“เธอกำลังพูดเหลวไหลอะไรกัน พี่ไม่ได้ดื่มเหล้าแล้วจะเมาได้ยังไง?” เธอพยายามผลักเขาออกอย่างร้อนรนใจ ถ้าเกิดถูกใครเห็นเข้าต้องไม่ดีแน่
“พี่เมาแล้วจริงๆ มู่มู่เริ่มพูดจาเลอะเทอะแล้ว” เขาเอ่ยทั้งๆ ที่ยังไม่ยอมปล่อยมือ
“เธอ… เธอ…” เธออยากจะดิ้นรนแต่สมองกลับมึนงง ภาพของคนตรงหน้าเริ่มพร่ามัวราวกับเธอกำลังมองเขาผ่านผ้าบางๆ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้? เธอไม่ได้ดื่มเหล้านี่นา… จริงสิ ต้องเป็นเพราะค็อกเทลแก้วนั้นแน่
เธอนึกถึงเรื่องผิดปกติขึ้นมาทันที “เฝิงเจ๋อ ปล่อยพี่เดี๋ยวนี้นะ… ได้ยินหรือเปล่า…” ถึงเธอจะรู้ตัวแล้วว่ามันผิดปกติ แต่ตอนนี้ยาออกฤทธิ์แล้ว ร่างกายเธอไร้เรี่ยวแรงราวคนเมาเหล้าไม่มีผิด
เฝิงเจ๋อทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด เขาประคองเธอเดินออกไปยังทางเดินด้านนอกด้วยสีหน้าปกติ ทางเดินนี้เชื่อมไปยังห้องพักสำหรับแขกที่ทางโรงแรมจัดเตรียมเอาไว้ให้สำหรับแขกที่เมาเหล้า
ทุกคนต่างรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฝิงเจ๋อดีมากขนาดไหน เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนคุยกันอย่างสนุกสนานจึงไม่มีใครเข้าไปรบกวนพวกเขา ตอนนี้หน้าเธอแดงก่ำ ลมหายใจเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ ทุกคนคิดว่าเธอดื่มจนเมาแล้วเฝิงเจ๋อช่วยพาเธอไปพักผ่อนในห้องพักแขกจึงไม่มีใครเข้าไปขวางทางพวกเขา หนำซ้ำยังช่วยเคลียร์ทางให้พวกเขาอีกต่างหาก
ภายนอกเธอดูเหมือนร่างกายไร้เรี่ยวแรงและไม่ได้สติ แต่ความจริงเธอยังมีสติดีและสมองยังคงทำงานตามปกติ แต่เธอกลับไม่มีแรงทำอะไรเลย เธอกระวนกระวายใจมาก เริ่มรู้แล้วว่าไม่เพียงค็อกเทลแก้วนั้นที่มีปัญหา แต่เฝิงเจ๋อเองก็เหมือนจะมีแผนร้ายซ่อนอยู่เหมือนกัน
ทำไมถึงเป็นแบบนี้? ทั้งๆ ที่เธอดีกับเขามากขนาดนั้น เพื่อเขาแล้วเธอยอมทำลายเกราะป้องกันในใจ แต่ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายเขาก็ทำแบบนี้กับเธอ เธอรู้สึกทั้งเสียใจทั้งโมโห เธอได้ยินเสียงคนรอบข้างพูดกันว่าเฝิงเจ๋อกำลังจะพาเธอเข้าไปพักในห้องพักแขก เธอรู้สึกโกรธมากจนน้ำตาไหลพราก
หยาดน้ำตาอุ่นๆ หยดลงบนแขนของเฝิงเจ๋อจนทำให้เขาตัวสั่นเล็กน้อย แต่เขายังคงมุ่งหน้าเดินตรงไปยังห้องพักแขกจนมาหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่งที่ปิดประตูสนิท เขาชะงักชั่วครู่ สุดท้ายก็ยื่นมือออกไปผลักประตูเปิดออก
เขาสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ดวงตาฉายแสงแวบหนึ่ง เขาก้มหน้าเอ่ยบอกเธอ “พี่อดทนหน่อยนะครับ ผมกำลังจะพาพี่ไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวนี้แหละ”
ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นผิดปกติถึงที่สุดแล้ว เธอพยายามใช้แรงดิ้นรน แต่ในขณะที่เธอคิดว่าตัวเองใช้ทั้งหมดที่มีเพื่อดิ้นหนี แต่ในสายตาของคนอื่นนั้นเห็นเพียงเธอกำลังขยับตัวเล็กน้อยเพราะรู้สึกไม่สบายตัว คำพูดของเฝิงเจ๋อทำให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าเธออยากจะอาเจียน ส่วนเขากำลังพาเธอไปเข้าห้องน้ำด้วยความหวังดี
ข้อกังขาของทุกคนหมดลงทันที เฝิงเจ๋อประคองเธอเดินเข้าไปในห้อง เขาวางเธอลงบนพื้นแล้วหมุนตัวไปปิดประตู เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครแอบดูพวกเขาอีกเขาจึงค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เธอ เขาย่อตัวลงพลางเรียกชื่อเธอ “มู่มู่”
ค็อกเทลผสมยาที่เธอดื่มเข้าไปออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว ตอนนี้เธอไม่เพียงพูดไม่ได้ หนังตาก็หนักจนแทบลืมตาไม่ไหว ความมึนเบลอจู่โจมเธออย่างหนักจนทำให้เธอรู้สึกหน้ามืดตาลายและทรมานมาก
สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เธอร้อนใจดั่งไฟลน เธอพยายามเอ่ยอย่างยากลำบาก “เธอ… เธอจะทำอะไร?”
เสียงของเธอเบาหวิว เฝิงเจ๋อเห็นเธอขยับริมฝีปาก เขาแนบหูกับริมฝีปากของเธอจึงได้ยินว่าเธอกำลังพูดอะไรจึงตอบกลับ “แล้วพี่คิดว่าอะไรล่ะครับ?”
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่อยู่ในอก อย่าบอกนะว่าจะทำอย่างที่เธอคิด?
เธอรู้สึกถึงร่างกายที่กำลังขยับเขยื้อนและได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ จากกายเขา จากนั้นเธอสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มใต้ร่างตัวเอง ดูเหมือนว่าเขาจะอุ้มเธอไปวางลงบนเตียง เธอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในบัดดล “เธอ… เธอปล่อยพี่เดี๋ยวนี้นะ”
เสียงของเธอเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน และเฝิงเจ๋อก็ไม่อยากได้ยินมันด้วย