เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 489 ซูซูที่ยิ่งแพ้ยิ่งกล้า (2)

วิชาตัวเบาของฮวาหูเตี๋ยยอดเยี่ยมมาก ทางไปถูกขวางไว้ จึงจำต้องรับศึกตรงๆ

กระบวนท่าของเขาล้ำเลิศ กำลังภายในก็ไม่อ่อนด้อย แต่จนใจที่มาเจอกับยอดฝีมือในยอดฝีมืออย่างซูชีเช่นนี้

ซูชีไอสังหารพวยพุ่ง

ประมือกันสองสามรอบก็ใช้ลมปราณจากฝ่ามือทำร้ายให้ฮวาหูเตี๋ยบาดเจ็บได้แล้ว

ฮวาหูเตี๋ยเส้นเลือดหัวใจถูกกระทบกระเทือนบาดเจ็บ กระอักเลือดสดๆ ออกมาแล้วสลบไป ณ ที่นั้น

ซูชีเหลือบมองฮวาหูเตี๋ยที่สลบลงกับพื้นแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมา

แล้วถลึงตาโต

ซูซูนอนอยู่บนพื้น สวมเพียงเสื้อชั้นใน…

เดิมทีเสื้อผ้าของซูซูไม่ได้โดนฮวาหูเตี๋ยถอดออก แต่เพราะฮวาหูเตี๋ยโยนนาง ตอนที่ซูชีฟาดลมปราณจากฝ่ามือไป ปมเชือกตรงคอเสื้อชั้นในนางจึงคลายออก

ยามนี้จึงเผยให้เห็นชั้นในสีแดงออกมา

สภาพเช่นนี้!

ซูชีจึงยิ่งเดือดดาลควันออกหู

แต่ซูซูดันเป็นคนที่แผลหายแล้วลืมความเจ็บ ยามนี้เห็นซูชีมองมา นางที่เริ่มมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาแล้วจึงใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด แต่ไม่ได้พยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้น

นางไม่ได้พยุงตัวเองขึ้นมา แต่กลับหัวเราะขึ้นแทน

ซูชีโทสะโจมตีจิตใจอยากจะก่นด่าออกไปแต่ก็ข่มเอาไว้

สุดท้ายจำต้องตวาดเสียงต่ำอยู่ในลำคอว่า “ซุนเสี่ยวซู เจ้าชักจะใจกล้าเกินไปแล้ว! เจ้า…หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าจริงๆ ข้าจะมีหน้าที่ไหนไปบอกจิ่งชินอ๋อง…”

หากมิใช่เพราะนางเอาแต่เจื้อยแจ้วข้างหูเขาทุกวัน ทำให้เขาคุ้นชินกับเสียงของนาง เขาก็คงฟังเสียงนั้นของนางไม่ออก

อย่างไรเสียเสียงนั้นมันก็…เบาเกินไปแล้ว!

หากมิใช่เพราะเขาเกิดความสงสัยขึ้น แล้วบุกเข้าไปทันเวลาพอดี ไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมาเลยจริงๆ

“เจ้าจะปล่อยให้เกิดเรื่องกับข้ารึ”

แม้ว่าท่านหญิงซูซูจะไร้เรี่ยวแรงลุกขึ้นจากพื้น แต่ยังคงพยายามวางมาดที่ตัวเองคิดว่าสวยงามมากออกมาอย่างเต็มที่

ด้วยเหตุนี้ ชั้นในสีแดงนั่นจึงเข้าสู่สายตาของซูชีอีกหน

ท่านหญิงซูซูยังคงไม่รู้ตัว นางถามเสียงอ้อนไปว่า “เหตุใดเมื่อครู่เจ้าไม่รับตัวข้าไว้ล่ะ ทำเอาข้าล้มเจ็บไปหมด…”

ซูชีหันหน้าหนี

เขาว้าวุ่นขึ้นเสียแล้ว

สตรีนางหนึ่งจะไร้ยางอายถึงขั้นนี้ก็เป็นระดับที่บรรลุประเภทหนึ่ง

อย่างน้อยๆ ก็มีระดับที่บรรลุมากกว่าเขา

หากอยู่ในอีกอารมณ์หนึ่ง เขาคงได้ทอดมองนางอย่างเพลิดเพลินแน่นอน

ทว่า…

แต่ใจเขามีคนจับจองไว้แล้ว

ซูชีเงียบงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปลดชุดคลุมกันลมของตัวเองออกมาห่มร่างให้ท่านหญิงซูซู แล้วผิวปากขึ้น

ช่วงเวลาเพียงครู่เดียวอาจ้าวก็ทะยานเข้ามาจากหน้าต่าง

ก่อนจะกวาดตาไปเห็นท่านหญิงซูซูที่คลุมเสื้อกันลมของผู้เป็นนายอยู่ริมหน้าต่าง จึงได้ดึงสายตากลับมาอย่างรู้งาน

ซูชีทำเพียงชี้ไปทางฮวาหูเตี๋ย แล้วสาวเท้าสองก้าวไปอุ้มท่านหญิงซูซูขึ้นมา ก่อนจะทะยานออกจากหน้าต่างไป

สภาพท่านหญิงซูซูเป็นเช่นนี้ ซูชีจะส่งเสริมได้อย่างไร

หากมีใครรู้ว่าคืนนี้คนที่ร่วมห้องเดียวกันกับฮวาหูเตี๋ยคือท่านหญิงซูซู เกรงว่าท่านหญิงซูซูคงได้ถูกนินทาเสียจนจมน้ำลายตายแน่

จวนตระกูลซูของเขาคงได้โดนจิ่งชินอ๋องทรมานตาย ถูกพวกพี่ชายของท่านหญิงซูซูเอาเรื่องตายแน่

อาจ้าวติดตามซูชีมาหลายปี มีหรือจะไม่รู้

เขาใช้เท้าเตะฮวาหูเตี๋ยที่อยู่บนพื้นไปมา จากนั้นก็มัดแบบอู่ฮวา[1]แบกไปทางจวนแม่ทัพ

อันที่จริงเขาแอบคิดในใจว่าท่านหญิงซูซูก็ไม่เลวเหมือนกัน

เขาหวังเพียงว่านายท่านจะคิดได้ตกเสียที แล้วมีความสุขตั้งแต่นี้ไป

ทางด้านซูชีอุ้มท่านหญิงซูซูทะยานไปทางจวนจิ่งชินอ๋อง

ซูซูรู้สึกเพียงว่าอ้อมกอดนี้ช่างอบอุ่นยิ่งนัก จึงซุกศีรษะสู่อ้อมอกนั้นอย่างไม่อาจหักห้ามใจ

ซูชีตัวแข็งทื่อ

ท่านหญิงซูซูที่ซุกอยู่ในอ้อมอกซูชีลืมความเจ็บที่ล้มก้นจ้ำเบ้าเมื่อครู่นี้ไปนานแล้ว ในใจเต็มไปด้วยความหวานล้ำ นางเอ่ยเสียงอ้อนว่า “ซูชี ไหนๆ เจ้าก็เห็นแล้ว อุ้มก็อุ้มแล้วด้วย เจ้าต้องรับผิดชอบข้านะ”

ครู่ต่อมา

ตู้มมม

ซูซูกลับพบว่าตัวเองตกลงในน้ำเสียแล้ว

เปียกชุ่มไปทั้งตัว

ซูซูนึกบางอย่างขึ้นมาได้

นางยังไม่ทันพินิจพิเคราะห์ให้ดีๆ ก็ตกลงมาในสระบางอย่างเข้าเสียแล้ว ก่อนจะจมดิ่งลงไป

“ซูชี เจ้ามันสารเลว…”

นี่เป็นคำหยาบคำแรกในชีวิตของท่านหญิงซูซูเลยทีเดียว

ทว่ายังไม่ได้ด่าจบ น้ำก็ท่วมศีรษะนางเสียแล้ว

น้ำไหลเข้าเต็มปากนาง ตัวก็จมดิ่งลงไป

สองมือของนางกระวีกระวาดไปทั่วตามปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกาย

ทันใดนั้นก็คว้าบางอย่างมาได้

หลังจากที่นางตกลงไปในน้ำแล้ว เรี่ยวแรงในร่างนางก็กลับคืนมาบ้างแล้ว นางคว้าสิ่งๆ นั้นเอาไว้อย่างแรง ก่อนจะโผล่หัวพรวดขึ้นจากน้ำ

ทว่ากลับเห็น…

สิ่งที่นางคว้าไว้ในมือคือกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง ทว่ายามนี้ปลายกิ่งอีกด้านกำลังอยู่ในมือซูชี

ซูชีกำลังเลิกคิ้วหัวเราะชอบใจ ท่าทางเหมือนกำลังเพลิดเพลินที่นางดิ้นรนอยู่

ซูชีผู้นี้นี่กำลัง…แกล้งนาง…อยากจะเห็นนางทำตัวตลกรึ

จะเกินไปแล้วกระมัง!

ซูซูด่าอีกหนว่า “ซูชี เจ้า…”

ทว่าพอเห็นทิวทัศน์รอบด้าน คำว่าสารเลวยังไม่ทันจะเปล่งออกจากปาก ซูซูก็ปิดปากฉับทีนที

นี่มันสวนดอกไม้ในจวนจิ่งชินอ๋องนี่ ที่ที่นางกำลังยืนอยู่ก็คือสระบัวบ้านตัวเอง

หากนางร้องแหกปากอีกหน คนได้พากันแห่มานี่แน่

หากมีคนแห่กันมา…

ถึงแม้จะถูกซูชีโยนลงน้ำ ซูซูผู้น่าสงสารก็ยังอยากอยู่เพียงลำพังกับซูชีมากขึ้นอีกหน่อยอยู่ดี ไม่อยากให้ใครมารบกวน

นางกล้ามั่นใจเลยว่าสุดท้ายซูชีจะงมพานางขึ้นไปแน่ๆ

หากงมนางขึ้นไป เฮอะ เขาจะได้เห็นดีกันแน่

ทว่าความเป็นจริงมันข่างสวนทางกับสิ่งที่คิดนัก นางเงียบงันไม่พูดไม่จา ซูชีกลับไม่ทำให้นางได้สมดั่งหวัง

ซูชีเห็นท่านหญิงซูซูลอยตุ๊บป่องอยู่ในน้ำ อารมณ์ก็พลันดีขึ้นมาไม่น้อย มุมปากหยักยกเป็นรอยยิ้มร้ายกาจที่กว้างขึ้นกว่าเดิม

แต่ซูซูกลับถูกรอยยิ้มนี้ซึมลึกเข้าไปถึงกระดูก

ซูชีดวงตามีประกายเจ้าเล่ห์วาบผ่าน เขาดัดเสียงเอ่ยว่า “ใครก็ได้ ท่านหญิงตกน้ำ ใครก็ได้…”

ซูซูได้ยินซูชีตะโกนประโยคนี้เข้าก็ทั้งโมโหทั้งร้อนใจ

เขาคิดจะทำอะไรน่ะ

ทว่ายามนี้กิ่งไม้ในมือนางกลับหักลง ตัวซูซูจมลงไปในน้ำอีกครา

สารเลวเอ๊ย กิ่งไม้ดีๆ จะมาหักได้อย่างไร ต้องเป็นเพราะถูกกำลังภายในของเขาทำหักแน่

ซูชีตะโกนจบก็ไม่ตะโกนขึ้นอีก

ทำเพียงเลิกคิ้วทำปากพะงาบๆ ไร้เสียงให้ซูซูที่ตกน้ำดู

ชั่วขณะสุดท้ายที่จมลงไปในน้ำ ซูซูอ่านปากท่าทางเกินจริงของซูชีได้ว่า ‘ข้าไปก่อนนะ เจ้าโชคดีแล้วกัน’

นึกไม่ถึงว่าจะโยนนางลงน้ำแล้วสะบัดตูดหนี!?

ซูชี เจ้ารอข้าได้เลย!

รอข้าเลย…

ข้าจะใช้เวลาทั้งชีวิตของข้ามาล้างแค้นเจ้า….

จะตามตอแยเจ้าไปตลอดชีวิต

ไม่ให้เจ้าได้สงบสุขไปทั้งชาติ…

จะมีลิงน้อยให้เจ้าเต็มบ้าน ให้เอะอะวุ่นวายกับเจ้าทุกวัน เสียงดังใส่เจ้า…

ในขณะที่ซูซูกำลังไม่พอใจนั้น ก็ว่ายท่าลูกหมาตกน้ำอยู่ในน้ำไปด้วย

คนของจวนจิ่งชินอ๋องได้ยินเสียงร้องเรียกก็พลันตื่นตูมกันขึ้นมา

ในสวนดอกไม้ริมสระน้ำพลันมีคนมากันมากมาย พวกองครักษ์จำนวนมากทยอยกระโดดลงน้ำ เตรียมจะไปช่วยท่านหญิงขึ้นมาจากกลางสระบัว

[1] มัดแบบอู่ฮวา ขั้นแรกพันเชือกรอบคอ แล้วอ้อมไปด้านหลังมัดมือที่ไพล่กันเอาไว้ เป็นการมัดต่อผู้ที่กระทำความผิดร้ายแรง

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหนียงจื่อของคุณชายขี้โรคเพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที! ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่ ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?! เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset