พอฉีกม้วนเวทย์เคลื่อนย้ายออก แสงสีขาวก็สว่างวาบ แล้วร่างของแคลร์ก็หายไป
ในขณะเดียวกันนั้นกาดาร์ซึ่งอาศัยอยู่ข้างๆ ก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว
หายไปแล้ว!
ลมหายใจของแคลร์หายไปแล้ว!
มันหายไปอย่างกะทันหันเลย เป็นเช่นนี้แสดงว่าแคลร์มีม้วนเวทย์ล้ำค่าอยู่ในมืองั้นหรือ? หายไปไหนแล้ว? รีบไปไหนถึงขนาดนี้ กาดาร์ขมวดคิ้ว แต่ไม่สามารถคิดหาเหตุผลใดๆ ได้ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องหานางให้พบและต่อสู้กับนางให้ได้
เมื่อร่างของแคลร์ปรากฏขึ้นในห้องลับ ในเวลาเดียวกันนี้อูมาริที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น มีคนปรากฏตัวในห้องลับ เขาทิ้งรอยไว้จึงรู้ได้ทันที สถานที่นั้นมีเพียงคนเดียวที่สามารถปรากฎตัวได้ นั่นคือศิษย์รักของเขา แคลร์นั่นเอง
อูมาริลุกขึ้นอย่างรีบร้อน เขาใส่เสื้อคลุมแล้วรีบไปที่บ้านของเขา อูมาริมีบ้านของตัวเองอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ตระกูลฮิลล์มากนัก อูมาริอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลฮิลล์ในวันปกติ บ้านของเขาจึงเงียบสงบอยู่อย่างนั้น
อูมาริและแคลร์มาพบกันระหว่างทาง
“แคลร์!” อูมาริดีใจมาก จากนั้นเขาก็มองไปที่ร่างของแคลร์ด้วยความกังวล เขาดูว่ามีแคลร์บาดแผลหรือไม่ แคลร์ใช้ม้วนเวทย์เคลื่อนย้ายเพื่อกลับมาแสดงว่านางต้องพบกับอันตรายที่ไม่สามารถจัดการได้
“ท่านอาจารย์ ข้าสบายดี ท่านแม่ของข้าอยู่ที่ไหน?” แคลร์ถามอย่างกระตือรือร้น
อูมาริตกตะลึง เมื่อเขาเห็นว่าแคลร์ไม่มีบาดแผล จากนั้นเขาก็เข้าใจเหตุผลที่แคลร์รีบกลับมาทันที
แคลร์มองอูมาริที่เงียบไป ใจของนางก็กังวลมากขึ้นจนอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา “ท่านอาจารย์ เกิดอะไรขึ้น ท่านแม่ของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?
“แคลร์ เรากลับไปที่ตระกูลฮิลล์ก่อนเถอะ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะจะคุย” อูมาริมองไปรอบๆ ถึงแม้ถนนเส้นนี้จะไม่ใหญ่ งแต่ก็ไม่ห่างไกลจากกลางเมืองมากนัก การพูดถึงเรื่องนี้นอกบ้านไม่ใช่เรื่องฉลาด แม้ว่าจะไม่มีคนเดินบนถนนในตอนดึก แต่การพูดเช่นนี้ต่อไปก็อาจจะดึงดูดผู้อื่นได้อย่างแน่นอน
“ไม่ ท่านอาจารย์ ไปที่บ้านท่านก่อน ข้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าข้ากลับมาแล้ว” แม้ว่าแคลร์จะกังวล แต่นางจะทำเสียเรื่องไม่ได้ ท่านแม่ถูกใส่ร้ายนี่คือการสมรู้ร่วมคิด วิหารแห่งแสงและตระกูลฮิลล์ก็ควรจะมีความเคลื่อนไหว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนเลยว่าทั้งสองฝ่ายสนับสนุนว่าองค์ชายองค์เดียวกันหรือไม่ จะทำอะไรผลีผลามไม่ได้
“ได้ ไปสิ” อูมาริรีบเดินนำหน้าไป แล้วทั้งสองร่างก็หายไปในยามค่ำคืน
หลังจากกลับไปที่บ้านของอูมาริ ใบหน้าของแคลร์ก็เรียบนิ่ง ดวงตาของนางเย็นชามากยิ่งขึ้นหลังจากได้ฟังสิ่งที่อูมาริเล่า
“ดังนั้นสถานการณ์ในตอนนี้จึงละเอียดอ่อนมาก อีกทั้งจักรพรรดิไม่ได้มีทีท่าที่จะเข้ามาแทรกแซงเลย”
“หรือจักรพรรดิจะไม่รู้ว่าองค์ชายใหญ่ตอบตกลงเงื่อนไขของวิหารแห่งแสง?” แคลร์ขมวดคิ้ว องค์ชายใหญ่เห็นด้วยกับเงื่อนไขนั้น ในภายภาคหน้าอำนาจเทพเจ้าจะมีชัยเหนืออำนาจกษัตริย์ องค์ชายใหญ่ตกลงว่าหลังจากเขาขึ้นครองบัลลังก์แล้ว เขาจะให้พระสันตปาปาเป็นพ่อทูลหัวขององค์รัชทายาท องค์รัชทายาทก็คือจักรพรรดิของประเทศ ในอนาคตเมื่อจักรพรรดิของประเทศเรียกพระสันตปาปาว่าพ่อ ผลที่ตามมาคืออะไร?
“จักรพรรดิต้องอยู่แล้วรู้” อูมาริถอนหายใจ “เรารู้กันหมด จักรพรรดิจะไม่รู้ได้หรือ?”
แคลร์ขมวดคิ้วครุ่นคิด ถ้าเป็นเช่นนั้นนางก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคนๆ นั้นกำลังคิดอะไรอยู่
“เรื่องของท่านแม่ มันเกิดของอะไรขึ้นกันแน่?” แคลร์ถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม ดวงตาของนางเย็นชาและยังมีกลิ่นอายที่น่ากลัวด้วย
“องค์หญิงแมริสและองค์ชายสองเชิญชนชั้นสูงหลายคนไปร่วมงานเลี้ยงน้ำชาและยังเชิญองค์ชายใหญ่ไปด้วยครับ ทุกอย่างในงานเลี้ยงน้ำชาจัดโดยท่านแม่ของเจ้า ท่านแม่ของเจ้าเสิร์ฟไวน์ให้ องค์ชายใหญดื่ม ซึ่งในไวน์นั้นมียาพิษอยู่” อูมาริถอนหายใจ นี่คือการสมคบคิดที่ชัดเจน
“ทำไมองค์ชายสองไม่วางยาองค์ชายใหญ่เองล่ะ” แคลร์คาดเดาในใจ
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ตอนนี้แม่ของเจ้าคงต้องถูกตัดสินให้แขวนคอแล้ว” อูมาริขมวดคิ้ว“แต่องค์ชายสองยังคงต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากตระกูลฮิลล์ ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังขึ้นครองบัลลังก์ก็ตาม หากเขาฆ่าองค์ชายใหญ่ที่เป็นพี่ชายในสายเลือดได้ เขาก็จะเสียความนิยมชมชอบไปอย่างมาก หลังจากที่เขาขึ้นครองบัลลังก์แล้วเขายังต้องการการสนับสนุนจากตระกูลฮิลล์ องค์ชายสองทำเช่นนี้เพื่อบังคับให้ตระกูลฮิลล์สนับสนุนเขา
ช่างเป็นการสมรู้ร่วมคิดที่ไม่แยบยลเลย! ทุกคนสามารถเห็นได้เลยว่านี่เป็นการสมรู้ร่วมคิดและเป็นการสมคบคิดที่จักรพรรดิยอมรับด้วย อย่างไรก็ตามมันได้ผลอย่างมาก อย่างน้อยในตอนนี้ตระกูลฮิลล์ก็ถูกบังคับผลักดันให้ไปอยู่แถวหน้า และอยู่ตรงข้ามกับวิหารแห่งแสง!
“แม้ว่าท่านแม่ของเจ้าจะถูกขังอยู่ แต่นางก็ไม่ได้ลำบากเลยแม้แต่น้อย นางได้กินอาหารที่ดีที่สุดและใช้ชีวิตอย่างดีที่สุด ไม่เพียงแต่เห็นแก่หน้าตระกูลฮิลล์เท่านั้น แต่ยังเป็นคำสั่งขององค์ชายสองและองค์หญิงแมริสอีกด้วย” อูมาริรีบอธิบายเสริมเพราะเขาเห็นดวงตาของแคลร์เย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็งพันปีแล้ว! ตอนนี้ลางไม่ดีเกิดขึ้นในใจของเขา แคลร์อย่าทำอะไรโง่ๆ นะ อย่าหุนหันพลันแล่นเด็ดขาด!
“แคลร์ตอนนี้สถานการณ์ละเอียดอ่อนมาก เจ้าต้องใจเย็นๆ นะ แม้ว่าองค์ชายสองจะทำเช่นนี้เพื่อบังคับให้ท่านดยุกสนับสนุนเขาอย่างเปิดเผย แต่ว่า…” อูมาริอธิบายอย่างกังวล ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชายสองกับองค์หญิงแมริสและแคลร์นั้นดีมาโดยตลอด หากแคลร์และองค์ชายเป็นศัตรูกันก็คงไม่ใช่เรื่องฉลาดอย่างแน่นอน
“ข้ารู้” แคลร์ขัดจังหวะอูมาริและยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว
อูมาริลุกขึ้นทันทีด้วยความกังวลใจ
แคลร์หันไปมองอูมาริพร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากของนางและพูดอย่างภาคภูมิใจ “ท่านอาจารย์ ท่านคิดว่าข้ายังเป็นเหมือนเดิมหรือไม่?”
อูมาริตกตะลึง ความแข็งแกร่งของแคลร์ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นอีกแล้ว แต่ก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำให้เขาประหลาดใจ ถ้าเขารู้ว่าแคลร์ผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดมาแล้วตอนนี้นางไม่ฟื้นพลังดี ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ทำให้ตระกูลฮิลล์เดือดร้อน” แคลร์พูดเบาๆ “ท่านอาจารย์กลับไปที่บ้านตระกูลฮิลล์ก่อนเถอะ ข้ารู้ขอบเขตของข้า นอกจากนี้อย่าบอกใครว่าข้ากลับมาแล้ว แม้แต่ท่านปู่”
“ไม่ให้บอกท่านดยุกหรือ?” อูมาริตะลึง
“ท่านอาจารย์ ข้ารู้ดีถึงความภักดีของท่านที่มีต่อท่านปู่ แต่คราวนี้จะดีกว่าหากไม่บอกท่านปู่ ท่านก็รู้ว่าข้าเป็นเจ้าเมืองเนียร์ บารอน และเป็นนักบวชของวิหารแห่งแสงอีก เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ข้าจะไปบอกท่านปู่เอง” แคลร์พูดสิ่งที่นางพิจารณาแล้ว
“ได้… ” อูมาริขมวดคิ้วและตอบรับ
“ตอนนี้ข้าจะอยู่ที่นี่ชั่วคราวก่อน” แคลร์คิดอยู่พักหนึ่ง นางยังไม่สามารถบอกให้อูมาริรู้ได้ว่านางจะทำอะไรต่อไป
หลังจากที่อูมาริไปแล้ว แคลร์ก็สวมถุงน่องสีดำปิดหน้าและเดินทางไปในยามค่ำคืนราวกับผี
สถานที่ที่นางจะไปตอนนี้คือสวนกัลโล สถานที่คุมขังท่านแม่!
สวนนั้นได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาภายในไม่มีคนทั่วไปถูกคุมขังอยู่ พวกเขาล้วนเป็นขุนนางที่ครั้งหนึ่งเคยมีอำนาจหรือมีชื่อเสียงทั้งสิ้น
แคลร์เข้าไปเงียบๆ จากกำแพงสูงไปยังต้นไม้ใหญ่ด้านใน สุนัขตัวยักษ์ที่นอนอยู่บนสนามหญ้าเงยหน้าขึ้นมองอย่างระมัดระวัง สัญชาตญาณของสัตว์ทำให้พวกมันรู้สึกแปลกๆ แต่ทุกสิ่งรอบตัวเงียบสงัด ไม่มีลมหายใจแปลกๆ เลย หลังจากดมกลิ่นโดยรอบแล้ว สุนัขตัวยักษ์ก็ทรุดตัวลงนอน
แคลร์กระพือปีกไปทางต้นไม้ใหญ่อีกต้นและมาที่กำแพงบ้าน นางหลบหนีจากหน่วยลาดตระเวนรอบๆ ได้อย่างง่ายดาย และค้นหาห้องพักสองสามห้องจนพบคนที่นางคิดถึง
แคทเธอรีนผู้มีผิวพรรณเปล่งปลั่งนั่งอยู่บนเก้าอี้และอ่านหนังสือ ห้องนี้ไม่ด้อยไปกว่าห้องในบ้านตระกูลฮิลล์เลย ดูหรูหราและสะดวกสบายมาก ชั้นวางของเต็มไปด้วยหนังสือและโคมไฟคริสตัลสว่างไสวส่องสว่างไปทั่วห้อง เฟอร์นิเจอร์ก็เป็นชิ้นที่ดีที่สุด
แคลร์เดินเข้าไปในห้องเงียบ ๆ นางยืนพิงกำแพงและจ้องมองคนตรงหน้าเงียบๆ ใบหน้าของแคทเธอรีนเงียบสงบ นางกำลังอ่านหนังสือในมืออย่างตั้งใจ
“ท่านแม่… ” แคลร์ถอดหน้ากากและร้องเรียกออกมาเบาๆ มือของคนที่กำลังอ่านหนังสือนั้นชะงักไปทันที
แคทเธอรีนเงยหน้าขึ้นช้าๆ ด้วยความไม่เชื่อ นางมองไปที่ที่มาของเสียงและมือของนางก็สั่นเล็กน้อย นี่คือภาพลวงตาหรือ? มันเป็นภาพลวงตาใช่หรือไม่? เป็นเพราะนางคิดถึงแคลร์มากเลยเกิดภาพลวงตานี้ขึ้นสินะ
“ท่านแม่ ข้าเอง” แคลร์ยิ้มอย่างมีความสุข
“… ” มีประกายบางอย่างอยู่ที่มุมดวงตาของแคทเธอรีน แคทเธอรีนปิดหนังสืออย่างกะทันหันเดินไปที่หน้าต่างแล้วปิดผ้าม่านอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางก็หันกลับมาและกอดแคลร์ไว้ในอ้อมแขน
“แคลร์ ลูกของแม่ ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว” แคทเธอรีนพูดอย่างเต็มไปด้วยอารมณ์
“ขอโทษท่านแม่ที่ข้าไม่ได้กลับบ้านมาหานานขนาดนี้” แคลร์รู้สึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของแคทเธอรีนและค่อยๆ ยื่นมือออกมากอดแคทเธอรีน
“แม่ดีใจที่ลูกได้กลับมา” ดวงตาของแคทเธอรีนมีน้ำตาไหลออกมา แต่มุมปากของนางยกขึ้น นางทั้งร้องไห้และยิ้มให้ลูกสาวในอ้อมแขน
“ท่านแม่ แค่ท่านแม่พูดออกมา ข้าสามารถพาท่านแม่ออกไปได้ทันที” แคลร์มองคนที่อ่อนโยนตรงหน้า
“แคลร์ ไม่” แคทเธอรีนส่ายหัว “นี่คือสวนที่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา นอกจากนี้ข้อหาของแม่ก็ยังไม่ถูกตัดสิน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลฮิลล์ล่ะ”
“นี่เป็นการสมรู้ร่วมคิดที่เลวร้ายมาก” แคลร์อดทนต่อความโกรธที่กำลังจะระเบิดในใจ
“แม่รู้” แคทเธอรีนยิ้มอ่อนๆ นางยื่นมือออกไปแตะผมหน้าม้าบนหน้าผากของแคลร์และพูด “แผนการสมรู้ร่วมคิดนี้เป็นเรื่องเงอะงะมาก องค์ชายใหญ่รู้ว่าแก้วไวน์มีพิษ แต่เขาก็ยังดื่มมัน องค์ชายใหญ่กำลังเริ่มสงคราม ครั้งนี้เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลฮิลล์จะยอมให้อำนาจเทพเจ้าเข้ามาแทนที่อำนาจของกษัตริย์”
“หรือว่าจักรพรรดิจะอนุญาต?” ดวงตาของแคลร์กลายเป็นเย็นชาเล็กน้อย
“เขาไม่อนุญาต หากจะโทษก็โทษที่ตระกูลฮิลล์แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เลยไปทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ” แคทเธอรีนยิ้มและพูด
…………………………………………………………………………….