EP10: เลขาบนเตียง
สายตาของภาค บอกให้รู้ว่าเขารู้ความลับของหล่อนหมดแล้ว
ไม่จริง…
“แล้วคุณรู้ไหมว่าเจสสิกามาหาผมทำไม”
“เอ่อ… ไม่… ไม่ทราบค่ะบอส” หล่อนละล่ำละลักตอบออกไป เนื้อตัวสั่นสะท้าน
ภาคแสยะยิ้มหยัน
“เจสสิกาเอาเงินค่าตัวมาคืนผม เพราะว่าคืนนั้นไม่ได้ไปหาผม”
สีบนใบหน้าของหล่อนตอนนี้มันไม่ใช่สีขาวอีกแล้ว แต่มันคือความซีดเผือดจนน่าเวทนา
“คือว่า… บอสคะ… คือ…”
“ซึ่งก็แสดงว่าผู้หญิงที่ผมเอาอย่างมันส์หยดคืนนั้นไม่ใช่เจสสิกา”
ทำไมเขามองหล่อนเขม็งแบบนี้ และหล่อนก็ไม่อาจจะสบตากับเขาได้
“อย่าหลบตาผมสิกนกแก้ว แล้วตอบมาว่าคืนนั้นผมนอนกับใคร”
“เอ่อ… แก้ว… แก้วขอโทษที่… ที่ไม่ได้บอกความจริงบอสนะคะ แก้ว…”
“ไม่ต้องมาอึกอัก ผมให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย พูดความจริงกับผม”
นี่หล่อนจะทำยังไงดี หากภาครู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือหล่อน โลกต้องแตกเพราะการอาละวาดของเขาแน่ งั้นหล่อนคงต้องบอกคนอื่น
“เอ่อ… แก้ว… แก้วหานางแบบคนอื่นมาให้แทนน่ะค่ะ”
“นี่จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของคุณ พูดความจริงกับผม”
“เอ่อ… แก้วไม่ได้โกหกค่ะ… ก็พอคุณเจสสิกาบอกว่ามาไม่ได้ แก้วก็เลยติดต่อหาคนอื่นมาให้บอสค่ะ”
หล่อนเห็นสีหน้าของเขาเย็นชา ก่อนที่น้ำเสียงเลือดเย็นจะเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหยักสวยสีแดงระเรื่อ
“แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเจ้าของสร้อยข้อมือเส้นนี้ด้วยใช่ไหม”
สร้อยข้อมือของหล่อนที่ทำหล่นหายไปตั้งแต่วันงานเลี้ยงถูกภาคหยิบออกมาจากลิ้นชักหลังโต๊ะทำงาน และมาวางไว้บนโต๊ะ
หล่อนช็อกค้าง คล้ายกับถูกมัจจุราบเอาค้อนยักษ์ฟาดหัว
“สร้อย… สร้อยนั่น…”
นิ้วแกร่งของภาคไล้ไปตามสร้อยข้อมือตรงหน้า และมองหล่อนไม่วางตา
“สร้อยที่คุณทำหายยังไงล่ะ”
“เอ่อ…”
หล่อนอึกอัก และพยายามที่จะแก้สถานการณ์
“บอสเจอหล่นในงานใช่ไหมคะ”
เขาลุกขึ้นยืน กำสร้อยเอาไว้ในอุ้งมือ ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะมาหยุดตรงหน้าหล่อน
“ใช่ ผมเจอมันในงานเลี้ยง”
หล่อนฝืนยิ้ม และก็พยายามกัดฟันข่มตัวเองให้ยืนนิ่งๆ ไม่เป็นลมไปเสียก่อน
“แก้ว… คงทำตกข้างๆ เก้าอี้นั่งน่ะค่ะ แก้วนี่ซุ่มซ่ามจริงๆ เลย”
“คุณทำตกเอาไว้บนเตียงต่างหากล่ะ กนกแก้ว”
หล่อนเผยอปากค้าง หน้าตาตื่น
“บะ… บอส…?”
“ผมตื่นมาในตอนเช้า และพบสร้อยเส้นนี้บนเตียง”
เขาเดินเข้ามาและยื่นมือมาขยุ้มต้นแขนอวบทั้งสองข้างแรงๆ
“อ๊ะ… บอส… ปล่อยแขนแก้วค่ะ เจ็บ…”
“คุณยังมีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม”
“แก้ว… แก้ว… คือแก้ว…”
“ผู้หญิงที่นอนกับผมคืนนั้นคือคุณ!”
หล่อนส่ายหน้าไปมา น้ำตาไหลริน
“ไม่… ไม่ใช่ค่ะบอส… ไม่ใช่แก้ว… ว๊ายยย”
มือใหญ่ของผู้ชายตรงหน้ากระชากคอเสื้อสูงแรงๆ จนขาดคามือ รอยแดงช้ำจากการถูกดูดเม้มบริเวณลำคอของหล่อนที่ยังไม่จางหาย ยิ่งประจานความหน้าอับอายจนยากจะแก้ตัว
“นี่รอยปากผมทั้งนั้น”
“บอส… บอสคะ คือว่า…”
“คุณร้ายกาจมากนะ กนกแก้ว”
เขาคงกำลังโกรธหล่อน และก็คงรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาคงเกลียดหล่อนแล้ว…
กนกแก้วร่ำไห้ด้วยความเสียใจ หล่อนยกมือขึ้นไหว้เขา และน้อมรับความผิด
“แก้ว… แก้วจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับค่ะ แก้ว… แก้วขอโทษนะคะบอส แก้ว… แก้ว…”
สายตาคมกริบที่มองมาแม้มันจะไม่ได้บอกให้รู้ว่ากำลังขยะแขยงเศษขยะอย่างหล่อนมากมายแค่ไหน แต่หล่อนก็รู้ดีว่าเขากำลังรู้สึกยังไง
“แก้ว… ขอโทษค่ะ แก้วขอโทษบอสจริงค่ะ แก้ว… แก้วจะลาออก…”
“คุณไม่ได้ทำความผิดร้ายแรง”
“แต่แก้ว… แก้วทำให้บอสแปดเปื้อน”
หล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา หยาดน้ำตาไหลทะลักผ่านเลนส์แว่นหนาออกมาท่วมท้น
หล่อนเห็นเขากัดฟันแน่น ก่อนจะเอานิ้วยาวมาดึงแว่นตาของหล่อนออกไป
“บอส…”
เขาจ้องเข้ามาในดวงตากลมโตของหล่อน และก้มหน้าเข้ามาหาเรื่อยๆ
“ผมโกรธมากนะที่คุณทำเป็นไม่สนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา”
“แก้ว… ขอโทษค่ะ…”
“ผมไม่เคยตื่นขึ้นมาบนเตียงเพียงคนเดียว และผมไม่เคยถูกทิ้งมาก่อน”
“แก้ว…”
หล่อนไม่รู้จะแก้ตัวว่ายังไง เพราะแค่ความผิดที่เกิดขึ้นนี้ก็สาหัสสากรรจ์มากมายแล้ว
“ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับพนักงานของตัวเองมาก่อน”
เขามองหน้าหล่อนตลอดเวลา
“และผมก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมาพลาดเอากับคุณ”
นั่นสิ เพราะพนักงานของภาคที่ทั้งสาวทั้งสวยมีมากมาย แต่เขากลับมาพลาดกับผู้หญิงเฉิ่มไร้เสน่ห์อย่างเช่นหล่อน
“แต่ในเมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นมาแล้ว ผมก็จะพยายามทำความคุ้นเคยกับมัน”
หล่อนมัวแต่เสียใจ จึงไม่ทันสังเกตว่ามือใหญ่ได้เลื่อนไปที่แนวโค้งหลัง และลูบไล้บั้นท้ายอวบงอน แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“มันอาจจะแปลกใหม่ แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา”
“บอส… หมายถึง… อะไรคะ…”
“ผมก็หมายถึงหน้าที่ใหม่ของคุณยังไงล่ะ”
“คะ?”
เขายิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก แววตาเกรี้ยวกราดจางหายไปจนหมดสิ้น ตอนนี้เหลือแต่ไฟร้อนแรงบางอย่างที่กำลังลุกโหมอยู่ข้างใน
“เวลาทำงาน คุณก็เป็นเลขาหน้าห้องของผม แต่ถ้าผมเหงา คุณก็ต้องทำหน้าที่เลขาบนเตียง…”
“บอส…?!”
“ผมรู้ว่าคุณตกใจ ผมเองก็ตกใจเหมือนกันกับสถานะของพวกเรา แต่มันเกิดขึ้นแล้ว จะทำยังไงได้ล่ะ”
“บอสคะ…”
หล่อนขยับตัวพยายามจะออกจากอ้อมแขนของเขา แต่ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย
“ว่าไงครับ”
“แก้ว… แก้วว่าให้แก้วทำเหมือนเดิมดีกว่าค่ะ หรือไม่ก็ให้แก้วลาออกไป…”
“ผมให้คุณลาออกไม่ได้หรอก คุณเป็นเลขาที่รู้ใจผมที่สุด อย่าลืมสิแก้ว”
“แต่แก้ว…”
หล่อนอยู่ในฐานะนางบำเรอของเขาไม่ได้ หล่อนทะเยอทะยานต้องการมากกว่านั้น แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีวันจะได้สิ่งที่หวังมาครอบครอง
“ทำตามที่ผมบอก ไม่มีอะไรยากเย็นสักหน่อย”
แล้วเขาก็ใส่สร้อยข้อมือคืนกลับมาให้เหมือนเดิม จากนั้นก็ก้มลงจูบปากอิ่มหนักหน่วง จูบเนิ่นนานเป็นสิบจูบกว่าจะยอมปล่อย
กนกแก้วหอบหายใจระรัวคล้ายกับจะเป็นลมเมื่อปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ
“บอส…”
“ใส่แว่นซะ”
เขาใส่แว่นคืนให้กับหล่อน
“แล้วเย็นนี้ทิ้งรถเอาไว้ที่นี่ คุณกลับบ้านพร้อมผม”
หล่อนส่ายหน้าไปมา งงงวยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นี่หล่อนฝันไปอย่างนั้นเหรอ
“แก้ว… แก้วงงไปหมดแล้วค่ะบอส… นี่มันอะไรกันคะ”
เขาก้าวเข้ามาหาอีกครั้ง กระชากหล่อนเข้ามาบดขยี้ปากอิ่มหนักหน่วง ก่อนจะกระซิบถามชิดปากอิ่มเสียงแหบกระเส่า
“จูบนี่ของจริง ดังนั้นอย่าคิดว่าตัวเองฝันไป เพราะทุกอย่างมันคือเรื่องจริง”
“บอส…”
“รวมถึงความสัมพันธ์ของเรา ต่อจากนี้ไปด้วย”
เขาปล่อยมือจากร่างของหล่อน และถอยออกห่างไปเล็กน้อย
หล่อนช้อนตามองเขาอย่างมึนงง พูดไม่ออก สมองสับสนเหลือเกิน
“รีบออกไปทำงานซะ”
หล่อนยังคงยืนนิ่ง ขยับตัวไม่ได้
“หรือว่าอยากให้ผมใช้บริการคุณเสียตอนนี้เลยล่ะ กนกแก้ว”
“เอ่อ… แก้ว… แก้วไปแล้วค่ะ”
หล่อนหน้าแดงก่ำ เพราะเข้าใจความหมายของเขาได้เป็นอย่างดี
หญิงสาวรีบวิ่งขาสั่นออกมาจากห้องทำงานของภาคด้วยความตื่นตกใจ มือเล็กยกขึ้นกุมหัวใจของตัวเอง และก็ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่านี่มันเรื่องจริง หรือว่าความฝัน
“แก้ว… เธอฝันไปแน่ๆ”
แม้จะพยายามบอกว่าตัวเองฝันไป แต่ความร้อนอุ่นซ่านจากจุมพิตของภาคที่บดขยี้ลงมาบนปากอิ่มถึงสองครั้งสองคราก็ทำให้หล่อนรู้ว่ามันคือความจริง
ใช่… มันคือความจริง
ภาครู้เรื่องหมดแล้ว และเขา… เขาก็กำลังจะลงทัณฑ์หล่อนด้วยการย่ำยีกายสาวจนกว่าจะเบื่อ
นี่หล่อน… หล่อนควรจะทำยังไงดีนะ