ตอนที่ 462 ฉันอิจฉาเธอ
ทั้งสองนั่งอยู่ในรถ เพียงครึ่งชั่วโมงก็ไปถึงโกดังเก่าแก่แห่งหนึ่ง ที่นี่เป็นที่ดินของ จิ้นซื่อ กรุ๊ป ซึ่งกำลังจะได้รับการพัฒนาในอีกไม่ช้า ที่นี่จึงไร้ผู้คน เหมาะจะเป็นที่กักขังที่สุด
ชายฉกรรจ์รูปร่างบึกบึนสองคนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู เห็นจิ้นหยวนกับหลินจื้อเฉิงแล้วสีหน้าตกใจเล็กน้อย รีบเรียกพี่ใหญ่เสียงเบา
จิ้นหยวนยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าสงสัยเล็กน้อยเมื่อไม่ได้ยินเสียงใดๆ ดังลอดออกมาจากด้านในเลย เขาพยักหน้าเล็กน้อย “เปิดประตู”
ชายฉกรรจ์รับคำสั่งแล้วหมุนตัวกลับไปเปิดประตูเหล็กหนักอึ้งให้เปิดออก
จิ้นหยวนเดินเข้าไปข้างในช้าๆ
หลินจื้อเฉิงไม่ได้ตามเข้าไปด้วย หากแต่ยืนรออยู่นอกประตู
ความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงคนนั้นกับจิ้นหยวนไม่ใช่คนรู้จักกันแค่ผิวเผิน เขาไม่เข้าไปด้วยน่าจะเป็นการดีกว่า
จิ้นหยวนเดินเข้าไปข้างใน แสงสว่างในห้องไม่เพียงพอ แม้ตอนนี้จะเป็นตอนกลางวัน แต่ข้างในกลับมืดสลัว และยังเหม็นอับจนรู้สึกหายใจติดขัด
เขากวาดสายตามองไปรอบห้อง เพียงไม่นานก็สังเกตเห็นร่างของใครคนหนึ่งกำลังนอนขดตัวกลมอยู่ตรงมุมห้อง
เขาก้าวเดินช้าๆ กวาดสายตามองสำรวจคนบนพื้นอย่างเฉยชาแล้วเอ่ยถามขึ้น “เห็นว่าเธออยากเจอฉันเหรอ?”
คนบนพื้นไว้ผมยาวรกรุงรัง เสื้อผ้าเก่าจนขาด นอนคว่ำอยู่บนพื้นท่าทางน่าสมเพชยิ่งนัก
เธอเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นบาดแผลมากมายที่เกิดจากรอยมีดบาดบนใบหน้า บวกกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น ทำให้ดูเหมือนผีห่าซาตานที่โผล่มาจากนรกอเวจีไม่มีผิด
เธอจ้องจิ้นหยวนด้วยสายตาบ้าคลั่งตาเขม็ง “จิ้นหยวน ในที่สุดคุณก็มาจนได้”
“ไม่ต้องพูดมาก มีอะไรจะพูดก็ว่ามา” เขามองเธออย่างเฉยชา
เธอมองดูท่าทางเฉยชาราวก้อนน้ำแข็งของเขาแล้ว จู่ๆ ก็หัวเราะเสียงต่ำ จากนั้นค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนอย่างหร่วนเซียงเซียงคนนี้จะตกอยู่ในกำมือคุณจนได้ มันคงเป็นชะตากรรมของฉันสินะ ฮ่าๆๆ ตอนนี้ฉันเองก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ได้เห็นหน้าคุณก่อนตายฉันก็ไม่เสียใจแล้ว”
ใช่แล้ว เธอคือหร่วนเซียงเซียงนั่นเอง หากเธอไม่ถูกจับตัวจนต้องคายที่อยู่ของอินรุ่ยออกมา พวกเขาคงไม่มีทางช่วยเฉียวซือมู่ออกมาได้เร็วขนาดนั้นแน่
จิ้นหยวนได้ยินแล้วไม่หวั่นไหวแม้แต่นิดเดียว “นี่นะเหรอสิ่งที่เธออยากจะพูด? ถ้าใช่ ฉันจะได้กลับ”
พูดจบแล้วทำท่าจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป!” หร่วนเซียงเซียงที่เพิ่งรู้สึกเสียใจในความผิดพลาดของตนเห็นเขาทำท่าจะเดินจากไปจริงๆ กลับร้อนใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น เธอรีบคว้าจับขาเขา แต่เขากลับหลบเลี่ยงได้อย่างว่องไว
“ไม่ต้องพูดมาก อยากจะพูดอะไรก็ว่ามา” จิ้นหยวนไม่เคยมีความรู้สึกใดๆ ให้เธอ หลังจากที่เธอก่อเรื่องมากมาย เขาเองก็หมดความอดทนต่อเธอแล้วเช่นเดียวกัน
หร่วนเซียงเซียงชายตาขึ้นมองเขา “ทำไมคุณถึงใจร้ายกับฉันแบบนี้? คุณรู้ไหมว่าฉันรักคุณมานานมากแค่ไหน? ทำไมคุณถึงไม่รับรู้ความรู้สึกของฉันบ้างเลย? คุณพูดสิว่าเพราะอะไร?”
“ไม่รักก็คือไม่รัก ไม่มีเหตุผลว่าเพราะอะไร” จิ้นหยวนได้ยินคำถามเธอแล้วยังคงปั้นหน้าเฉยชาไม่เปลี่ยน
เธอหัวเราะเสียงต่ำอย่างเศร้าใจ “ฉันมันโง่เองที่ถามคุณแบบนั้น คุณรู้หรือเปล่า ถึงฉันจะเกลียดเฉียวซือมู่มาก แต่หลายครั้งที่ฉันอิจฉาเธอ อิจฉาที่คุณปกป้องเธอมากขนาดนั้น แต่คนคนนั้นกลับไม่ใช่ฉัน”
จิ้นหยวนมองเธออย่างเฉยชา ไม่เข้าใจว่าเธอจะพูดเรื่องพวกนี้ในเวลาเช่นนี้เพื่ออะไร “ตอนนั้นฉันไม่ได้ทำอะไรเธอเลยด้วยซ้ำ เธอทำผิดใหญ่หลวงขนาดนั้น ฉันยังทำแค่ส่งเธอกลับบ้านเท่านั้น โดยไม่ได้แตะต้องเธอแม้แต่ปลายก้อย แต่ตอนนี้เธอกลับหาเรื่องพวกเราทุกวิถีทาง แล้วยังจะเสี้ยมให้อินรุ่ยสร้างปัญหาให้มู่มู่อีก เธอคิดว่าฉันติดค้างเธอมากกว่า หรือเธอติดค้างฉันมากกว่ากันแน่?”
ตอนที่ 463 เสียเวลาเปล่า
เธอหัวเราะ “ที่แท้คุณก็รู้เรื่องทุกอย่าง”
“เธอคิดว่าตัวเองทำได้ดีมากเลยสินะ แต่ในสายตาฉัน เธอมันก็ดีกว่าตัวตลกไม่เท่าไหร่หรอก” จิ้นหยวนมองเธออย่างผู้เหนือกว่า ราวกับกำลังมองขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “เธอวางแผนตั้งนาน หลอกให้อินรุ่ยที่มีปัญหาทางใจหลงรักมู่มู่ก็เพื่อสิ่งนี้นะเหรอ? เสียใจด้วยนะที่เธอทำพลาด เพราะฉันจะไม่ยอมให้ใครมาพรากมู่มู่ไปจากฉันเด็ดขาด”
เธอตัวสั่นเทาไปทั้งร่าง พยายามพยุงตัวลุกขึ้นยืน
ตอนที่เธอถูกพ่อลงโทษโดยการจับขังเอาไว้ในบ้านตระกูลหร่วน เธอไม่ยอมแพ้ ลักลอบติดต่อกับพ่อของลูกในท้อง นั่นก็คือหวังจื้อ เขาช่วยจนเธอหนีออกจากบ้านจนได้ ตอนนั้นเธอยอมถอดใจเรื่องของจิ้นหยวนแล้ว และตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับหวังจื้อไปชั่วชีวิต
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสายตาในการอ่านคนของเธอจะแย่มากขนาดนั้น ตอนแรกชีวิตคู่ของทั้งคู่เป็นไปได้ด้วยดี แต่หวังจื้อเป็นคุณชายที่ไม่เคยทำอะไรด้วยตัวเองเลย ทั้งสองจึงนั่งกินนอนกินสมบัติเก่าจนหมด ทรัพย์สมบัติที่หอบหนีมาก็ถูกขายจนเกลี้ยง จนทั้งสองต้องใช้ชีวิตอย่างอัตคัด
ตอนนั้นเธอยังคิดอย่างไร้เดียงสาว่าหวังจื้อจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอไปจนตาย เพราะในท้องเธอยังมีลูกของเขาอยู่อีกทั้งคน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหวังจื้อจะบ้าถึงขั้นขายเธอไปเป็นโสเภณีที่ต่างประเทศ เธอไม่ทันตั้งตัวจนต้องตกอยู่ในขุมนรก และยังต้องเสียลูกไปอีก เพื่อหนีจากที่นั่น เธอกลั้นใจใช้มีดกรีดหน้าตัวเองจนเสียโฉมจึงหลุดพ้นจากที่นั่นมาได้
สิ่งแรกที่เธอคิดจะทำหลังจากได้รับอิสรภาพก็คือการตามหาหวังจื้อ คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนั้นเขาจะกลับบ้านตระกูลหวังไปแล้ว เธอต้องเสียแรงไม่น้อยกว่าจะเข้าใกล้เขาได้ ตอนแรกเธอไม่ได้คิดจะฆ่าเขา แต่กลับพบว่าเขาใช้ชีวิตสุขสำราญ มีสาวๆ ขนาบซ้ายขวาโดยที่ไม่รู้สึกผิดอะไรเลยสักนิด
ในที่สุดเธอก็ฆ่าเขา และยังได้ทรัพย์สินเงินทองของเขาอีกไม่น้อย เธอหอบทรัพย์สินเงินทองหนีออกนอกประเทศ
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่จิตใจเธอค่อยๆ ตกสู่ด้านมืดอย่างเต็มตัว เธอเกลียดหวังจื้อ แต่เขาตายไปแล้ว ทว่าเรื่องราวในอดีตที่เหมือนฝันร้ายยังคงตามมาหลอกหลอนเธอทุกคืนจนเธอนอนไม่หลับ เธอจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปเกลียดจิ้นหยวนกับเฉียวซือมู่แทน
เป็นเพราะพวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขา โดยเฉพาะเฉียวซือมู่ที่แย่งจิ้นหยวนไปจากเธอ เธอคงไม่ตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชเช่นนี้
ใช่แล้ว เป็นความผิดของเธอคนเดียว!
หลังจากได้เป้าหมายใหม่แล้วเธอก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที เริ่มวางแผนแก้แค้นอย่างไม่รอช้า
แต่จิ้นหยวนปกป้องเฉียวซือมู่ดีมากจนเธอไม่อาจเข้าใกล้เป้าหมายเสียที ในที่สุด เธอก็หันความสนใจไปที่อินรุ่ยแทน
เธอคิดหาทุกวิถีทางเพื่อให้ได้รูปถ่ายของเฉียวซือมู่ จากนั้นส่งคนไปเป่าหูอินรุ่ย จนเขาค่อยๆ คิดว่าเฉียวซือมู่คือรักแท้ของเขา
ในที่สุดอินรุ่ยก็หวั่นไหวจริงๆ และเริ่มลงมือเพื่อให้ได้ตัวเฉียวซือมู่มาเป็นของตน
เธอคอยจับตามองดูทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างสนุกสนาน มองดูเฉียวซือมู่กระโดดลงหลุมพรางที่ถูกขุดดักเอาไว้ และในที่สุดก็ถูกจิ้นหยวนทิ้งอย่างไม่ไยดี เธอรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก
แต่ทำไม ทำไมเรื่องราวมันถึงไม่เป็นไปตามที่เธอจินตนาการเอาไว้? เฉียวซือมู่มีดีอะไรถึงได้โชคดีขนาดนั้น?”
จิ้นหยวนยืนมองเธออย่างเฉยชาอยู่กับที่ สีหน้าเธอแปรเปลี่ยนไปมา สายตาฉายแววโกรธเกลียดระคนเ**้ยมเกรียมเป็นระยะ จนเขาหมดความอดทน หมุนตัวเดินออกจากที่นั่นทันที
ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะพูดอะไรที่เขาอยากจะฟังเสียอีก เช่นประวัติความเป็นมาของอินรุ่ยอะไรเทือกนั้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเอาแต่พูดเรื่องไร้สาระเท่านั้น
เสียเวลาเปล่าๆ!