เสน่ห์คมดาบ – ตอนที่ 89

“ทุกคนโปรดเงียบก่อน ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่มี    ผู้คนมากมาย ณ ที่แห่งนี้เป็นพยานในการชี้นำของเทพี” เสียงอันสง่างามของพระสันตปาปาดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ทุกคนสงบลงและมองมาทางเขา     ดวงตาของทุกคนกำลังจดจ่ออย่างตั้งใจ

 

 

จากนั้นพระสันตปาปาก็หันไปรอบๆ อย่างรวดเร็วและเห็นว่าแคลร์ไม่ขยับหรือพูดอะไรเลย ดวงตาของเขามองไปที่    แคลร์และไม่ได้เคลื่อนไปที่อื่น ทั้งห้องโถงเงียบลงชั่วขณะมองภาพตรงหน้าด้วยความมึนงง นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน? คำชี้นำของเทพีเกี่ยวข้องกับแคลร์งั้นหรือ? ใบหน้าของพระสันตปาปาดูจริงจังมากและ    เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ดยุกกอร์ตั้นรู้สึกไม่ดีเล็กน้อย วิหารต้องการจะโจมตีแคลร์หรือ? พวกเขาต้องการจะฆ่า    แคลร์ก่อนที่นางจะโตงั้นหรือ? เป็นไปได้หรือไม่? ในห้องโถงมีแต่ความเงียบงัน ไม่มีใครกล้าพูดอะไร ทุกคนมองภาพที่อยู่ตรงหน้า    เงียบๆ รอการเคลื่อนไหวต่อไปของพระสันตปาปา หัวใจของทุกคนจดจ่อ     สิ่งนี้จะเป็นพรหรือคำสาปสำหรับแคลร์กันนะ?

 

 

“วันนี้ขอให้ทุกคนเป็นพยานว่าข้าขอเชิญแคลร์ ฮิลล์    ให้นางมาเป็นสมาชิกนักบวชของวิหารแห่งแสงอย่างจริงใจ เพื่อประโยชน์ของผู้คนและเพื่ออาณาจักรของเรา นี่คือคำแนะนำของเทพี และของขวัญของเทพีชิ้นนี้จะมอบให้กับแคลร์ ฮิลล์ นี่คือเจตจำนงของเทพี ความสง่างามของเทพี” เสียงที่ไม่เร่งรีบของพระสันตปาปาดังก้องไปทั่วทั้งห้องโถง ดังก้องอยู่ในใจของทุกคนเป็นเวลานาน

 

 

ข่าวดังกล่าวทำให้ทุกคนในห้องโถงตกใจมาก ทุกคนเงียบจนแทบจะได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจของทุกคนในห้องโถงนั้นไปชั่วขณะ     เจตจำนงของเทพี? ความสง่างามของเทพี?! ความโปรดปรานนั้นไปตกอยู่กับแคลร์จริงหรือ?! ทำไมล่ะ? ทำไมกัน?

 

 

ในที่สุดใบหน้าของดยุกกอร์ตั้นก็เปลี่ยนไป! วิหารแห่งแสงตัดสินใจในครั้งนี้แล้วจริงๆ! ประกาศถึงแคลร์อย่างเปิดเผยภายใต้ชื่อของวิหารแห่งแสงและใช้ข้ออ้างที่ฟังดูสูงส่งมากเช่นนี้ การชี้นำของเทพีงั้นหรือ?! เป็นการเสียสละหรือ? ไม่เคยได้ยินเรื่องที่กะทันหันเช่นนี้มาก่อนเลย!

 

 

ในช่วงเวลาต่อมา ห้องโถงก็เกิดโกลาหล    อย่างมาก บรรยากาศร้อนแรงจน    ห้องโถงแทบจะพัง     ภาพที่น่าตกใจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะไม่เชื่อ! พระสันตปาปา    มอบของขวัญจากเทพีให้แคลร์ ซึ่งสิ่งนั้นคือ    สมบัติที่ไม่มีใครเทียบได้ มันคือสิ่งที่สามารถสร้างร่างกายของจิตวิญญาณขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้งเลยนะ? ทุกคนเคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็นมันมาก่อน     ตอนนี้พระสันตปาปา    ให้สิ่งนี้กับแคลร์งั้นหรือ? ให้เด็กสาวที่เพิ่งอายุสิบสี่น่ะหรือ?! นี่คือความประสงค์ของเทพี? ทำไมเทพีถึงดูแลแคลร์มากถึงขนาดนี้ล่ะ?

 

 

สายตาที่แผดเผาทั้งหมดตกไปอยู่ที่แคลร์จนแทบจะละลายนางได้เลย แคลร์มีอะไรพิเศษที่ทำให้เทพีชื่นชอบล่ะ?!

 

 

แคลร์รู้สึกถึงดวงตาที่แผดเผามากมายมุ่งตรงมาที่นาง ใบหน้าของนางนิ่งเงียบแต่ดวงตาดูลึกซึ้ง

 

 

พระสันตปาปารู้    ว่านาง    คือคนที่ขโมยของขวัญของเทพีมา! ตอนนี้ที่เขามาที่นี่ก็เพื่อยืนยันความผิดนาง    ! แคลร์ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงมาเชิญนางให้ไปเป็นคนของวิหารแห่งแสง แต่มีสิ่งหนึ่งที่นางมั่นใจก็คือพระสันตปาปาได้ค้นพบแล้วว่านาง    เป็นคนที่ขโมยของขวัญจากเทพีและกล่องในมือของราอูลนั้นว่างเปล่าอย่างแน่นอน กลยุทธ์ของพระสันตปาปาหลักแหลม    จริงๆ! สูงส่งเกินไป! แคลร์อยากจะระเบิดออกมา ปกติแล้วจะมีแต่แคลร์    ที่เป็นคนวางแผนใส่คนอื่น ไม่คิดว่าวันนี้จะโดนคนอื่นทำกับตนเองต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ อีกทั้งยังอยู่ในสายตาของทุกคนเลยด้วย ที่สำคัญคือนาง    ไม่สามารถตอบโต้ได้เลย!

 

 

ใบหน้าของหลิวเฉว่ฉิงซีดลง นางจ้องไปที่ภาพตรงหน้าอย่างว่างเปล่า นางไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ พระสันตปาปาไม่ได้มาเพื่อเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของชายชุดดำแล้วนำแคลร์เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรอกหรือ? ทำไมสถานการณ์ถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ล่ะ? เขาผลักดันแคลร์ไปสู่ตำแหน่งที่รุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น! ทุกคนให้ความสนใจ! แววตา คำพูด และการกระทำของทุกคนในห้องโถงได้อธิบายทุกอย่างแล้ว ความสว่างไสว         ของแคลร์กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งแล้ว!

 

 

“พระสันตปาปา…” ดยุกกอร์ตั้นยังอยากที่จะต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย ในไม่ช้าแคลร์หลานสาวของเขาก็จะกลายเป็นสมาชิกของวิหารแห่งแสงแล้ว เขา    จะยอมรับสิ่งนี้ได้อย่างไร? อำนาจกษัตริย์และอำนาจเทพเจ้าเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาโดยตลอด น้ำที่มาจากบ่อน้ำไม่ได้ทำให้แม่น้ำขุ่น แต่ตอนนี้ที่พระสันตปาปามาอยู่ที่นี่ เจตนาจริงๆ ของเขาคืออะไรกันแน่?

 

 

“ท่านดยุก ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำของเทพี เจ้าสงสัยในความประสงค์ของเทพีหรือ?” พระสันตปาปาหันหน้าไปมองดยุกกอร์ตั้นและถาม ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ผู้คนในห้องโถงก็หันไปมองกอร์ตั้นกันหมด    

 

 

“ไม่ ไม่ใช่แน่นอน ข้าจะสงสัยในความประสงค์ของเทพีได้อย่างไรล่ะ?” ดยุกกอร์ตั้นโบกมือของเขาอย่างรีบร้อน แต่หัวใจของเขากังวลมาก สถานการณ์นี้มันเกินความคาดหมายและการควบคุมของเขาไปมาก จำเป็นหรือที่จะต้องให้แคลร์ไปอยู่กับวิหารแห่งแสง?

 

 

“ถ้าเช่นนั้นทุกคนที่มาร่วมงานที่นี่โปรดเป็นพยาน” พระสันตปาปากระแอมในลำคอและพูดด้วยเสียงที่ไม่อาจต้านได้

 

 

ดวงตาของดยุกกอร์ตั้นตื่นตระหนก เขาไม่เคยคิดว่าวิหารแห่งแสงจะทำเรื่องนี้ในโอกาสเช่นนี้ซึ่งมันทำให้เขาไม่ทันได้ระวังตัวเลย เขาไม่สามารถที่จะหยุดมันได้เลย เขาจะสามารถต่อต้านเทพีอย่างเปิดเผยต่อหน้าผู้คนมากมายในห้องโถงได้อย่างไรล่ะ? แต่สิ่งที่กอร์ตั้นไม่เข้าใจคือเหตุใดวิหารแห่งแสงจึงลงทุนลงแรงผลักดันมหาศาลเพื่อเกณฑ์    แคลร์? เขาค้นพบศักยภาพของแคลร์งั้นหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นมันควรจะถูกค้นพบตั้งแต่ตอนที่ต่อสู้กับนักเรียนจากลากัคแล้วสิ ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงตอนนี้ ทำไมพวกเขาถึงต้องเกณฑ์    แคลร์ไปด้วย? กอร์ตั้นคิดไม่ออกเลย ตอนนี้เขาได้แต่หวังว่างานเลี้ยงนี้จะจบลงโดยเร็วและจะได้คิดหาวิธีรับมือมันเรื่องนี้สักที

 

 

สายตาอิจฉาริษยาต่างจับจ้องไปที่แคลร์จนเกือบจะยิง    ทะลุนางแล้ว แคลร์ยิ้มอย่างใจเย็นและเดินไปข้างหน้าช้าๆ มองพระสันตปาปาอย่างรู้กัน

 

 

ภายใต้สายตาที่จับจ้องของทุกคน พระสันตปาปาส่งกล่องผ้าให้แคลร์พร้อมกับเครื่องแต่งกายและสัญลักษณ์ของนักบวช สายตาของทุกคนหยุดนิ่งที่กล่องผ้าในมือของแคลร์ สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ถูกมอบให้ไปอย่างนั้นเลยหรือ? ตัวตนในปัจจุบันของแคลร์เป็นที่สะดุดตามาก นักบวชแห่งวิหารแห่งแสง เจ้าเมืองเนียร์ คนรุ่นใหม่ของตระกูลฮิล ศิษย์ของปรมาจารย์คลิฟ ออร่ามากมายเต็มตัวคนผู้นี้ไปหมด เช่นนี้จะไม่ให้คนอื่นอิจฉาได้อย่างไรกัน?

 

 

แคลร์โค้งตัวเล็กน้อยเพื่อรับของจากพระสันตปาปาแล้วลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มสดใส “พระสันตปาปา สิ่งล้ำค่าเช่นนี้ให้อยู่กับข้า    คงจะพลาดไปอยู่กับคนชั่วได้อย่างง่ายดาย     ข้าอยากขอให้พระสันตปาปาช่วยดูแลมันไว้ได้หรือไม่?” แคลร์ไม่โง่ กล่องเปล่านี้เป็นเพียงแผน นางรู้ว่าข้างในว่างเปล่า พระสันตปาปาก็รู้ และทุกคนในวิหารแห่งแสงก็รู้ แต่วิหารแห่งแสงปิดข่าวทั้งหมด คนนอกไม่รู้ว่าของขวัญของเทพีหายไป หากเอามาไว้ที่แคลร์ก็จะมีคนคิดมาขโมย    เป็นธรรมดา ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะผลักมันไปที่พระสันตปาปา

 

 

พระสันตปาปาเข้าใจและ    พยักหน้า เขายิ้มและรับกล่อง    กลับมา คนในห้องโถงต่างพากันถอนหายใจ

 

 

งานเลี้ยงนี้ยกระดับชื่อเสียงของแคลร์ให้สูงมากยิ่งขึ้น     เด็กสาวอายุสิบสี่ปีได้กลายเป็นที่รักของเทพี ได้รับตำแหน่งเป็นนักบวชของวิหารแห่งแสง! ช่างเป็นเกียรติจริงๆ หลังจากนี้ผู้คนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงนั้นสามารถจดจำ         เรื่องนี้ไปได้อีกนาน     พวกเขาจดจำเด็กผู้หญิงที่มีผมสีบลอนด์และดวงตาสีเขียวราว    ดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างที่สุดบนท้องฟ้า           เปล่งประกายและเป็นที่สนใจ

 

 

บรรยากาศอบอุ่นยังไม่สงบลงแต่องครักษ์ที่ประตูมีท่าทางตกใจ

 

 

“ทำไมเจ้าถึงลุกลี้ลุกลนเช่นนั้น!” ดยุกกอร์ตั้นไม่พอใจและดุคนของเขา

 

 

“นายท่านครับ นายท่านไปดูก็จะรู้เองครับ” องครักษ์ดูท่าทางตื่นเต้น

 

 

ดยุกกอร์ตั้นขมวดคิ้วและเดินออกไป ตามด้วยคนอื่นๆ ในห้องโถง

 

 

ทุกคนตะลึงเมื่อเห็นขบวนรถม้ายาวอยู่ด้านนอก ขบวนรถม้ายาวจนมองไม่เห็นท้าย    ขบวนเลย รถม้าแต่ละคันเต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงสวยงามตระการตา มีอักษรใหญ่ๆ สองสามคำติดบนรถม้า ‘แคลร์ สุขสันต์วันเกิดนะ!’

 

 

ใครกันที่ทำเรื่องบ้าขนาดนี้?

 

 

ทุกคนตกตะลึงกับภาพตรงหน้าอีกครั้ง เมื่อกี้การปรากฏตัวของพระสันตปาปาเพื่อบอกการชี้นำของเทพีก็ทำให้หัวใจของทุกคนแทบทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ภาพที่งดงามเช่นนี้มาปรากฏขึ้นอีก ทุกคนรู้สึกว่าในหัวของพวกเขาท่วมท้นไปหมด

 

 

“แคลร์?” ดยุกกอร์ตั้นหันหน้าไปจะเรียกแคลร์เพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นเขาก็พบว่าแคลร์ที่อยู่ข้างเขาในตอนนี้ได้หายตัวไปแล้ว

 

 

แคลร์หายเงียบไปในงานวันเกิด คนที่หายไปกับนางคือซัมเมอร์ เฉียวฉู่ซิน จินเหยียน วัลโด และเบน

 

 

บริเวณนอกเมืองที่ประตูตะวันออก มีหญิงสาวสวยที่มีรูปร่างหน้าตาธรรมดาแต่งตัวในชุดธรรมดาถือคันธนูและลูกศรขนาดเล็กบนหลังของนาง ตามด้วยกลุ่มคนที่เดินกันอย่างปกติบนท้องถนน

 

 

“ไป๋เสี่ยวเยว่ ทำไมเจ้าถึงอยากเปลี่ยนชื่อเป็นแบบนี้ล่ะ?” ซัมเมอร์แตะคางของนางและมองแคลร์ที่เดินอยู่ตรงหน้าด้วยความสับสน จากนั้นก็หันหน้าไปมองชายหนุ่มรูปงามที่ยิ้มราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิพร้อมกับปากที่กระตุก “อีกอย่าง ทำไมอาจารย์คามิลล์ของเจ้าจึงมาปรากฏตัวที่นี่ด้วยล่ะ?”

 

 

“งานอดิเรกส่วนตัวน่ะ” แคลร์พูดเบาๆ

 

 

“ฮ่าๆ ข้าเองก็มีงานอดิเรกส่วนตัว ในเมืองหลวงมันน่าเบื่อ ดังนั้นเลยตามออกมาเล่นกับพวกเจ้าดีกว่า” คามิลล์ยิ้มอย่างอ่อนโยนและแสดงความรักในดวงตาของเขา “ข้าเป็นรองหัวหน้าของพวกเจ้าด้วยนะ คนที่ไม่เชื่อฟังข้า ข้าจะทำโทษ…”

 

 

คำพูดที่อ่อนโยนไม่กี่คำสุดท้ายสะท้อนอยู่ในใจของทุกคน เห็นได้ชัดว่ามันอ่อนโยนผิดปกติแต่ก็ฟังดูน่าขนลุก จะถูกลงโทษ จะถูกลงโทษ…     เสียงสะท้อนที่ไม่มีที่สิ้นสุดเป็นเหมือนเสียงเวทย์มนตร์ที่เจาะเข้าไปในหู    

 

 

“กลุ่มทหารรับจ้างหยวนเป่า?” ซัมเมอร์ถือกระดาษแผ่นหนึ่งซึ่งเป็นใบรับรองของกลุ่มทหารรับจ้างที่พวกเขาเพิ่งลงทะเบียนและมองขึ้นไปบนฟ้า “ทำไมเราจดทะเบียนชื่อแปลกๆ กันล่ะ?      ชื่อนี้มัน         แปลกจริงๆ หยวนเป่า หยวนเป่า หยวนเป่าคืออะไร?”

 

 

……………………………………………………………………………..

เสน่ห์คมดาบ

เสน่ห์คมดาบ

แคลร์ ฮิลล์ คุณหนูใหญ่สุดสำรวยแห่งตระกูลขุนนางชั้นสูงผู้มีชื่อฉาวคาวกะฉ่อนว่าโง่เง่า เอาแต่ใจและบ้าผู้ชายเป็นชีวิตพลัดตกจากหลังม้าขณะไล่ตามองค์ชายสองจนหมดสติ สร้างความอับอายให้กับตระกูลเป็นอย่างยิ่ง กระนั้นเมื่อหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ท่าทีของนางกลับเปลี่ยนจากหน้ามือไปเป็นหลังเท้า ไม่มีอีกแล้วคุณหนูไร้ยางอายที่คลั่งไคล้การไล่จับบุรุษรูปงาม เรื่องเรียนไม่เอาอ่าว เรื่องงานไม่เอาไหน จะมีก็แต่คุณหนูแคลร์ผู้สงบเสงี่ยมเยือกเย็น สำรวมท่าที และเปี่ยมไปด้วยพลังเวทอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเท่านั้น! เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูแคลร์คนนั้นกันแน่นะ!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset