เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 357 ยากจะพูด เหมือนเพิ่งตื่นจากห้วงแห่งความฝัน (2)

หลังจากผ่านเรื่องนี้ เหล่าฮูหยินไม่อาจฝากความหวังไว้กับอวี่เหวินหันเหล่ยแล้ว

ทว่า ชั่วขณะหนึ่งนางยังไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้

บุตรีสายตรงของตระกูลอวี่เหวิน นางดูมาทุกคนแล้ว อายุเหมาะสม รูปโฉมงดงามมีอวี่เหวินหันเหล่ยเพียงคนเดียว

ทว่า แม้รูปโฉมจะงดงามจนไม่อาจตำหนิ แต่ความเจ้าเล่ห์ ความคิด ไม่ดีเท่าใดนัก

ดูเหมือนว่า นางต้องเขียนจดหมายกลับไป เลือกบุตรีอนุภรรยาอีกสองสามคนมาให้นางดูตัว…

……

ณ เรือนของหัวหน้าตระกูล จวนหนิง

หนิงเซ่าชิงให้คนส่งบรรดาผู้ปกครองที่มารายงานงานด้านต่างๆ กลับไป จากนั้นเขาก็ตามเตาหนูเข้าไปพบ

“จดหมายที่ให้เจ้าส่ง ส่งไปหรือยัง”

“เรียนนายท่าน เตาหนูให้คนส่งไปแล้วขอรับ”

“คุณหนูใหญ่มั่วไม่ได้เป็นอะไรใช่หรือไม่”

“คุณหนูใหญ่ไม่ได้เป็นอะไรขอรับ”

“ในสวนร้อยบุปผา มีผู้ใดทำร้ายคุณหนูใหญ่มั่วหรือไม่”

เตาหนูไม่ได้หยุดชะงัก รายงานเรื่องที่ได้รับฟังจากองครักษ์ลับให้หนิงเซ่าชิงฟังด้วยสีหน้าเย็นชา เล่าเรื่องจิ้งฮูหยิน เหมยฮูหยินและอวี่เหวินหันเหล่ยหนึ่งรอบ

สีหน้าของหนิงเซ่าชิงเยือกเย็น แววตาของเขาราวกับดาบ

ดูเหมือนว่า คนตระกูลอวี่เหวินยังไม่ยอมแพ้

ผู้อาวุโสใส่ใจร้อนเกินไปเล็กน้อย

ผู้อาวุโสใหญ่ไม่อาจทำการใดได้ แต่การจัดารตระกูลอวี่เหวิน เขาหนิงเซ่าชิงมีมากมายหลายวิธี

……

ณ ตำหนักเหยียนชิ่ง วังหลวง

ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ดังมาจากตำหนักคุนหนิงอีกแล้ว อวี้กุ้ยเฟยหัวเราะในลำคอ พูดกับหมัวมัวที่คอยดูแลด้วยดวงหน้าที่อาบความเย้ยหยัน “ไป ไปน้อมคำนับฮองเฮากับข้าที่ตำหนักคุนหนิง”

ตั้งแต่ฮองเฮาถูกกักบริเวณ ฮองเฮาก็มีคำสั่ง ไม่ให้สนมทั้งหลายไปน้อมคำนับ อวี้กุ้ยเฟยจึงไม่ได้ไปน้อมคำนับฮองเฮาในตำหนักอีกเลย

อวี้กุ้ยเฟยเหยียดกายลุกขึ้น หมัวมัวบอกให้นางกำนัลทั้งหลายคอยเดินตามหลัง หมัวมัวรู้ดี กุ้ยเฟยไม่ได้ไปน้อมคำนับ แต่ไปซ้ำเติม

เมื่อไปถึงตำหนักหนิงคุน อวี้กุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าโดยอ้างว่ามีเรื่องสำคัญในวังหลวง แม้ฮองเฮาจะรู้เจตนาร้ายของอวี้กุ้ยเฟยเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่อาจไม่ให้เข้าเฝ้า มิเช่นนั้น แสดงความอ่อนแอต่อหน้าผู้คน อำนาจในวังหลวง จะตกไปอยู่ในมืออวี้กุ้ยเฟย

อวี้กุ้ยเฟยเดินเข้ามาในตำหนัก น้อมคำนับ ทว่าไม่ได้รายงานเรื่องสำคัญในวังหลวง ดวงหน้าของนางยิ้มร่าราวกับดอกท้อ พูดประชดประชัน “ฮองเฮาช่างอารมณ์ดียิ่งนัก ยังคัดเขียนไม่เสร็จก็มีเวลาไปเล่นกับนกแล้ว”

ฮองเฮาชะงัก ดวงตาแดงก่ำ แต่ก็ต้องกล้ำกลืนกลับไป ใบหน้าฉายรอยยิ้มประชดประชัน “น้องอย่าลำพองใจเร็วเกินไป หรือเจ้าคิดว่าฝ่าบาทจริงใจกับเจ้าจริงๆ”

อวี้กุ้ยเฟยเอามือกุมหน้า คลี่ยิ้มงดงาม “ในใจฮ่องเต้มีผู้ใด ใครในวังหลวงบ้างที่จะไม่รู้ ใครบ้างที่จะไม่ทราบ!”

แววตาของฮองเฮาฉายความขุ่นเคือง “ในใจของฮ่องเต้มีผู้ใด คนในวังหลวงไม่รู้ หรือว่าน้องอวี้ก็ไม่รู้ด้วยหรือ ฝ่าบาทเพียงเห็นว่าเจ้ามีหน้าตาละหม้ายคล้ายคลึงกับหญิงชั่วช้าคนนั้น เห็นว่ายามเจ้ายิ้มหน้าตาของเจ้าเหมือนหญิงชั่วช้าคนนั้นยิ่งนัก จึงโปรดปรานเจ้ามาหลายปี ทว่า เจ้าคิดว่าฝ่าบาทจะชายตามองเจ้าอีกหรือ…ได้ยินว่าในวังหลวงมีหญิงงามคนหนึ่งเพิ่งเข้ามา หน้าตาละหม้ายคล้ายคลึงกับเจ้า เวลาเพียงไม่กี่วัน ก็ได้เลื่อนขั้นติดต่อกันแล้ว…”

ฮองเฮาพูดจบ ไม่สนใจอวี้กุ้ยเฟยอีก หยิบไม้เล็กๆ ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี แล้วเดินช้าๆ ไปแกล้งนกบนทางเดิน

อวี้กุ้ยเฟยหน้าเปลี่ยนสีแล้วเปลี่ยนสีอีก

เรื่องบางเรื่อง นางย่อมรู้

นางจำได้ ครั้งแรกที่พบเจอฮ่องเต้ ตอนฮ่องเต้จับจ้องนางพระองค์ก็พูดพึมพำ “ช่างเหมือนเหลือเกิน เหมือนเหลือเกิน…นางดีใจ เงยหย้าขึ้นแล้วยิ้มบางๆ ทันใดนั้นเองดวงตาของฮ่องเต้ทอประกาย ดึงตัวนางเข้าไปกอด หลังจากนั้น…

หลังจากนั้น นับจากค่ำคืนนั้น นางก็เริ่มกลายเป็นสนมคนโปรดในวังหลัง

และนับจากวันนั้น นางก็เริ่มฝึกยิ้มเช่นนั้นที่หน้ากระจก ไม่ว่าจะเวลาใด นางล้วนสามารถฉีกยิ้มเช่นนั้นได้

แน่นอนว่านางก็เคยได้ยินเรื่องหญิงงามคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามา…

อวี้กุ้ยเฟยหมดอารมณ์หัวเราะเยาะฮองเฮา นางจึงกล่าวลา

เมื่ออวี้กุ้ยเฟยเดินออกไป มือของฮองเฮาสั่นเทา นกแก้วในกรงส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวี้กุ้ยเฟยชะงักฝีเท้าเล็กน้อย ทว่าไม่ได้หัวเราะเยาะ แต่รีบเดินจากไป

ตั้งแต่หญิงงามคนนั้นเข้ามาในวังหลวง ฮ่องเต้ก็ไม่มาตำหนักของนางหลายวันแล้ว

หากนางไม่คิดหาวิธีทวงคืนหัวใจของฝ่าบาท เกรงว่าวันข้างหน้าต้องมีชีวิตเหมือนฮองเฮา ทำได้เพียงเสพสุขโดยการสังหารนก

ไม่! เกรงว่าจะน่าอนาถยิ่งกว่านี้

ฮองเฮาขึ้นชื่อว่าเป็นมารดาแห่งแผ่นดิน อย่างแย่ที่สุด ด้านหลังของนาง ก็ยังมีตระกูลเซี่ย

ทว่า ด้านหลังของตน กลับไม่มีผู้ใด

ฮองเฮาระบายความขุ่นเคืองในใจ โยนไม้ในมือ แล้วเดินเข้าไปในห้อง

ไม่ต้องให้กงหมัวมัวบอก ก็มีคนเปลี่ยนกรงนกบนทางเดินแล้ว

ทว่า ครั้งนี้หลังจากนางกำนัลเปลี่ยนกรงนกแล้วไม่ได้เดินออกไป แต่ไปรายงานหมัวมัว

“กงหมัวมัวเจ้าคะ นี่คือนกแก้วตัวสุดท้ายแล้วเจ้าค่ะ”

ความหมายของถ้อยคำนี้ ชัดเจนยิ่งนัก หากนกตัวนี้ตาย ฮองเฮาไม่มีที่ระบายความขุ่นเคือง วังหลังนี้ เกรงว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

กงหมัวมัวทอดถอนหายใจ โบกมือบอกให้นางกำนัลออกไป แล้วเปลี่ยนเป็นนางกำนัลคนสนิท พูดกำชับ “ปรนนิบัติรับใช้เหนียงเหนียงให้ดี”

หลังจากจัดเตรียมทุกอย่างแล้ว กงหมัวหมัวก็ตามขันทีที่คอยดูแลตำหนักคุนหนิงมาหารือ

พวกนางที่เป็นคนใกล้ตัวเกลี้ยกล่อมไม่ได้ผล ทำได้เพียงเชิญคนที่มีน้ำหนักมาเกลี้ยกล่อมเหนียงเหนียง ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าหลังจากเหนียงเหนียงสังหารนกหมดแล้ว ก็ถึงคราวของพวกนางที่เป็นคนรอบตัว

ขันทีครุ่นคิด มีเหตุผล ด้วยเหตุนี้จึงออกจากวังหลวง ไปขอความช่วยเหลือ

ไม่นาน หัวหน้าตระกูลเซี่ยที่เพิ่งเข้าเฝ้าฮ่องเต้ ก็ปรากฎตัวขึ้นในตำหนักคุนหนิง

“ฮองเฮามิต้องพะวงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคราวก่อน โชคไม่เข้าข้างเราตลอด แต่ก็ไม่เข้าข้างผู้อื่นตลอดเช่นกัน ย่อมมีการสลับผลัดเปลี่ยน”

หัวหน้าตระกูลเซี่ยคือพี่ชายแท้ๆ ของฮองเฮา เงื่อนในใจฮองเฮา หัวหน้าตระกูลเซี่ยย่อมพอจะรู้อยู่บ้าง

“สลับผลัดเปลี่ยนเช่นนั้นหรือ หากข้าจำไม่ผิด วันนี้เป็นวันเปิดสวนร้อยบุปผาของตระกูลหลัน นางชมดอกไม้มีความสุขอยู่ในสวนร้อยบุปผา แต่ข้าและอวี้เหอกลับถูกกักบริเวณและให้คัดตำราในวังหลวง เจ้าจะให้ข้าสงบจิตสงบใจได้อย่างไร”

“ฮองเฮาเองไม่ต้องกังวล ฮ่องเต้วางแผนทุกอย่างแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยเริงร่าได้อีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น…”

กงหมัวหมัวเกลี้ยกล่อม “พวกคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เหนียงเหนียงไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ เหนียงเหนียงรักษาสุขภาพ พยายามมีโอรสให้ฝ่าบาท นี่ต่างหากคือเรื่องสำคัญที่สุด”

เมื่อได้ฟังคำเกลี้ยกล่อม สีหน้าของฮองเฮาเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเดิม หัวเราะเยาะตนเอง “เจ้าคิดว่าข้ายังมีโอกาสนี้หรือ”

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ฝ่าบาทจะมาค้างอ้างแรมทุกวันที่หนึ่งและสิบห้า แต่ว่าหลังจากอวี้เหอคลอด ฮ่องเต้ก็ไม่แตะต้องนางอีกเลย

ถูกฮองเฮาตำหนิเช่นนี้ กงหมัวมัวถอยหลังและปิดปากเงียบทันที เรื่องพวกนี้ นางย่อมรู้ดี แต่หัวหน้าตระกูลสั่งให้ฮองเฮารักษาสุขภาพ

“ข้าว่ามีโอกาสก็ย่อมมี เจ้าเพียงรักษาตัวให้ดีก็พอ” แววตาของหัวหน้าตระกูลเซี่ยหนักแน่น

ขอเพียงฮ่องเต้แตะต้องมั่วเชียนเสวี่ย เขาย่อมทำให้หนิงเซ่าชิงกับฮ่องเต้ยืนคนละข้าง เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลหนิงชุลมุนวุ่นวาย คนที่เขาจัดเตรียมไว้ย่อมมีโอกาสแทนที่หนิงเซ่าชิง

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหนียงจื่อของคุณชายขี้โรคเพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที! ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่ ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?! เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset