ตอนที่ 369 ความบ้าคลั่งของหรงเยียน (3)
นางเกลียดชังยิ่งนัก อ่อนแอ อ่อนแอเหตุใดในเวลาสำคัญเช่นนี้นางกลับจะให้กำเนิด
เกลียดชัง…เกลียดชังคนพวกนั้นที่มาทำร้ายคนที่นางรักที่สุด!
ท้องของนางปวดตุบ ความเจ็บนี้ทำให้สีหน้าของหญิงสาวขาวซีด เหงื่อเย็นเปียกชุ่มผ้าห่มเหนียวหนึบ
“เหนียงเหนียง เหนียงเหนียง คลอดแล้ว เป็นองค์หญิงน้อย! ยินดีด้วยเพคะเหนียงเหนียง”
“ยังมีอีกพระองค์ ยังมีอีกพระองค์ เป็นองค์ชายน้อยเพคะ”
ปึ้ง!
แม่นมเฒ่าพูดจบจู่ๆ ก็มีพลังก้อนหนึ่งขึ้นมาจากคอ หัวของนางขาวโพลนหมดสติไป
หญิงสาวดูเหมือนจะไม่ทันสังเกตเห็นทั้งหมด นัยน์ตาอ่อนโยนของนางจับจ้องไปยังทารกทั้งสอง หอมคนนี้ลูบคนนั้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
“ขอโทษ…”
ขอโทษ วันหน้าแม่ไม่อาจอยู่ข้างกายพวกเจ้าอีกแล้ว
ขอโทษ…แม่ไม่อาจเลี้ยงดูพวกเจ้าจนเติบใหญ่
แต่เสด็จพ่อของพวกเจ้าจะต้องดูแลเจ้าได้เป็นอย่างดีแน่!
แม่…จะใช้ทั้งหมดมาปกป้องพวกเจ้าให้ปลอดภัย
จู่ๆ โลกของหญิงสาวก็เปลี่ยนเป็นดำมืด ร่างเล็กๆ นุ่มนิ่มน่ารักในสายตานางค่อยๆ หายไปทีละน้อย
นางเริ่มตื่นตระหนก
พยายามจะดึงมือเล็กๆ ที่เอื้อมมาสุดชีวิต…
ขอเพียงได้จับพวกเขา ได้หอมพวกเขาอีกสักนิดก็ยังดี
แต่แม้นางจะใช้พละกำลังทั้งหมดแล้วก็ยังไม่สามารถดึงมือเล็กนั้นไว้ได้ ทำได้เพียงมองดูทุกสิ่งรอบๆ ตัวหายไปในความมืด…
“ไม่!”
บนเตียงในกระท่อมไม้ หรงเยียนลืมตาขึ้นกะทันหัน ศีรษะของนางปวดอย่างรุนแรงนางกุมศีรษะเอาไว้แน่น
ทั้งหมดในฝัน…มันคืออะไรกันแน่?
เหตุใดนางราวกับเคยผ่านมันมาก่อน?
นางเป็นใครกันแน่ ลูกของนางล่ะอยู่ที่ไหน!
“เยียนเอ๋อร์”
ถังลั่วที่นั่งเฝ้าอยู่ด้านข้างมาตลอดในที่สุดก็เห็นหรงเยียนฟื้นเสียที คิดจะเอื้อมมือไปกอดนาง
เขายังไม่ทันได้เข้าใกล้หรงเยียนก็ถูกนางผลักออกมา
“ออกไป ข้าจะไปหาชิงเอ๋อร์ ข้าจะไปหาชิงเอ๋อร์ของข้า!”
แม้นางจะนึกอะไรไม่ออกแต่พอเห็นเฟิงหรูชิงเพียงครู่เดียวนางก็รู้ได้ทันทีว่านั่นคือลูกสาวของนาง!
ลูกสาวที่นางรอมานานหลายปี คิดถึงมานานหลายปี!
ความตื่นเต้นที่ได้เห็นนาง มีความสุขเมื่อได้มองนาง ชีวิตที่ผูกพัน ลูกสาวที่นางอุ้มท้องมาสิบเดือนและให้กำเนิดมา!
“เยียนเอ๋อร์ เจ้าเริ่มไม่สบายอีกแล้ว” ถังลั่วกลับไม่ได้ขุ่นเคืองเพียงแต่ถอนหายใจเบาๆ
“ข้าไม่ได้บ้า ข้าบอกว่าข้าไม่ได้บ้า!” หรงเยียนบ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์ ดวงตาคู่งามแดงก่ำแฝงด้วยความเกลียดชัง ความโกรธและรังเกียจ “เมื่อก่อนนี้ข้าบ้า ข้าคิดถึงลูกจนเป็นบ้า ตอนนี้ข้าหายดีแล้ว นางคือลูกของข้า คือญาติใกล้ชิดของข้า ข้าจะไปจากตระกูลถัง ข้าจะไปหานาง!”
คิ้วถังลั่วกระตุก เรื่องที่เคยกังวลก่อนหน้านี้ในที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว
เขารู้ดีว่าเฟิงหรูชิงอยู่ตระกูลถังจะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
ดังนั้นเขาจึงคิดหาทุกวิถีทางไม่ให้เยียนเอ๋อร์ได้พบนาง
แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่า เยียนเอ๋อร์ที่ไม่ยินยอมก้าวออกจากหลังเขาแม้แต่ก้าวเดียวมาตลอดจะลงจากเขามาในเวลานี้ แล้วยังเห็นเฟิงหรูชิงแล้วด้วย
“เยียนเอ๋อร์ เจ้าฟื้นคืนความทรงจำแล้วหรือ?” เขาเอ่ยถามด้วยความสงสัย
หรงเยียนยิ้มเย็น “ข้าจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ข้ารู้ว่านางเป็นใครก็พอแล้ว ไม่มีใครขัดขวางไม่ให้ข้าไปหาลูกสาวได้!”
“ดูแล้วอาการป่วยของเจ้าจะยังไม่หายดี” ถังลั่วยิ้มขมขื่นเดินเข้าไปหาหรงเยียน “เจ้าเห็นนางเพียงด้านหลังเท่านั้นแม้แต่หน้านางยังไม่เห็น เหตุใดจึงตัดสินว่านางเป็นลูกสาวของเจ้า? เจ้าพักผ่อนเสียหน่อยจะดีกว่า ถึงเวลาข้าจะให้หมอมาตรวจอาการให้เจ้าอีกที”
…………………..
ตอนที่ 370 มีสิทธิ์อะไร? (1)
“ข้าบอกว่าข้าไม่ได้ป่วย!” อารมณ์ของหรงเยียนรุนแรงกว่าปกติ บ้าคลั่ง นางหยิบดาบบนหัวเตียงชักดาบออกวางที่ใบหน้าของตัวเอง
ถังลั่วตกใจหน้าซีด “เยียนเอ๋อร์ เจ้าทำอะไร?”
หรงเยียนยิ้มเย็นเอ่ยขึ้น “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ พวกเจ้าตระกูลถังลับหลังล้วนวิพากษ์วิจารณ์ข้า บอกว่าข้าเป็นหญิงต้นเหตุ! ทั้งๆ ที่เป็นเจ้าที่ไม่ยอมปล่อยข้าไป! เพื่อใบหน้านี้ของข้าพวกเจ้าไม่ลังเลที่จะทำเช่นนี้กับข้า เช่นนั้นไม่สู้ข้าทำลายใบหน้าข้าเสียขอเพียงชีวิตที่สงบสุข”
นางไม่ได้ขอมากมายเพียงแค่ขอให้หาลูกชายลูกสาวและสามีพบ ครอบครัวสงบสุขตลอดไปก็เพียงพอแล้ว
นางไม่ได้ทะเยอทะยานมากมาย นางเพียงอยากให้ลูกชายลูกสาวรายล้อม สามีมีเพียงนางคนเดียว แคว้นสงบสุข
เหตุใดทุกคนแล้วแต่บีบนาง!
ใบหน้านี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติพ่อแม่ให้มานี่เป็นความผิดของนางหรือ? มีสิทธิ์อะไรความเจ็บปวดทั้งหมดล้วนแล้วแต่ให้นางรับเอาไว้?
มีสิทธิ์อะไร!
ดาบของนางเฉือนเข้าที่ใบหน้าเลือดสดๆ ไหลออกมาราวกับว่าไม่รู้สึกอะไรมุมปากมีรอยยิ้มเย็น
“เยียนเอ๋อร์!” คิ้วถังลั่วขมวดน้อยๆ “เจ้ารีบวางดาบลง”
หรงเยียนใบหน้าไร้อารมณ์ “ข้าจะไปจากตระกูลถัง!”
แววตาถังลั่วฉายแววดุร้าย เขาดีต่อนางเช่นนี้เฝ้านางมาสิบปีเต็มๆ ในที่สุดแล้วนางก็ยังคิดจะไปจากเขา!
“เยียนเอ๋อร์ ข้าไม่ให้เจ้าไป” ใบหน้าของเขากลับมาอ่อนโยนเช่นเก่า “และข้าก็จะไม่ให้เจ้าทำร้ายตัวเอง”
ฉับพลันร่างของเขาก็คล้ายกับสายลมกระโชกแรงหยุดลงตรงหน้าหรงเยียน ออกแรงบีบข้อมือนางเอาไว้
มือของนางเดิมก็ไม่มีแรงมากมายอยู่แล้ว ภายใต้แรงบีบของเขาเรี่ยวแรงก็ยิ่งหายไป ดาบยาวหล่นลงพื้นอย่างรวดเร็ว
“หากเป็นเมื่อสิบปีก่อนข้าไม่ใช่คู่ปรับกับเจ้า แต่ว่าพลังของเจ้าไม่สู้เมื่อก่อนนานแล้วรวมกับร่างกายที่เจ็บหนักย่อมไม่สามารถต่อต้านข้าได้”
เขากลัว
กลัวว่าจะมีวันหนึ่งที่หรงเยียนนึกเรื่องที่ผ่านมาขึ้นได้แล้วจากเขาไป
ดังนั้นหลายปีมานี้เขาจึงวางยาพิษในอาหารของหรงเยียน
ยาพิษชนิดนั้นไม่สามารถทำร้ายร่างกายนางได้แต่กลับทำให้พลังของนางถดถอยลงทุกวัน
หรงเยียนในหลายปีนี้อ่อนแอโง่เขลาไม่สามารถรู้ได้ว่าถูกวางยาพิษ และยิ่งไม่สามารถใช้พลังวิเศษได้ก็เลยไม่เคยรู้เลย
โชคดีที่เขามีสายตาที่มองเหตุการณ์ล่วงหน้าออก ไม่เช่นนั้นด้วยความสามารถของหรงเยียนในตอนนั้น ตระกูลถัง…ไม่แน่ว่าจะมีผู้หยุดนางได้
ที่เขารักมีเพียงหรงเยียนผู้นี้มาตลอดไม่เกี่ยวกับความสามารถของนาง
แววตาหรงเยียนเย็นยะเยือก
เย็นแบบทะลุถึงกระดูกอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“เยียนเอ๋อร์ ข้าคืนคนที่รักเจ้ามากที่สุดในโลกใบนี้” ถังลั่วหลับตาลง ยิ้มแล้วเอื้อมมือไปดึงหรงเยียนเข้ามาในอ้อมกอด
“ไม่มีใครรักเจ้ามากกว่าข้า ในโลกใบนี้ไม่มีผู้ใดที่รักเจ้ามากกว่าไปกว่าข้า”
“ออกไป!”
หรงเยียนตะโกนด้วยความโกรธยื่นมือผลักถังลั่วออก
เสียอ้อมแขนของถังลั่วไปเท้านางก็ยืนไม่มั่นเกือบจะล้มลงกับพื้น
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นนางก็ยังคงปฏิเสธไม่ให้ถังลั่วเข้าใกล้นางแม้เพียงก้าวเดียว!
“เยียนเอ๋อร์ หลายปีมานี้เพื่อเจ้าข้าอดทนไม่ทำร้ายเจ้ามาตลอด ตอนนี้ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นผู้หญิงของข้า ให้ชีวิตนี้ของเจ้าไม่มีทางกลับไปหาเขาได้อีก”
นัยน์ตาของเขาฉายแววอบอุ่น น้ำเสียงอ่อนโยนดั่งสายน้ำ “เขาไม่มีทางยอมรับดอกไม้แห้งและต้นหลิวเหี่ยวเฉา[1] นอกจากข้าแล้วไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถรับได้”
แม้นางจะเคยมีลูกมาแล้วเขาก็สามารถไม่ถือสามีเพียงแต่รักมากเท่านั้นจึงจะทำเช่นนี้ได้ ดังนั้นบนโลกนี้ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดรักนางมากกว่าเขาจริงๆ
……………………
[1] เศษดอกไม้และต้นหลิวเหี่ยวเฉา หมายถึง ผู้หญิงที่ใช้ชีวิตไร้เกียรติหรือผู้หญิงที่ถูกทำร้ายและถูกทอดทิ้ง