อารมณ์ความรู้สึกที่เรียกว่า “โกรธ”
“แล้วนี่นายจะบอกฉันได้รึยัง ว่านี่มันเรื่องอะไรกันน่ะ?” (ยูริ)
“โคโคโนเอะ ถ้านายชอบผู้หญิงที่แก่กว่า ก็รู้อยู่นี่ว่ายังมีฉันอยู่นะ” (ไคโดะ)
“ถ้าคุณไปสร้างปัญหาที่โรงเรียนอื่นไว้ คุณก็จะ——” (มิกุโมะ)
“นี่เธอจะไม่พยายามควบคุมยับยั้งตัวเองไว้สักหน่อยเลยรึไงกันเนี่ย?” (อาจารย์ซันโจจิ)
แล้วหลังเลิกเรียนในวันนี้ ผมได้ถูกพาตัวไปยังห้องสภานักเรียนและถูกบังคับให้นั่งคุกเข่ากับพื้น นี่มันไม่ดูไร้เหตุผลไปหน่อยรึไงเนี่ย? นี่มันเป็นการกลั่นแกล้งโดยการใช้อำนาจมาบีบบังคับเลยนะ แล้วผมก็เหลือบไปมองที่เธอ และก็เห็นได้ชัดเลยว่าพี่สาวผมกำลังมีอารมณ์เสียแบบสุดๆ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเรียกพี่สาวของผมในการกลั่นแกล้งโดยลุแก่อำนาจแบบนี้ว่ายังไง งั้นผมจะเรียกมันว่า ซิสเตอร์ ฮาราสซ์เม้น หรือเรียกสั้นๆว่า ซิสฮาราสช์ ก็ละกัน
ว่าแต่ช่วงหลังๆมานี้ ก็รู้สึกเหมือนว่าพี่สาวชอบทำตัวเป็นกาวติดอยู่กับผมตลอดเลยนะ เช้าวันก่อนผมก็พบว่าเธอนั้นมานอนอยู่บนเตียงผมด้วย มันทำให้ผมถึงกับตื่นขี้นมาพร้อมด้วยเหงื่อเย็นๆที่ไหลออกมาจากความรู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่น่าจะสรุปได้คือเธอนั้นกำลังให้ความปราณีผม ก็เนื่องจากว่าผมต่อต้านอะไรเธอเลย แต่ว่าเธอนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเพียงอย่างเดียวของผม
คือยังมีอาจารย์ซันโจจิ, อาจารย์ประจำชั้น ฟูจิชิโระ, ประธานสภานักเรียน ไคโดะ, รุ่นพี่ มิกุโมะ, รุ่นพี่ โทโจ และแม้แต่ฮิรางิกับชิโอริก็ได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ด้วย และด้วยความที่ผมนั้นรู้สึกได้ถึงอันตราย ก็เลยได้ขอให้เจ้ารูปหล่อหน้าใสนั้นมากับผมด้วย แต่ไม่รู้เพราะอะไรสักอย่าง ผมก็กลายเป็นเพียงคนเดียวที่ต้องมานั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น นี่มันลำเอียงกันชัดๆ!
“พวกเราแค่ไปขอเล่นแข่งเพื่อทำการซ้อมให้กับทีมบาสเก็ตบอลเองนะ” (ยูกิโตะ)
“แล้วมันนี่หมายความว่าไงแน่?” (ยูริ)
“ก็เพราะผมโกรธ …. อ๊ะ!? เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น, คือ ก็แค่เพื่อทีมบาสเก็ตบอลนะ ไม่มีอะไรให้น่าสงสัยหรอก” (ยูกิโตะ)
“นี่นายมีกลิ่นของผู้หญิงด้วย” (ยูริ)
“นี่พี่จะไม่จมูกดีเกินไปหน่อยเหรอะ?!” (ยูกิโตะ)
แล้วเมื่อวานนี้ พวกเราก็ได้ทำการซ้อมตามที่นัดไว้กับพรรคพวกของตัวประกอบA และก็มีกลุ่มอื่นๆด้วย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่มีร่างกายที่สมบูรณ์ดีเยี่ยม แต่คู่ต่อสู้ของเราก็ไม่ได้มาจากชมรมที่จริงจังนัก แต่กลับเป็นแค่กลุ่มคนขี้เกียจทั่วๆไป ในครึ่งแรกนั้นคู่แข่งดูจะได้เปรียบกว่า แต่ในขณะที่พวกเราได้ซ้อมกันมาอย่างหนักหน่วง เพื่อที่จะเสริมเพิ่มความแข็งแรงพื้นฐานของร่างกายของพวกเรา พวกเราก็เลยไม่ได้เสียจังหวะการเล่นเราไป และตั้งแต่เริ่มเกมของครึ่งหลัง พวกเราก็ชิงความได้เปรียบเอาไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
ตัวประกอบA และคนอื่นๆ ต่างก็ได้หงุดหงิดกับสถานการณ์นั้น เลยพยายามที่จะเล่นแบบรุนแรง แต่เราก็กลับตอบกลับด้วยการเล่นอย่างรุนแรงด้วยเช่นกัน แล้วผลก็คือเราชนะ และก็เนื่องจากผมนั้นเคยเล่นบาสเกตบอลข้างถนนอยู่บ่อยๆตั้งแต่สมัยอยู่โรงเรียนมัธยมต้น ผมก็เลยค่อนข้างจะแบบรุนแรงได้ดีเลยล่ะ
แล้วพวกตัวประกอบA กับคนอื่นๆ ก็ถูกถล่มย่อยยับจนแทบจะไม่มีชิ้นดีเลย แล้วรุ่นพี่ฮยาคุชิน กับชมรมเก็ตบอลอื่นที่เหลือก็โกรธที่พวกเขาพยายามทำร้ายนักเรียนมัธยมปลายด้วยการเล่นอย่างรุนแรง และพวกตัวประกอบA กับคนอื่นๆก็ได้ถูกลากตัวออกไป แล้วผมผู้ที่มีเมตตานั้นก็รู้สึกเสียใจด้วยกับพวกเขาด้วย ว่าแต่มันจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาหลังจากนั้นกันนะ? ผมนั้นอดที่จะสงสัยไม่ได้ แต่ว่าพวกเขาเป็นแค่กลุ่มตัวประกอบ ผมน่ะแน่ใจเลยว่า พรุ่งนี้ผมก็จะลืมเรื่องพวกนี้ไปแล้ว
แต่กับสถานการณ์ในตอนนี้น่ะมันออกจะเป็นปัญหามากกว่าสิ่งอื่นเอาซะอีก นี่ขอผมพักหน่อยเถอะ เอาจริงๆนะ
“รู้ไหมทำไมฉันถึงเรียกนายมาที่นี่?” (ยูริ)
“มันก็คงเกี่ยวกับการไปเล่นแข่ง ใช่ไหม?” (ยูกิโตะ)
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น นั่นมันไม่มีปัญหาหรอก แต่ฉันไม่ได้ถามในเรื่องนั้น แต่ว่าฉันสงสัยอยู่ตะหงิดๆ ในเหตุที่เป็นแรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังของการซ้อมแข่งนั่นต่างหาก” (ยูริ)
“งั้น แล้วทำไมผมต้องมาที่นี่ล่ะ?” (ยูกิโตะ)
“ก็เพราะมันเป็นเรื่องของงานปาร์ตี้แบบเปิดรวมไง” (ยูริ)
“จู่ๆ ผมก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมาละ อีโคไลในท้องของผมกำลังอาละวาดอยู่ งั้นวันนี้ก็ขอเท่านี้ก่อนนะครับ” (ยูกิโตะ)
“เดี๋ยวสิ ไม่ต้องมาพยายามหนีเลยนะ” (ยูริ)
แล้วพอผมนั้นพยายามที่จะลุกออกไปก็ถูกจับยึดไว้แน่นจากทั้งสองด้าน ดูท่าแล้วก็คงจะไม่ยอมปล่อยให้ไปไหนแน่ๆ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่นะ! ผมอยากจะไปแล้ว! แล้วผมก็พยายามทำตัวเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ แต่มันก็กลับกลายเป็นว่าไร้ผลสุดๆ แล้วเจ้ารูปหล่อหน้าใสก็หันหลบหน้าหน้าผม เดี๋ยวเถอะจะใส่เพิ่มยอดเมนูฝึกให้เป็นสองเท่าเลยคอยดู๊!
“ทำไมนายถึงได้ไปที่งานปาร์ตี้นั่นด้วยล่ะ? ทั้งๆที่ก็มีฉันอยู่ตรงนี้นะ” (ยูริ)
“ผมว่าผมได้ยินคำพูดที่มันตลกๆนะ แต่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นแค่จินตนาการของผม” (ยูกิโตะ)
“โคโคโนเอะ ถ้านายไม่ไหวแล้วล่ะก็ ฉันก็จะยอมเป็นคู่กับนายให้นะ แล้ววันนี้เป็นวันที่โอเคด้วย” (ไคโดะ)
“ฉัน-ฉันเองก็โอเคด้วยเหมือนกัน!” (เอริกะ)
“อะไรน่ะ? เธอก็อีกคน ทำไมถึงต้องหน้าแดงกันล่ะเนี่ย นี่เธอโอเคจริงเหรอ?!” (ยูกิโตะ)
“แน่นอน ฉัน—-” (เอริกะ)
“พอละ ไม่ต้องตอบแล้ว นี่ผมชักจะกลัวๆแล้วล่ะ” (ยูกิโตะ)
“นี่นายยังเป็นนักเรียนอยู่นะ ใช่มั้ย? มา ฉันจะเป็นคนให้ความรู้—” (อาจารย์ซันโจจิ)
“เดี๋ยวก่อนสิอาจารย์ซันโจจิ นี่เขาเป็นนักเรียนของฉันนะ” (อาจารย์ฟูจิชิโระ)
“นี่ยูกิโตะ ทำไมวันนี้นายไม่ไปที่บ้านฉันล่ะ? แบบว่านี่ก็ไม่ได้ไปมาพักนึงแล้วนะ” (ฮิรางิ)
นี่มันเป็นสนามรบ! ถ้าผมจะต้องตอบตกลงให้กับใครซักคนไปล่ะก็ ชีวิตผมก็จะต้องจบลงที่นี่เป็นแน่!
“ก็นี่ไง เหตุผลที่ผมต้องไปเข้าร่วมปาร์ตี้น่ะ มันก็เพราะเหตุสุดวิสัย มันไม่ใช่ความตั้งใจของผมนะ…….” (ยูกิโตะ)
“แล้วมันเป็นความตั้งใจของผู้หญิงคนไหนกัน นายบอกพวกเราสิว่าว่ามันเป็นเรื่องอะไร?” (ชิโอริ)
“ไม่ คือนั่น ……” (ยูกิโตะ)
“ใช่แล้ว โคโคโนเอะ เธอน่ะมีฉันแล้วนะ ไม่จำเป็นจะต้องไปรบกวนผู้หญิงคนอื่นหรอกรู้ไม๊” (ไคโดะ)
“นี่ตัวตนประธานนักเรียนของเราเป็นแบบนี้เองงั้นเหรอเนี่ย?” (ยูกิโตะ)
“คุคุ ความรักทำให้คนตาบอดนะ รู้ไหม” (ไคโดะ)
“สงสัยดูท่าคำถามของผมมันคงจะไปไกลเกินไปหน่อยแล้วสิ?” (ยูกิโตะ)
นี่มันมีเรื่องให้ตื่นเต้นเยอะแยะอะไรกันขนาดนี้ แต่ผมก็สงสัยนะว่าผมน่ะทำอะไรผิดไปหรือเปล่า ก็มิโอะ นั้นขอให้ผมช่วยเข้าร่วมปาร์ตี้กับเธอนี่ และมันก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องให้ละอายด้วยสักหน่อย!
“แล้วมันผิดอะไรกับงานปาร์ตี้! แล้วมันผิดตรงไหนกับการไปปาร์ตี้กันด้วยล่ะ!?” (ยูกิโตะ)
“ห๊าาา—?” (ยูริ)
“ผมขอโทษค้าบบบ มันเป็นความผิดของผมเอง” (ยูกิโตะ)
พ้มมกลัววววแล้วววววววววว! สายตานี้มันอะไรกันเนี่ย? จิตใต้สำนึกของผมมันกำลังบอกว่าผมว่าจะต้องตายแน่!
—————————————————–
“แล้วมันก็เลยวุ่นวายแบบที่เล่าไปนี้ล่ะครับ” (ยูกิโตะ)
“ฉันขอโทษนะ ยูกิโตะคุง ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำให้นายต้องลำบากน่ะ” (มิโอะ)
“ไม่ครับ อย่ากังวลไปเลย มิโอะซังไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” (ยูกิโตะ)
“ยูกิโตะ ตั้งแต่ตอนนั้นมานี่ พวกเขาได้ทำอะไรนายอีกหรือเปล่า?” (มิโอะ)
“อ่า ผมได้รับข้อความจากรุ่นพี่ฮยาคุชินมาน่ะ ว่าเขากำลังถูกอบรมอยู่นะครับ แล้วผมก็คิดว่ารุ่นพี่เขาก็น่าจะทำได้ดีเลยล่ะ” (ยูกิโตะ)
“เข้าใจแล้ว นั่นดีเลย!” (มิโอะ)
จากในห้องสภานักเรียนที่เป็นสถานที่อันเลวร้ายสำหรับผม ซึ่งมันก็เหมือนกับพื้นที่แห่งความเสียหายโดยไม่สามารถจะป้องกันใดๆได้ มันเป็นพื้นที่ผิดปกติที่ซึ่ง HP ของผมนั้นจะค่อยๆถูกสูบออกไป ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม และนอกจากนี้ยังมีพวกผู้หญิงอีกเป็นจำนวนที่มากเกินไปในห้องนั้นด้วย และมันทำให้รู้สึกได้ถึงกลิ่นของการผิดประเวณี มันจึงยิ่งทำให้ผมถึงกับเวียนหัว ผมเหนื่อยมาก ถึงงั้นก็ยังคงมุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟที่ผมนั้นถูกขอให้ไป ซึ่งเป็นสถานที่ที่มิโอะ กับทริสตี้ กำลังรอผมอยู่
“อีกครั้งก็แล้วกันนะ ฉันต้องขอโทษที่ได้เอานายเข้าไปพัวพันกับเรื่องแปลกๆ เมื่อวันก่อนน่ะ” (มิโอะ)
“ก็อย่างที่ผมได้พูดไปก่อนแล้วน่ะนะ โปรดอย่าได้มากังวลไปเลย ถ้าหากว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณเพราะเรื่องนั้นล่ะก็ ผมก็คงจะไม่รู้สึกดีกับมันแน่เลย” (ยูกิโตะ)
“แล้วฉันล่ะ? แล้วฉันล่ะยูกิโตะ?” (ทริสตี้)
“ผมก็ดีใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณด้วยเช่นกัน ทริสตี้” (ยูกิโตะ)
“เฮะ เฮะ ~~” (ทริสตี้)
แล้วที่แก้มของทริสตี้ซังก็ถูกย้อมเป็นสีแดง และเธอก็ยิ้มออกมาให้เห็น มิโอะซังนั้นเป็นผู้มีพระคุณต่อผม แต่ทริสตี้ซังนี่น่ะที่จริงควรเป็นผู้ร้ายในสายตาของผม แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ มันไม่เพราะว่าผมไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไรหรอกนะ แต่จากทุกๆคำที่เธอพูดออกมา มันทำให้ผมนั้นรู้สึกได้ ว่ามันดูเจ็บปวดในตัวทริสตี้ที่ดูสำนึกผิดแล้วให้กับผม ถ้าหากว่าผมทำเป็นไม่สนใจเธอน่ะนะ
“แต่ว่ายูกิโตะคุง ทำไมนายถึงต้องขอให้พวกเขามาเล่นแข่งแบบนี้ด้วยล่ะ” (มิโอะ)
“คือพอดีผมมีเหตุผลและแรงจูงใจของผมเองน่ะ” (ยูกิโตะ)
“นายบอกเหมือนกำลังมีจะปัญหาเลยนะ” (มิโอะ)
“คือตอนแรกผมคิดว่าจะไปนัดซ้อมกับโรงเรียนอื่นน่ะ และนอกจากนี้ มันก็จริงที่ว่าพวกเข้านั้นเป็นแค่คู่แข่งที่ดูเหมาะดีด้วย ซึ่งก็ใช่ล่ะ และนอกจากนี้ ผมก็หงุดหงิดนะ เพราะคนพวกนั้นพูดถึงมิโอะซังและทริสตี้ซัง ราวกับว่ามันเป็นแค่สิ่งของ…… ” (ยูกิโตะ)
“เพื่อเรา?” (มิโอะ)
“ผมก็แค่รู้สึกรำคาญน่ะ” (ยูกิโตะ)
“ยูกิโตะ นี่นายทั้งน่ารักและอ่อนโยนเลยนะนี่ ใช่มั้ย?” (มิโอะ)
“ยูกิโตะคุง คุณนี่ช่างน่ารัก…..” (ทริสตี้)
ผมก็ไม่แน่ใจนะว่าพวกเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่จู่ๆ ทริสตี้ก็เข้ามาสัมผัสกับตัวผมตรงๆ แล้วในยุคนี้ก็เป็นยุคที่ใช้แอลกอฮอล์เป็นสิ่งฆ่าเชื้อกันอยู่ในทุกขณะ นี่คนที่มีสุขภาพจิตปกติประเภทไหนกันที่จะมาเต็มใจติดต่อและสัมผัสกับคนโดยตรงเนี่ย แต่ผมก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร และถูกปฏิบัติด้วยเหมือนกับเป็นสัตว์เลี้ยง นี่ผมเป็นหมากระเป๋าเหรอเนี่ย?
และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่ผมได้สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน ถ้าจะให้พูดออกมาเป็นคำพูดล่ะก็ คือผมนั้นน่ะหงุดหงิดมาก กับการที่มิโอะซังซึ่งเป็นคนให้กำลังใจผมไว้เยอะ นั่นก็เลยทำให้ผมไม่สามารถที่มองข้ามเรื่องนั้นไปได้ว่า เพราะพวกเธอนั้นถูกปฏิบัติเป็นอย่างนั้น และนอกจากนี้ การแข่งขันนัดซ้อมแบบนี้ก็ได้นำเอาอารมณ์อย่างหนึ่งของผมให้กลับคืนมา
ในตอนที่ตัวประกอบAและคนอื่นๆ ได้เริ่มเปลี่ยนวิธีมาเล่นแบบรุนแรง คนแรกที่ได้ตกเป็นเหยื่อก็คือรุ่นพี่ของผม ฮิมุระ ก่อนที่เขากำลังจะขึ้นยิง เสื้อของเขาก็ถูกดึงลงทำให้เขานั้นต้องได้ล้ม มันเป็นการฟาวล์ที่เห็นได้ชัดเจน แต่มันก็เป็นเพียงการซ้อมแข่งที่ไม่มีการตัดสินอย่างเป็นกลาง มันไม่มีอะไรที่จะสามารถทำได้ถ้าเส้นสีขาวไม่ถูกตัดไป มันเห็นได้ชัดว่า ตัวประกอบA นั้นจะกลับมาเล่นอย่างรุนแรงอีกครั้งแน่
แล้วผมก็โกรธ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่ผมนั้นได้ยอมแพ้ไปแล้วในช่วงโรงเรียนมัธยมต้น ผมก็ไม่คิดอะไรแล้วด้วย ในตอนนั้นผมก็แค่ใช้บาสเก็ตบอลเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น มันไม่ใช่เพื่อใครเลย แล้วผมก็ไม่ได้สนใจเพื่อนร่วมทีม หรือผลลัพธ์ของเกม หรืออะไรก็ตามด้วย
แต่แล้วตอนนี้ มันก็ไม่ใช่ว่าผมนั้นจะมีความปรารถนาหรือสนใจในกีฬาบาสเก็ตบอลอะไรหรอกนะ ผมก็แค่ต้องการจะเริ่มต้นใหม่เพราะอยากที่จะเปลี่ยนแปลง ผมอยากจะเอาสิ่งที่สูญเสียไปนั้นกลับคืนมาทีละอย่าง ซึ่งมันต่างจากตอนนั้น ที่ที่ผมจะไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว ที่จะต้องมาเล่นบาสเก็ตบอลอยู่เพียงคนเดียว
แล้วพอผมได้เห็นรุ่นพี่ฮิมุระลงไปนอนอยู่กับพื้น ก็ได้แต่คิดว่านี่พวกเขากำลังทำอะไรกันน่ะ ผมคิดไปถึงเหตุผลที่รุ่นพี่ต้องฝึกหนักมากขนาดนี้ มันก็คือเพื่อต้องการที่จะได้สารภาพความรู้สึกกับรุ่นพี่ทาคามิยะ แล้วถ้าหากรุ่นพี่คนนี้ได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถทำได้ล่ะ เหมือนกับที่ผมเคยเป็น และหากทำให้ต้องพ่ายแพ้ในทัวร์นาเมนต์เหมือนครั้งก่อนในตอนมัธยมต้นล่ะ ผมนั้นไม่อยากที่จะให้มันต้องมาเกิดขึ้นกับเขา
“ก็เพราะเหตุนั่นล่ะ ที่ว่าทำไมผมถึงได้ทำมันลงไป ช่วยอย่าเป็นกังวลไปเลยครับ” (ยูกิโตะ)
“มันจะไม่เป็นแบบนั้นหรอกนะ!” (มิโอะ)
“ยูกิโตะคุง เธอจะมาขอโทษพวกเราทำไมกันเนี่ย?” (ทริสตี้)
“โอ้ ก็เพราะเรื่องนี้มันดูมันกำลังจะจบลงอย่างเลวร้ายสำหรับผมน่ะสิ” (ยูกิโตะ)
คือผมน่ะรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้นะ ที่จู่ๆโทรศัพท์ของผมมันก็สั่นขึ้นมา และมันก็มาจากพี่สาวของผม นี่ผมกำลังถูกจับตามองอยู่รึเปล่าเนี่ย? สิทธิมนุษยชนของผมมันหายไปไหนแล้วล่ะเนี่ย……?
“ไม่เอาน่า ออกไปเที่ยวกับพวกเราอีกสักหน่อยสิ” (ทริสตี้)