ตอนที่ 33 หมาป่าเทียนซานของข้ายอมหิวตายไม่ขอกินอะไรทั้งนั้น (2)
มันเร็วเหลือเกิน เร็วเสียจนเฟิงหรูชิงตาลายสับสนไปหมด นางเบิกตากว้างจ้องมองดูต้นยาที่โตขึ้นอย่างไม่กะพริบตา สีหน้าบ่งบอกถึงความตกใจ
“เทียนหลิงกั่วระดับต้นหรือ”
เทียนหลิงกั่วเป็นยาระดับหนึ่ง เฟิงหรูชิงให้หลิวลี่ไปซื้อเพื่อนำมาดองเหล้าวิเศษ แต่เทียนหลิงกั่วถือเป็นยาชั้นรองสุดในกลุ่มยาระดับหนึ่งอีกที ไม่มีสรรพคุณสำหรับการฝึกตบะ ประโยชน์เพียงอย่างเดียวคือช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้า
สิ่งที่ทำให้เฟิงหรูชิงชอบใจคือเทียนหลิงกั่วนี้…รสชาติดี ชุ่มฉ่ำ เป็นของชอบของพวกสัตว์วิเศษ ด้วยเหตุนี้ แม้เทียนหลิงกั่วจะเป็นเพียงยาวิเศษระดับต้น แต่เกือบโดนพวกสัตว์วิเศษกินจนหมดจนแทบจะสูญพันธุ์
ด้วยเหตุนี้จึงเห็นได้ว่า เทียนหลิงกั่วยั่วยวนพวกสัตว์วิเศษมากเพียงใด
เฟิงหรูชิงเอามือลูบคางแล้วยิ้ม “ดูท่า หมาป่าสีขาวตัวนั้นคงได้นำมาใช้งานสักที ข้ายังกลุ้มอยู่ว่าจะหาคนที่ไหนมาเฝ้าสวนยา มีหมาป่าสีขาวอยู่ คงไม่มีใครกล้าบุกเข้ามาถึงเขาด้านหลังจวน”
นางเด็ดผลเทียนหลิงกั่วมาลูกหนึ่ง กัดเข้าไปหนึ่งคำ น้ำของผลเทียนหลิงกั่วกระจายไปทั่วทั้งปาก ทำให้นางรู้สึกสดชื่น ความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง
แต่น่าเสียดาย เทียนหลิงกั่วมีสรรพคุณน้อยเหลือเกิน นางจึงกินมันแทนผลไม้ได้เท่านั้น
…
ในสวนของจวนองค์หญิง หมาป่าสีขาวนอนงีบอยู่ในกรง มันดูซึมเซาหัวฟุบอยู่กับพื้น
ในตอนนั้นเองมีกลิ่นหอมโชยมา หมาป่าสีขาวลืมตาขึ้น ทำจมูกฟุดฟิด
กลิ่นอะไรหอมได้ขนาดนี้
ต้องเป็นมนุษย์พวกนั้นคิดจะเอาของอร่อยมายั่วยวนมัน เพ้อฝันว่าจะทำให้ราชาหมาป่าผู้สง่างามอย่างมันต้องยอมแพ้! หมาป่าเทียนซานอย่างมันต่อให้ต้องอดตายที่นี่ ก็ไม่ขอกินของอะไรจากมนุษย์สักคำ
“หมาป่าน้อย” เสียงใสๆ ของหญิงสาวแว่วมา ทำให้หมาป่าสีขาวตัวสั่นท่าทางดุร้าย
มันพ่นลมที่จมูกดังฮึ นัยน์ตามีประกายของความดุร้าย มันแยกเขี้ยวใส่หญิงอ้วนที่อยู่ตรงหน้า ราวกับว่าเป็นการเตือนว่าอย่าเข้ามา
“เจ้าหมาป่า ตั้งแต่เจ้าถูกโรงค้าสัตว์จับมา คงไม่ได้กินอิ่มเลยสินะ ข้าจัดผลไม้ไว้ให้เจ้าแล้ว เจ้ากินรองท้องสักหน่อยดีหรือไม่”
หมาป่าสีขาวยังคงส่งเสียงฮึต่อ เป็นดังคาดมนุษย์โง่เง่าพวกนี้คิดจะใช้ของอร่อยมาซื้อใจมัน คิดหรือว่าราชาหมาป่าที่สง่างามอย่างมันไม่เคยกินของอร่อยมาก่อน จะยอมศิโรราบให้กับของอร่อยของพวกมนุษย์?
เฟิงหรูชิงเห็นว่าหมาป่าสีขาวยังคงมีท่าทีไม่สนใจ จึงหยุดพูดโน้มน้าว นางนั่งลงบนตั่งหินที่อยู่ข้างๆ แล้วหยิบเอาผลเทียนหลิงกั๋วที่เก็บไว้ในชายแขนเสื้อออกมา ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดแล้วกัดไปที่ผลไม้หนึ่งคำเบาๆ
หมาป่าตาเบิกโพลง มันมองดูเฟิงหรูชิงกัดผลเทียนหลิงกั่วตาไม่กะพริบ ตัวสั่นไหวควบคุมไม่อยู่
นี่…มันผลเทียนหลิงกั่วใช่ไหม
นานแค่ไหนแล้วที่มันไม่ได้ลิ้มรสของผลเทียนหลิงกั่ว ตั้งแต่มันถูกพวกมนุษย์จับตัวมา มันก็ไม่ได้กินของที่เลิศรสแบบนั้นอีกเลย
ไม่…ไม่นะ…กลิ่นแบบนี้ มันต่างจากผลเทียนหลิงกั่วที่มันเคยกิน ดูเหมือนว่ากลิ่นจะหอมชื่นใจและเข้มข้นกว่า อยากกินสักคำจัง
“อยากกินหรือ” เฟิงหรูชิงมองดูหมาป่าสีขาวที่น้ำลายแทบจะยืดหยดลงบนพื้น นางลุกขึ้นยืนทั้งรอยยิ้มแล้วถาม
ตอนนั้น ลิงสี่แขนเดินมาอยู่ตรงหน้าเฟิงหรูชิง มันดึงชายแขนเสื้อของนางเบาๆ มองดูนางด้วยสีหน้าน่าสงสาร
เฟิงหรูชิงหยิบผลเทียนหลิงกั่วโยนให้ลิงสี่แขนไปลูกหนึ่งแบบไม่เสียดาย
ลิงสี่แขนรับผลเทียนหลิงกั่วไว้ด้วยท่าทีดีใจ ส่งเสียงเจี๊ยกหนึ่งครั้งแล้ววิ่งหายไปในที่ไกลลับตา
ตอนที่ 34 หมาป่าเทียนซานของข้ายอมหิวตายไม่ขอกินอะไรทั้งนั้น (3)
หนูเดกูกับกระต่ายวิเศษเห็นเหตุการณ์จึงรวบรวมความกล้าวิ่งเข้ามาหา พวกมันประสานอุ้งเท้าหน้าของตัวเอง ทำท่าเหมือนร้องขอ มองดูผลเทียนหลิงกั่วด้วยสายตาละห้อย
“ฮือ!” หมาป่าสีขาวมีท่าทีกระวนกระวาย มันพุ่งชนกรงอย่างบ้าระห่ำ ตาของมันแดงก่ำ มีอาการของสัตว์ดุร้ายที่กำลังโมโห
เหลือไว้ให้ข้าบ้าง เจ้าพวกบ้า เหลือไว้ให้ข้าบ้าง!
“พวกเจ้าตั้งใจทำงานให้ข้า อยากกินอะไรก็มีให้ทั้งนั้น” เฟิงหรูชิงลูบหัวกระต่ายน้อยที่น่ารัก จากนั้น ส่งสายตาไปมองดูหมาป่าหิมะที่ตาแดงก่ำ “ข้ารู้ว่าสัตว์วิเศษอย่างพวกเจ้าฟังภาษาคนรู้เรื่อง ถ้าเจ้ายอมเฝ้าบ้านเฝ้าสวนให้ข้า ผลเทียนหลิงกั่วแบบนี้ ข้ามีให้พวกเจ้ากินทุกวัน”
แม้เทียนหลิงกั่วเป็นเพียงยาวิเศษระดับหนึ่ง แต่ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งฟ้าดินที่มีอยู่ตอนนี้ ปลูกยาวิเศษออกมาได้ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว ปริมาณผลที่ได้คงมีไม่มากนัก ต่อให้เป็นสมัยที่หมาป่าสีขาวอยู่บนเขาเทียนซาน ก็ใช่ว่าจะกินเทียนหลิงกั่วได้ทุกวันเสียเมื่อไร
เห็นได้ชัดว่าเทียนหลิงกั่วยั่วยวนใจสัตว์วิเศษได้มากแค่ไหน
หมาป่าสีขาวสีหน้าซังกะตาย
เฝ้าบ้านเฝ้าสวน? นั่นมันงานของหมาไม่ใช่หรือ นี่เป็นหมาป่า หมาป่านะ!
แต่ว่า…
หมาป่าสีขาวมองดูเฟิงหรูชิงโยนเทียนหลิงกั่วให้หนูเดกู ทำให้มันรู้สึกโมโหอีกครั้ง เฝ้าบ้านก็เฝ้าบ้าน ถึงอย่างไร…หมาป่ากับหมาก็มีบรรพบุรุษร่วมกันเมื่อโบราณนานมาแล้ว
…
ชิงหลิงได้ยินเสียงหมาป่าสีขาวกระโจนใส่กรง จึงรีบวิ่งมาดู เมื่อเห็นว่าเฟิงหรูชิงปลอดภัยดี จึงถอนหายใจโล่งอก
“องค์หญิงเกิดเรื่องอะไรขึ้นเพคะ” หลิวลี่เดินตรงเข้าไปหา ถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรหรอก เจ้าไปเปิดกรงให้หมาป่าสีขาวออกมาเถอะ” เฟิงหรูชิงพูดสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
เมื่อฟังประโยคนั้นจบ ชิงหลิงตกใจหน้าซีด
นั่นมันหมาป่าสีขาวระดับสามเชียวนะ!
เทียบเท่ากับมนุษย์ที่มีตบะระดับเจินอู่ องค์หญิงจะปล่อยมันออกมาจริงหรือถ้าเกิดมันคลุ้มคลั่งขึ้นมาทำให้องค์หญิงได้รับบาดเจ็บจะทำอย่างไร
“เชื่อข้า ไปปล่อยมันออกมา” เฟิงหรูชิงยิ้มแบบสุขุม นางหยีตาดูหมาป่าสีขาวที่อยู่ในกรง แล้วพูดสั่งอีกครั้ง
ชิงหลิงไม่เข้าใจ ทั้งๆ ที่องค์หญิงรู้ว่าเสด็จพ่อส่งคนมาคุ้มกันนาง แต่คนพวกนั้นกลับไม่ได้เข้าจวน ถ้าในจวนมีข่าวความผิดปกติแพร่ออกไป พวกเขาต้องรีบมาช่วยอย่างแน่นอน ดังนั้นเฟิงหรูชิงจึงไม่กลัวว่าหมาป่าสีขาวตัวนี้จะกลับคำ
ชิงหลิงยืนทื่อไม่ขยับไปไหน สีหน้าของนางซีดขาว ตกใจกลัวจนแทบร้องไห้ สุดท้ายเป็นหลิวลี่ที่รวบรวมความกล้าเดินเข้าไป แต่นางไม่กล้าเข้าใกล้กรงนัก นางเพียงยืนอยู่ห่างๆ แล้วเอื้อมมือไปเปิดกลอนด้วยความระวัง เสียงแก๊กดังขึ้น กรงสัตว์เปิดออก
เมื่อนางเปิดกรงเสร็จจึงรีบดึงมือกลับมา แววตาของนางแสดงออกถึงความกลัวอย่างชัดเจน นางมองดูหมาป่าสีขาวที่เดินออกจากกรงด้วยความกังวล
หมาป่าสีขาวเดินอย่างสง่างามทั้งๆ ที่โดนขังไว้เป็นระยะเวลานาน แต่มันก็หาได้สูญสิ้นความน่า ยำเกรงและความทะนงตนของเผ่าพันธุ์หมาป่า
สายตาอันหยิ่งผยองของมันเหลือบไปมองดูชิงหลิงและหลิวลี่ ในแววตาแฝงความรู้สึกดูถูก
ชิงหลิงมีอาการผงะ นาง…นางโดนหมาป่ามองด้วยสายตาดูถูกหรือนี่
หมาป่าสีขาวส่งเสียงฮึและเมินหน้าไม่สนใจสาวใช้สองคนนั้น มันเดินตรงเข้าไปหาเฟิงหรูชิง แววตาแสดงถึงความหยิ่งยโส มองนางด้วยความดูถูก เหมือนมันกำลังสื่อว่า พวกมนุษย์ ยังไม่รีบเอาอาหารมาให้ข้าอีก?
“อยากกินหรือ” เฟิงหรูชิงกวาดสายตามองดูหมาป่าสีขาว พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “กระดิกหางให้ข้าดูซิ”
หมาป่าสีขาวโกรธเสียจนแทบหายใจไม่ออก
มันคือหมาป่า หมาป่า มนุษย์ผู้นี้คิดว่ามันเป็นหมาหรืออย่างไรนางเคยเห็นหมาป่าที่ไหนกระดิกหางบ้าง!