอให้หาตัวนายหญิงพบแล้วค่อยว่ากันใหม่
…
เมื่อเฟิงหรูชิงทำสัญญากับพวกสัตว์วิเศษเสร็จเรียบร้อย นางก็โบกมือลาพวกมัน แล้วเดินทางออกจากป่าแห่งสัตว์วิเศษ
เมื่อเทียบกับตอนที่เข้ามาในป่า ตอนนี้ด้านหลังของนางเหมือนมีหางงอกเพิ่มมาอีกสองหาง
จู่ๆ เฟิงหรูชิงก็หยุดนิ่ง
ถังอิ่นที่อยู่ด้านหลังหยุดฝีเท้าไม่ทันจึงเดินชนหลังนางเข้า ถังอิ่นเจ็บจนน้ำตาไหล นางเอามือลูบจมูกที่แดงก่ำแล้วแหงนหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
“เจ้าจะตามข้าไปถึงไหน” เฟิงหรูชิงถามแบบหน้านิ่วคิ้วขมวด
ถังอิ่นกัดริมฝีปากแน่น นางรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายทำให้เฟิงหรูชิงรู้สึกไม่ประทับใจตั้งแต่แรก เฟิงหรูชิงจึงเย็นชากับนางเช่นนี้
แต่ผู้หญิงคนนี้ ถึงภายนอกจะเย็นชา แต่ภายในใจนั้นอบอุ่นมาก
มิฉะนั้นคงไม่ยอมผิดใจกับคนของจวนเฟิงอวิ๋นเพื่อนางแน่นอน
“ข้า…” ถังอิ่นก้มหน้าเขิน “ข้าจะตามไปอยู่กับเจ้า ตกลงกันแล้วมิใช่หรือ ข้าจะจ่ายค่าเช่าบ้านให้เจ้าด้วย”
เฟิงหรูชิงยักคิ้ว “ข้าแค่พูดว่าขอคิดดูก่อน เพราะว่าข้าไม่รู้จักที่มาที่ไปของเจ้า เกิดเจ้าคิดทำร้ายข้าขึ้นมา…”
ถังอิ่นร้อนใจ นางแหงนหน้าขึ้นอีกหน ใบหน้ามอมแมมของนางแสดงความกระวนกระวาย
“ไม่มีทาง ข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้า”
เฟิงหรูชิงมองดูถังอิ่นอย่างใคร่ครวญ
เด็กคนนี้เป็นคนซื่อๆ แถมยังหลอกง่าย คิดอะไรก็แสดงออกผ่านสีหน้าหมด ทั้งโง่ทั้งซื่อบื้อ ต่อให้ถังอิ่นคิดทำร้ายนาง แต่ระดับสติปัญญาของถังอิ่นนั้นคงไม่มีทางทำอะไรนางได้
“รอกลับไปถึงก่อน ข้าจะดูว่าเจ้าจะจ่ายให้ข้าอย่างไร กลับถึงเมืองหลวงแล้วค่อยว่ากัน”
การเดินทางครั้งนี้ของนางกินเวลาหลายเดือน เกรงว่าเสด็จพ่อของนางคงร้อนใจเจียนบ้าแล้ว
ตอนนี้เฟิงหรูชิงจึงอยากกลับบ้านใจแทบขาด นางหันหน้ากลับแล้วมุ่งไปยังเมืองหลวงต่อ ไม่เสียเวลาพูดคุยกับถังอิ่นอีก
ตอนที่ 288 ความสงสัยของผู้คน (4)
แคว้นหลิวอวิ๋น
ตำหนักเป่าเหอในวังหลวง
นางระบำทั้งหลายต่างร่ายรำเพื่อความสุขสวัสดิ์แห่งบ้านเมือง นางระบำชุดแดงโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ดูน่าประทับใจ
ในตำหนักเป่าเหอ บรรดาอาคันตุกะกำลังชมความงามของนางระบำ แววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม มีเพียงเฟิงเทียนอวี้เท่านั้นที่อยู่ไม่เป็นสุข เขาหน้านิ่วคิ้วขมวด พูดกระซิบถามขันทีที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ยังไม่รู้เบาะแสของชิงเอ๋อร์อีกหรือ”
ก่อนชิงเอ๋อร์จะจากไป นางส่งคนมาทูลว่า นางจะไปข้างนอกช่วงหนึ่งแล้วจะรีบกลับมา
แต่นี่ผ่านไปสองเดือนแล้ว นางยังไม่กลับมาสักที คนที่เขาให้ออกไปตามหานางต่างไม่พบเบาะแสของนาง
ลูกสาวคนนี้…หนีไปไหนอีกแล้วนะ
“ฝ่าบาท องค์หญิงคงไม่เป็นอะไรหรอกพ่ะย่ะค่ะ กั๋วซือออกไปตามหานางแล้ว นางต้องไม่เป็นอันตรายแน่พ่ะย่ะค่ะ” ขันทีตอบอย่างนอบน้อม
เฟิงเทียนอวี้ถอนหายใจ ขนาดกั๋วซือยังออกไปตามหาชิงเอ๋อร์ แล้วคนเป็นพ่ออย่างเขา มีหรือจะไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของลูกสาว
“ฮ่าๆ!”
เสียงหัวเราะดังขึ้นในตำหนัก ทำให้เฟิงเทียนอวี้หลุดออกจากความคิด
“ฝ่าบาท ได้ยินมาว่าน่าหลานฮองเฮาสิริโฉมงดงาม พระธิดาต้องหน้าตาดีแน่ๆ เป็นไปได้หรือไม่ที่พระองค์จะรับสั่งให้องค์หญิงเฟิงหรูชิงออกมาให้ได้พบสักหน่อย”
“องค์ชายสอง ท่านอยู่แคว้นหลงอ้าวคงไม่รู้ว่าเฟิงหรูชิงหน้าตาอัปลักษณ์ เป็นคนไม่เอาอ่าว ทำตัวเสเพลเป็นนิสัย ยโสโอหัง พอเกิดมาแล้วทำให้แม่ของนางต้องตาย แถมยังดื้อรั้น ไร้การอบรม”
ปั้ง!
เดิมเฟิงเทียนอวี้พยายามควบคุมความโกรธของตัวเองไว้ แต่สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว กำปั้นของเขาทุบลงบนโต๊ะอย่างแรง เขายิ้มแสยะ แล้วมองดูคนทั้งหลายด้วยแววตาไม่เป็นมิตร
“ฝ่าบาท!” หลินกงกงตกใจหน้าซีด
ปัญหาสุขภาพของฮ่องเต้ยิ่งนับวันยิ่งรุนแรง เพื่อต้อนรับทูต เขากินผลจางหงกั่วเข้าไป หากโมโหจนทำให้ร่างกายทรุดอีก คงจะรักษาไม่ได้อีกแล้ว
เฟิงเทียนอวี้ยกมือขึ้นห้ามหลินกงกง
สายตาอันทะนงตนของเขามองดูทูตจากแคว้นหลงอ้าวอย่างเหยียดๆ สีหน้าดูเคร่งขรึม แม้สีหน้าจะสงบไม่เปลี่ยน แต่ในดวงตาของเขานั้นกลับปั่นป่วนไปด้วยพายุอันแสนน่ากลัว
คราวนี้ เฟิงเทียนอวี้ยังไม่ทันได้พูดอะไร จอกเหล้าใบหนึ่งถูกเขวี้ยงมา เสียงดังเปี้ยง กระแทกเข้าไปกลางหน้าผากของทูตที่พูดจาโอหังเมื่อสักครู่
“น่าหลานจิ้ง เจ้าทำอะไรของเจ้า”
เสิ่นเยว่ตบโต๊ะแล้วลุกยืนขึ้น ใบหน้าอันสง่างามของเขาดูโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นองค์ชายของแคว้นหลงอ้าว ลูกชายของแม่ทัพกระจอกๆ คนหนึ่งกล้าลงไม้ลงมือกับคนของเขาเช่นนี้เชียวหรือ
จู่ๆ เสิ่นเยว่ก็นึกบางอย่างขึ้นได้ เขายิ้มเยาะ “ข้าลืมไป เจ้าเพิ่งถูกแคว้นหลงอ้าวถอนหมั้น! ถึงได้อับอายจนโมโห แล้วกล้าลงมือกับทูตแห่งแคว้นหลงอ้าวกลางงานเลี้ยง! อีกอย่าง คนของข้าไม่ได้พูดอะไรผิด เฟิงหรูชิงองค์หญิงแคว้นหลิวอวิ๋นของพวกเจ้าเป็นพวกไม่เอาไหน!”
เมื่อก่อนตอนน่าหลานฮองเฮายังมีชีวิตอยู่ แคว้นหลิวอวิ๋นเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่แคว้น จนบัดนี้ฮองเฮาสิ้นพระชนม์ไปแล้วสิบหกปี
เวลาสิบหกปี สถานการณ์ของสี่แคว้นเปลี่ยนไปจากเดิมนานแล้ว
แคว้นหลิวอวิ๋น…ไม่เพียงล้าหลัง แม้แต่เฟิงเทียนอวี้ก็ไม่มีโอรสสักคน
มีเพียงลูกสาวสองคน คนหนึ่งถูกเขาไล่ไปอยู่ในค่ายทหาร ส่วนอีกคน…กลับกลายเป็นคนไม่เอาถ่าน!
สีหน้าของน่าหลานจิ้งไร้อารมณ์ แววตาของเขาดูเย็นชา “ต่อให้แคว้นหลงอ้าวของพวกเจ้าไม่ถอนหมั้น ข้าน่าหลานจิ้งก็ไม่มีทางแต่งงานกับแคว้นที่ดูถูกน้องสาวข้าแบบนี้”
“เฮอะๆ” เสิ่นเยว่หัวเราะเยาะพร้อมโบกพัด “ข้าก็ไม่เข้าใจทั้งๆ ที่องค์หญิงรองเฟิงหรูซวงทั้งสวยทั้งมีความสามารถ มีพรสวรรค์ นิสัยอ่อนโยนจิตใจดีงาม เป็นมิตร สุภาพและอ่อนน้อมถ่อมตน แต่พวกเจ้ากลับเอาเพชรเม็ดนี้ไปแลกกับกรวด ไม่รู้ว่าพวกเจ้าโง่หรือว่าเฟิงหรูชิงนั่น…มีอะไรร้ายกาจกันแน่”