ตอนแรกเธอยังรู้สึกอดเสียดายไม่ได้ที่ต้องใช้ยาพิษนี้ เพราะคิดว่าแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่คนเดียวคงไม่จำเป็นต้องใช้มัน แต่เพื่อไม่เป็นการประมาท เธอจึงตัดสินใจใช้ยานี้ เธอคิดว่าคราวนี้ไม่มีทางพลาดอีกเป็นอันขาด แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
เธอใช้ฝ่ามือแตะหน้าลูกสาวเบาๆ เพื่อให้เธอใจเย็นลง “ลูกใจเย็นก่อน ไหนเล่ามาซิว่าเกิดอะไรขึ้น?”
หร่วนเซียงเซียงสงบใจลง “หนูก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหายหน้าไปหลายวัน กลับมาอีกทีก็บอกว่าจะพาหนูออกไปอยู่กับเขา จะได้มีลูกเร็วๆ ตาแก่กับยัยแก่หน้าโง่สองคนนั่นเชื่อเขาทันที แต่ตอนอยู่บนรถ จู่ๆ เขาก็มาขอยาถอนพิษกับหนู”
“แล้วยังมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า?” คุณนายหร่วนซักไซ้ไล่เลียง
“ไม่มีแล้วค่ะ” เธอร้องไห้น้ำตานองหน้าพลางส่ายศีรษะ “หนูไม่ได้พูดอะไรเลย หนูบอกว่าไม่มียาถอนพิษอะไรนั่น แล้วเขาก็โยนหนูลงจากรถ ฮือๆๆ คุณแม่ ทำไมพี่จิ้นหยวนถึงเกลียดหนูขนาดนี้ ทำไมคะ?”
คุณนายหร่วนเคาะศีรษะหร่วนเซียงเซียงเบาๆ “ลูกคนนี้นี่ร้องไห้เป็นอย่างเดียว ฟังให้ดีนะ ไม่ว่าจิ้นหยวนถามอะไรก็ตาม ลูกห้ามพูดเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
“หนูรู้ค่ะ แต่ว่า ถ้าเกิดผู้หญิงคนนั้นตายแล้ว จิ้นหยวนจะฆ่าหนูหรือเปล่าคะ?”
“เด็กโง่ ถ้าตายแล้วจะมาขอยาถอนพิษทำไม?” คุณนายหร่วนเอ่ยอย่างผิดหวัง
“จริงด้วยค่ะ” หร่วนเซียงเซียงโล่งอก แต่ก็รู้สึกเสียดายขึ้นมาทันที “ทำไมมันถึงดวงแข็งขนาดนั้นก็ไม่รู้ ทำยังไงก็ไม่ยอมตายสักที”
“ถ้าตายโดยที่จิ้นหยวนไม่รู้คงไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าเกิดเขารู้เข้าต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่” คุณนายหร่วนส่ายศีรษะ
เรื่องครั้งนี้จัดการยากจริงๆ ในที่สุดก็ถูกจิ้นหยวนรู้เข้าจนได้ ถ้าเขาจะแก้แค้น เขาจะทำแค่พาลูกสาวกลับมาส่งบ้านง่ายๆ แค่นี้หรือ? แต่เธอไม่ใช่พยาธิในท้องจิ้นหยวน จึงไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
เธอครุ่นคิดชั่วครู่แล้วเอ่ยกับลูกสาวอย่างเหนื่อยหน่าย “ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้แล้ว ลูกก็กลับมาอยู่ที่นี่ก่อน รอดูไปก่อนว่าจิ้นหยวนจะทำอะไร”
เธอไม่เชื่อหรอกว่าจิ้นหยวนจะมีหลักฐานว่าเธอเป็นคนทำ
ถึงเวลาเธอก็แค่ยืนกระต่ายขาเดียว ให้ตายก็ไม่ยอมรับ ตระกูลหร่วนใช่ว่าจะรังแกกันได้ง่ายๆ
แต่เธอคิดไม่ถึงว่า การที่จิ้นหยวนส่งหร่วนเซียงเซียงกลับบ้านนั้นเป็นการแก้แค้นก้าวแรกเท่านั้น เรื่องราวหลังจากนั้นต่างหากที่เป็นการโจมตีตระกูลหร่วนจนเสียหายอย่างหนัก
ตระกูลหร่วนเป็นตระกูลใหญ่ที่มีธุรกิจใหญ่โต และยังมีญาติพี่น้องเยอะแยะ ถือเป็นหนึ่งในตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดตระกูลหนึ่ง นับตั้งแต่ตระกูลหร่วนดองกับจิ้นหยวน ทำให้ตระกูลหร่วนไม่เห็นใครในสายตาอีก
หนึ่งในนั้นคือลูกชายของคุณลุงของหร่วนเซียงเซียง ซึ่งก็คือลูกผู้พี่ของเธอนั่นเอง เขาเป็นหนุ่มเพลย์บอลสารพัดพิษ ควงดารานางแบบเป็นกิจวัตร และเป็นขาประจำตามสถานบันเทิงยามราตรีต่างๆ
วันที่สองหลังจากหร่วนเซียงเซียงกลับบ้านก็เกิดเรื่องที่เขาไปแย่งผู้หญิงกับแขกคนอื่น ปรากฎว่าเขาทำร้ายแขกคนนั้นจนเลือดตกยางออก ไม่เพียงเท่านั้น เขายังหัวเราะเยาะเย้ยแขกคนนั้นต่อหน้าคนเยอะแยะมากมาย จากนั้นพาผู้หญิงที่แย่งมาได้กลับบ้านอย่างลำพองใจ
ความจริงเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องปกติมาก พวกลูกคนรวยรังแกคนอื่นถือเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่เขาคงไม่รู้ว่าตัวเองเจอขาใหญ่เข้าให้แล้ว วินาทีที่เขาลืมตาขึ้นหลังตื่นจากความฝันอันแสนตื่นเต้นพร้อมหญิงสาวในอ้อมกอด เขาถึงได้รู้ว่ามีกระบอกปืนสีดำเมี่ยมจ่ออยู่กลางหน้าผากตัวเอง เขาตกใจกลัวสุดขีดจนฉี่ราด
เขาตกใจกลัวจนฉี่ราดจริงๆ ได้ยินว่าตอนนั้นมีกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งไปทั่วห้อง และเขาเข่าอ่อนจนยืนไม่ไหว
สุดท้าย เขาถูกชายนิรนามลากตัวไป จากนั้นมีคนโทรศัพท์ไปที่บ้านเขา คนโทรศัพท์เป็นบิดาของชายที่ถูกเขาทำร้ายร่างกาย และยังเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียอีกด้วย เขาต้องการแก้แค้นให้ลูกชายตัวเอง อยากให้เขาปล่อยตัวใช่ไหม ได้ เงินสองร้อยล้านถึงมือเมื่อไหร่ก็ปล่อยคนเมื่อนั้น
เรื่องนี้ทำให้ตระกูลหร่วนแตกตื่นไปทั้งตระกูล สองร้อยล้านนะ! ไม่ใช่สองหมื่น และไม่ใช่สองล้านด้วย แต่เป็นสองร้อยล้าน! ฆ่าพ่อแม่ของเขาให้ตายพวกเขาก็ไม่มีปัญญาหามาให้หรอก เพราะพวกเขาเป็นพวกไร้ความสามารถ อาศัยใบบุญของนายท่านหร่วนถึงมีกินมีใช้อย่างทุกวันนี้ ตำแหน่งในบริษัทก็มีเอาไว้ประดับบารมีเท่านั้นแหละ
หลังจากสองสามีภรรยารู้แล้วถึงกับเข่าทรุดลุกไม่ขึ้นตั้งนาน หลังจากได้สติแล้วจึงนึกขึ้นได้ว่าต้องไปขอเงินกับหร่วนจิงเทียน ไม่เป็นไร แค่สองร้อยล้านเอง พวกเขาไม่มี แต่น้องชายคนเก่งของเขาต้องมีแน่ๆ
หร่วนจิงเทียนได้ยินแล้วระเบิดอารมณ์ทันที สองร้อยล้านเชียวนะ ไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ เลย ถ้าเขายอมให้เงินสองร้อยล้านกับพวกเขา บริษัทต้องเผชิญปัญหาขาดสภาพคล่องแน่ ต่อไปจะทำอย่างไร?
หร่วนจิงเทียนปฏิเสธทันที สองสามีภรรยายังคงไม่ละความพยายาม อ้อนวอนขอให้เขาช่วยชีวิตไม่หยุดหย่อน
ในที่สุดหร่วนจิงเทียนก็ทนเสียงรบเร้าไม่ไหว เขาบอกว่าตัวเองไม่มีเงินเยอะมากขนาดนั้น ถึงบริษัทของเขาจะมีเงิน แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องในอดีต เขาต้องใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนถึงจะรวบรวมเงินได้ครบ
ปรากฎว่าสองสามีภรรยาไม่เชื่อ แถมยังประณามว่าเขาเลือดเย็นไม่ยอมช่วยชีวิตหลานตัวเองอีกต่างหาก หร่วนจิงเทียนหมดปัญญา ได้แต่รับปากว่าจะขายหุ้นบางส่วนเพื่อรวบรวมเงินให้ครบ
แต่พอเขาเข้าบริษัทแล้วถึงได้รู้ว่าราคาหุ้นบริษัทตกลงไปเกินครึ่ง และมีแต่ลูกเขยตัวดีคนเดียวเท่านั้นที่ยอมซื้อหุ้นของเขา โดยมีเงื่อนไขสุดโหดที่ทำให้เขาถึงกับโมโหเลือดขึ้นหน้า
หร่วนจิงเทียนรับไม่ได้จนต้องไปหาเรื่องจิ้นหยวนถึงบริษัท จิ้นหยวนกำลังรอเขาอยู่พอดี เขายกยิ้มบางๆ เมื่อรู้ว่าหร่วนจิงเทียนมาหาเขาถึงที่ เขานั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ “ให้เขาเข้ามา”
หลินจื้อเฉิงอุทานในใจ นับวันพี่ใหญ่จะโหดมากขึ้นๆ ทั้งจับลูกชายคนอื่น ทั้งฉวยโอกาสไฟไหม้ปล้นซ้ำเอาหุ้นของหร่วนจิงเทียน แถมยังเป็นหุ้นที่ราคาถูกมากเสียด้วย
เก่งจริงๆ
เขาแอบยกนิ้วโป้งให้พี่ใหญ่อยู่ในใจ ไม่ทันไร ลมวูบหนึ่งพัดผ่านตัวเขาไปอย่างรวดเร็ว เขาชายตาขึ้นมองพลันเห็นนายท่านหร่วนที่มีรูปร่างอ้วนท้วนเดินผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว
เขาคิดว่านายท่านหร่วนคงกำลังโกรธมาก ถึงได้เดินจ้ำพรวดแบบนั้น ทำให้ชั้นไขมันตามตัวกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะแต่ละย่างก้าวจนดูน่าขันเป็นพิเศษ
มุมปากของเขายกยิ้มน้อยๆ อย่างอดใจไม่ไหว ได้แต่ก้มหน้าก้มตาปิดประตูให้สนิท
จิ้นหยวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ ยกยิ้มมุมปากน้อยๆ พลางมองหร่วนจิงเทียน หรือ “พ่อตา” ในนามของเขานั่นเอง
หร่วนจิงเทียนสีหน้าโกรธจัด ตบโต๊ะเสียงดัง “จิ้นหยวน นี่เธอยังเห็นฉันเป็นพ่อตาเธออยู่หรือเปล่า?”
จิ้นหยวนเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง “ไม่ครับ”
หร่วนจิงเทียนตะลึงนิ่งอึ้ง “นี่เธอ…”
เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจิ้นหยวนไม่เคยแยแสลูกสาวของเขา และเป็นเพียงแค่สามีภรรยากันในนามเท่านั้น พอได้ยินคำตอบของจิ้นหยวน เขาตะลึงจนเกือบลืมจุดประสงค์ที่ตัวเองมาถึงที่นี่
จิ้นหยวนยิ้มเย็น “ถ้าคุณหร่วนมาถึงที่นี่เพราะเรื่องนั้นล่ะก็ ผมคงต้องขอโทษด้วย เพราะผมไม่มีอะไรจะพูด แต่ถ้ามาเพราะเรื่องอื่น เราค่อยๆ เจรจากันก็ได้”
ครั้งนี้ถ้าเขาทำให้ตระกูลหร่วนร้องขอความเมตตาจากเขาไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเรียกเขาว่าจิ้นหยวน!
หร่วนจิงเทียนโล่งอก เพราะตอนนี้คนที่มีเงินสองร้อยล้านคงมีแต่จิ้นหยวนคนเดียวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นสามีของลูกสาวของเขาอีกด้วย เขาคงไม่ทำอะไรที่เป็นการหักหาญน้ำใจกันหรอก
เขาเปลี่ยนเรื่องพลางจ้องจิ้นหยวนตาเขม็ง “ทำไมเธอต้องกดราคาจนต่ำขนาดนั้น?” พวกเขาเป็นนักธุรกิจเหมือนกัน เขาไม่เชื่อหรอกว่าจิ้นหยวนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวเขาบ้าง