ตอนที่ 278 ของขวัญต้อนรับ
แววตาจิ้นหยวนหมองลงโดยที่เฉียวซือมู่ไม่ทันสังเกตเห็น ก่อนหน้านี้เขาโทรศัพท์บอกคุณพ่อคุณแม่แล้วว่าจะพาเธอกลับบ้านเวลานี้ แล้วพวกท่านต้อนรับพวกเขาแบบนี้หรือ?
เขาหันไปมองเฉียวซือมู่ด้วยสีหน้าราบเรียบ เอ่ยเสียงเบา “เราคงมาเร็วเกินไป เดี๋ยวผมพาคุณไปชมห้องนอนผมก่อนดีกว่า”
“ค่ะ” เฉียวซือมู่ที่ไม่เห็นสีหน้าผิดปกติของเขารีบตกลงทันที ไปชมห้องนอนเขา เธออาจจะได้เห็นรูปถ่ายตอนเด็กของเขาก็ได้
จิ้นหยวนพาเธอไปยังห้องนอนของตัวเอง ที่นี่เป็นบ้านที่เขาอยู่ตั้งแต่เล็กจนโตก่อนที่จะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกคนเดียว ที่นี่จึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเขา เฉียวซือมู่ก้าวเข้าไปในห้อง พลันตาเป็นประกาย
“นี่เป็นของเล่นของคุณเหรอคะ?” เธอเข้าห้องปุ๊บก็ถูกดาบยาวที่แขวนอยู่บนกำแพงดึงดูดสายตาทันที
เธอเดินเข้าไปใกล้ สำรวจดูมันอย่างละเอียด “สวยมากเลยนะคะ” เธออุทานด้วยความชื่นชม
จิ้นหยวนเดินเข้าไปหาเธอ เงยหน้าขึ้นมองดาบยาวที่แขวนอยู่บนกำแพง “เป็นของขวัญที่เพื่อนคนหนึ่งให้ผมน่ะ ก็เลยแขวนไว้ตรงนี้”
“เพื่อนเหรอคะ?” เป็นเพื่อนแบบไหนนะถึงได้ให้ของขวัญแบบนี้? เธอรู้สึกประหลาดใจมาก จึงเอียงศีรษะถามเขา “เพื่อนคนไหนเหรอคะ?”
จิ้นหยวนตอบเลี่ยงๆ “เพื่อนสมัยเด็กน่ะ ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว”
“อ้อ” เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากพูดถึงนัก เธอจึงไม่ได้ถามเขาอีก หากแต่กวาดสายตาสำรวจห้องนอนที่ไม่ใหญ่มากนักห้องนี้ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นต่อ ในที่สุดสายตาเธอก็ปะทะเข้ากับรูปถ่ายใบหนึ่งบนโต๊ะหนังสือทันที
ดวงตาเธอเป็นประกาย เธออยากได้ไอ้นี่แหละ! เธอก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว รีบคว้าจับกรอบรูปนั้นหมับอย่างรวดเร็วจนจิ้นหยวนห้ามไม่ทัน
“นี่คุณเหรอคะ? น่ารักจังเลย” เธอเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ รูปถ่ายในมือเป็นรูปครอบครัวสามคน สามีภรรยาคู่หนึ่งและเด็กชายอีกคนหนึ่ง เด็กชายท่าทางฉลาดน่ารัก หน้าตาละม้ายคล้ายจิ้นหยวนไม่มีผิด
นี่สินะหน้าตาตอนเด็กของเขา ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้ เธอจ้องใบหน้าขาวใสอ่อนเยาว์ของเด็กชายนานสองนาน แล้วหันกลับไปกวาดสายตามองจิ้นหยวน รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถเชื่อมโยงจิ้นหยวนกับเด็กชายน่ารักไร้เดียงสาคนนั้นเข้าด้วยกัน
จู่ๆ ก็ถูกเฉียวซือมู่เห็นด้านที่อ่อนแอที่สุดของตัวเองโดยไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ทำให้จิ้นหยวนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาแสร้งปั้นหน้าสงบเยือกเย็น ยื่นมือออกไปหยิบกรอบรูปมาจากมือเธอ “ผมได้ยินเสียงข้างล่าง เราลงไปกันเถอะ”
เอ่ยพลางโยนกรอบรูปไปอีกทาง แอบโมโหตัวเองที่ไม่ได้เตรียมตัวให้ดีจนทำให้เธอมาเห็นเข้าแบบนี้ รู้อย่างนี้เขาคงจัดการรูปถ่ายพวกนี้ไปนานแล้ว พวกรูปถ่ายสมัยเด็กทำลายภาพลักษณ์ชายหนุ่มมาดมั่นของเขาจนแตกละเอียดหมดแล้ว
เฉียวซือมู่ไม่รู้ว่าเขากำลังกลุ้มใจอะไรอยู่ ยังคงแอบดีใจที่ตัวเองได้รู้ความลับเล็กๆ ของเขา เธอยิ้มดีใจพลางเดินตามเขาลงบันไดไป กลับเห็นสายตาหลายคู่กำลังจ้องมองขึ้นมาอย่างไม่เป็นมิตร
จิ้นหยวนสังเกตเห็นทันทีว่ามีคนแปลกหน้าเพิ่มขึ้นมาสองคน เขามุ่นหัวคิ้วไม่เข้าใจ ไหนคุณแม่บอกว่ามีแต่คนในครอบครัวไม่ใช่หรือ? แล้วผู้หญิงอีกสองคนโผล่มาได้อย่างไร?
จิ้นเฮ่านั่งอยู่ตรงที่นั่งประจำของตัวเอง เขามองลูกชายตัวเองด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก และไม่แม้แต่จะชายตาแลเฉียวซือมู่ด้วยซ้ำ “ลงมาได้แล้วเหรอ ปล่อยให้คนหัวหงอกต้องมานั่งรอแบบนี้ ไม่อายบ้างหรือไง”
ตอนที่ 279 ดูถูก
จิ้นเฮ่าไม่ถูกกับจิ้นหยวนมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เปิดปากพูดยังพอว่า แต่อ้าปากพูดขึ้นมาเมื่อไหร่เป็นต้องเป็นเรื่องทุกที จึงเป็นเหตุทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองย่ำแย่มาตลอด
จิ้นหยวนยักไหล่ “ผมไม่ได้ยินเสียงนี่ครับ”
จิ้นเฮ่าทำเสียงฮึดฮัด เบือนหน้าหนีไปอีกทาง
ฉินเพ่ยหรงหน้าตายิ้มแย้มต้อนรับลูกชาย แต่พอเห็นเฉียวซือมู่ที่อยู่ข้างกายเขาแล้วกลับชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจทันที “อาหยวน ทำไมลูกพาเธอมาด้วยล่ะ แม่บอกแล้วนี่ว่าเป็นงานเลี้ยงในครอบครัว”
ความหมายก็คือเฉียวซือมู่ไม่ใช่คนในครอบครัว ไม่ต้องพาเธอมาด้วย
จิ้นหยวนไม่สนใจ พาเฉียวซือมู่เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้วเอ่ยขึ้น “คุณพ่อคุณแม่ก็พาคนนอกมาด้วยตั้งสองคนไม่ใช่เหรอครับ?” เอ่ยจบแล้วหันไปเอ่ยกับเฉียวซือมู่ “นี่คุณพ่อคุณแม่ผม”
เฉียวซือมู่ส่งยิ้มให้ทั้งสองพลางยื่นของขวัญที่เตรียมมาเป็นพิเศษให้พวกเขา “อันนี้ของคุณลุงค่ะ คุณลุงเปิดดูสิคะว่าชอบหรือเปล่า ส่วนนี่ของคุณป้าค่ะ ขอให้คุณป้าสวยอย่างนี้ตลอดไปนะคะ”
ของขวัญที่จิ้นหยวนและเฉียวซือมู่เตรียมมาให้จิ้นเฮ่าและฉินเพ่ยหรงนั้นเป็นของหรูหราราคาแพง มีนาฬิกาข้อมือยี่ห้อดังและชุดบำรุงผิวสุดแพง ซึ่งเป็นของขวัญที่ถูกใจสองผู้เฒ่ามาก แต่ทั้งสองกลับมีปฏิกิริยาแตกต่างกันไป
จิ้นเฮ่าสีหน้าเย็นชาหากแต่ไม่พูดอะไร เขารับของขวัญแล้วพยักหน้าเล็กน้อยโดยที่จิ้นหยวนคาดไม่ถึง “ขอบใจ”
นั่นทำให้จิ้นหยวนประหลาดใจมาก จิ้นเฮ่าเป็นคนอารมณ์ไม่ดีนัก ปฏิกิริยาของเขาในตอนนี้ถือว่าเขาให้เกียรติมากแล้ว
ส่วนฉินเพ่ยหรงนั้นรู้สึกอึดอัดมาก ท่าทางไม่อยากจะรับของขวัญ แต่เพื่อไม่ให้จิ้นหยวนเสียหน้าจึงต้องจำใจรับของขวัญเอาไว้ เธอรับมาถือไว้แล้วยิ้มเยาะดูถูก จากนั้นโยนมันไว้อีกทางอย่างไม่แยแสโดยไม่ไว้หน้าเฉียวซือมู่สักนิด
เฉียวซือมู่ยิ้มค้าง แทบจะปั้นหน้ายิ้มต่อไปไหวแล้ว
จิ้นหยวนเลิกคิ้วขึ้น ทนเห็นฉินเพ่ยหรงปฏิบัติกับเฉียวซือมู่แบบนั้นไม่ไหวอีกต่อไป ขณะที่เขากำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่าง เฉียวซือมู่ก็รีบดึงแขนเสื้อเขาเอาไว้ ไม่อยากให้เขาต้องมีเรื่องกับคุณแม่ตัวเองเพราะเธอเป็นต้นเหตุ
บรรยากาศอึดอัดขึ้นมาทันที จังหวะนี้ผู้หญิงอีกสองคนที่นั่งเงียบมาตลอดเอ่ยแทรกขึ้น “เพ่ยหรง นั่นจิ้นหยวนใช่ไหม โตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วเหรอ เวลาผ่านไปเร็วจังเลยเนอะ เมื่อก่อนยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ อยู่เลย”
คำพูดนี้ช่วยทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดทันที ฉินเพ่ยหรงถอนหายใจโล่งอก รีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เธอเดินจูงมือหญิงสาวอีกคนเข้าไปหาจิ้นหยวน “มานี่มา นี่น้าฝาน เพื่อนแม่เอง น้าฝานไปอยู่เมืองนอกตั้งนาน เพิ่งกลับมาไม่นานนี้เอง กลับมาปุ๊บก็มาเยี่ยมแม่ทันทีเลย ส่วนนี่ เจียงจื่อเสียน ลูกสาวน้าฝาน เด็กกว่าลูกสองปี อย่าเห็นว่าอายุน้อยๆ แบบนี้นะ จื่อเสียนเป็นคนที่เก่งมาก เป็นถึงอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยในอเมริกาเลยเชียวนะ”
ฉินเพ่ยหรงแนะนำแขกทั้งสองให้จิ้นหยวนได้รู้จักด้วยความกระตือรือร้น จิ้นหยวนกวาดสายตามองทั้งสองแวบหนึ่ง เขาเพียงแค่พยักหน้าอย่างเย็นชา ขานแค่ “น้าฝาน” คำเดียวแล้วไม่พูดอะไรอีก
ฉินเพ่ยหรงชักหัวคิ้วชนกันแน่นแล้วขึงตาใส่เฉียวซือมู่ เฉียวซือมู่รู้สึกแปลกๆ ในใจคิดว่าตัวเองไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจอีกแล้วเนี่ย?
ตอนแรกจิ้นหยวนคิดว่าจะถือโอกาสในคืนนี้แนะนำเฉียวซือมู่ให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักเธออย่างเป็นทางการ แต่ไม่คิดเลยว่าคุณแม่จะเชิญแขกคนอื่นมาด้วย ถ้าเช่นนั้น วันนี้คงไม่เหมาะที่จะแนะนำเฉียวซือมู่ให้พวกท่านได้รู้จักแล้ว ในใจจึงรู้สึกไม่พอใจมาก
เฉียวซือมู่ไม่ได้คาดหวังอะไรกับการพบหน้ากับคนในครอบครัวของจิ้นหยวนตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แถมตอนนี้สถานการณ์ยังกลายเป็นแบบนี้อีก เธอจึงไม่ได้คิดมากอะไร แต่มีเรื่องอื่นคอยรบกวนจิตใจเธอมากกว่า ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าเห็นหญิงสาวที่ชื่อเจียงจื่อเสียนคอยลอบมองจิ้นหยวนอยู่บ่อยๆ ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมาก