มั่วเชียนเสวี่ยที่ได้ยินเรื่องนี้ ใจก็ไหวสั่น บีบมุมผ้าห่มของเซ่าชิงพลางสั่งอาซาน “ยังไม่รีบส่งคนไปหยุดหมอหวังไว้อีก”
“บ่าวจะไปรับเขาด้วยตนเองขอรับ” พูดจบ ทั้งอาซานและอาอู่ก็กระโจนออกจากห้องไป
ตอนนี้ถึงพวกเขารออยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์ มิสู้พาคนไปเพิ่มสักสองสามคนเพื่อแยกย้ายกันไปหยุดหมอประหลาดเอาไว้จะดีกว่า ของที่ระลึกของคุณชายหลูบัดนี้อยู่ในมืออาซานแล้ว เจ้านายเคยบอกว่า เพียงแค่เฒ่าประหลาดเห็นของที่ระลึกนี้ จะต้องติดตามเขากลับมาอย่างแน่นอน
เพียงแค่ผ่านคืนนี้ไป! ผ่านคืนนี้ไปให้ได้เท่านั้น ทุกอย่างมันก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น?!
อาซานและอาอู่ออกไปแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นก็สั่งชูอีกับสืออู่ที่อยู่ด้านนอกให้ไปต้มน้ำร้อน ทั้งยังให้คนจุดเตาถ่านไว้ในห้องอีกด้วย
พวกเขาไปหยุดคนเอาไว้ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเพียงใด หากในห้องอบอุ่นแล้ว ค่อยพาหนิงเซ่าชิงลงไปแช่ในน้ำร้อน แม้ไม่อาจแก้ปัญหาได้ แต่ก็น่าจะสามารถชะลออาการเอาไว้ได้ น้ำร้อนนี้รักษาอุณหภูมิของร่างกาย ถ้าถังเดียวไม่พอก็ให้ใช้สองถัง สามถัง เพียงให้ได้ช่วยรักษาอุณหภูมิของเขาได้บ้าง ลำบากเพียงเล็กน้อยแล้วมันจะอย่างไร ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน น้ำก็ต้มได้ที่แล้ว มั่วเชียนเสวี่ยนจึงให้ชูอียกถังไม้เข้ามาแล้วเทน้ำร้อนใส่เข้าไป จากนั้นก็พยุงหนิงเซ่าชิงลงไปไว้ในถังไม้นั่น
เมื่อพาหนิงเซ่าชิงลงไปในน้ำร้อนแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยเห็นว่าหว่างคิ้วที่ขมวดของเขาได้คลายลงบ้าง นางจึงได้ใจเย็นลง ทั้งยังสั่งให้ชูอีมอบหมายงานลงไปให้ หมิงเย่ว์กับไฉ่สยาตั้งแต่นี้เป็นต้นไปให้ต้มน้ำร้อนเรื่อยๆ
เตาในโรงงาน เตาในห้องครัวเล็ก ให้พวกนางทั้งสองใช้คนละเตา ต้มน้ำไปเรื่อยๆ จากนั้นก็ให้องครักษ์ลับส่งเข้ามาในห้องอย่าได้ขาด
และนางที่อยู่ข้างๆ ก็สั่งให้ชูอีเปลี่ยนน้ำอย่างต่อเนื่อง และให้รักษาอุณภูมิของน้ำไว้ที่ประมาณสามสิบแปดองศาตลอด ทำแบบเดิมซ้ำๆ วนต่อไปเช่นนี้ เพียงเวลาไม่นานเสื้อผ้าของเจ้านายและบ่าวล้วนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ชูอีรู้ว่ามิอาจเกลี้ยกล่อมคุณหนูได้ ในขณะที่จิตใจของนางยังจดจ่อกับกูเหยียมากมายเช่นนี้ เพียงแค่เห็นสายตาของมั่วเชียนเสวี่ย นางก็ยิ่งรู้ว่าตนเองควรทำอย่างไร
ยังดี พอถึงช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน อาซานและอาอู่ก็สกัดหมอประหลาดเอาไว้ได้ แล้วรีบกลับมา
พอเห็นหมอหวัง มั่วเชียนเสวี่ยก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อจิตใจที่จดจ่ออย่างตึงเครียดได้คลายลงก็แทบจะเป็นลมล้มลงไป นางจึงส่ายหัวอย่างแรง พอชูอีเปิดประตูให้หมอประหลาดเข้ามา นางก็เข้าไปต้อนรับ
เห็นสภาพในห้อง และสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิสามสิบแปดองศาภายในนี้ สีหน้าของหมอประหลาดก็แลดูจะประทับใจเล็กน้อย น่าจะมีเพียงสตรีที่ฉลาดเฉลียวเช่นนี้เท่านั้นถึงจะคิดวิธีการอย่างนี้ออกมาได้ วิธีนี้แม้จะยุ่งยากทว่ากลับมีประโยชน์
หมอหวังถอนหายใจ ถึงแม้จะฉลาดแล้วมันจะอย่างไร ไม่มีตัวยานำพามาเสริมเพิ่มประสิทธิภาพ สุดท้ายแล้วก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
ส่ายหัวพลางมองดูดวงตาที่คาดหวังของมั่วเชียนเสวี่ยแล้วจึงเอ่ยปาก “พิษนี้เดิมทีก็สามารถรักษาได้ เพียงแต่ตอนนี้ตัวยานำพาของยาที่ใช้รักษาก็ได้ถูกทำลายไปแล้ว ถึงแม้ข้าจะเป็นหมอเทวดากลับชาติมาเกิด ก็มิอาจทำให้มันคืนสภาพมาเป็นดังเดิมได้”
มั่วเชียนเสวี่ยตัวโอนเอน ชูอีที่อยู่ด้านข้างจึงรีบเข้ามาพยุง
หากหมดสิ้นหนทางแล้ว ตาเฒ่าประหลาดนี่ก็น่าจะไม่กลับมา นึกถึงตรงนี้ ดวงตาละห้อยของมั่วเชียนเสวี่ยก็ได้ยกขึ้นมาใหม่ “หมดสิ้นหนทางจริงๆ แล้วหรือ หรือว่าหมอหวังไม่เต็มใจที่จะช่วย”
นางไม่รู้เลยว่า เพราะเฒ่าประหลาดเห็นของที่ระลึก ไม่รู้จะทำอย่างไรเขาเลยลองมาดูเสียหน่อย แม้ว่าเขาจะประหลาด แต่เขาก็เป็นคนที่รักษาสัญญา
ในตอนนั้นเขาติดหนี้บุญคุณคนผู้นั้น ตกลงกันดีแล้วว่า ไม่ว่าใครถือของที่ระลึกเอาไว้ และไม่ว่าคนผู้นั้นจะสามารถรักษาได้หรือไม่ได้ เขาจะต้องมาดูเสียหน่อย เฒ่าประหลาดเพียงแค่สนใจในอุณหภูมิของน้ำอุ่นที่อยู่ในถังไม้นั่นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
มั่วเชียนเสวี่ยหรี่ตาลงเล็กน้อย “เชียนเสวี่ยยังมีสูตรอาหารที่ใช้เป็นยารักษาอยู่ที่นี่อีกมากมาย ทั้งยังมีวิธีการรักษาเบื้องต้นที่เหมือนกับใช้รักษาโรคไขข้ออักเสบอีกด้วย หากหมอหวังสนใจ เชียนเสวี่ยสามารถเขียนทีละขั้นตอนให้ท่านค่อยๆ ศึกษาได้นะเจ้าคะ”
ครั้งนี้ไม่ใช่การข่มขู่ แต่เป็นการขอร้อง
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพียงหนึ่งอย่าง บางทีอาจจะไม่อยู่ในสายตาของเฒ่าประหลาด ทว่าหากสิบกว่าอย่าง มั่วเชียนเสวี่ยคิดว่าเขาน่าจะสนใจๆ
ผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ที่แท้จริง ย่อมจะสนใจเกี่ยวกับโรคที่ซับซ้อนยากต่อการรักษาเหล่านั้นอยู่แล้ว เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ดวงตาของเฒ่าประหลาดเป็นประกายให้เห็นอย่างชัดเจน
แต่ว่า เขาก็มีหลักการของตนเอง เมื่อไรก็ตามที่ลงมือรักษา ยานั้นจะต้องใช้รักษาให้หายป่วยได้ หากมิอาจรักษาให้หายขาด ปกติแล้วเขาจะไม่ลงมือรักษา
ทว่า สูตรยาเหล่านั้นก็ดึงดูดใจเขา กฎก็ตั้งขึ้นมาเอง ทำตามใจตนเองจะดีกว่า
เฒ่าประหลาดหาทางออกให้ตนเองได้แล้วจึงเอ่ยปากขึ้น “หนิงเหนียงจื่อกล่าวเช่นนี้ ทำให้ข้านึกขึ้นได้วิธีหนึ่งที่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ แต่ว่า…”
“ท่านหมอพูดออกมาเลยเจ้าคะไม่ต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมา” แม้นจะต้องการเลือดจากหัวใจนาง มั่วเชียนเสวี่ยก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะหยิบมีดออกมาแล้วส่งให้เขา
“หากช่วยชีวิตเขาได้ แต่อาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
“เสียใจอะไร…” เสียใจอะไรก็ช่างช่วยชีวิตเขาก่อนแล้วค่อยพูด
ด้านนอกก็ยังคงมีเสียงฟ้าร้องดังมาเป็นระยะๆ ฝนยังคงตกโปรยปรายลงมาไม่หยุด
อย่างไรก็ตาม เสียงฟ้าร้องด้านนอกที่ดังมากขึ้น เสียงฝนก็ดังขึ้นอีก แต่ก็ดังไม่เท่าสี่คำนั้นที่เฒ่าประหลาดพูดออกมา
เฒ่าประหลาดจ้องมองไปที่มั่วเชียนเสวี่ยพลางกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ไม่มีทายาท”
ไม่มีทายาท…ไม่มีทายาท…สี่คำนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในสมองของมั่วเชียนเสวี่ย และมันก็ดังก้อง เหมือนดั่งฟ้าผ่าลงกลางใจ สะเทือนใจอย่างสุดขีด หากไม่ใช่เพราะชูอีพยุงนางไว้อยู่ ร่างกายที่อ่อนปวกเปียกของนางก็แทบจะร่วงลงไปที่พื้นแล้ว
ประโยคนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้มั่วเชียนเสวี่ยใจหายไปในทันที
ชูอี สืออู่ อาซานและอาอู่ล้วนก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน สงบจิตสงบใจแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยก็สูดลมหายใจเข้าลึก เหยียดหลังที่งอเมื่อครู่นี้ขึ้นตรง มีเพียงทำเช่นนี้นางถึงจะไม่ล้มลงไป
นางเงยหน้าขึ้นพลางมองไปที่เฒ่าประหลาด สายตาเฉียบคมยิ่งนัก “ที่ท่านพูดหมายความว่าอย่างไร ช่วยพูดให้ชัดเจนหน่อย หมายถึงบัดนี้เป็นต้นไปเขาจะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศหรือว่าจะกลายไปเป็นขันที หรือสมรรถภาพทางเพศจะปกติ แต่ไม่มีความสามารถที่จะให้กำเนิดลูกได้ ยังมีอีก ผลที่ตามมานี้ต่อไปในอนาคตจะยังสามารถรักษาได้หรือไม่”
คำถามเป็นชุดของมั่วเชียนเสวี่ยนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะถาม ทว่าชูอีและสืออู่กลับหน้าแดงก้มหน้าก้มตาลง และมองไปที่ปลายเท้าของตนเอง
ตอนที่ชูอีตักน้ำที่อุณหภูมิต่ำเล็กน้อยออกจากถัง อีกนิดเดียวก็เกือบจะทำน้ำหกใส่เท้าแล้ว
และในตอนที่สืออู่เดินเข้าไปเติมน้ำ มือส่ายไปส่ายมาจนแทบจะทำน้ำทั้งหมดหกลงไปที่พื้น
อาซานและอาอู่กระแอมเสียงค่อย ดวงตาของทั้งสองล้วนมองออกไปที่ด้านนอก แสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่มั่วเชียนเสวี่ยพูด
บรรยากาศตึงเครียด ทั้งสี่คนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปชั่วขณะ จากนั้นก็กลับเข้าสู่สภาวปกติ อย่างไรก็ตาม หูของทั้งสี่คนนี้ก็ผึ่งขึ้นมา เพราะไม่อยากพลาดไปสักคำเดียว
รูม่านตาของเฒ่าประหลาดขยายออกบ่งบอกถึงความสับสน ใบหน้าเหี่ยวๆ แดงขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสตรีนางหนึ่งจะถามอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ ดูแต่ละคำสิ เสื่อมสมรรถภาพหรือไม่เสื่อมอะไรก็ไม่รู้
แม้ว่าเขาจะเป็นหมอประหลาด แต่กลับไม่เคยแต่งงานมาก่อน ที่ให้การรักษามากที่สุดก็ล้วนเป็นบุรุษในใต้หล้า เชี่ยวชาญในการรักษาผู้ที่ถูกพิษมากที่สุด ยังไม่เคยพูดกับสตรีคนไหนเกี่ยวกับปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศอะไรทำนองนี้เลย
ดังนั้น จึงค่อนข้างจะเหนียมอายเล็กน้อยที่จะตอบคำถามเมื่อครู่นี้ “การทานยาหู่หลาง ร่วมกับทักษะการฝังเข็มทองของข้า จะสามารถควบคุมพลังจากพิษเย็นนี้ได้…เข็มทองเหล่านั้นจะฝังลงตรงบน…นั้น จะทำให้เกิด… ผล…”