ข้างกายหนิงเซ่าชิงพาคนกลุ่มหนึ่งมาด้วยย่อมไม่ต้องป้องกัน
กินมื้อเย็นเสร็จแล้ว เหล่าข้ารับใช้ปรนนิบัติให้พวกเขาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ถอยออกไป ภายในห้องจึงเหลือแค่สองคน
“วันนี้ข้าไม่กลับไปแล้ว” หนิงเซ่าชิงเอนตัวลงบนเตียง คล้ายกับว่าเหนื่อยมาก น้ำเสียงก็ทุ้มต่ำ ไร้เล่ห์เหลี่ยม และเจือไปด้วยความเกียจคร้านจากความเหน็ดเหนื่อย ราวกับสายพิณที่ส่งเสียงทุ้มต่ำออกมา
เมื่อคืน มั่วเชียนเสวี่ยยังคงพักผ่อนอีกครู่หนึ่ง แต่เขากลับไม่พักผ่อนเลยสักนิด
มั่วเชียนเสวี่ยคาดเดาถึงความตั้งใจของเขาได้ตั้งแต่แรก และสงสารที่เขาทำทุกสิ่งเพื่อตนเอง “ไม่กลับก็ให้ข้าปรนนิบัติท่านเข้านอน”
“เสวี่ยเสวี่ยวางแผนจะปรนนิบัติสามีเช่นไร”
“ท่านต้องการให้ปรนนิบัติแบบไหน”
วาจาของทั้งสองฝ่ายเผยให้เห็นอารมณ์ปรารถนา
หนิงเซ่าชิงนอนนิ่งไม่ขยับ จ้องมองมั่วเชียนเสวี่ย นัยน์ตาลึกซึ้งกระจ่างใส ประกายรอยยิ้มเอ่อล้นออกมาจากข้างใน
มั่วเชียนเสวี่ยทอดถอนใจอย่างอดไม่อยู่ ยื่นมือไปลูบใบหน้าเขา ชีวิตแสนส้้น ต้องรักและทะนุถนอมให้ดี หนิงเซ่าชิงคว้ามือมั่วเชียนเสวี่ยมาแล้วจุมพิตเบาๆ เอ่ยเรียกเด็กโง่ด้วยน้ำเสียงแหบพร่าทุ้มต่ำ และโน้มตัวลงไปจุมพิตริมฝีปากนาง
หลังจากนั้นก็พลิกร่างทับมั่วเชียนเสวี่ยไว้ด้านล่างอย่างคล่องแคล่วว่องไว และเปลื้องอาภรณ์ของนางออกอย่างรวดเร็ว
มั่วเชียนเสวี่ยหัวเราะเบาๆ และเลียนแบบท่าทางของหนิงเซ่าชิง พลิกร่างขึ้นไปทับอยู่บนร่างของเขา ระหว่างทั้งสองคนไม่มีช่องว่างสักนิด
มั่วเชียนเสวี่ยกระซิบเสียงเบาข้างหูหนิงเซ่าชิง “ถ้าให้คนในโลกได้รู้ว่า หัวหน้าตระกูลหนิงที่ไม่ให้ความสนิทสนมใกล้ชิดกับสตรีผู้มีรูปโฉมหล่อเหลาผู้นี้ ในสมองมีแต่เรื่องพวกนี้ ท่านว่าผู้อื่นจะคิดเช่นไร”
หนิงเซ่าชิงแย้มรอยยิ้มทรงเสน่ห์ “ข้าจะสนใจผู้อื่นทำไม ขอแค่เสวี่ยเสวี่ยอารมณ์ดีก็พอแล้ว” ไม่เคยสูญเสียมาก่อน ก็ไม่มีทางรู้จักความสุขของการมีไว้ในครอบครอง
เขาไม่อยากรออีกแล้ว!
ลิ้นอมชมพูของมั่วเชียนเสวี่ยเลียลงบนติ่งหูหนิงเซ่าชิงเบาๆ ร่างกายของหนิงเซ่าชิงสั่นเบาๆ เล็กน้อย ลมหายใจกระชั้นถี่
“เสวี่ยเสวี่ยอยากเล่นกับไฟหรือ” ลมหายใจหนิงเซ่าชิงไม่นิ่ง เสียงลมหายใจแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เดิมไม่มีอะไร แต่มั่วเชียนเสวี่ยกลับยั่วยวน ทำให้หนิงเซ่าชิงทิ้งความคิดทั้งหมดนั้นไป
สตรีนางนี้สมควรตาย การกระทำไม่เรียบร้อย!
หนิงเซ่าชิงสบถเสียงเบา แต่ก็ตัดใจผลักร่างนุ่มนิ่มบนกายออกไปไม่ลง มือทั้งสองข้างลูบไปมาบริเวณเอวของมั่วเชียนเสวี่ย
บริเวณเอวคันยุบยิบเล็กน้อย มั่วเชียนเสวี่ยส่งเสียงหัวเราะราวกับระฆังเงินออกมาอย่างอดไม่อยู่
เรียวนิ้วขยับเบาๆ เสื้อตัวบนของหนิงเซ่าชิงคลายตัวออก กำปั้นอมชมพูของมั่วเชียนเสวี่ยยันอยู่บนแผงอกของหนิงเซ่าชิง ริมฝีปากแตะอยู่บริเวณลำคอ และถือโอกาสถอดอาภรณ์บนร่างหนิงเซ่าชิง
เห็นอยู่ชัดๆ ว่า ทั้งสองคนเกิดความปรารถนาขึ้นมา อาศัยอะไรที่อาภรณ์ของนางหลุดหมด หนิงเซ่าชิงยังสวมใส่เรียบร้อย บนเตียงเป็นการสู้รบระหว่างทั้งสองคน
เพียงแต่ร่างกายนี้อ่อนเยาว์ไปหน่อย ไม่รู้ว่าจะทนรับได้หรือไม่…
แต่เมื่อเห็นท่าทางของหนิงเซ่าชิงที่ดูเหมือนจะรอไม่ไหวแล้ว คืนวันนี้ไม่ใช่โอกาสที่ดีอะไร แต่…เรื่องประเภทนี้ ไม่ใช่เรื่องส่วนรวม จะมีการกำหนดกฎระเบียบว่าจะทำอะไรเมื่อไรเสียที่ไหน ในเมื่อเริ่มแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นล้มเลิกกลางคัน อดกลั้นนานไปจะทำร้ายร่างกาย
ขณะที่คิด การกระทำของมั่วเชียนเสวี่ยก็ช้าลง หนิงเซ่าชิงจึงไม่พอใจอยู่บ้าง
มั่วเชียนเสวี่ยยิ้มขวยเขิน มือสองข้างกลับหยุดอยู่ที่บริเวณเอวของหนิงเซ่าชิง นิ้วเรียวยาวเล่นสายคาดเอว ท่าทางคล้ายกับจะคลายและไม่คลายสายคาดเอว
นิ้วของมั่วเชียนเสวี่ยหยุดนิ่งอยู่ที่สายคาดเอวเป็นเวลานาน ก็ยังไม่ได้คลายสายคาดเอว หนิงเซ่าชิงรู้สึกหงุดหงิดแล้ว
แม้ว่าเขาจะรู้สึกแย่ แต่ไม่ได้หุนหันขยับมั่วซั่ว แต่จับมือของมั่วเชียนเสวี่ยแล้วนำพามือคู่นั้นของนาง
หนิงเซ่าชิงอยากจะร้องไห้แล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านหวังจยาในครั้งนั้น เขาอดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงห่อมั่วเชียนเสวี่ยไว้ในผ้าห่ม และกระทำเรื่องนั้นอย่างกำเริบเสิบสานทั้งคืน วันนี้จะทำเช่นนั้นอีกหรือ
สตรีที่ชอบ เดิมก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามประเพณี ตอนนี้อยู่ข้างกายตนเอง แต่ไม่สามารถทำอันใดได้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียใจจริงๆ
เขาพลันรู้สึกโทษตนเองขึ้นมา เหตุใดตอนแรกถึงได้มีความคิดเช่นนี้ ให้นางกลับจวนคนเดียว เข้าจวนกั๋วกง แสดงตนว่ายังไม่ได้แต่งงาน…ตอนนั้นจะไม่สามารถคิดวิธีที่ฉลาด ได้ผลดีกันทั้งสองฝ่ายออกมาได้เลยหรือ
หนิงเซ่าชิงหลับตาลงพลางครางออกมา มั่วเชียนเสวี่ยมือแข็งค้าง เพียงแต่ไม่อยากจะเชื่อว่า ตอนนี้หนิงเซ่าชิงถึงกับสามารถอดกลั้นได้ บุรุษผู้นี้มีสติมากเกินไปแล้ว
หนิงเซ่าชิงแนบจุมพิตลงบนมุมปากนางอย่างจนปัญญาอยู่บ้าง “เจ้าไม่ยินยอม ข้าก็จะไม่ฝืนเจ้า”
ให้มั่วเชียนเสวี่ยเผชิญหน้ากับเรื่องราวมากมายขนาดนี้ก็ทุกข์ใจมากแล้ว เขาจะฝืนใจนางอีกได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้ก็เกิดเรื่องขึ้นมากมาย ในใจนางจะต้องรู้สึกแย่มากแน่ๆ
ตอนนี้ หนิงเซ่าชิงพลันรู้สึกว่าตนเองไม่ได้เรื่องมาก
นางเหนื่อยมาทั้งวัน เขายังอยากจะทำเรื่องนั้นอีก
ก็แค่รออีกไม่กี่เดือนไม่ใช่หรือ เขาจะรอ!
หนิงเซ่าชิงพลิกตัวมาทาบทับอยู่บนร่างมั่วเชียนเสวี่ย หอบหายใจแรง และคิดจะทำให้ความสับสนวุ่นวายในร่างกายสงบลง
ใบหน้าสุภาพอ่อนโยนอาบย้อมไปด้วยแรงอารมณ์ ราวกับดอกโบตั๋นที่กำลังเบ่งบาน สีสันงดงามบีบคั้นผู้คน
ตอนที่เกิดความปรารถนา ไม่ได้มีเพียงฝ่ายสตรีที่จะสวยงามหยาดเยิ้ม ชวนให้คนประทับใจ บุรุษก็สามารถมีเสน่ห์เย้ายวนใจได้เช่นกัน
ยุ่งวุ่นวายไปครู่หนึ่ง ฟ้าก็มืดนานแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยย่อมมองไม่เห็นใบหน้าที่แดงก่ำของหนิงเซ่าชิง แต่กลับสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ปกคลุมอยู่ในอากาศ
“ข้า…” มั่วเชียนเสวี่ยแสบจมูก
นางไม่ได้ไม่ยินยอม แต่นางไม่รู้ว่าจะเอ่ยเช่นไร
แต่ความคิดก็คือความคิด บางเรื่องก็ควบคุมไม่อยู่แล้ว
หนิงเซ่าชิงตกอยู่ในความเร่งรีบ พยายามอยู่นานก็ยังไม่สงบ จึงคิดจะใช้วิธีเดิม หยิบผ้าห่มผืนบางขึ้นมา คิดจะห่อมั่วเชียนเสวี่ยเอาไว้
มั่วเหนียงตายตาหลับ มั่วเชียนเสวี่ยแม้จะรู้สึกเสียใจ แต่สุดท้ายกลับคิดตกแล้ว ในใจไร้ซึ่งเงามืด
ถ้าจะเอ่ยว่ามีเงามืด ตอนที่นางเผชิญกับฝ่ามือของมั่วจื่อเยี่ยที่ฟาดลงมา ก็รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้กระทำเรื่องสุดท้ายกับหนิงเซ่าชิง
คิดถึงตรงนี้ มั่วเชียนเสวี่ยก็ขจัดความกระดากอายทิ้งไป ดึงผ้าห่มผืนบางที่หนิงเซ่าชิงหยิบมาห่อร่างตนเองผืนนั้นมา
นางที่เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง จะทำให้บุรุษของตนเองน้อยอกน้อยใจบ่อยๆ ทำไมกัน
มั่วเชียนเสวี่ยกลืนน้ำลายโดยไม่ตั้งใจ หนิงเซ่าชิงเก่งกาจขนาดนี้ นางรู้แต่แรกแล้ว เพียงแต่ ร่างกายของนางจะรับไหวหรือ
ได้ยินมาว่าครั้งแรกเจ็บมาก…
มั่วเชียนเสวี่ยเริ่มถอย ถึงอย่างไรหนิงเซ่าชิงก็เอ่ยว่าไม่ฝืนบังคับนางไม่ใช่หรือ เช่นนั้นก็รออีกหน่อยแล้วกัน รอนางโตอีกหน่อย
รอสามเดือนกว่าหลังจากแต่งงานค่อยว่ากันแล้วกัน…
สถานการณ์เช่นนี้ยังสามารถเหม่อลอยได้ หนิงเซ่าชิงแสดงออกว่าไม่พอใจอย่างยิ่ง ไม่ให้เขาทำอะไรนั่น แต่ตอนนี้ก็ยังทรมานเขา
ระหว่างที่รู้สึกแย่ หนิงเซ่าชิงก็ลุกขึ้น กัดบนร่างมั่วเชียนเสวี่ยเบาๆ เป็นการลงโทษ
มั่วเชียนเสวี่ยร่างกายสั่นสะท้าน ล้มคะมำใส่ตัวหนิงเซ่าชิง
หนิงเซ่าชิงพึงพอใจขึ้นมาทันที
แต่ในไม่ช้า เขาก็ไม่พอใจแล้ว ความปรารถนานั้นยากจะเติมเต็ม ยิ่งได้รับมาก เขาก็ยิ่งอยากได้มากกว่านี้…
“จะทำก็รีบหน่อย ข้าจะได้ไม่รู้สึกเสียใจในภายหลังในอีกครู่หนึ่ง…”