ตอนที่ 291 องค์ชายสองผู้หลงตัวเอง (3)
ในขณะที่เสิ่นเยว่กำลังรู้สึกผิดคาด หมัดของน่าหลานจิ้งก็พุ่งเข้ามาที่หน้าของเขาอีกครั้ง
ในวังหลวงไม่อนุญาตให้พกอาวุธติดตัว ดังนั้น พวกเขาจึงต้องสู้กันด้วยมือเปล่า
ทุกคนต่างกลัวว่าการต่อสู้ของเขาสองคนจะกระทบมาถึงตนเอง พวกเขาจึงหลบไปอยู่ข้างๆ เปิดเป็นพื้นที่กว้างๆ ให้กับสองคนนั้น
น่าหลานฉางเฉียนกำถ้วยชาแน่น สายตาจับจ้องดูคนสองคนที่กำลังสู้กันตรงหน้า แววตาดูกังวล
ไอ้ลูกคนนี้ เหล้าวิเศษที่ดื่มไปมากมายไม่เสียเปล่า โดยไม่ทันรู้ตัวก็บรรลุฌานระดับเจินอู่ขั้นกลางเสียแล้ว
แต่เสิ่นเยว่บรรลุมานานแล้ว อยากเอาชนะเขาคงไม่ง่ายขนาดนั้น
“น่าหลานจิ้ง!”
หมัดกระแทกเข้าไปที่กลางอกของเสิ่นเยว่ เขาไม่ทันได้ป้องกัน จึงเคลื่อนตัวไปข้างหลังหลายก้าว เขาเอามือปาดเลือดที่มุมปาก นัยน์ตาอาฆาต “นี่เจ้ายั่วข้าเองนะ!”
เขารู้ดีว่าถ้าวันนี้เขาไม่บดขยี้น่าหลานจิ้งให้เละ เขาจะไม่มีวันลุกกลับขึ้นมาอีกเลย
ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร เขาต้องเหยียบน่าหลานจิ้งให้จมดิน ไม่ปล่อยให้น่าหลานจิ้งตั้งตัวกลับมาใหม่ได้!
ทันใดนั้น เสิ่นเยว่ควักกล่องใบหนึ่งออกมาจากชายแขนเสื้อ เขาเปิดกล่องออกแล้วหยิบผลไม้สีเขียวในกล่องมาอมไว้ในปาก
ทันทีที่ผลไม้เข้าปาก เขารู้สึกถึงพลังที่ซาบซ่านไปทั่วร่างกาย ราวกับว่าพลังวิเศษมหาศาลกำลังจะระเบิดออกมา
ฟับ!
หมัดนั้นมีพลังรุนแรง ราวกับพายุฝนฟ้ากระหน่ำ มันพุ่งไปอย่างรวดเร็ว
“จิ้งเอ๋อร์ ระวัง!” น่าหลานฉางเฉียนตกใจหน้าถอดสี เขารีบตรงเข้าไป
แต่เมื่อเขาเดินเข้าไปได้ไม่กี่ก้าว ด้านหลังก็ปรากฏคนหลายคนตามมาด้วย น่าหลานฉางเฉียนขวางพวกเขาไว้
“ท่านแม่ทัพน่าหลาน นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างองค์ชายของพวกข้ากับลูกชายของท่าน หากพวกท่านเข้าไปก้าวก่าย จะไม่เป็นการเล่นหมาหมู่หรอกหรือ แบบนี้จะทำให้คนเขาครหาได้นะ” ชายสูงวัยแสยะยิ้ม พูดเหน็บแนม
ในระหว่างที่พูด พลังของชายสูงวัยทั้งสามก็แผ่ซ่านออกมา พลังมีอานุภาพราวกับมีภูเขายักษ์ใหญ่กดทับศีรษะของทุกคนไว้
ผู้มีฌานระดับหลิงอู่!
ชายสูงวัยทั้งสามเป็นผู้มีฌานระดับหลิงอู่หรือนี่!
เกิดอะไรขึ้นกับแคว้นหลงอ้าวหรือนี่ ถึงได้มีผู้มีฌานระดับหลิงอู่มากมายขนาดนี้ มิน่าล่ะเสิ่นเยว่ถึงกล้าทำตัวสามหาวในแคว้นหลิวอวิ๋น ที่แท้เพราะมีพรรคพวกนี่เอง!
เฟิงเทียนอวี้นั่งไม่ติดแล้ว เขารีบเดินลงจากพลับพลา
ขณะเดียวกันพวกองครักษ์ได้ชักกระบี่ออกมาแล้วชี้ไปที่ผู้มีฌานระดับหลิงอู่สามคนนั้น
“ฝ่าบาท!” หลินกงกงย่ำเท้าอย่างกระวนกระวาย
องค์หญิงเคยบอกไว้ว่าฝ่าบาทจะใช้พลังวิเศษอีกไม่ได้ มิฉะนั้น…จะทำให้อาการทรุดหนักลงอีก ทนอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งปี!
ในเวลานั้นเอง หมัดของเสิ่นเยว่ก็ชกเข้าที่หัวไหล่ของน่าหลานจิ้งเสียงดังปัก
น่าหลานจิ้งกระอักเลือด และตัวลอยไปข้างหลัง ก่อนจะตกลงบนแท่นที่นั่งจัดเลี้ยง
“ทุกคนถอยไป!”
เฟิงเทียนอวี้จ้องมองดูพวกชายสูงวัยที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาขึงขัง น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าว
ชายสูงวัยเหล่านั้นยืนนิ่ง รอบกายของพวกเขามีพลังที่ดูร้ายกาจ ยืนอยู่ตรงหน้าเฟิงเทียนอวี้โดยไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด
“ฮ่องเต้แห่งแคว้นหลิวอวิ๋นผู้สูงส่ง คิดจะก้าวก่ายการประลองฝีมืออย่างยุติธรรมระหว่างข้ากับน่าหลานจิ้งอย่างนั้นหรือ” เสิ่นเยว่ยิ้มถากถาง “หากการกระทำที่ไร้ยางอายเช่นนี้แพร่สะพัดออกไป ท่านจะต้องกลายเป็นขี้ปากของชาวบ้านแน่นอน!”
“ยุติธรรมหรือ” เฟิงเทียนอวี้หัวเราะหึ “ความยุติธรรมของเจ้าคือการที่สู้จิ้งเอ๋อร์ไม่ได้ เลยต้องกินยาวิเศษเพื่อเพิ่มพลัง?”
“ฮ่าๆๆ !” เสิ่นเยว่หัวเราะเสียงดัง “ข้าใช้ยาวิเศษเพิ่มพลังแล้วจะทำไม ถ้ามีปัญญา พวกท่านก็ใช้ยาวิเศษเพิ่มพลังได้เหมือนกัน อ้อ ข้าลืมไป แคว้นหลิวอวิ๋นที่ไม่มีน่าหลานเยียน จะมีปัญญาหาซื้อยาวิเศษได้อย่างไร ร้านขายยาวิเศษต่างเลือกลูกค้า ถ้ามีกำลังไม่มากพอ พวกเขาไม่มีทางขายยาวิเศษระดับสามให้พวกท่านหรอก”
ตอนที่ 292 องค์ชายสองผู้หลงตัวเอง (4)
นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าความเลอค่าแต่หาซื้อไม่ได้ของยาวิเศษ
เมื่อเสิ่นเยว่พูดจบ เขาก็เดินไปอยู่ตรงหน้าของน่าหลานจิ้ง เขาเอื้อมมือไปหิ้วตัวน่าหลานจิ้งขึ้นมาจากพื้น
“หยุดนะ!” น่าหลานฉางเฉียนโมโห “ท่านเอาชนะจิ้งเอ๋อร์ด้วยวิธีการแบบนี้ก็มากพออยู่แล้ว ตอนนี้เขาแพ้แล้ว เหตุใดท่านยังหมายจะเอาชีวิตเขาด้วย”
เสิ่นเยว่ก้มหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
วันนี้เขาเอาชนะน่าหลานจิ้งได้ด้วยยาวิเศษ หากวันหน้าน่าหลานจิ้งเก่งกว่าเขาล่ะ?
เพื่อป้องกันเหตุที่คาดไม่ถึง เขาต้องทำให้น่าหลานจิ้งพิการ! แบบนี้ตำแหน่งผู้มีพรสวรรค์ที่สุดในสี่แคว้นจะได้ไม่เปลี่ยนมือ!
“ข้าบอกว่าหยุดเดี๋ยวนี้!” น่าหลานฉางเฉียนโมโหถลึงตา อาการโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ในขณะที่เขาจะพุ่งเข้าไป ชายสูงวัยคนหนึ่งก็เข้ามาขวางหน้าเขาไว้ ทำให้เขาต้องหยุดอยู่กับที่
“ท่านแม่ทัพ” เฟิงเทียนอวี้สายตาโกรธเกรี้ยว “ข้าส่งคนไปตามแม่ทัพเฒ่าและผู้เฒ่าฉินแล้ว เดี๋ยวพวกเขามาถึง ไอ้แก่สามตัวนี้ต้องตายไม่เหลือหลอ!”
แม่ทัพเฒ่ากับผู้เฒ่าฉินอายุมากแล้ว จึงไม่รู้สึกสนใจงานเลี้ยงสังสรรค์ และไม่รู้ว่างานเลี้ยงรับรองจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จึงไม่ได้มาร่วมงาน
“แต่ ฝ่าบาท…” สุขภาพของฝ่าบาทไม่สู้ดีนัก จึงไม่สามารถต่อสู้ได้
“เดี๋ยวข้ากับหลิวอวิ๋นเซียวจะขวางพวกมันไว้ก่อน เจ้าจงไปช่วยน่าหลานจิ้ง”
เฟิงเทียนอวี้เงยหน้าขึ้น พูดเสียงเข้มว่า “หลิวอวิ๋นเซียว เจ้ากับข้ารับมือไอ้แก่สามตัวนี่ ส่วนคนอื่นๆ ถอยไปให้หมด”
เมื่ออยู่ตรงหน้าผู้มีฌานระดับหลิงอู่ มีแต่คนที่มีฌานระดับเดียวกันเท่านั้นที่จะต่อสู้กันได้ คนอื่นๆ…ต่อให้มีจำนวนมากกว่าแค่ไหน ก็ถือว่ารนหาที่ตาย
หลิวอวิ๋นเซียวกำลังจิบเหล้าและยิ้มสะใจ ราวกับว่ากำลังดูการแสดงสนุกๆ ต่อให้เฟิงเทียนอวี้สั่งให้เขาไปร่วมต่อสู้ แต่เขาก็ทำเป็นไม่รู้สึกรู้สา
เฟิงเทียนอวี้ “…”
ไอ้แก่นี่แม้จะเป็นขุนนางของแคว้นหลิวอวิ๋น กลับทำเป็นไม่สนคำพูดของเฟิงเทียนอวี้!
ถ้าหาก…ถ้าหากเขาไม่ถูกพิษละก็ ไม่จำเป็นต้องให้ใครช่วยเลย เขาคนเดียวก็จัดการกับชายสูงวัยที่มีฌานระดับหลิงอู่สามคนนั้นได้
“หลิวอวิ๋นเซียว ท่านมัวทำอะไรอยู่” น่าหลานฉางเฉียนพูดด้วยความโมโห
หลิวอวิ๋นเซียวพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “อยากให้ข้าช่วย ข้าก็จะช่วย แต่ฝ่าบาทต้องแต่งตั้งหรงเอ๋อร์เป็นฮองเฮาทันที และตีเฟิงหรูชิงให้พิการซะ ถ้าถึงจะยอมช่วย”
ก่อนนี้เฟิงเทียนอวี้โอหังนักมิใช่หรือ ไม่เพียงปฏิบัติกับหรงเอ๋อร์แบบนี้ แถมยังสั่งเนรเทศซวงเอ๋อร์เพื่อเฟิงหรูชิงอีก!
ในเมื่อฝ่าบาทไม่เห็นสกุลหลิวอยู่ในสายตา แล้วไยตอนนี้ต้องมาร้องขอความช่วยเหลือจากข้า
อีกอย่าง หลิวอวิ๋นเซียวอยากให้ชายสูงวัยสามคนนั้นฆ่าเฟิงเทียนอวี้ให้ตายใจจะขาด แล้วจัดการคนจากตระกูลน่าหลานสองคนนั้นให้กลายเป็นคนพิการ ถ้าเป็นแบบนี้ เขาคงประหยัดแรงไปได้มากทีเดียว
หรงกุ้ยเฟยที่แอบอยู่หลังฉากได้ยินคำพูดดังกล่าว ตาของนางเป็นประกายและรีบมองไปที่เฟิงเทียนอวี้
เฟิงเทียนอวี้ยังคงวางตัวสง่าเช่นเดิม ชุดมังกรที่โบกพลิ้วแม้ไม่มีลมพัด ถึงแม้จะเห็นแค่ด้านข้าง ก็ทำให้ใจนางสั่นระรัว
ขอเพียงฝ่าบาทแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาและตีเฟิงหรูชิงให้พิการ นางก็จะยอมปล่อยวางความแค้นในอดีตไปเสีย แล้วเป็นฮองเฮาที่แสนดีของไพร่ฟ้า!
แต่ว่าภายใต้การท้าทายของหลิวอวิ๋นเซียว เฟิงเทียนอวี้เลือกที่จะหลับตาลง ผ่านไปสักพัก เขาลืมตาขึ้น แววตาของเขาแข็งกร้าวราวกับเพชร
“ข้าจะจัดการกับสามคนนั้นเอง คนอื่นไม่ต้องมายุ่ง!”
เขาจะไม่ยอมให้คนพวกนี้มาหยามเกียรติแคว้นหลิวอวิ๋นเป็นอันขาด
เหยียดหยามลูกสาวของเขา แล้วยังรังแกหลานชายอีก!
“ฝ่าบาท!” น่าหลานฉางเฉียนหน้าซีดขาว
เฟิงเทียนอวี้ยิ้มน้อยๆ “ข้าจะถ่วงเวลาไว้จนกว่าพวกผู้เฒ่ามาถึง ถ้าวันนี้ข้าเป็นอะไรไป เฟิงหรูชิงจะสืบทอดบัลลังก์ต่อจากข้า มีท่านแม่ทัพคอยช่วยสนับสนุน ไม่ว่าใครก็ห้ามคัดค้าน”