เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา – ตอนที่ 65 การเปลี่ยนแปลงของนาง (1) / ตอนที่ 66 การเปลี่ยนแปลงของนาง (2)

ตอนที่ 65 การเปลี่ยนแปลงของนาง (1)

 

 

ถังจือเม้มปาก นางจ้องมองดูเฟิงหรูชิงไม่พูดไม่จา

 

 

เฟิงหรูชิงยักไหล่ท่าทีจนใจ นางรู้ว่าตัวเองไม่เป็นที่ยอมรับสักเท่าไร จึงวางกาน้ำผลไม้ลงแล้วเดินจากไป

 

 

แม้นางจะเดินไปจนลับสายตา พวกถังจือก็หาได้เรียกนางให้อยู่ต่อไม่

 

 

“ถังจือ น้ำเทียนหลิงกั่วนี้…ของจริงหรือเปล่า” หญิงชุดสีม่วงงึมงำอยู่ครู่หนึ่ง “ตอนนั้น แม่ทัพน่าหลานกำลังจะพาทัพออกศึก นางกลับนำน้ำชากาหนึ่งมาให้ท่านแม่ทัพเพื่อเป็นการอำลา ท่านแม่ทัพนึกว่านางกลับตัวเป็นคนใหม่แล้ว จึงดื่มชาอย่างดีใจ สุดท้ายท้องเสียอยู่ตรงนั้น ทำให้การเคลื่อนทัพล่าช้าออกไป…”

 

 

นางทำชั่วไว้มาก มากจนกระทั่งไม่ว่านางจะทำอะไร ก็ไม่มีใครเชื่อใจนางอีก

 

 

แต่สุดท้าย ถังจือก็ตัดสินใจยกกาขึ้นเพื่อรินน้ำผลไม้ใส่ชาม

 

 

ขณะที่คนอื่นๆ กำลังจะห้ามนางไว้ นางก็ยกชามขึ้นกระดกจนหมดเสียแล้ว

 

 

“ข้าอยากตัดใจให้มันขาดๆ ไป” ถังจือปาดน้ำผลไม้ที่มุมปาก หัวเราะหึๆ อารมณ์ประชดชีวิต

 

 

สวนทั้งสวนสงบเงียบ ไม่มีใครปริปากอะไรสักคำ

 

 

อันที่จริง ทุกคนต่างรู้ดีว่าถังจือยังมีความหวังกับองค์หญิงอยู่

 

 

แม้ปากของนางจะพูดว่าผิดหวัง แต่ในใจของนางยังคงหวังว่าองค์หญิงจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้

 

 

เวลาผ่านไปนาน อาการท้องเสียที่พวกนางคาดไว้ก็ยังไม่มาสักที

 

 

เดิมสีหน้าของถังจือดูเหนื่อยล้า แต่หลังจากดื่มน้ำเทียนหลิงกั่ว ก็ค่อยๆ สดชื่นเหมือนเดิม

 

 

“ถังจือ เจ้ามีอาการอะไรหรือเปล่า” หญิงชุดสีม่วงมองดูถังจือ แล้วถามด้วยความสงสัย

 

 

สายตาของถังจือมองเหม่อไปที่กาน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะหิน ผ่านไปสักครู่นางเงยหน้าขึ้นแล้วค่อยๆ พูด

 

 

“เทียนหลิงกั่วนี่…เป็นของจริง!”

 

 

เดิมนางคิดว่า เฟิงหรูชิงจะทำแบบเดียวกับที่แกล้งแม่ทัพน่าหลานที่ใส่ของบางอย่างลงไปในน้ำ นางเองได้เตรียมใจไว้แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า เมื่อดื่มน้ำผลไม้ลงไป พลังที่หมดไปกับการฝึกฝนในตอนแรก จะค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมา

 

 

“หลิงอวิ้น เจ้าไปตามคนอื่นๆ ในกองทัพมา!”

 

 

ถังจือจ้องดูทางที่เฟิงหรูชิงที่เดินจากไปด้วยแววตาสับสน

 

 

คราวนี้ นางมาเพื่อเอาน้ำเทียนหลิงกั่วมาให้จริงๆ ? ไม่ใช่ว่า…อยากมาแกล้งพวกนาง? หรือมา

 

 

เกลี้ยกล่อมให้พวกนางยอมสวามิภักดิ์ต่อหรงกุ้ยเฟย?

 

 

 

 

เรื่องที่ว่าพวกถังจือจะคิดอย่างไรนั้น เฟิงหรูชิงไม่มีทางคาดเดาได้

 

 

เดิมนางคิดจะไปเยี่ยมเฟิงเทียนอวี้ แต่พอเดินไปถึงห้องทรงพระอักษร ได้ยินเสียงเฟิงเทียนอวี้พูดคุยเรื่องราชกิจกับพวกขุนนางใหญ่ นางจึงไม่รบกวนเขา เดินกลับไปอย่างเงียบๆ

 

 

เมืองหลวงในยามราตรี แลดูเงียบสงบไปทุกที่

 

 

แต่ในเวลานั้นเอง มีพลังวิเศษที่ยุ่งเหยิงแพร่ออกมาจากซอยเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ

 

 

เฟิงหรูชิงหยุดเดินตามสัญชาตญาณ นางเอามือลูบคาง ลักษณะเหมือนคนที่คิดว่ากำลังจะมีเรื่องสนุกให้ดู

 

 

“มีคนเสียสติเหรอ จุ๊ๆ มีของดีให้ดูแล้วทีนี้”

 

 

ถ้าเป็นที่อื่น นางคงไม่สอดรู้สอดเห็น แต่ที่นี่เป็นแคว้นหลิวอวิ๋น ดินแดนของฮ่องเต้บิดาของนาง นางจึงอยากดูสักหน่อยว่าใครกำลังฝึกตบะเสียจนบ้าบออย่างนั้น”

 

 

ถ้ามีผลเสียกับชาวแคว้นหลิวอวิ๋นขึ้นมา คงแย่แน่

 

 

เฟิงหรูชิงเดินเลี้ยวเข้าไปยังซอยเล็กๆ

 

 

ที่สุดซอยเป็นบ้านร้าง และพลังวิเศษที่ยุ่งเหยิงนั้นแพร่ออกมาจากบ้านหลังนั้น

 

 

นางเดินไปที่หน้าบ้านร้าง เปิดประตูเข้าไปข้างใน สิ่งที่เห็นคือสวนที่เต็มไปด้วยหญ้ารกรุงรัง

 

 

ในสวนมีชายหนุ่มที่เหมือนขอทานนั่งตัวตรงอยู่

 

 

ผมเผ้าของชายหนุ่มนั้นยุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ที่ใบหน้าของเขามีรอยแผลเป็นสีเนื้อพาดตามแนวตั้ง แก้มทั้งสองข้างดูมอมแมม ดูราวกับไม่ได้ล้างหน้ามานานแล้วอย่างไรอย่างนั้น

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 66 การเปลี่ยนแปลงของนาง (2)

 

 

แต่ว่า…ใบหน้าที่เลอะฝุ่นนี้กลับดึงดูดสายตาของเฟิงหรูชิง

 

 

“โฮ่!”

 

 

เสียงคำรามดังออกมาจากลำคอของชายหนุ่ม พลังของเขาพุ่งออกมาแล้วระเบิดในอากาศ ทำให้หญ้ารกที่อยู่โดยรอบถูกกำจัดจนราบเป็นหน้ากลอง

 

 

จากนั้นร่างกายของชายหนุ่มก็ล้มหงายไปข้างหลัง กระแทกกับพื้นดังตุบ

 

 

ขณะนั้น สีหน้าของเฟิงหรูชิงเปลี่ยนไป หน้าซีดขาว นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กายของนางรีบกระโจนเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างควบคุมไม่อยู่

 

 

มือของนางที่กำลังสั่นในเวลานี้ อุ้มตัวชายหนุ่มขอทานไว้ นางลุกขึ้นแล้วเดินออกจากสวนไป

 

 

ในที่ลับตา ยอดฝีมือจากในวังสองคนมองหน้ากันและกัน นัยน์ตาแฝงด้วยความตะลึง

 

 

องค์หญิงคงไม่…ถูกใจชายหนุ่มคนนั้นใช่ไหมหรือจะฉวยโอกาสจัดการตอนเขาหมดสติไป?

 

 

องครักษ์มืดหมายเลขหนึ่งเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนถามขึ้นว่า “นี่…พวกเราควรไปกราบทูลฝ่าบาทให้ทรงทราบไหม?

 

 

กราบทูลฝ่าบาท? จะทูลอย่างไร จะบอกว่าองค์หญิงเอาชายหนุ่มไปทำเป็นนายบำเรออย่างนั้นหรือ

 

 

แต่ถ้าพวกเขารู้เรื่องแล้วไม่กราบทูล ต่อไปหากฝ่าบาททรงทราบเข้า พวกเขาจะยิ่งมีโทษสถานหนัก

 

 

องครักษ์มืดหมายเลขสองส่งสายตาบอกเป็นนัยน์แล้วพูดว่า “เจ้าตามไปอารักขาขององค์หญิง ส่วนข้าจะไปกราบทูลฝ่าบาท”

 

 

“ได้”

 

 

 

 

ในแคว้นหลิวอวิ๋น ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเฟิงหรูชิงก็ได้ชื่อว่าเป็นคนอ้วนอันดับหนึ่ง ต่อให้สมัยก่อนนางออกนอกวังไม่บ่อย แต่คนทั้งหลายต่างก็รู้รูปพรรณสัณฐานของนาง

 

 

ด้วยเหตุนี้ หลังจากเฟิงหรูชิงอุ้มชายหนุ่มกลับจวนองค์หญิง ข่าวก็แพร่สะพัดไปทั่วแคว้นหลิวอวิ๋นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชายหนุ่มคนที่กำลังหมดสติไม่นานก็เป็นที่โจษจันไปทั่ว ทุกคนต่างพูดว่าเฟิงหรูชิงถูกใจชายหนุ่มคนนั้น จึงสั่งให้คนตีเขาให้สลบแล้วพาเข้าจวนองค์หญิงไป

 

 

ดังนั้น จากเดิมที่นางมีภาพพจน์เลวร้ายอยู่แล้ว ตอนนี้เลวร้ายยิ่งกว่า

 

 

ในจวนองค์หญิง หลิวลี่กับชิงหลิงมองดูเฟิงหรูชิงอุ้มชายหนุ่มเข้าห้องมาอย่างสับสน พวกนางตกใจตาค้างจนพูดอะไรไม่ออก

 

 

องค์หญิง…พาผู้ชายกลับมาด้วย? แถมยังพาเข้าห้องไปเลย?

 

 

นางต้องการนอนกับกั๋วซือไม่ใช่เหรอ? หรือว่ากั๋วซือรวบหัวรวบหางยากไป องค์หญิงหงุดหงิดเลยไปตีหัวผู้ชายที่ไหนก็ได้แล้วพากลับมา?

 

 

“ไม่ได้ ข้าต้องไปห้ามองค์หญิง” ชิงหลิงร้อนใจจนแทบจะร้องไห้

 

 

องค์หญิงถูกใจหลิ่วอวี้เฉินก็มากพอแล้ว นี่ไปเอาผู้ชายจากไหนมา จะคู่ควรกับองค์หญิงได้อย่างไร

 

 

นางไม่อยากเห็นองค์หญิงชีวิตพังเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

 

 

เมื่อเห็นชิงหลิงกำลังจะพุ่งเข้าห้องไป หลิวลี่จึงรีบคว้าชายแขนเสื้อของชิงหลิงไว้แล้วพูดว่า “องค์หญิงไม่ใช่องค์หญิงคนเดิมแล้ว ข้าเชื่อว่านางเปลี่ยนไปแล้ว เอาอย่างนี้แล้วกัน พวกเรารอดูก่อน ถ้าเกิด…ถ้าเกิดได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นร้องขอความช่วยเหลือ พวกเราค่อยเข้าไปห้ามองค์หญิง”

 

 

 

 

สายลมเอื่อยพัดผ่าน ผ้ามุ้งกระเพื่อม

 

 

สายตาเฟิงหรูชิงมองเหม่อไปที่ชายหนุ่มซึ่งนอนอยู่บนเตียง นางอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือออกไปลูบไล้ใบหน้าของเขาเบาๆ

 

 

เหมือน เหมือนมากๆ ไม่ว่าใบหน้า ดวงตา เหมือนเช่อเอ๋อร์มากๆ

 

 

เช่อเอ๋อร์ เป็นเจ้าใช่ไหม

 

 

ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาใสสะอาด เป็นดวงตาแบบที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน

 

 

เฟิงหรูชิงเริ่มตั้งสติได้บ้าง นางกะพริบตา

 

 

เขาไม่ใช่เช่อเอ๋อร์นี่!

 

 

ต่อให้ใบหน้าจะดูคล้ายกัน แต่นางมองที่ดวงตาแล้ว ชายคนนี้ไม่ใช่เฟิงเจี้ยนเช่อน้องชายของนาง!

 

 

“เจ้าเป็นใคร” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยเสียงใส มองดูเฟิงหรูชิงด้วยแววตาใสๆ

 

 

เฟิงหรูชิงหยีตา “ข้าชื่อเฟิงหรูชิง”

 

 

สายตาของนางยังคงมองดูใบหน้าของชายหนุ่ม สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกเสียดายก็คือ เมื่อเขาได้ยินชื่อของนางแล้ว ไม่มีท่าทีตื่นเต้นตกใจใดๆ ดวงตาคู่นั้นยังดูใสไร้สิ่งเจือปน

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

เมื่อ เฟิงหรูชิง หญิงใบ้ชีวิตอาภัพจากยุคปัจจุบันลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องตกตะลึง เพราะเตียงผู้ป่วยในสถานฟื้นฟูที่เคยนอน บัดนี้กลับเปลี่ยนเป็นเตียงบรรทมอันแสนโอ่อ่าในวัง อีกทั้งรูปร่างหน้าตาของตนยังพองใหญ่กลายเป็นสตรีอวบอ้วนตัวกลม และที่น่าตกใจที่สุดคือนาง…พูดได้แล้ว?! หลังจากตั้งสติให้ดี เฟิงหรูชิงก็เข้าใจว่านางได้ลาจากภพเดิมมายังโลกแห่งใหม่ โดยเจ้าของร่างที่นางมาอาศัยอยู่นี้มีชื่อเหมือนกันกับตนทว่ามีศักดิ์เป็นถึงองค์หญิงแห่งแคว้น อีกทั้งยังไม่ใช่องค์หญิงธรรมดา แต่เป็นองค์หญิงม่ายที่ถูกสามีทิ้ง! ด้วยความเศร้าโศกที่ถูกขอหย่า เฟิงหรูชิงคนก่อนจึงปลิดชีพตัวเองจากไปอย่างน่าสงสาร… แต่นั่นก็เป็นเรื่องของเฟิงหรูชิงคนก่อน เพราะตอนนี้นางมิใช่คนเดิมอีกแล้ว! เมื่อสามีเก่าไม่สนใจ นางก็หาสามีใหม่เสียสิ เอาเป็น หนานเสียน ท่านราชครูรูปงามผู้แสนลึกลับคนนั้นเป็นอย่างไร ดีละ นางได้เป้าหมายแล้ว ถึงเวลาบอกลาชีวิตเก่าสุดรันทด ชีวิตใหม่นี้นางจะลดน้ำหนัก ฝึกวิชา ท่องตำรา ปลูกยาวิเศษ รวมถึงหาวิธีมัดใจเขาคนนั้นให้ได้!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset