ตอนที่ 119 สัตว์วิเศษบุกตีเมืองหลวง? (4)
สัตว์วิเศษบุกตีเมือง?
ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณประตูเมืองได้ยินประโยคนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ในเมืองหลวงมียอดฝีมือจำนวนมาก น้อยนักที่จะมีสัตว์วิเศษรนหาที่ตายมาบุกตีเมือง ต่อให้เป็นอย่างนั้น รอให้ยอดฝีมือเดินทางมาถึง คนที่อาศัยอยู่ใกล้กำแพงเมืองคงจะตายไปไม่น้อย
“พวกเรารีบหนีเร็ว!”
หลินเยว่อิ่งสีหน้าเปลี่ยน นางจับจูงมือไต้เอ๋อร์แล้วเตรียมตัวหนีไปจากที่นั่น
ใครจะคิดว่าไต้เอ๋อร์รีบสะบัดมือออกแล้ววิ่งไปที่ประตูเมือง
“ไต้เอ๋อร์!”
หลินเยว่อิ่งส่งเสียงร้องตกใจ นางเหงื่อซึมอย่างคนหวาดกลัว นางไม่คิดอะไรมากอีกแล้ว และได้พูดออกไปว่า “พวกเจ้ารีบไปแจ้งคนในจวนแม่ทัพ ข้าจะไปตามไต้เอ๋อร์”
ถึงอย่างไรไต้เอ๋อร์ก็ไม่ได้แข็งแรงอะไรนัก นางวิ่งไม่เร็วมาก ประเดี๋ยวเดียวหลินเยว่อิ่งก็ตามตัวนางได้ทันและคิดจะพานางหนีออกจากที่นั่น แต่…เมื่อมองไปเห็นเงาที่อยู่ในฝุ่นดินอย่างชัดเจน รูม่านตาของนางก็หดเล็กลง
ที่เดินอยู่หน้าสุดคือหมาป่าสีขาวราวกับหิมะ มันเดินด้วยท่าทีหยิ่งทะนงและงามสง่า แววตาอันดุร้ายของมันไม่สนใจมนุษย์พวกนั้นเลยแม้แต่น้อย
บนหลังของหมาป่ามีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ รูปร่างอวบอ้วน น้ำหนักประมาณสองร้อยชั่งนิดๆ แต่นางผิวขาวราวกับหิมะ และดูผุดผ่องมาก
ที่ตามมาด้านหลังของหมาป่าสีขาวและหญิงสาวคือพวกสัตว์วิเศษนานาชนิด
เสือดาว นกอินทรี จิ้งจอกแดง แร้งหัวสิงโต หมาไม้ประกายม่วง แล้วยังมี…หมีแห่งพื้นปฐพี?
“นั่น…นั่นคือหมีแห่งพื้นปฐพีระดับสามใช่หรือไม่ เหมือนว่าหมีแห่งพื้นปฐพีจะเป็นเจ้าถิ่นของป่าสัตว์วิเศษรอบนอก ข้าเคยประลองฝีมือกับมันมาก่อน แต่ถูกมันทับเสียแบนเลย มันโผล่มาที่นี่ได้อย่างไร หรือว่าคนในเมืองไปจับเมียของมันมา มันเลยบุกมาตีเมือง?”
“เดี๋ยวก่อน…พวกเจ้ารู้สึกหรือไม่ว่า คนอ้วนที่นั่งอยู่บนหลังหมาป่าหน้าตาคุ้นๆ”
“ดู…ดูเหมือนจะเป็นองค์หญิงเฟิงหรูชิงนะ?”
เมื่อทุกคนที่อยู่โดยรอบสังเกตเห็น ต่างมองดูหญิงสาวคนนั้นนำฝูงสัตว์วิเศษมุ่งหน้าเข้าประตูเมืองด้วยความตะลึง
เหล่าทหารที่เฝ้าประตูเมืองทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นเฟิงหรูชิงเดินเข้ามา ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปขวาง ได้แต่มองนางเดินเข้าไปในเมืองตาปริบๆ
“เอ๊ะ…”
เมื่อเดินผ่านประตูเมือง เฟิงหรูชิงรู้สึกงุนงง
วันนี้…ดูเหมือนหน้าประตูเมืองมีคนจำนวนมากกว่าปกติ? แถมยังมีคนที่หน้าตาคุ้นๆ ขณะนี้ผู้คนทั้งหมดมองมาที่นางตาไม่กะพริบ ทำให้นางรู้สึกแปลกๆ
“พวกเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
นางขี่หลังของหมาป่าสีขาวและให้มันเดินไปทางพวกของหลินเยว่อิ่ง
และคนที่ตั้งใจว่าจะไปแจ้งข่าวให้คนในจวนแม่ทัพทราบต่างหยุดฝีเท้าลง
ตามท้องถนนเสียงเงียบสงัด เงียบจนได้ยินเสียงใบไม้ร่วงหล่น
“ท่านพี่!”
ไต้เอ๋อร์ดิ้นหลุดออกจากมือของหลินเยว่อิ่ง วิ่งเข้าไปหาเฟิงหรูชิงด้วยความดีใจ
นางกลัวหมาป่าสีขาว จึงหยุดลงก่อนจะเดินไปถึงตัวเฟิงหรูชิง แล้วมองเฟิงหรูชิงด้วยสายตาเฝ้าคอย
“เจ้าหมาป่า!”
เฟิงหรูชิงสีหน้าเคร่งขรึม
“…”
หมาป่าสีขาวตกใจจนต้องฟุบหมอบลง
ทั้งๆ ที่มันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ทำไมนางต้องดุใส่มันทุกครั้ง
แต่หมาป่าสีขาวไม่กล้าต่อต้านใดๆ มันเดินเข้าไปหาไต้เอ๋อร์ แล้วกระดิกหางอารมณ์ดี แถมยังใช้ลิ้นเลียหน้าอันผุดผ่องของไต้เอ๋อร์
ผู้คนที่อยู่โดยรอบ “…”
นี่มันหมาบ้านหรือหมาป่า?
หลินเยว่อิ่งเห็นหมาป่าสีขาวเชื่องขนาดนี้จึงรู้สึกโล่งใจ และหันหน้าไปมองเฟิงหรูซวงที่ยังไม่เดินจากไปด้วยสายตาเย้ยหยัน
ท่านพูดไม่ใช่หรือ…ว่าหมาป่าสีขาวนิสัยดุร้าย ไม่มีทางถูกเฟิงหรูชิงกำราบได้ แถมยังจะกินเฟิงหรูชิง…เป็นอาหาร?
ตอนที่ 120 เฟิงหรูซวงที่ตกใจจนงุนงงเป็นไก่ตาแตก (1)
เฟิงหรูซวงตกใจจนงุนงงเป็นไก่ตาแตก นางยืนนิ่งอยู่กลางถนน แววตาเต็มไปด้วยความตกใจและตกตะลึง อาจเป็นเพราะนางรู้สึกว่าคนทั้งหลายกำลังจับจ้องมาที่นาง นางตกใจกระวนกระวายจนหน้าซีด กัดริมฝีปากแน่น รู้สึกโมโหและเจ็บใจอย่างมาก
เพราะอะไรกัน
เพราะอะไรเฟิงหรูชิงอยากได้สิ่งใดแล้วได้ดังใจทุกอย่าง แม้แต่หมาป่าสีขาวยังมีคนจากวังหลวงไปฝึกให้นาง แต่นางกลับไม่ได้อะไรสักอย่าง
แม้แต่ภาพพจน์ของตัวเองที่นางอุตส่าห์สร้างขึ้นมา ก็ถูกผู้หญิงชั่วคนนี้แย่งไป!
ใช่ ในความคิดของเฟิงหรูซวง การที่หมาป่าสีขาวระดับสามฟังคำสั่งของเฟิงหรูชิงไม่ได้เกิดจากความสามารถของเฟิงหรูชิงเลยแม้แต่น้อย จะต้องมีคนจากวังหลวงไปฝึกให้นาง ไม่อย่างนั้นนางจะมีปัญญาอะไรไปทำให้หมาป่าสีขาวฟังคำสั่งนางได้
“ท่านพี่”
เฟิงหรูซวงสูดลมหายใจช้าๆ นางกดความรู้สึกโมโหไว้ข้างในแล้วฝืนยิ้มเดินเข้าไปหาเฟิงหรูชิง “ดีจังที่ท่านกลับมาได้ ข้านึกว่าท่านโดนหมาป่าสีขาวกินไปแล้วเสียอีก เพราะมันนิสัยดุร้ายเหลือเกิน ต่อให้มีคนฝึกมันให้ท่าน ก็ไม่แน่ว่ามันจะยอมฟังคำสั่งจากท่าน มัน…”
เดิมทีเฟิงหรูซวงตั้งใจพูดเยาะเย้ยเฟิงหรูชิงเท่านั้น ใครเลยจะรู้ว่าคำพูดของนางจะทำให้หมาป่าสีขาวโมโหอย่างมาก ทันใดนั้น หมาป่าสีขาวส่งเสียงเห่าที่เต็มไปด้วยความโมโหและเตะเฟิงหรูซวง
เฟิงหรูซวงไม่ทันระวัง ตัวกระเด็นไปข้างหลังแล้วตกลงกลางกลุ่มคน กระดูกของนางแทบหัก นางเจ็บจนหน้าซีดขาว เหงื่อออกเพราะความตกใจกลัว
เมื่อเทียบกับนางที่เคยเป็นที่ชอบพอของคนส่วนใหญ่ในอดีต เวลานี้คนทั้งหลายแค่ยืนดูนางอยู่ห่างๆ เท่านั้น ไม่มีใครเข้าไปประคองนางขึ้นมาหรืออาจจะกล่าวได้ว่าไม่มีใครสนใจนางเลยก็ได้
“อู๊วๆ !” หมาป่าสีขาวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มันใช้เท้าชี้ไปที่เฟิงหรูซวงและเห่าหอนเสียงดัง แววตาอันดุร้ายของมันเหมือนอยากจะกินคน สายตาจับจ้องไปที่เฟิงหรูซวง
นังผู้หญิงชั่วคนนี้ต้องการอะไร
หมาป่าเทียนซานอย่างมันไประรานอะไรนางหรือนางถึงใส่ร้ายมันว่าไม่เชื่อฟังเจ้านาย นางเคยเห็นหมา…ไม่ใช่สิ หมาป่าที่เชื่อฟังอย่างมันหรือเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการแย่งผลเทียนหลิงกั่วจากมัน เลยคิดเพ้อฝันจะทำให้เจ้านายเข้าใจมันผิด!
เมื่อเห็นหมาป่าสีขาวสีหน้าด่าเฟิงหรูซวง เฟิงหรูชิงสีหน้าเซ็ง นางเอามือตบหัวหมาป่าสีเขาเบาๆ แล้วบอกว่า “พูดภาษาคนสิ!”
มันเอาแต่เห่าๆ หอนๆ ไม่หยุด ใครจะฟังออกว่ามันด่าว่าอะไร
หมาป่าสีขาวหันหน้ามามองเฟิงหรูชิง
เจ้าคิดว่าหมาป่าอย่างข้าพูดภาษาคนเป็นด้วยเหรอ
เจ้าคิดว่าข้าแปลงร่างเป็นคนได้ใช่หรือไม่
“แค่กๆ” เฟิงหรูซวงลุกขึ้นจากพื้น นางไอคอกแค่กแล้วเงยหน้าขาวๆ ขึ้น สายตาอันเคว้งคว้างของนางมองไปยังผู้คนที่มุงดูเหตุการณ์อยู่ นางรู้สึกผิดหวัง สมัยก่อน นางดีกับคนพวกนี้แค่ไหน ทุกครั้งที่เฟิงหรูชิงจะเล่นงานพวกเขา นางล้วนออกหน้าขัดขวางไว้ บัดนี้…เพื่อไม่ผิดใจกับเฟิงหรูชิง พวกเขากลับเลือกที่จะ…ไม่สนใจใยดีนาง
ดี ดีมาก! สิ่งที่คนพวกนี้ติดค้างนาง ไม่ช้าก็เร็ว นางจะทวงคืนให้หมด!
เฟิงหรูซวงมองคนที่อยู่ตรงนั้นด้วยสายตาชั่วร้าย นางกลับหลังและเดินจากไปอย่างกะโผลกกะเผลกภาพที่เห็น ช่างน่าสมเพชและดูโดดเดี่ยวเดียวดาย
“พี่สาว” ไต้เอ๋อร์เห็นหมาป่าสีขาวฉลาดและน่ารักจึงไม่กลัวอีก นางเอื้อมมือดึงชายแขนเสื้อของเฟิงหรูชิง ยิ้มแล้วพูดว่า “หมาป่าตัวนี้ หน้าตาเหมือนหมาบ้านตัวใหญ่ๆ เลย”
เฟิงหรูชิงเอามือลูบหัวไต้เอ๋อร์ “อืม มันคือหมาเฝ้าบ้านน่ะ”
หมาป่าสีขาวที่ถูกขี่หลังอยู่ผงกหัวรับอย่างเต็มที่