ตอนที่ 160 งานเลี้ยงประจำปี
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาความรักของทั้งสองก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
จิ้นหยวนแก้นิสัยเอาแต่ใจของตัวเอง หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือเขาเก็บซ่อนนิสัยไม่ดีของตัวเองเอาไว้จนลึก ส่วนเฉียวซือมู่เองก็พยายามปรับตัวให้โอนอ่อนตามจิ้นหยวน ทั้งสองต่างยอมถอยกันคนละก้าวจนทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีวันดีคืนและอยู่ด้วยกันอย่างรักใคร่ปรองดอง
แน่นอนว่าทั้งสองไม่เพียงปรองดองกันเฉพาะเวลากลางวันเท่านั้น แต่ยามค่ำคืนก็เช่นเดียวกัน เฉียวซือมู่พูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเธอมีความสุขมาก เวลากลางวันเธอดื่มด่ำกับความรักความเอาใจอย่างเต็มที่ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่มีอยู่บนโลกใบนี้ ทั้งเสื้อผ้าซีซั่นล่าสุดจากปารีส ทั้งเครื่องประดับเพชรนิลจินดาจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ขอแค่เธออยากได้ วันรุ่งขึ้นก็มีคนส่งของพวกนั้นมาให้เธอเลือกตามใจชอบถึงที่ราวกับสิ่งของราคาแพงพวกนั้นเป็นของฟรีก็ไม่ปาน
การใช้ชีวิตในบรรยากาศแบบนี้ทำให้เธอเกือบจะหลงทางเสียแล้ว เกิดเป็นหญิงทั้งทีเธอมีทุกอย่างพร้อมพรักตามที่ใจต้องการ เธอได้สิ่งของเหล่านี้มาโดยไม่ต้องเปลืองแรงอะไรเลย ชีวิตแบบนี้เหมือนเธอกำลังอยู่บนสรวงสวรรค์ใช่ไหม?
เปล่าเลย
ยามค่ำคืนคือช่วงเวลาแห่งความทรมานและความสุขของเธอ การที่ตัวเองได้ทำอะไรๆ กับชายคนรักเป็นเรื่องที่มีความสุขมาก แต่ว่า ทุกอย่างก็ควรมีขอบเขตของมันไม่ใช่เหรอ
ต่อให้เป็นอาหารชั้นเลิศแสนโอชะเพียงใดก็ตาม การกินแค่วันละมื้อหรือหลายวันกินทียังพอทำเนา แต่ให้กินทุกวัน กินทุกมื้อ ต่อให้เป็นใครก็คงทนไม่ไหวเหมือนกัน
แต่ดูเหมือนจิ้นหยวนจะไม่เป็นอะไรเลย เขายังคงทรมานเธอทุกค่ำคืนจนดึกดื่นค่อนคืน จากนั้นยังมีกำลังเหลือเฟือและสามารถลุกไปทำงานได้ตามปกติ เฉียวซือมู่ที่ต้องนอนหมดแรงอยู่บนเตียงไม่มีแรงแม้แต่จะยกมือขึ้นไม่อาจเข้าใจเขาได้เลย
นี่อาจเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวในตำนานใช่ไหม?
ไม่ว่าเธอจะคิดอย่างไรก็ตาม ในสายตาของคนอื่นชีวิตแบบนี้แหละคือชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์ เธอเองก็รู้สึกเช่นนั้น เว้นแต่เพียงชีวิตยามราตรีเท่านั้น นอกนั้นถือว่าอะไรๆ ก็ดีไปหมด
มีเพียงสองเรื่องเท่านั้นที่สามารถทำให้จิ้นหยวนไม่พอใจได้ เรื่องแรกคือเรื่องที่ฉีหย่วนเหิงพยายามมาเกาะแกะเฉียวซือมู่อยู่บ่อยๆ ตอนแรกจิ้นหยวนยังไม่รู้เรื่องนี้ แต่สุดท้ายเขาก็เห็นเข้าจนได้ จิ้นหยวนไม่ได้ระเบิดอารมณ์อย่างที่คิด หากแต่กลับเข้าบริษัทไปอย่างเงียบๆ เพื่อคิดหาวิธีเล่นงานตระกูลฉีให้เร็วขึ้น แต่ใช่ว่าเขาสามารถเล่นงานฉีหย่วนเหิงได้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่ เขาสามารถรับมือกับการโจมตีของจิ้นหยวนทุกรูปแบบจนทำให้จิ้นหยวนกลัดกลุ้มใจมาก พอกลับถึงบ้านก็คิดหาสารพัดวิธีที่จะบล็อกคอมพิวเตอร์ของเธอ
แต่สุดท้ายก็ถูกเฉียวซือมู่จับได้อยู่ดี เพราะอยู่ดีๆ เธอก็ติดต่อออฟฟิศไม่ได้เสียเฉยๆ ตอนนี้ จิ้นหยวนยังไม่อนุญาตให้เธอไปทำงานด้วยเหตุผลที่ว่าเธอต้องพักรักษาตัวให้หายดีเสียก่อน กระนั้นเขายังใจดียอมให้เธอติดต่อสะสางงานผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอคิดเล่นๆ ว่าตัวเองไม่ได้ไปทำงานตั้งนาน ห้องทำงานของเธอคงมีแต่ใยแมงมุมเต็มไปหมดแล้ว
แม้กระทั่งวันที่เฝิงเจ๋อออกจากงานเธอก็ไม่มีโอกาสไปบอกลาเขาเพราะจิ้นหยวนไม่อนุญาต เหตุผลง่ายมาก เพราะตอนนี้เขายังไม่เจอตัวจ้านซีเยวี่ย ไม่รู้ว่าเธอแอบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดตรงไหน ถ้าเกิดเธอออกไปข้างนอกแล้วถูกจ้านซีเยวี่ยจับตัวไปจะทำอย่างไร?
เหตุผลของเขาทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธความหวังดีของเขาอีก ดังนั้นเธอจึงได้แต่มองดูเฝิงเจ๋อจากไปโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย เธอได้แต่คอยติดตามข่าวคราวของเขาผ่านสังคมออนไลน์เท่านั้น
การจากไปของเฝิงเจ๋อทำให้หรงเซียวเศร้าไปพักใหญ่ เธอใช้เวลาตั้งหลายวันกว่าอาการจะดีขึ้นซึ่งต้องยกความดีความชอบให้เมิ่งเสียวเสวี่ย
วันเวลาค่อยๆ เคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ ให้ตายจิ้นหยวนก็ไม่ยอมอนุญาตให้เธอไปทำงานเสียที เขาสั่งให้เธออยู่แต่ในบ้าน ถ้าเธอจะออกไปข้างนอกก็ต้องมีคนตามไปด้วย หรือไม่ก็ต้องรอให้เขาเลิกงานแล้วพาเธอไปเอง
ต่อให้เขาระมัดระวังมากแค่ไหนก็ตามก็ต้องมีช่องโหว่บ้างแหละ
บ่ายวันหนึ่ง เธอเพิ่งเปิดคอมพิวเตอร์แล้วพบว่าในกล่องอีเมลมีบัตรเชิญอีการ์ดที่ลงนามซินเฟิงส่งถึงเธอ เธอแปลกใจเล็กน้อย พอเปิดออกถึงรู้ว่าอีกสามวันข้างหน้าจะมีการจัดงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทซึ่งเป็นวันที่สำคัญมากวันหนึ่ง วันนั้นพนักงานทุกคนจะต้องเข้าร่วมงานนี้ ไม่เว้นแม้แต่เธอ
เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าดูเหมือนออฟฟิศจะมีกฎระเบียบข้อนี้อยู่ แต่วันนี้เธอยุ่งมากจนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
แล้วเธอจะไปร่วมงานดีไหมนะ?
เธอกัดริมฝีปากตัวเองอย่างลังเล จะบอกว่าเธอไม่หวั่นไหวเลยก็คงเป็นเรื่องโกหก ใครก็ตามที่ถูกปกป้องดูแลอย่างเข้มงวดเป็นเวลานานๆ ก็คงคิดต่อต้านเหมือนกัน แล้วนับประสาอะไรกับคนบ้างานที่ชอบทำงานอย่างเธอ
แต่เธอรู้ดีว่าจิ้นหยวนไม่มีทางอนุญาตแน่นอน เพราะงานเลี้ยงประจำปีเป็นงานเลี้ยงค็อกเทลที่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยสูง
บางทีจ้านซีเยวี่ยอาจจะหนีไปตั้งนานแล้วก็ได้ไม่ใช่เหรอ?
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง แล้วที่เธอต้องคอยระวังตัวอยู่ตั้งนานสองนานก็เสียแรงเปล่านะสิ!