แคลร์ถอนหายใจและพูดสบายๆ โดยไม่ลืมตา “ข้าเสียใจจริงๆ ที่มาหาเขา”
จากนั้นแคลร์ก็เงียบและไม่พูดอะไรอีกเลย
เขา? นักวิชาการคามิลล์น่ะหรือ? จินเหยียนสงสัย
แคลร์รู้สึกเสียใจ วันนี้โชคดีหรือโชคร้ายกันนะที่ได้รู้ความจริง?
ทำไมรู้สึกว่าเหมือนมีตาข่ายที่มองไม่เห็นอยู่ใกล้ๆ รัดนางจนแน่นเลย…
“แคลร์ อย่าเพิ่งกังวลอะไรเลย เรื่องต่างๆ จะสามารถคลี่คลายได้เสมอ อย่าลืมว่าดยุกกอร์ตั้นก็เป็นคนที่มีความสามารถและทำให้ตระกูลฮิลล์ยืนหยัดมาได้ พ่อและพี่ชายของเจ้าก็ไม่ธรรมดานะ” วัลโดปลอบใจแคลร์
พ่อ? พี่ชาย? แคลร์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย นางรู้สึกแปลกมากที่ได้ยินวัลโดพูดถึงสองคนนี้ แคลร์จำได้ว่านางมีพ่อและพี่ชายสองคน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ชอบนาง อีกทั้งแคลร์ไม่ได้เจอพวกเขาเลยตั้งแต่ที่นางมาถึงโลกนี้จนมาถึงปัจจุบัน นางเคยเห็นเพียงพี่ชายคนรองที่เป็นกัปตันทีมกริฟฟอนตั้งแต่อายุยังน้อยในช่วงที่มีการแข่งขันระหว่างสองประเทศเท่านั้น
วันรุ่งขึ้น แคลร์ไปชั้นเรียนกับราเซียและขอให้สาวใช้ช่วยดูแลซัมเมอร์และเบน จากนั้นก็บอกทั้งสองซ้ำๆ ว่าสร้างปัญหาเด็ดขาด ก่อนนางจะออกไป
หลังจากช่วงเช้าที่สงบสุขในโรงเรียน จู่ๆ ในตอนเที่ยงก็มีเรื่องที่ทำให้นางตื่นตระหนก มีคนมารายงานว่าเกิดเรื่องขึ้นที่คฤหาสน์ ขอให้แคลร์รีบกลับไปโดยเร็ว ถ้านางไม่กลับไปชายชุดดำที่นางพากลับมาด้วยจะทำลายคฤหาสน์ตระกูลฮิลล์
“เกิดอะไรขึ้น? ” แคลร์นั่งอยู่ในรถม้าด้วยความโกรธ นางบอกกับมังกรที่ไร้มารยาทผู้นั้นไว้อย่างไรก่อนไป มังกรงี่เง่าผู้นั้นลืมมันไปแล้วหรือไง?! แค่นางออกไปไม่นาน เขาก็ควบคุมตัวไม่ได้เลยหรือ
“คือ ท่านมาร์ควิสกลับมาแล้วค่ะ” สาวใช้ตอบอย่างระมัดระวัง
“ท่านมาร์ควิส?” แคลร์สงสัย
“พ่อของคุณหนูค่ะ” สาวใช้ตอบด้วยความสับสน
“แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเรื่องของเบนล่ะ? ” แคลร์งุนงง ในความทรงจำของนาง มาร์ควิสผู้นั้นดูเหมือนว่าจะไม่ชอบแคลร์เลย
“เพราะว่า… เพราะท่านมาร์ควิสพูดถึงคุณหนูในทางไม่ดี ดังนั้นแขกที่คุณหนูพากลับมาจึงไม่พอใจค่ะ” สาวใช้ตอบอย่างระมัดระวัง
“หืม เขาพูดว่าอะไร? ” แคลร์เลิกคิ้วและถาม แค่คำพูดไม่ดีไม่กี่คำน่ะหรือ? เกรงว่ามันจะไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ?
“เล่าเรื่องมาอย่างละเอียดเลย” จินเหยียนพูดอย่างเย็นชา
“ค่ะๆ ” สาวใช้กลืนน้ำลายและพูดอย่างรวดเร็ว “ท่านมาร์ควิสกลับมาแล้วท่านดยุคไม่อยู่ อาจารย์อูมาริจึงแนะนำกับท่านมาร์ควิสว่าคุณเบนเป็นเพื่อนของคุณหนู จากนั้นท่านมาร์ควิสก็พูดว่า…”
สาวใช้ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
“พูดว่าหญิงบ้าผู้ชายจะมีเพื่อนด้วยหรือ ใช่หรือไม่? ” แคลร์พูดด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
สาวใช้เงียบ ใบหน้าซีดของนางเผยให้เห็นว่าการคาดเดาทั้งหมดของแคลร์เป็นความจริง
“แล้วเบนก็อารมณ์เสียหรือ?” แคลร์ถาม
“คุณเบนยังไม่ได้ทำอะไรค่ะ คุณซัมเมอร์เริ่มเถียงก่อน จากนั้น จากนั้น… ” เสียงของสาวใช้เริ่มเบาลงเรื่อยๆ “จากนั้นคำพูดของมาร์ควิสก็ฟังดูแย่ขึ้นเล็กน้อย แล้วสุดท้ายก็เกิดเรื่องจนควบคุมไม่ได้ค่ะ”
แคลร์หลับตาลงช้าๆ และไม่พูดอะไรอีก
“คนขับรถ เร็วขึ้นอีก! ” จินเหยียนบอกให้คนขับเร่งความเร็ว จินเหยียนมองแคลร์ที่เงียบงัน ความอดรนทนไม่ได้และความทุกข์ปรากฏขึ้นในใจของเขา ผู้ที่เป็นญาติของแคลร์เองดูถูกนาง แต่คนนอกกลับปกป้องนาง…
คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์ เวลานี้ดูแย่ไปแล้ว
“ขอโทษเลยนะ! ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลย” ใบหน้าของซัมเมอร์เป็นสีแดง นางชี้ไปที่ลาเกอร์ ฮิลล์ พ่อของแคลร์ แล้วตะคอก
“นางเป็นลูกสาวของข้า ข้าจะพูดแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคนนอกอย่างพวกเจ้า? ” มาร์ควิสลาเกอร์พูดอย่างดูถูก แต่รู้สึกหนักใจเล็กน้อย ลูกสาวไร้ประโยชน์คนนั้นมีเพื่อนที่ปกป้องนางแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? นางมีเพื่อนด้วยหรือ? ทุกคนต่างหลีกเลี่ยงนาง แม้ว่าเขาจะได้ยินกิตติศัพท์ของนางเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ก็เกรงว่าสิ่งเหล่านั้นจะไม่ได้เกิดจากความแข็งแกร่งของนาง แต่เป็นพ่อของเขาเองต่างหากที่กำลังผลักดันนางอยู่
“น่าเศร้าจริงๆ ที่แคลร์มีพ่อแบบเจ้า เจ้าไม่รู้จักลูกสาวของตัวเองเลย แถมยังดูถูกลูกสาวของเจ้าเช่นนี้อีก” ซัมเมอร์กระโดดขึ้นด้วยความโกรธ ในช่วงเวลาที่พวกเขาเข้าใกล้ความตาย แคลร์ไม่ได้ละทิ้งพวกเขาและหลบหนีไปแต่คนเดียว แต่นางคอยป้องกันอยู่หน้าพวกเขา แม้ว่าแคลร์จะดูร้ายและน่ารำคาญในบางครั้ง แต่แคลร์ก็เป็นคนที่น่าเชื่อถือมาก ถ้าคนอื่นดูถูกแคลร์แบบนี้ นางคงไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้คนที่กำลังดูถูกแคลร์นั้นคือพ่อของนางเอง!
“แน่นอน ข้ารู้จักลูกสาวของตัวเองดีที่สุด พวกเจ้าที่เป็นคนนอกมีสิทธิ์มาพูดเรื่องเหล่านี้ได้เช่นไร?” มาร์ควิสลาเกอร์พูดอย่างรำคาญหญิงสาวที่กำลังโกรธตรงหน้า แต่เขาไม่กล้าแสดงท่าทีมากเกินไป ในตอนนี้ชายในชุดสีดำแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันที่แข็งแกร่งมาก การเหลือบมองเขาเป็นระยะๆ ของอูมาริก็ทำให้มาร์ควิสลาเกอร์รู้ว่าชายชุดดำคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
“เจ้าคนน่ารังเกียจ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาดูถูกแคลร์แบบนี้! ” ซัมเมอร์เครียดจนถึงที่สุดแล้ว “เจ้าต้องถอนคำพูดในสิ่งที่เจ้าเพิ่งพูดไปในวันนี้ และต้องขอโทษด้วย”
“ไร้สาระ! ” ในที่สุดมาร์ควิสลาเกอร์ก็โกรธขึ้นมา เขาเป็นมาร์ควิสผู้สง่างาม แต่เด็กหญิงตัวเล็กๆ มาตะโกนใส่แบบนี้ แถมยังในบ้านของเขาเองด้วย!
“ข้าเห็นว่าเจ้าเป็นเพื่อนกับแคลร์จึงจะไม่ใส่ใจเจ้ามากนัก แต่เจ้าไม่มีมารยาทมากเกินไปแล้ว คนที่ไม่ได้รับการปลูกฝังเช่นนี้มาอยู่กับแคลร์ ศีลเสมอกันแท้ๆ?” มาร์ควิสลาเกอร์ทนไม่ได้ เขาโกรธและพูดออกไปโดยไม่สนใจอูมาริเหลือบมองเลย
“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร เจ้ามีการศึกษามากนักหรือ เอาแต่พูดว่าลูกสาวของเจ้าเป็นหญิงบ้าผู้ชาย เจ้าเป็นคนดีที่ไหนกันถ้าพูดแบบนี้กับลูกสาวที่ให้กำเนิดออกมา? “ซัมเมอร์โกรธจริงๆ แล้ว นางส่งเสียงดังและด่ามาร์ควิสลาเกอร์อย่างโกรธเคือง
ใบหน้าของมาร์ควิสลาเกอร์เปลี่ยนไป เดิมทีแคลร์เป็นหนามยอกอกในใจของเขามาตลอด คราวนี้ได้ยินว่าแคลร์ประสบความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ เขาจึงกลับมาดู ด้วยความเชื่อที่ถูกฝังแน่นในใจมานานเกี่ยวกับแคลร์ พอได้ยินเรื่องที่ไม่เหลือเชื่อของนาง เขาจึงกลับมายืนยันเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ไม่คาดคิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับการถูกดุด่าเช่นนี้
“เจ้า เจ้ากล้าด่าข้าหรือ! ” มาร์ควิสก็โกรธเช่นกัน เขาถูกเด็กหญิงตัวเล็กด่าในบ้านของตระกูลฮิลล์เลย!
“ข้าไม่เคยเห็นพ่ออย่างเจ้าเลย บางคนเกิดมาโดยไม่มีพ่อ หรือไม่มีพ่อมาคอยดูแล แต่นี่แคลร์มีพ่อ นี่มันแย่กว่าคนไม่มีพ่อเสียอีก!” ซัมเมอร์เบิกตากว้างมีบางอย่างอยู่ในดวงตาของนาง
“เจ้า! ” มาร์ควิสลาเกอร์ตัวสั่นด้วยความโกรธและชี้ซัมเมอร์ “จับนางลงมาให้ข้า”
“ใครกล้าทำ!”
“ใครกล้าทำ!”
สองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน
เสียงหนึ่งคือเบน และอีกเสียงหนึ่งคือแคลร์ที่เพิ่งมาถึงประตู
มาร์ควิสลาเกอร์หันหน้าไปและเห็นแคลร์ยืนอยู่ตรงประตูด้วยสีหน้าไม่แยแส แม้ว่าแคลร์จะยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ แต่นางก็มีพลังบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ ทำให้คนที่อยู่ข้างหลังมาร์ควิสลาเกอร์ไม่กล้าก้าวไปหาซัมเมอร์เลยสักคน
“แคลร์” ซัมเมอร์วิ่งไปทันทีที่เห็นแคลร์และจับมือของนางไว้ “เจ้ากลับมาแล้ว”
“อื้ม” แคลร์มองซัมเมอร์ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของนางและพูดด้วยเสียงต่ำ “ข้าได้ยินหมดแล้ว ขอบคุณนะ”
“ข้ากำลังพูดความจริง” ซัมเมอร์พูดด้วยความโกรธ เมื่อนึกถึงการโต้เถียงเมื่อกี้ “การมีพ่อเช่นนี้! น่าขยะแขยง”
“แคลร์! เจ้าคบเพื่อนแบบไหนกัน!! ไร้การศึกษา! ” มาร์ควิสลาเกอร์ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวเมื่อเห็นแคลร์ ในความทรงจำของเขา ทุกครั้งที่เขาดุแคลร์ นางจะกลัวมาก และแคทเธอรีนก็จะออกมาเพื่อปกป้องเด็กไร้ประโยชน์คนนี้
แต่ปฏิกิริยาของแคลร์ในตอนนี้เหนือความคาดหมายอย่างมาก “ข้าจะคบเพื่อนแบบไหน ข้าก็ไม่คิดว่าข้าต้องการคำปรึกษาจากท่านพ่อหรอกนะ ท่านพ่อไม่เคยให้คำปรึกษาใดๆ ในชีวิตของข้า ข้าไม่เคยได้รับมาก่อนเลย และข้าก็ไม่ต้องการมันแล้วด้วยในตอนนี้! “แคลร์พูดอย่างเย็นชา “ในฐานะมาร์ควิสผู้งดงามและมีชื่อเสียงของตระกูลฮิลล์ มันน่าอายหรือไม่ที่มาโต้เถียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ อายุไม่ถึงสิบห้าปีเช่นนี้”
สีหน้าของอูมาริเปลี่ยนไปเล็กน้อย คำพูดของแคลร์จะทำให้ความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อูมาริก็มองแคลร์ แต่นางไม่สนใจ เห็นชัดว่านางมีแผนของตัวเองอยู่ในใจแล้ว
มาร์ควิสลาเกอร์ถึงกับตะลึง นี่คือแคลร์ผู้น่าเบื่อหรือ? นี่คือแคลร์ที่พบเขาแล้วก็กลัวเหมือนหนูที่พบแมวหรือ? ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าแคลร์คนนี้มีความกล้าหาญและทรงพลังกว่าเดิมล่ะ?
“เจ้ากำลังพูดกับข้า เจ้ากำลังพูดกับพ่อของเจ้าแบบนี้หรือ? ” มาร์ควิสลาเกอร์ก้มลงมองและถามอย่างเย็นชา เขาไม่ยอมให้อำนาจของการเป็นพ่อถูกท้าทาย ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะมีความสามารถแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้!
“ข้ามีพ่อกี่คนกันล่ะ หากข้าไม่ได้คุยกับท่าน แล้วข้ามีพ่อคนอื่นหรือ? ” แคลร์ตอบอย่างเย้ยหยัน ในความทรงจำแล้ว นางไม่มีความประทับใจอื่นใดกับพ่อของนางเลย มีแต่เรื่องที่เขาดุแคลร์เท่านั้น
ใบหน้าของทุกคนในห้องโถงเปลี่ยนไป หญิงสาวมีความขัดแย้งกับท่านมาร์ควิสมากจริงๆ!
“เจ้า! โอหังมาก! ” ใบหน้าของมาร์ควิสลาเกอร์เปลี่ยนสี แคลร์กล้าขัดขืนและแย้งเขาอย่างหยาบคายเช่นนี้ได้อย่างไร!
“ท่านไม่ถือว่าข้าเป็นลูกสาวก่อนนี่ พอตอนนี้จะมาอวดว่าเป็นพ่อ ท่านไม่คิดว่าตลกหรือ” แคลร์มองมาร์ควิสลาเกอร์ที่ยืนอยู่ต่อหน้าอย่างเยาะเย้ยและประชดประชัน “วันนั้นข้าตกม้าเกือบตาย ท่านพ่อมาหาข้าก่อนออกไปข้างนอกหรือเปล่า ถ้าตอนนั้นข้าขค้นมาไม่ฟื้น ท่านพ่อจะมาหาข้าในตอนนี้ไหม สำหรับท่านพ่อมันไม่สำคัญหรอกว่าจะเหตุการณ์ตอนนั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะในความคิดของท่านพ่อ ท่านได้กำจัดข้าทิ้งไปนานแล้ว แล้วตอนนี้จะมาบอกว่าท่านเป็นพ่อของข้างั้นหรือ?”
…………………………………………………………………………….