ตอนที่ 71 หลิ่วอวี้เฉินยังตามรังควาน (2)
แต่ช่วงหลายวันมานี้ที่เฟิงหรูชิงวิ่งช่วงเช้า พวกเขาต่างเห็นๆ กันอยู่ ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบดูแล้ว หลิ่วอวี้เฉินดูเป็นฝ่ายที่ตามรังควานนางมากกว่า
“องค์หญิง” หลิ่วอวี้เฉินกลั้นความโมโหไว้ เขาแสยะยิ้ม “คิดไม่ถึงว่าพวกเราตกลงหย่ากันได้ไม่กี่วัน ท่านก็หาคนใหม่ได้แล้ว? เรื่องนี้ฝ่าบาทรู้หรือยัง ศักดิ์ศรีของแคว้นหลิวอวิ๋นเรา ถูกท่านทำเสียไปไม่น้อยนะ?”
เฟิงหรูชิงเบ้ปากยิ้ม “ข้อแรก พวกเราไม่ได้ตกลงหย่ากัน แต่เป็นข้าที่บอกหย่ากับเจ้า! ข้อสอง พวกเราหย่ากันแล้ว เรื่องของข้าเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย หลิ่วอวี้เฉิน หรือว่าเจ้ายังตัดใจจากข้าไม่ได้ อยากจะจีบข้าอย่างนั้นหรือ”
“ท่านพูดเหลวไหลอะไรกัน” หลิ่วอวี้เฉินเกรงว่าถานซวงซวงจะเข้าใจผิด จึงรีบตอบกลับไป “ข้าหลิ่วอวี้เฉินไม่ได้รักท่านมาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้ก็ไม่ได้รักท่าน ต่อไปก็ไม่มีทางรักท่าน ท่านอย่าฝันไปหน่อยเลย!”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน หลิ่วอวี้เฉินคงไม่กล้าพูดจาแบบนี้กับเฟิงหรูชิง วันนี้ไม่รู้ทำไม เขาถึงควบคุมตัวเองไม่อยู่ สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความโกรธ จ้องเฟิงหรูชิงตาไม่กะพริบ
“งั้นก็ดีสิ” เฟิงหรูชิงหาวแบบคนขี้เกียจ “ข้ายังกลัวอยู่เลยว่าเจ้าจะชอบข้า แล้วจะมาตามรังควานข้า ในเมื่อพวกเราต่างไม่ได้รักกัน ต่อไปเจอหน้าก็คิดเสียว่าเป็นคนแปลกหน้า เจ้าไม่ต้องเรียกข้าอีกแล้ว”
ชอบนางหรือ
หลิ่วอวี้เฉินมองเฟิงหรูชิงหัวจรดเท้า เขายิ้มแบบเย้ยหยัน “องค์หญิงคิดมากไปแล้ว ซวงเอ๋อร์คนงามเหนือผู้ใดเปรียบอยู่ข้างกายข้า แล้วข้าจะ…ชอบท่านได้อย่างไร”
นางอวบอ้วนอัปลักษณ์แบบนี้ คิดได้อย่างไรว่าเขาจะชอบนาง
น่าขันสิ้นดี!
ฉินเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดเสียงเรียบๆ ว่า “นางสวยไม่เท่าชิงชิง”
“…”
คราวนี้ แม้แต่เฟิงหรูชิงเองก็มีสีหน้าแปลกๆ
ตกลงเฉินเอ๋อร์กำลังชมนาง หรือกำลังดูถูกนางกันแน่?
“เจ้าตาบอดหรืออย่างไร” หลิ่วอวี้เฉินมองดูฉินเฉินแล้วแสยะยิ้ม
ฉินเฉินไม่ได้สนใจรอยยิ้มของหลิ่วอวี้เฉิน เขาสีหน้าเรียบเฉย “ชิงชิงแค่อวบกว่าคนทั่วไปนิดหน่อย แต่นางดูดีกว่าคนทุกคนที่ข้าเคยพบ เป็นผู้หญิงที่สวยมาก”
ณ ขณะนั้น ผู้คนที่อยู่บนถนนต่างมองฉินเฉินด้วยความเห็นใจ
ชายหนุ่มที่น่าสงสาร อายุยังน้อย ทำไมถึงตาถั่วแบบนี้ เฟิงหรูชิงสวยตรงไหนกัน
เมื่อเห็นเนื้อเป็นปล้องๆ ของนาง แล้วรู้สึกผะอืดผะอม
เฟิงหรูชิงรู้สึกอาย แต่ถึงอย่างไรเฉินเอ๋อร์ก็เป็นคนของนาง นางไม่อาจทำให้เขาเสียหน้า ดังนั้น นางจึงยิ้มเล็กๆ แล้วพูดว่า “เฉินเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าข้าหน้าตาดี เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดหรอก”
หลิ่วอวี้เฉินตะลึงตาค้าง
เฟิงหรูชิง…คิดว่าตัวเองสวยจริงๆ หรือนี่ นางเอาความมั่นใจตัวเองมาจากไหน หรือเพราะนางเป็นองค์หญิง?
“ได้” ฉินเฉินถอนสายตากลับมามองเฟิงหรูชิง “คนเชยๆ อย่างพวกเขา มองไม่เห็นความงามของชิงชิง ขอแค่ข้ามองเห็นก็พอแล้ว”
เฟิงหรูชิง “…”
ทำไมนางถึงรู้สึกว่าเฉินเอ๋อร์กำลังทำให้นางยิ่งขายหน้า
แต่คำพูดเมื่อสักครู่นางได้พูดออกไปแล้ว ไม่อาจดึงกลับมาได้อีก
“เฉินเอ๋อร์ พวกเรากลับกันเถอะ ไม่ต้องไปสนใจคนพวกนั้น”
“ได้”
ฉินเฉินทำตามที่เฟิงหรูชิงบอก ก่อนเดินจากไป เขาเหลียวหลังไปมองหลิ่วอวี้เฉิน
แววตาแบบนั้น ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงทำให้หลิ่วอวี้เฉินรู้สึกใจสั่น เขากำหมัดแน่นถึงจะระงับอาการใจหวิวๆ ไว้ได้
“อวี้เฉิน” ถานซวงซวงดึงตัวหลิ่วอวี้เฉินด้วยท่าทีกังวล นางทำสีหน้าออดอ้อน ดูแล้วน่าสงสาร
หลิ่วอวี้เฉินเพิ่งตั้งสติได้ สีหน้าของเขาสงบลงและพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ซวงเอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องไปฟังคำพูดไร้สาระของเขา เรื่องที่เจ้าเป็นคนงามที่สุดของแคว้นหลิวอวิ๋นทุกคนต่างรู้ดี เขามันแค่คนตาถั่ว”
ตอนที่ 72 หลิ่วอวี้เฉินยังตามรังควาน (3)
“อวี้เฉิน ถ้าเรื่อง…ที่เจ้าต่อว่าองค์หญิงกลางถนน ได้ยินไปถึงหูของฝ่าบาท จะสร้างความเดือดร้อนให้กับจวนเสนาบดีหรือไม่”
ฝ่าบาทปกป้องลูกสาวขนาดนี้ ถ้าเขารู้เรื่องล่ะก็ ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่
หลิ่วอวี้เฉินพูดอย่างคิ้วขมวด “ต่อให้ฝ่าบาทลงโทษข้า ข้าก็ยอม แต่ข้าจะปล่อยให้เจ้าได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!”
“อวี้เฉิน เจ้าดีกับข้าเหลือเกิน” ดวงตาของถานซวงซวงเป็นประกาย มีความรู้สึกอันลึกซึ้งจริงใจ “ชาตินี้ข้าได้รับความรักจากเจ้า เป็นความสุขชั่วชีวิต แต่ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องผิดใจกับองค์หญิงเพราะข้า และข้าไม่อยากให้จวนเสนาบดีต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
หลิ่วอวี้เฉินใจอ่อนลง “ทำไมเจ้าถึงคิดถึงคนอื่นตลอดเลย”
ถานซวงซวงหัวเราะเบาๆ “เพราะเจ้าเป็นคนที่ข้ารักที่สุดอย่างไรเล่า อีกอย่าง เมื่อครู่องค์หญิงก็ฝืนทำตรงกันข้ามกับใจ เจ้าดูไม่ออกเหรอ ในใจนางยังคงมีเจ้าและที่นางเป็นอย่างนั้นก็เพราะความรัก ข้าไม่อยาก…ให้คนที่ข้ารัก ต้องไปทำร้ายผู้หญิงคนอื่นเพราะข้า”
“นางเป็นฝ่ายโจมตีเจ้าก่อน เจ้าไม่โกรธหรือ”
“โกรธสิ” ถานซวงซวงพูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ “แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ ใช้เมตตาเข้าข่มจะดีเสียกว่า ข้าเชื่อว่าในที่สุดนางต้องยอมให้พวกเราได้สมปรารถนา”
หลิ่วอวี้เฉินไม่พูดอะไร เขาจ้องมองดูเฟิงหรูชิงที่เดินลับไปด้วยสายตางวยงง
ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า เขารู้สึกว่าคราวนี้ เฟิงหรูชิง…ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ในแววตาของนางไม่มีเขาแล้วจริงๆ
…
ในห้องใต้ดิน
หลังจากเฟิงหรูชิงสั่งให้คนออกไป ก็เดินเข้าไปในห้องใต้ดินอย่างลับๆ ล่อๆ
นางยกไหเหล้าที่อยู่ในห้องใต้ดิน ค่อยๆ เปิดฝาออกมา ทันใดนั้น กลิ่นหอมเย็นก็มาปะทะที่จมูก ทำให้นางรู้สึกสดชื่น
เหล้าวิเศษนี้ไม่เพียงบำรุงร่างกายแต่ยังช่วยรักษาโรค มันเป็นสิ่งที่แม่ทัพน่าหลานกำลังต้องการอยู่ในตอนนี้
“เหล้าวิเศษไหนี้ ข้าจะเอาไปให้ท่านตาก่อน ไว้คราวหน้า ข้าค่อยเอาไปถวายเสด็จพ่อ”
หลายปีมานี้เสด็จพ่อทรงงานเหน็ดเหนื่อย ไม่ว่าเหล้าวิเศษหรือผลเทียนหลิงกั่ว สำหรับเขาแล้ว ล้วนมีประโยชน์กับเขามาก
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เฟิงหรูชิงไม่ลังเลนางอุ้มไหเหล้าเดินออกจากห้องใต้ดินไป
…
นับแต่น่าหลานฮองเฮาสิ้นพระชนม์ จวนแม่ทัพก็ไม่ครึกครื้นเช่นแต่ก่อน ในจวนมีเพียงความสงบเงียบ
ไม่ใช่เพราะอำนาจของจวนแม่ทัพลดน้อยถอยลง แต่กลับกัน ต่อให้ฮองเฮาไม่อยู่แล้ว ฐานะของจวนแม่ทัพก็ไม่ได้ตกต่ำลง เพียงแต่คนในจวนแม่ทัพไม่อยากข้องแวะกับคนนอก และเริ่มไม่ต้อนรับแขก
ขณะนั้น เฟิงหรูชิงยืนอยู่ที่หน้าจวนแม่ทัพ นางกอดไหเหล้าไว้แน่น นางสูดหายใจเข้าออกลึกๆ ก่อนจะเดินตรงไปที่บันไดทางเข้าจวน
ไกลออกไป ทหารเฝ้ายามหน้าประตูจวนแม่ทัพมองเห็นเฟิงหรูชิงกำลังใกล้เข้ามา พวกเขายืนตัวเกร็ง แววตาดูลุกลี้ลุกลน
องค์หญิงอันธพาลนี่…จะมาทำไมอีก!
แต่เฟิงหรูชิงไม่ได้เดินเข้าประตูจวนแม่ทัพ นางหยุดอยู่ที่หน้าประตูแล้วมองทหารยามทั้งสองนายด้วยรอยยิ้ม
“พวกเจ้าไปเรียนท่านตาให้หน่อยได้ไหม บอกว่าข้ามาเยี่ยม”
ทหารยามทั้งสองต่างมองหน้ากันและกัน
ไปเรียนหรือ? พวกเขาไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่
แถม…องค์หญิงอันธพาลคนนี้ ยังยิ้มให้พวกเขาด้วย? พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือเปล่าเนี่ย
“พ่ะย่ะค่ะ” ทหารยามนายหนึ่งตั้งสติได้จึงรีบพูดกลับไป “องค์หญิงรอสักครู่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเรียนให้ท่านแม่ทัพ และท่านแม่ทัพเฒ่าทราบ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ส่งสายตาไปให้ทหารอีกคนที่ยืนข้างๆ ก่อนที่จะกลับหลังแล้ววิ่งเข้าไปในจวนอย่างรวดเร็ว