เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System) – ตอนที่ 75 แน่นอนว่าคือคนจากแดนไกลมาช่วยพวกเรา

บทที่ 75 แน่นอนว่าคือคนจากแดนไกลมาช่วยพวกเรา

ห้องลับแห่งหนึ่งในเทียนฮุ่ยวิลล่า

ไห่หลานกำลังสอบถามทีละคน คนแรกที่เธอสอบถามก็คือครูฝึกสวี่ ทั้งสองคนสนทนากันพักหนึ่ง ครูฝึกสวี่ก็ขอตัวกลับและไม่มีใครทราบว่าเขาไปไหน

คนที่สองที่เข้ามาก็คือตาอ้วนหลิว พอเข้ามาแล้วก็ไม่กลัวอะไร ยังไม่มีใครพูดอะไรก็นั่งลงบนโซฟาที่มุมหนึ่ง

แน่นอนว่าไม่มีใครคิดมากเพราะไม่ใช่การไต่สวน

ไห่หลาน “ประธานหลิวซื่อเหลียง คุณรู้จักมังกรเพลิงที่ปรากฏในพื้นที่ปีศาจร้ายไหม”

ตาอ้วนหลิว “พื้นที่ปีศาจร้ายคืออะไรครับ ใช่สถานที่ที่พวกเราเพิ่งถูกขังไว้ไหม”

ไห่หลานพยักหน้า “ใช่แล้ว คุณรู้จักมังกรเพลิงตัวนั้นไหม”

ตาอ้วนหลิวเกาหัวท่าทางใคร่ครวญครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ตบมือฉาด แล้วตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมรู้จักแน่นอน จะต้องเป็นอัศวินชื่อดังในเมืองฉีของพวกเราแน่ๆ เพราะเขามีวิธีเหนือชั้นแปลงร่างเป็นมังกรเพลิงได้ เขาผดุงคุณธรรมมาตลอด คอยคุ้มครองพวกเราชาวบ้านในเมืองฉี…

ผมเป็นคนใจบุญสุนทานและผดุงความเป็นยุติธรรมเสมอมา ทุกคนในเมืองฉีรู้ดี คราวนี้เขาคงรับรู้ว่าผมตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังจึงมาไกลนับพันลี้เพื่อช่วยเหลือ กลับไปแล้วผมต้องระดมบุคลากรหอการค้ารวบรวมเงินบริจาคสร้างรูปปั้นทองคำและศาลเจ้าให้อัศวินคนนี้!”

ไห่หลานฟังแล้วก็กลอกตามองบน ‘แค่ความดีของคุณ เขาจะมาไกลนับพันลี้เพื่อช่วยเหลือได้ยังไงล่ะ มาไกลเพื่อเก็บศพยังมีความเป็นไปได้มากกว่า’

เธอเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วโบกมือหมดแรง “เอาล่ะ เรารู้ดีว่าประธานหลิวเป็นคนมีคุณธรรม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกะทันหันมาก เรามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับคุณ แต่คุณก็น่าจะมองออกว่าสถานการณ์ปัจจุบันอันตราย ต่อให้เป็นสถานที่ในสังกัดขององค์การอย่างนี้ก็ยังไม่ปลอดภัย หลังจากที่คุณกลับไปแล้ว ขอให้คิดเรื่องระยะยาวให้มากขึ้น”

ตาอ้วนหลิวพยักหน้าหงึกหงัก คิดในใจ ‘ไร้สาระ” แน่นอนว่ารอบนี้เกือบตายจริงๆ แล้ว อีกย่างก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเกี่ยวข้องอะไรกับอัศวินคนนั้นเลย ส่วนครั้งนี้เขาก็มาเอง เอาล่ะ วันหลังอาจสามารถขอความช่วยเหลือได้บ้าง’

หลังจากนั้นตาอ้วนหลิวก็ออกไปจากห้องสอบถาม หูฟังของไห่หลานพลันมีเสียงหนึ่งดังเข้ามา

“โดยพื้นฐานเขาพูดความจริง มีแค่ที่พูดว่าอัศวิน A มาช่วยเขานั้น ชัดเจนว่าเป็นเพราะเขาเยินยอตัวเอง ไม่มีทางเป็นไปได้”

‘ไร้สาระ แน่นอนว่าฉันรู้เขาขี้โม้’ ไห่หลานคิดในใจ หลังจากนั้นก็สั่งให้เรียกคนต่อไปเข้ามา

คนต่อไปก็คือประธานจ้าว เขาเดินสวนกับตาอ้วนหลิวที่ออกไปพอดี สองคนไม่ทันพูดอะไรกัน แต่ตาอ้วนหลิวยังส่งสายตาปลอบใจให้เขา

ไห่หลาน “ประธานจ้าวเสียงเหวิน คุณรู้จักมังกรเพลิงที่ปรากฏในพื้นที่ปีศาจร้ายไหม”

ประธานจ้าวสีหน้านิ่งสงบเอ่ยขึ้น “รู้จักสิ ต้องใช่อัศวิน A เมืองฉีของเราแน่ๆ”

ไห่หลานสนใจขึ้นมา เธอยืดตัวตรง เห็นชัดว่าประธานจ้าวรู้มากกว่าตาอ้วนหลิวทีเดียว

ไห่หลาน “ทำไมคุณแน่ใจขนาดนี้”

ประธานจ้าว “ผมเคยเจอเขาหลายครั้ง เขามักจะไปร้านอาหารรสชาติของฟางซื่อและเป็นลูกค้าระดับไฮเอนด์คนสำคัญในเมืองฉีของซิงเซิ่งกรุ๊ป พวกเขาจัดซื้ออาหารชั้นเลิศส่วนใหญ่ที่พวกเราผลิต ผมเองก็ไปกินอาหารที่นั่นกับครอบครัวบ่อยๆ เคยพบเขาอยู่สองสามครั้ง

คนธรรมดาในเมืองฉีย่อมไม่รู้เรื่องที่เขาแปลงร่างเป็นมังกรเพลิงได้ คนของพวกเรามีช่องทางให้ซื้อคลิปที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร เพราะฉะนั้นเลยรู้ข้อมูลของอัศวินคนนั้นได้ไม่ยาก ผมจ่ายเงินสองล้านซื้อข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากองค์กรที่ชื่อฮัมมิ่งเบิร์ด”

ไห่หลานพยักหน้า อีกฝ่ายไม่น่าจะโกหก เธอซักถามต่อไป “งั้นคุณรู้ไหมทำไมจู่ๆ เขาถึงมาปรากฏตัวในพื้นที่ปีศาจร้ายช่วยเหลือพวกคุณ”

ประธานจ้าวมั่นใจยิ่งกว่าตาอ้วนหลิว พอได้ยินคำถามนี้ก็มีสีหน้าจริงจัง รีบตอบทันที “เรื่องนี้ไม่ต้องถามเลย แน่นอนว่าเป็นเพราะผมจ้าวเสียงเหวินทำความดีในเมืองฉีมาตลอด เพื่อพิทักษ์คุณธรรมแล้ว แถมผมยังเคยเจอกับอัศวินใหญ่ท่านนี้บ่อยๆ ย่อมต้องมีมิตรภาพอยู่บ้าง เขามีพลังอันยิ่งใหญ่จะต้องรับรู้ได้ว่าผมตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังจึงมาช่วยผมจากแดนไกล

นอกจากนี้ผมมักจะกำชับลูกน้องให้มอบส่วนลดไม่น้อยกับอุปทานของร้านอาหารรสชาติของฟางซื่อ ร้านอาหารเห็นแก่หน้าผมจึงแอบให้ส่วนลดเขาบ่อยๆ แม้ว่าผมจะไม่เคยเปิดเผยความดีความชอบของตัวเอง แต่อัศวิน A ก็น่าจะทราบดีแก่ใจ แน่นอนว่าอัศวินทำให้เมืองฉีสงบสุข นี่เป็นเพียงน้ำใจเล็กน้อยของผมเท่านั้น ไม่เพียงพอที่จะตอบแทน”

ไห่หลานกลอกตามองบนอีกครั้ง แทบจะเป็นคำตอบเหมือนกันเป๊ะ คุณกับเจ้าอ้วนที่เพิ่งออกไปสมแล้วที่เป็นเพื่อนซี้เก่าซี้แก่ วิธียกยอตัวเองเหมือนกันเปี๊ยบ ต่อให้ฉันรู้ว่าพวกคุณรวยขึ้นมาได้ยังไง ความสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์หน้าด้านๆ ไม่รวยสิแปลก

“ถ้าอย่างนั้นคุณยังคงวางแผนที่จะกลับไปขอรับบริจาค สร้างรูปปั้นทองคำและศาลเจ้าให้อัศวินคนนี้ใช่ไหม” ไห่หลานถามเรื่อยๆ

ประธานจ้าวประหลาดใจครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าหงึกหงัก “คุณฉลาดจริงๆ มิน่าถึงได้ทำงานในองค์กรของสำนักสัจธรรม แต่เรื่องนี้ต้องถามอัศวินใหญ่ท่านนั้นก่อน ถ้าท่านอัศวินเห็นด้วย ผมจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายเต็มที่ ไม่ขอรับบริจาคหรอก”

ไห่หลาน “อ้อ ดูท่าประธานจ้าวจะโดดเด่นยิ่งกว่าลุงอ้วนอีกนะ”

ประธานจ้าวพอได้ยินก็รู้ว่าตาอ้วนหลิวพูดอะไร เขาหัวเราะ “ฮ่าๆ ประธานหลิวซื่อเหลียงของพวกเราเป็นคนประหยัดตลอด”

ไห่หลานพยักหน้า “อืม รบกวนคุณแล้ว เชิญคุณกลับไปพักผ่อนก่อนได้ เรื่องนี้พวกเราจะต้องมีคำตอบให้ทุกท่าน”

คนที่สามที่เข้ามาคือมนุษย์กลไกตัวแสดงแทนของฟางหนิง หลังจากเข้ามาก็ไม่ยอมนั่งทันที แต่ยืนรอคำสั่ง

“เชิญนั่งก่อน ประธานฟาง”

ไห่หลานผายมือเชื้อเชิญ “ฟางหนิง” ถึงค่อยนั่งลงที่โซฟา

ไห่หลาน “ไม่ต้องกังวลค่ะ พวกเราแค่จะถามคำถามง่ายๆ”

‘ฟางหนิง’ “เชิญถามมาเถอะ อะไรที่ผมรู้ก็จะบอกครับ”

ไห่หลานคิดในใจ สมแล้วที่เป็นโอตาคุ ห่างชั้นกับจิ้งจอกเฒ่าสองคนก่อนที่ดูมั่นอกมั่นใจมาก

ไห่หลาน “คุณรู้จักมังกรเพลิงที่ปรากฏในพื้นที่ปีศาจร้ายไหม”

‘ฟางหนิง’ ขมวดคิ้วคิดพักหนึ่งถึงค่อยถามอย่างไม่แน่ใจนัก “ใช่อัศวิน A แห่งเมืองฉีหรือเปล่าครับ”

ไห่หลานไม่ตอบกลับแต่ย้อนถาม “ทำไมคุณสรุปอย่างนี้ล่ะ”

‘ฟางหนิง’ “อ้อ ผมเคยบังเอิญได้ยินคุณลุงจ้าวพูดให้ฟังครั้งหนึ่ง เขาเล่าว่าอัศวินคนนั้นมีพลังวิเศษยิ่งใหญ่และยังแปลงร่างเป็นมังกรเพลิงได้ คุณลุงจ้าวก็เลยสั่งให้ร้านอาหารของผมต้อนรับขับสู้เขาเป็นพิเศษ ต่อให้ค้างจ่ายก็ไม่เป็นไร ผมช่วยจ่ายให้เอง แน่นอนว่าผมไม่ให้เขาจ่ายเงิน อัศวินคนนั้นไม่เคยทำให้กิจการเล็กๆ ของผมต้องลำบาก”

ไห่หลานแอบดูถูกในใจ นักธุรกิจพวกนี้ทำให้คนอื่นแย่เหมือนกัน แม้แต่โอตาคุที่สนิทกับประธานจ้าวมากไป ก็ยังเรียนรู้วิธีลื่นเหมือนปลาไหล

เดือนๆ หนึ่งมีรายได้หลักสิบล้านยังเรียกกิจการเล็กๆ รายได้ต่อเดือนของฉันเพียงสามสี่หมื่นเท่านั้น โชคดีที่มีเบี้ยเลี้ยงบางงานที่สำนักสัจธรรมบ้าง ถึงได้พอจ่ายค่าอาหารและเสื้อผ้าไม่ขายหน้าสถานะคุณหนูตระกูลไห่

แน่นอนเธอไม่ได้พูดออกไป ธุรกิจของเขาถูกกฎหมายไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ไห่หลานได้แต่เสียใจที่ความสามารถพิเศษของเธอไม่ใช่ด้านโลจิสติกส์ที่ทำเงินได้มากมาย แต่เป็นความสามารถแนวหน้าประเภทต่อสู้

ไห่หลาน “อ้อ งั้นรู้ไหมทำไมจู่ๆ เขาถึงไปโผล่ที่นั่นล่ะ”

ไห่หลานคิดว่าอย่าบอกนะว่ามาเพราะคุณ!

‘ฟางหนิง’ เกาหัวแกรกๆ พูดขึ้นอย่างเกรงใจ “คงจะเป็นเพราะท่านอัศวินติดใจรสชาติอาหารที่ผมทำ ผมยังไม่เคยเห็นเขาไปกินที่ร้านอาหารอื่นเลย ผมเชื่อว่าเขาไม่อยากให้พ่อครัวตาย ต่อไปจะไม่ได้กินอาหารเลิศรสอีก อัศวินคนนั้นมีพลังวิเศษแกร่งกล้าจะต้องรับรู้ได้ว่าผมตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ถึงได้มาไกลนับพันลี้เพื่อช่วยชีวิตผม”

ไห่หลานอดรำคาญไม่ได้ พวกคุณสามคนสมแล้วที่มาจากที่เดียวกันและยังรู้จักกัน แต่ละคนต่างยกยอปอปั้นตัวเอง

เธอซักถามต่อไปอย่างจนใจ “งั้นคุณคิดจะกลับไปชักชวนคนบริจาคเงินสร้างรูปปั้นทองคำและศาลเจ้าให้อัศวินคนนี้ใช่ไหม”

‘ฟางหนิง’ ได้ยินเช่นนั้นก็อึ้ง ครั้งนี้ปฏิกิริยาต่างกับสองคนนั้น “ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ในเมื่อผมเป็นคนนิสัยเกียจคร้าน เดิมคิดแค่ว่าอัศวินคนนี้มากินอาหารที่ร้านผมอีกครั้ง ผมจะเก็บเงินเท่าต้นทุนก็พอ ในเมื่อคุณเตือนอย่างนี้ งั้นผมคงต้องปวดหัวหน่อยแล้ว เงินไม่ใช่ปัญหา แต่ต้องออกงานพิธีอะไรพวกนี้ น่าปวดหัวจริงๆ”

ไห่หลานอึ้งเช่นกัน เธอเริ่มเข้าใจบ้างแล้ว กระะเพระมังกรตัวนี้ใหญ่มาก ‘กิจการเล็กๆ’ ย่อมไม่กล้าให้เขากินฟรี แต่บันทึกที่เกี่ยวกับโอตาคุฟางหนิงคนนี้ไม่ผิดสักนิด เขาเบื่อหน่ายกับการออกงานจริงๆ

ไห่หลาน “เอาล่ะ เรื่องนี้พวกเราจะต้องมีคำตอบให้คุณ ตอนนี้คุณกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

‘ฟางหนิง’ กำลังจะลุกไปก็ถูกเรียกไว้ก่อน

“จริงสิ ในเมื่อคุณบอกว่าอาหารที่คุณปรุงทำให้อัศวินมาจากแดนไกลเพื่อช่วยคุณ เราจะจัดงานเลี้ยงอาหารเย็นเพื่อเป็นการปลอบใจทุกคน ถ้าเราจะจ้างคุณชั่วคราวหนึ่งวันช่วยทำอาหารได้ไหม แน่นอนว่าเราจะจ่ายเงินค่าแรงตามมาตรฐานที่คุณจัดงานในเมืองฉี”

‘ฟางหนิง’ พยักหน้า “ในเมื่อคุณพูดอย่างนี้ ผมเองก็เป็นนักธุรกิจ ย่อมทำได้แน่นอน”

ไห่หลานคิดในใจ ‘ฉันอยากจะดูว่าฝีมือทำอาหารของคุณเป็นยังไงกันแน่ ฝีมือขั้นเทพจริงหรือเปล่า ในเมื่อไม่ใช่แค่แบ่งปันผลพลังปราณคุ้มร่าง ยังถึงขั้นเรียกมังกรแท้ที่อยู่ห่างออกไปตั้งไกลโพ้นมาช่วยได้เชียวหรือ’

ใช่แล้ว เธอไม่เชื่อคำพูดของประธานจ้าวกับตาอ้วนหลิว แต่ข้อมูลของ ‘ฟางหนิง’ จากบันทึกว่านิสัยซื่อสัตย์ เรื่องที่เขาพูดอาจเป็นความจริงขึ้นมาก็ได้

ในที่สุดแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่ามังกรชอบใคร แต่ที่แน่ๆ อีกฝ่ายไม่ต้องการตึกสูงระฟ้าสมัยใหม่ วิลล่า หญิงงาม รถยนต์สปอร์ตหรู เสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อย่างนั้นความต้องการในโลกมนุษย์ก็เหลือแค่เรื่องกินแล้ว

แม้แต่เหตุผลที่อีกฝ่ายอยากได้ความมั่งคั่งก็มองออก อาหารที่เขากินนั้น หากไม่มีเงินทองมากมายย่อมกินไม่ไหวแน่นอน มื้อหนึ่งก็ปาไปหลักล้านแล้ว หากจะใช้ชีวิตแบบนี้ต้องมีชีวิตสุดหรูหรา

มิน่ามันถึงเสนอราคาให้จื่อเจียง 50 ล้าน ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ที่มายังโลกนี้จะต้องแก้ปัญหาเรื่องการกินก่อน โชคดีที่มังกรตัวนี้ชอบอาหารของมนุษย์

บางทีนี่อาจจะเป็นสาเหตุแท้จริงที่อีกฝ่ายยืนอยู่ข้างมนุษย์ก็ได้ อย่าลืมว่าเรื่องที่ดูสำคัญยิ่งใหญ่มากมาย แท้จริงแล้วมีสาเหตุมาจากเรื่องเล็กๆ ที่ไม่สะดุดตา

ไห่หลานคิดอย่างนี้แล้วก็เตรียมเรียกคนต่อไปเข้ามา ความจริงแล้วเธอมองว่าพวกคนที่เหลือไม่สำคัญอะไร มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไม่มากนัก เพียงแค่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเท่านั้น

…………………………………………………….

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)

SBTS, 我被系统托管了
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเมื่อผมโดนระบบครองร่าง (Seized by the System)จู่ๆ ก็มีดาวตกพุ่งลงมาที่โลก ทำเอาพื้นดินถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นกลับทำให้ 'ฟางหนิง' หัวโขกกับโต๊ะคอมพิวเตอร์จนสลบไป ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเขามีระบบ ขณะที่กำลังจะดีใจว่าในที่สุดก็มีขาทองคำมาให้เกาะ เจ้าระบบนั่นกลับประเมินว่าเขาเป็นโรคขี้เกียจระยะสุดท้าย ปล่อยไว้ไม่มีทางเจริญก้าวหน้า และทำการยึดครองร่างของเขาซะงั้น!? ... จากหนุ่มโอตาคุผู้แสนจะขี้เกียจที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ กลับต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตนเองเป็นฮีโร่คอยปราบปรามเหล่าปีศาจร้าย ปกป้องเมืองที่ตนอยู่อาศัย และฝึกวิทยายุทธ์เพื่อก้าวสู่จุดสูงสุดนิ้วทองคำของระบบ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset