ตอนที่ 73 การเยี่ยมเยือนแม่ทัพเฒ่าครั้งแรก (1)
ในจวนแม่ทัพ
ที่ห้องหนังสือ น่าหลานฉางเฉียนกำลังอ่านหนังสือที่อยู่ในมืออย่างจริงจัง แต่ทันใดนั้น มีเสียงเคาะประตูดังเข้ามา
“เข้ามา”
เขาขมวดคิ้วเบาๆ แล้วพูดเสียงเข้ม
ทหารยามเปิดประตูเข้ามา สีหน้าของเขาดูกระวนกระวาย เขาทำท่าคำนับและพยายามพูดให้เสียงไม่สั่นมาก “ท่านแม่ทัพ องค์หญิง…องค์หญิงมาขอรับ”
ตุบ!
หนังสือในมือของน่าหลานฉางเฉียนหลุดมือร่วงลงบนโต๊ะ เขากำมือแน่น หลับตาลง แม้แต่ลมหายใจก็แรงขึ้น
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาลืมตาขึ้น นัยน์ตาแฝงด้วยความไม่พอใจ
“นางมาทำไมอีก”
เขาอภัยเรื่องทั้งหมดที่เฟิงหรูชิงทำไว้กับจวนแม่ทัพได้ และอภัยเรื่องที่นางไม่ใส่ใจภาพพจน์ของแคว้นหลิวอวิ๋นได้
แต่เขาไม่อาจอภัยเรื่องที่วันออกศึกนางทำให้เขาท้องเสียไม่หยุด ทำให้การเคลื่อนทัพล่าช้าออกไป เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่มีทางยกโทษเรื่องที่นางยกสิ่งที่น้องสาวของเขาแลกมาด้วยความยากลำบากให้กับหรงกุ้ยเฟยได้
ทหารยามมองดูน่าหลานฉางเฉียนด้วยความระมัดระวัง “นางบอกว่า…นางมาเยี่ยมท่านแม่ทัพเฒ่า”
“เฮอะๆ ” น่าหลานฉางเฉียนใจสั่น เขาหัวเราะเย้ยหยัน “นางคิดว่าท่านพ่อข้ายังถูกนางยั่วโมโหไม่พออีกหรือ จะทำให้เขาโมโหตายไปเลยหรืออย่างไร เจ้าไปบอกเฟิงหรูชิง บอกนางว่าท่านพ่อข้าไม่อยู่ที่จวน”
ใจของเขาเคยอ่อนมาก่อน เขาอภัยให้นางไปแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ต่อให้นางเผาจวนแม่ทัพ เขาก็ไม่อยากจะต่อว่าอะไรนาง
เขาสงสารที่นางขาดแม่ตั้งแต่ยังเล็ก อยากให้นางได้รับความรักมากกว่าที่มี
แต่ว่านางกลับทำให้เขาต้องผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้จิตใจของเขาแข็งดั่งเหล็กกล้า สาบานกับตัวเองว่าชาตินี้จะไม่มีทางอภัยให้นางอีก
“ขอรับ ท่านแม่ทัพ”
ทหารยามถอนหายใจ ถ้าหากให้องค์หญิงเข้าใกล้แม่ทัพเฒ่าอีกครั้ง แม่ทัพเฒ่าอาจโมโหตายก็ได้
เมื่อพูดจบทหารยามก็หันหลังเดินออกไป พร้อมปิดประตูห้องหนังสือ
ไกลออกไป เขามองเห็นเฟิงหรูชิงที่ยืนรออยู่หน้าจวน ขณะที่เขากำลังจะนำคำพูดของท่านแม่ทัพไปบอกเฟิงหรูชิง จู่ๆ ก็มีร่างเล็กๆ จากด้านข้างวิ่งกระโจนไปหาเฟิงหรูชิง
“คุณหนู!”
ทหารยามที่ยืนเฝ้าประตูทั้งสองคนตกใจขวัญหนีดีฝ่อ
หลายปีมานี้ เฟิงหรูชิงรังแกคุณหนูไว้ไม่น้อย ตอนนี้คุณหนูโผล่มาอยู่ตรงหน้าเฟิงหรูชิง ไม่รู้ว่า…จะโดนทำร้ายอะไรอีกหรือเปล่า
แต่เมื่อทหารยามทั้งสองนายได้เห็นชายหนุ่มที่เดินตามมาติดๆ ความวิตกกังวลที่มีก็กลับผ่อนคลายลง
มีคุณชายมาเป็นเพื่อน เฟิงหรูชิงคงทำอะไรคุณหนูไม่ได้
“ท่านพี่”
หลายวันมานี้ น่าหลานไต้เอ๋อร์คิดถึงเฟิงหรูชิงมาก แต่เฟิงหรูชิงกลับไม่มาเยี่ยมนางเลย ทำให้นางรู้สึกผิดหวัง
ตอนนี้อุตส่าห์ได้พบเฟิงหรูชิง นางจึงอดใจที่จะวิ่งออกมาหาไม่ได้ นางกระโจนเข้าไปยังอ้อมอกของเฟิงหรูชิง
เฟิงหรูชิงกอดเด็กเนื้อนุ่มนิ่มเอาไว้ จิตใจอ่อนโยนลง แม้แววตาก็ดูอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
น่าหลานจิ้งที่ตามมาข้างหลังรู้สึกอึ้ง สายตาจับจ้องไปที่ร่างอันอวบอ้วน นัยน์ตาดูพร่ามัว
ที่แท้…นางก็มีมุมที่อ่อนโยนแบบนี้ด้วย?
“ท่านพี่ไม่มา…หาไต้เอ๋อร์เลย” แววตาของไต้เอ๋อร์ดูน้อยใจ “ท่านพี่เคยรับปากไว้”
เฟิงหรูชิงลูบหัวไต้เอ๋อร์ทั้งรอยยิ้ม “ข้าเคยรับปากไว้ว่าจะมาเยี่ยมเจ้า แต่ช่วงหลายวันมานี้ข้ามีธุระที่ต้องสะสาง ตอนนี้ก็มาหาเจ้าแล้วไง?”
“อืม” ไต้เอ๋อร์ดูเชื่อฟัง รอยยิ้มของนางดูน่ารัก “ไต้เอ๋อร์ชอบท่านพี่ที่เป็นอยู่ตอนนี้”
ตอนที่ 74 การเยี่ยมเยือนแม่ทัพเฒ่าครั้งแรก (2)
ในที่สุดพี่สาวก็ไม่รังแกนางอีก ดีจริงๆ
“ไต้เอ๋อร์ ท่านปู่ของเจ้าล่ะ” เฟิงหรูชิงลุกขึ้นแล้วถามด้วยรอยยิ้ม
ทหารยามที่ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นนายนั้น กำลังจะส่งเสียงห้ามน่าหลานไต้เอ๋อร์ไว้ ถึงแม้ไต้เอ๋อร์จะสติปัญญาไม่สมบูรณ์ แต่นางตอบสนองด้วยการพูดออกไปอย่างรวดเร็ว
“ท่านปู่ ปลูกต้นไม้อยู่ที่สวนท้ายจวน”
ตอนนั้น ทหารยามหน้าถอดสี เขานึกถึงคำพูดของท่านแม่ทัพ ตกใจจนแทบยืนไม่อยู่
“คุณชาย…” ทหารยามหันหน้ามามองน่าหลานจิ้งอย่างหน้าเศร้า
น่าหลานจิ้งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้าจะดูนางเอง ถ้านางกล้ารังแกไต้เอ๋อร์หรือทำร้ายท่านปู่อีก ข้าจะโยนนางออกไปโดยไม่สนว่านางจะเป็นใคร”
อาจเป็นเพราะนางต่อว่าเฟิงหรูชิงที่โรงค้าสัตว์ หรืออาจเป็นเพราะ…สายตาอันอ่อนโยนของนาง ทำให้เขาเลือกที่จะเชื่อใจนางอีกครั้ง
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ น่าหลานจิ้งก็หัวเราะตนเอง
เจ้าต้องเจ็บอีกสักกี่ครั้ง ถึงจะยอม…เกลียดนางเข้ากระดูกดำ
น่าหลานไต้เอ๋อร์จูงมือเฟิงหรูชิงเดินไปที่สวนท้ายจวน เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ทหารยามไม่ลังเล เขารีบวิ่งไปที่ห้องหนังสือ
เขาต้องรายงานท่านแม่ทัพ เพื่อป้องกันไม่ให้เฟิงหรูชิงสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย
…
สวนท้ายจวน
ชายชราผมหงอกขาวไปทั้งศีรษะกำลังก้มตัวจัดการต้นยาที่ปลูกไว้ในสวนอย่างระมัดระวัง
สุขภาพของเขาไม่แข็งแรงเหมือนสมัยก่อน และดูแก่ขึ้นกว่าเดิม
ไกลออกไป เฟิงหรูชิงมองไปเห็นคนผมหงอกขาว นางรู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
ในความทรงจำขององค์หญิงคนเดิม ท่านตาเมื่อหลายปีก่อนยังออกรบสู้ศึกได้ เวลาผ่านมาไม่กี่ปี เขาแก่จนผมหงอกขาวหมดแล้ว หลังก็ค่อม ได้แต่อยู่บ้านปลูกต้นยา ไม่อาจออกรบให้แคว้นหลิวอวิ๋นได้อีกแล้ว
สำหรับคนแก่ที่อุทิศตนทั้งชีวิตเพื่อแคว้นหลิวอวิ๋น มันช่างน่าเศร้าแค่ไหน
“จิ้งเอ๋อร์ เจ้ามาแล้วหรือ” ชายแก่เงยหน้ามองด้วยรอยยิ้ม
ขณะนั้น ภาพกายอันคุ้นเคยที่อยู่ตรงหน้าก็ตกกระทบมายังดวงตาของเขา
เขามือสั่น บัวรดน้ำตกลงบนพื้น ทำให้ดินกระเด็นเปื้อนตัวชายแก่ แต่เขากลับมองดูเฟิงหรูชิงอย่างตกตะลึง
แววตาที่ทั้งรอคอยและหวาดกลัว ทำให้เฟิงหรูชิงรู้สึกเป็นทุกข์
โลกใบนี้ ไม่มีคนเป็นปู่เป็นตาที่ไหน ที่โกรธลูกหลานของตัวเองได้จริงๆ
เขาก็แค่เสียใจเท่านั้น เสียใจที่ลูกหลานโตแล้วไม่ยอมเชื่อฟังทั้งๆ ที่อยากให้หลานกลับมาอยู่ใกล้ๆ แต่ก็กังวลว่า…นางจะทำให้เขาเสียใจเช่นเดิมอีก
“ชิงเอ๋อร์ก็มาด้วยหรือ” ในที่สุดชายแก่ก็ตั้งสติได้ พูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้าดูสิที่นี่รกไปหมด ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปคุยกันที่อื่นดีไหม” เขามองดูต้นยาเต็มสวนด้วยท่าทีกังวล แล้วถอนหายใจเบาๆ
ต้นยาพวกนี้เขารวบรวมมาจากที่ต่างๆ ในทวีป เขาใช้ความพยายามอยู่หลายเดือนกว่าจะหามาได้ จึงอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าพวกมันจะถูกทำลาย
เพราะเมื่อก่อนเฟิงหรูชิงเป็นคนอย่างไร ไม่มีใครไม่รู้เรื่องนี้ เฟิงหรูชิงไม่พูดอะไร นางยกไหเหล้าวางไว้ในมือของน่าหลานจิ้งหน้าตาเฉย
น่าหลานจิ้งตกใจ เขารับมันมาโดยไม่ทันได้คิด เมื่อเขาตั้งสติได้ เฟิงหรูชิงก็เดินไปอยู่ตรงหน้าของชายแก่ แล้วหยิบบัวรดน้ำขึ้นมา
เดิมทีที่เห็นนางเข้าใกล้ต้นยา คนอื่นๆ ต่างเป็นกังวลไปหมด น่าหลานจิ้งกำลังจะเข้าไปขวาง ใครจะไปรู้ว่านางกลับรดน้ำต้นไม้ด้วยความตั้งใจ