เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย – ตอนที่ 522 พูดให้ฉันฟัง / ตอนที่ 523 เธอเองก็น่าสงสัย

ตอนที่ 522 พูดให้ฉันฟัง

 

 

ก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆฉีหย่วนเหิงถึงได้ไปเจอการเคลื่อนไหวของเธอเข้าบนอินเทอร์เน็ต แถมยังตั้งใจสมัครแอคเค้าท์เพื่อเข้าใกล้เธอมากขึ้น แล้วเขาก็ได้พูดคุยกับเธอผ่านอินเทอร์เน็ตมากพอสมควร

 

 

ตอนแรกเฉียวซือมู่ก็ไม่ได้ทันสังเกต แต่หลังจากนั้นก็เริ่มรู้สึกว่า เอ๊ะ ทำไมภาพแอคเค้าท์ของคนๆนี้มันช่างคุ้นตาจริง?

 

 

และฉีหย่วนเหิงเองก็ไม่ได้คิดที่จะปิดบังเธอ บอกความจริงออกไป เฉียวซือมู่ถึงได้รู้ว่าที่แท้ก็เป็นเพื่อนของเธอนี่เอง ดีใจจนคุยกับเขาต่ออย่างอารมณ์ดี

 

 

แต่ก่อนฉีหย่วนเหิงเองก็เคยทำนิตยสารมาก่อน แถมยังประสบความสำเร็จทางด้านนี้อีกด้วย ทำให้ตัวเขาเองก็ยังมีความชำนาญทางด้านภาษาวรรณกรรมอยู่ บทความของเฉียวซือมู่เขาเองก็สามารถที่จะวิจารณ์ชื่นชมและให้คำแนะนำในจุดที่ยังไม่ดีพอได้ ทำให้เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

 

 

พวกเขาก็ไม่ได้คุยเรื่องอื่นกันเลย คุยแค่เรื่องข่าวสารและสถานการณ์ทั่วไปเท่านั้น บางครั้งก็ช่วยกันวิจารณ์บทความ ทำให้เฉียวซือมู่คิดว่าวันเวลาที่ผ่านไปช่างมีความสุขจริงๆ

 

 

เป็นแบบนั้นอยู่หลายวัน จนอยู่มาคืนหนึ่ง จิ้นหยวนกลับบ้านมาด้วยสีหน้าที่ดูไม่สู้ดีนัก

 

 

เธอเห็นแบบนั้นจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “เป็นอะไรไปคะ? งานที่บริษัทไม่ค่อยราบรื่นหรือ?”

 

 

ช่วงนี้เธอเองก็ไม่ได้ไปที่บริษัท แต่ว่าก็พอได้ยินมาบ้างว่าตอนนี้กำลังเกิดปัญหาขึ้น ตอนแรกเธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ตอนนี้พอเห็นแล้วดูท่าว่าจะหนักหนามากสินะ?

 

 

จิ้นหยวนพยักหน้า คลึงนิ้วลงบนคิ้วอย่างเหนื่อยล้า สีหน้าที่ไม่ค่อยได้เห็นเผยขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

 

เธอเห็นแบบนั้นแล้วก็รู้สึกใจไม่ดี เดินไปหยุดข้างหน้าเขาแล้วยื่นผ้าร้อนให้เขาเช็ดหน้าเช็ดตา จากนั้นก็รินชาใส่แก้วให้เขาอย่างกระตือรือร้น และจบลงด้วยการนวดไหล่ให้เขาอย่างเอาใจ

 

 

จิ้นหยวนเห็นเธอเอาใจใส่แบบนี้แล้ว มุมปากก็ค่อยๆยกยิ้มขึ้นจางๆ และยกมือขึ้นตบๆลงบนหลังมือของเธอโดยไม่พูดอะไร

 

 

เธอคิดๆ ก่อนจะพูดออกไปเบาๆ “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ คุณลองบอกฉันหน่อยสิ บางทีฉันอาจจะช่วยอะไรคุณได้นะ?”

 

 

เขามองตาเธอ “เรื่องนี้มันค่อนข้างซับซ้อนน่ะ”

 

 

“ลองพูดก่อนสิคะ” เห็นท่าทางแบบนั้นของเขาแล้ว เฉียวซือมู่ก็เริ่มที่จะเกิดความสนใจขึ้นมา รู้จักเขามาตั้งนานแต่มีไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่จะเห็นเขาขมวดคิ้วขนาดนี้

 

 

จิ้นหยวนถอนหายใจออกมา “ผมสงสัยว่าในบริษัทตัวเองมีสายลับอยู่ ข้อมูลเอกสารการประมูลฉบับหนึ่งของเราถูกใครบางคนปล่อยออกไป”

 

 

เธอตกตะลึงไปในทันที “สายลับ?”

 

 

คงไม่ใช่สายลับแบบที่เธอคิดใช่ไหมเนี่ย?

 

 

เขาเห็นแบบนั้นแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงเคาะลงบนศีรษะของเธออย่างไม่พอใจ “ผมหมายถึงสายลับทางธุรกิจ เป็นพวกที่ชำนาญในการขโมยข้อมูลทางธุรกิจต่างหากครับ”

 

 

เธอยิ้มแหย ยกมือขึ้นกุมหัวเอาไว้ “ก็ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนนี่คะ ไม่รู้จักเสียหน่อย”

 

 

จิ้นหยวนจ้องเธอครู่หนึ่ง “โง่จริงๆ ดูท่าถึงจะบอกอะไรคุณไปก็คงไม่มีประโยชน์ล่ะนะ”

 

 

“ก็ไม่แน่นะคะ บางทีฉันอาจจะรู้ก็ได้?” เธอไม่ยอมแพ้ ไม่ว่ายังไงก็จะให้เขาพูดให้ฟัง

 

 

อย่างน้อยเธอก็ยังมีประสบการณ์จากการเป็นนักข่าวในก่อนหน้านี้ เธอน่ะมีความอยากรู้เยอะมาก

 

 

จิ้นหยวนทำอะไรได้ จึงเล่าคร่าวๆให้เธอฟัง

 

 

เธอฟังแล้วก็ทำหน้าครุ่นคิด “คุณกำลังบอกว่าให้คนตรวจสอบมาหลายวันแล้วแต่ก็ยังหาคนที่น่าสงสัยออกมาไม่ได้อย่างนั้นหรือคะ?”

 

 

“ครับ” พอนึกขึ้นมาเขาก็รู้สึกโมโหขึ้นมา “เลี้ยงเอาไว้ตั้งหลายคนกลับไร้ประโยชน์กันหมด หาอะไรไม่ได้เลยสักคนเดียว”

 

 

“ดูท่าคนๆนั้นจะต้องฉลาดมากๆเลยนะคะเนี่ย จัดการลบร่องรอยออกทั้งหมดเลย” เธอบ่นออกมา

 

 

จิ้นหยวนลอบมองเธอครู่หนึ่ง พยักหน้าโดยไม่พูดอะไร พอลุกขึ้นก็เหลือบไปเห็นคอมพิวเตอร์ของเธอ สายตาที่มองไปมันผ่านไปแค่แวบเดียวเท่านั้น ไม่ได้หยุดจ้องมันตรงๆ เขาคว้ามือเธอขึ้นมา “ไปเถอะ พวกเราไปทานมื้อค่ำกันดีกว่าครับ”

 

 

เธอพยักหน้า แล้วเอื้อมมือไปพับหน้าจอคอมพ์ลง

 

 

ที่จริงเรื่องพวกนี้เธอฟังไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี ในบริษัทคนก็เยอะขนาดนั้นแต่ก็ยังหาอะไรไม่ได้ แค่เธอฟังก็เห็นจุดที่น่าสงสัยแล้ว แต่ดูท่าจิ้นหยวนคงไม่มีทางเชื่อหรอก เพราะงั้นเธอจึงปล่อยเรื่องนี้ไป ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องของตัวเอง

 

 

 

 

ตอนที่ 523 เธอเองก็น่าสงสัย

 

 

จิ้นหยวนไม่ได้พูดอะไร นอกจากจะพูดน้อยและนิ่งเงียบกว่าปกติแล้ว อย่างอื่นก็ไม่ได้มีอะไรแปลกไป

 

 

เฉียวซือมู่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าท่าทางของเขาได้เปลี่ยนไป ยังคงเอาแต่เล่าเรื่องสนุกต่างๆที่ตัวเองได้เจอบนอินเทอร์เน็ต จิ้นหยวนขมวดคิ้ว “ตอนนี้ร่างกายคูรไม่เหมือนเดิมแล้วนะ เล่นคอมพ์ให้น้อยๆลงหน่อยเถอะ”

 

 

เธอรีบเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ “ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ฉันถามหมอแล้วเรียบร้อย”

 

 

จิ้นหยวนพยักหน้า และไม่ได้พูดอะไรอีก

 

 

และครั้งนี้มันก็ทำให้เธอสังเกตท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขาได้ แต่ก็ยังคิดว่าคงเป็นเพราะเรื่องในบริษัทที่ทำให้เขาอารมณ์ไม่ดี จึงคิดหาวิธีคืนนี้จะทำอะไรให้เขารู้สึกดีขึ้นมาดีนะ

 

 

หลังจากทางมื้อค่ำเสร็จจิ้นหยวนก็ไปทงานต่อที่ห้องหนังสือตามปกติ โดยปกติแล้วเธอเองก็จะไปอยู่กับเขา ก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายต่างก็เล่นคอมพิวเตอร์ของตัวเองไป และวันนี้เธอก็คิดว่าเป็นแบบนั้นเช่นกัน

 

 

แต่พอนั่งได้ไม่เท่าไหร่ จิ้นหยวนก็กวักมือเรียกเธอ “ช่วยมานี่เดี๋ยวสิครับ เอาคอมพิวเตอร์ของคุณมาให้ผมดูด้วย”

 

 

“ทำไปล่ะคะ?” เธอแปลกใจ “คอมพิวเตอร์ของคุณเสียเหรอ?”

 

 

พูดจบก็ชะโงกหน้าเข้าไปดู ก็พบว่าหน้าจอก็ยังดูปกติดี

 

 

“เอามาให้ผมก็พอครับ”

 

 

เธอบึนปากอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยื่นให้เขาอยู่ดี

 

 

เธอกระพริบตาปริบๆมองเขา เห็นเขาเสียบสายยูเอสบีเชื่อมคอมพ์ทั้งสองเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ลงโปรแกรมบางอย่างลงไป หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอกระพริบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม

 

 

เขาดึงสายยูเอสบีออก แล้วส่งคืนให้เธอ “เสร็จแล้วครับ”

 

 

เธอกระพริบตา ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขากำลังทำอะไร

 

 

เขาก้มหน้าลงไปเหมือนเดิม เหมือนกับว่าไม่ได้ต้องการที่จะอธิบายให้เธอฟัง

 

 

เห็นแบบนี้แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะอยากถามแค่ไหนเขาก็คงไม่คิดที่จะตอบออกมาแน่ๆ

 

 

ช่างเถอะ เห็นแก่ว่าคืนนี้เขาอารมณ์ไม่ดีก็แล้วกัน

 

 

เธอก้มหน้าล็อกอินเข้าเว็บไซต์ใหม่อีกครั้ง และทำเรื่องของตัวเองต่อไป

 

 

สายตาของจิ้นหยวนประกายขึ้น มือที่จับเม้าส์อยู่เลื่อนไปมาเล็กน้อย จากนั้นบนหน้าจอก็ปรากฏตารางบางอย่างที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือและช่วงเวลาขึ้นมา ดูแล้วเหมือนกัยบันทึกการคุยของคนสองคน

 

 

สีหน้าของเขานิ่งขรึมขึ้นมาทันที นั่งจ้องไปยังหน้าจอโดยไม่ส่งเสียงอะไรแม้แต่น้อย

 

 

เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรสักนิด ยังคงก้มหน้าก้มตาจัดการเรื่องของตัวเองไป พอเห็นว่าดึกแล้ว จึงเอ่ยถามขึ้น “คุณทำงานเสร็จหรือยังคะ ฉันง่วงแล้ว”

 

 

จิ้นหยวนชะงักไป แล้วค่อยๆตอบกลับ “คุณไปนอนก่อนเลย ผมยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกนิดหน่อย”

 

 

ตั้งแต่ที่เธอตั้งครรภ์ก็ขี้เซาขึ้นเยอะ พอได้ยินเขาพูดแบบนั้นแล้วก็ไม่คิดอะไรมาก ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “อย่างนั้นฉันขอไปนอนก่อนนะคะ คุณเองก็อย่าทำจนดึกไปล่ะ”

 

 

หลังจากที่เธอพบว่าเขาเป็นพวกบ้างาน เธอจึงไม่คิดที่จะบอกให้เขาไปเข้านอนในขณะที่เขาทำงานอยู่อีก เพราะว่าการทำแบบนั้นคงไม่มีประโยชน์อะไร

 

 

จิ้นหยวนมองตามแผ่นหลังเธอไปเงียบๆ จากนั้นก็เลื่อนสายตากลับมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม บนหน้าจอแต่ละบรรทัดนั้นล้วนแล้วเป็นบทสนทนาของเธอและฉีหย่วนเหิงที่มีเวลากำกับไว้อย่างชัดเจน และมีทุกวัน

 

 

เขานึกถึงวันที่หลินจื้อเฉิงเอาหลักฐานมาให้เขาดูพร้อมกับคำพูดเหล่านั้น รู้สึกแค่ว่าในอกมันอัดแน่นจนแทบจะระเบิดออกมาให้ได้ แต่ก็ไม่สามารถระบายออกมาได้เสียที

 

 

หลินจื้อเฉิงพูดกับเขาอย่างรู้สึกไม่ดี “ท่านประธาน ผมว่า…ดูเหมือนพี่สะใภ้เองก็น่าสงสัยเหมือนกันนะครับ”

 

 

เขามองอีกฝ่ายด้วยแววตาเรียบเฉย “แกคิดว่าฉันจะเชื่องั้นหรอ? เธอเป็นภรรยาของฉันนะ แล้วเจตนาของเธอคืออะไรกันล่ะ? ทำไมจะต้องทำแบบนั้น? ลองบอกเหตุผลฉันมาสักข้อสิ?”

 

 

หลินจื้อเฉิงลูบหน้าตัวเอง สีหน้าดูลำบากใจไม่น้อย “ผมไม่รู้เหตุผลหรอก แต่ผลที่ตรวจสอบมันออกมาแบบนี้จริงๆ ผมเองก็ไม่ได้อยากจะใส่ร้ายใคร แต่หลักฐานมันก็อยู่ตรงหน้านี้แล้ว มันก็อดไม่ได้ที่ผมจะเชื่อแบบนั้นนะครับ”

 

 

“หลักฐานอะไร?” หลังจากจ้องเขาด้วยสายตาเย็นๆมาตลอด จิ้นหยวนก็เอ่ยถามขึ้น  

เเสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

เเสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

เฉียวซือมู่ คุณหนูตระกูลเฉียวดันจับพลัดจับผลูไปเสียครั้งแรกให้กับ จิ้นหยวน หนุ่มนักธุรกิจเพลย์บอยแห่งเขตซีเฉิง ผู้มีสโลแกนประจำตัวว่า ‘รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน’ เธอขอให้เขาลืมเรื่องคืนนั้นไป ทั้งยังเสนอเช็คให้เขาอย่างไม่เจียมตัว แต่เมื่อเธอกลับถึงบ้าน ทุกอย่างกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ บ้านของเธอล้มละลาย พ่อพาเมียน้อยหนีไปพร้อมกับทิ้งภาระหนี้สินทั้งหมดให้เธอและแม่ ยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัดถูกแฟนหนุ่มทิ้งไปหาศัตรูหัวใจ ชีวิตของเธอตกต่ำอย่างถึงที่สุด แต่แล้วชายผู้เป็นครั้งแรกของเธอกลับมาเล่นสกปรกปล่อยข่าวฉาวเรื่องคืนนั้น เพียงเพราะเขาถอนเงินจากเช็คไม่ได้! “จะให้ผมปล่อยคุณไปก็ได้ แต่คุณต้องยอมรับข้อเสนอของผมข้อหนึ่ง” เฉียวซือมู่เงยหน้าถามว่า “ข้อเสนออะไร” “คบกับผม แล้วผมจะปล่อยคุณไป”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset