ตอนที่ 336 ได้เวลาใช้หนี้แล้ว
ชายคนนั้นก้มกายลงเล็กน้อยเพื่อเปิดประตูออก เขาส่งสายตาให้เฉียวจื่อจี้ เฉียวจื่อจี้ก้มกายลงจะวางตัวเฉียวซือมู่ลงบนเบาะรถ
ทันใดนั้น จู่ๆ เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น!
เฉียวซือมู่ที่พวกเขาคิดว่าไม่มีทางตื่นตอนนี้แน่ จู่ๆ เธอก็ลืมตาพรึบ เธอเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่ถูกร่างของเฉียวจื่อจี้บังสายตาเอาไว้พอดี เธอจึงใช้แรงกระเด้งตัวจนหลุดออกจากการอุ้มของเฉียวจื่อจี้แล้วไถลลงไปกองกับพื้นพอดี
เธอรีบกระเด้งตัวแล้วกระโดดหนีชายทั้งสองอย่างว่องไว จากนั้นรีบวิ่งไปยังถนนใหญ่อย่างรวดเร็ว
ชายทั้งสองต่างตะลึงนิ่งอึ้ง
เฉียวซือมู่สูดหายใจลึก ตะโกนเสียงดังลั่นว่า “ช่วยด้วย” จากนั้นรีบวิ่งไปตามทางม้าลายอย่างไม่คิดชีวิต
เฉียวจื่อจี้สบถออกมาแล้วรีบวิ่งตามไปทันที
ชายรูปร่างสูงใหญ่หน้าดำคร่ำเครียด รีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
เสี้ยววินาทีที่เฉียวจื่อจี้ปิดผ้าโปะยาสลบลงบนจมูกเธอนั้น เธอกลั้นหายใจเอาไว้ได้ทัน จึงทำให้เธอสูดยาสลบเข้าไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น และนั่นทำให้เธอฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็วหลังสลบไปเพียงไม่นาน
ตอนนั้นเธอกำลังคิดจะหนีอยู่พอดี แต่เฉียวจื่อจี้กลับเดินเข้ามาในห้องเสียก่อน เขาอุ้มเธอออกไปข้างนอก ขณะที่เธอกำลังจะถูกส่งเข้าไปในรถนั้น เธอรู้ทันทีว่าหากไม่หนีตอนนี้เธอก็จะหนีไม่พ้นอีก
ในที่สุดเธอก็หนีรอดมาได้ แต่ชายสองคนนั้นยังคงวิ่งไล่ตามหลังเธอมาอย่างไม่ยอมลดละ เธอใจหายวาบ วิ่งพลางกวาดสายตามมองพลาง และเธอก็เห็นรถตำรวจกำลังวิ่งลาดตระเวนเข้าพอดี เธอดีใจมาก รีบวิ่งเข้าไปหารถตำรวจคันนั้นอย่างรวดเร็ว “ช่วยด้วย ฉันจะแจ้งความค่ะ…”
เฉียวจื่อจี้มองภาพเหตุการณ์ที่อยู่ไม่ไกลด้วยใบหน้าสลดหดหู่ เขาไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าอีกแม้แต่ก้าวเดียว พอหันกลับไปมองทางด้านหลัง พลันเห็นสีหน้าถมึงทึงของชายรูปร่างสูงใหญ่ที่กำลังจับจ้องมาที่ตนเอง “ได้เวลาใช้หนี้แล้ว”
เฉียวจื่อจี้ใจหายวาบจนแทบร่วงลงกองกับพื้น…
เฉียวซือมู่แจ้งความเสร็จเรียบร้อย หลังจากเธอเล่ารายละเอียดทุกอย่างให้นายตำรวจฟังแล้ว เขาจึงรับแจ้งความแล้วสั่งให้ตำรวจอีกนายพาเธอไปส่งที่บ้านด้วยความใจดีอีกต่างหาก เธอร้อนใจมากเพราะเป็นห่วงว่าคุณแม่จะเป็นอย่างไรบ้าง
โชคดีที่เฉียวจื่อจี้หนีหายไปแล้ว ส่วนคุณแม่นั้นยังคงนอนสลบไสลอยู่บนเตียงเหมือนเดิม นอกจากนี้เธอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนอีก
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากผ่านเรื่องราวเลวร้ายมาได้แล้วเธอจึงร้องไห้โฮอย่างสุดกลั้น
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าคุณแม่น่าจะถูกเฉียวจื่อจี้บีบบังคับให้โทรศัพท์หาเธอ เขาจะต้องข่มขู่คุณแม่จนคุณแม่ทนไม่ไหวแน่ๆ คุณแม่ถึงได้พยายามเตือนเธออย่างสุดความสามารถ แต่น่าเสียดายที่เธอทำให้คุณแม่ต้องผิดหวัง
สภาพจิตใจในตอนนี้ของเฉียวซือมู่สับสนวุ่นวายไปหมดจนนึกไม่ออกแม้กระทั่งเรื่องที่ต้องส่งคุณแม่ไปโรงพยาบาล สุดท้ายนายตำรวจที่พาเธอมาส่งที่บ้านเป็นคนเอ่ยเตือนสติ เธอจึงรีบเช็ดน้ำตาแล้วกระวีกระวาดโทรศัพท์หาโรงพยาบาล
แม้เธอจะเดาว่าคุณแม่คงจะถูกวางยาสลบเหมือนตนเอง แต่เธอยังคงไม่วางใจอยู่ดี เธอคิดว่าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลน่าจะดีกว่า
หลังจากจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณหมอแจ้งว่าคุณแม่ไม่ได้เป็นอะไรมาก อย่างมากพรุ่งนี้ก็ฟื้นแล้ว เธอจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก ทันใดนั้น เธอรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งร่างราวกับเพิ่งไปวิ่งทางไกลระยะทางแปดพันเมตรมาหยกๆ ตอนนี้เธอเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดอยู่แล้ว
หลังจากจัดการเรื่องคุณแม่เรียบร้อยแล้วเธอจึงโทรศัพท์หาจิ้นหยวน เธออยากจะเล่าเรื่องที่เพิ่งประสบพบเจอคืนนี้ให้เขาฟังใจจะขาดอยู่แล้ว และอยากจะได้คำปลอบโยนจากเขาด้วย
แต่เธอกลับต้องประหลาดใจอีกครั้ง
โทรศัพท์ของเขาดังเพียงไม่นานก็มีคนกดรับสาย เธอเอ่ยขึ้น “จิ้นหยวน…”
ตอนที่ 337 จิ้นหยวนอยู่ไหน?
เฉียวซือมู่นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินเสียงอ่อนหวานของหญิงสาวแทน “ฮัลโหล?”
ปฏิกิริยาแรกของเธอคือวันนี้เธอคงจะเหนื่อยมากเกินไปจนทำให้โทรผิด ขณะที่เธอกำลังจะอ้าปากขอโทษอีกฝ่ายว่าตนโทรผิดนั้น จู่ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ ไม่สิ เธอบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของจิ้นหยวนเอาไว้แล้วนี่ เธอไม่มีทางโทรผิดแน่
ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่า…
มือเธอสั่นเทา เธอพยายามเอ่ยถามอย่างใจเย็น “เธอเป็นใคร? แล้วจิ้นหยวนล่ะ? ทำไมเธอถึงรับโทรศัพท์ของเขา?”
อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ “เธอจำเสียงฉันไม่ได้เหรอ? เขากำลังอาบน้ำอยู่ มีอะไรเธอก็พูดมาสิ เดี๋ยวฉันบอกเขาให้”
แม้คำพูดเธอจะฟังดูธรรมดา แต่ความเย้ยหยันที่แฝงอยู่ในเสียงหัวเราะเบาๆ นั่น และน้ำเสียงแสดงความเป็นเจ้าของนั้นทำให้ไฟโทสะในใจเฉียวซือมู่ลุกพรึบ ขณะเดียวกัน มันทำให้เฉียวซือมู่รู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นใคร “เจียงจื่อเสียน ฉันขอถามอีกครั้ง จิ้นหยวนอยู่ไหน?”
ดูเหมือนเจียงจื่อเสียนจะตั้งใจยื่นโทรศัพท์มือถือไปยังที่ที่หนึ่ง เสียงดังซ่าๆ เบาๆ ดังลอดสายเข้าโสตประสาทของเฉียวซือมู่ จากนั้นเจียงจื่อเสียนใช้คำพูดที่ฟังเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ความจริงแล้วเต็มไปด้วยเจตนาร้ายเอ่ยกับเฉียวซือมู่ “ได้ยินหรือยัง? เขากำลังอาบน้ำอยู่ แล้วเธอคิดว่าทำไมเขาถึงไปอาบน้ำ ล่ะ?”
เจียงจื่อเสียนเอ่ยจบแล้วสัมผัสได้ว่าตอนนี้เฉียวซือมู่โกรธจนขาดสติไปแล้ว เธอจึงหัวเราะเบาๆ ด้วยความสะใจ จากนั้นกดตัดสายทิ้ง
ทันทีที่เธอวางโทรศัพท์มือถือกลับที่เดิม จิ้นหยวนที่พันเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวก็เดินออกมาพอดี เธอเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดแข็งแรงของเขาแล้วหน้าแดงซ่าน เขามุ่นหัวคิ้วถามด้วยความแปลกใจ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? แล้วเมื่อกี้คุณคุยกับใคร?”
เธอรีบชี้ไปยังกองเสื้อผ้าที่วางอยู่ข้างๆ เพื่อปกปิดพิรุธ “คุยกับพนักงานน่ะค่ะ พวกเขาส่งเสื้อผ้าของคุณมาให้ พวกเขาทำงานเร็วมากเลยนะคะ”
จิ้นหยวนมองไปยังที่ที่เธอชี้ และเห็นเสื้อผ้าของตนที่ถูกส่งซักแห้งอย่างเร่งด่วนถูกส่งมาที่ห้องจริงตามที่เธอบอก จึงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา จากนั้นตวัดสายตามองเธอแวบหนึ่ง
ใบหน้าเธอแดงเป็นลูกตำลึง รีบหมุนตัวเดินออกจากห้องทันทีอย่างเข้าใจความหมาย แต่เธอไม่ได้เดินออกไปทางประตูห้อง หากแต่เดินไปเปิดประตูบานเล็กที่ไม่เป็นที่สังเกตแทน จากนั้นเดินออกไปจากประตูบานเล็กบานนั้น
เขาเหลือบมองตามแล้วเข้าใจทันทีว่านั่นน่าจะเป็นห้องที่ตระกูลหลินเตรียมเอาไว้ให้เธอผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า และห้องของเธอกับห้องของเขาเชื่อมต่อกันด้วยประตูบานเล็กบานนั้นพอดี
และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าจู่ๆ เธอมาปรากฎตัวอยู่ในห้องของเขาได้อย่างไร
เขามุ่นหัวคิ้วเล็กน้อยโดยไม่ได้คิดอะไรมากอีก จากนั้นเริ่มแต่งตัวใหม่
อืม ดูเหมือนเขาจะไม่เห็นหน้ามู่มู่นานแล้ว เดี๋ยวต้องหาเธอให้เจอ หรือโทรศัพท์หาเธอดี?
สายตาเขาจับจ้องอยู่ที่โทรศัพท์มือถือของตนเอง
เฉียวซือมู่กำโทรศัพท์มือถือแน่นอย่างไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาคู่โตจับจ้องอยู่ที่โทรศัพท์มือถือในมือตาเขม็ง ราวกับว่าจะจ้องจนมันทะลุเป็นรูให้ได้
จิ้นหยวน… จิ้นหยวนอยู่ในห้องเดียวกันกับเจียงจื่อเสียน แล้วยังอาบน้ำอีก แถมยังยอมให้ผู้หญิงคนนั้นรับสายเธออีก!
เธอเข้าใจคนอย่างจิ้นหยวนดีที่สุด หากไม่ได้รับอนุญาตจากเขา คนอื่นก็อย่าหวังแตะต้องของของเขา ต่อให้ไม่ได้ตั้งใจก็ไม่ได้เด็ดขาด! เธอเคยเห็นเองกับตาไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้วว่าสาวใช้หรือพนักงานสาวที่แตะต้องของของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วสีหน้าเขาดูน่ากลัวมากขนาดไหน
แต่ตอนนี้… แต่ตอนนี้…
มือเธอสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ ในใจคาดเดาไปต่างๆ นานา เขามีความสัมพันธ์กับเจียงจื่อเสียนเหรอ? ระหว่างเธอกับเขามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ภาพเก่าๆ ปรากฎขึ้นในสมองเธออีกครั้ง คำพูดคลุมเคลือไม่ชัดเจนของจิ้นหยวน ความลังเลของเขา คำพูดชื่นชมเจียงจื่อเสียนของเขา มันทำให้เธอเจ็บปวดราวกับสมองเธอระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ