เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ – ตอนที่ 39: การเผชิญหน้า

การเผชิญหน้า

 

ผมเคยได้ยินมาว่าชีวิตของคนบางคนสามารถจบลงได้เพียงแค่พวกเขานั้นทำโทรศัพท์หล่นหาย แต่ผมก็ขี้เกียจมากซะจนไม่สนใจจะมาดูหรอกนะว่ามันจะจริงหรือไม่ ก็เพราะผมไม่ค่อยได้ใช้มันบ่อยนัก และผมเองก็ไม่มีข้อมูลอะไรที่ต้องเก็บมากนักด้วย ไม่ก็สำคัญหรอกนะว่าจะมีใครมดูมันรึเปล่า – และนั่นมันก็ควรที่จะเป็นอย่างนั้นจนกระทั่งในตอนนี้

 

“คู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจที่สุดของฉันก็คือพี่สาวของตัวเอง…….” (ยูกิโตะ)

 

ตอนนี้ผมอยู่คนเดียวในห้องของผม พร้อมด้วยมือของผมที่กุมอยู่บนหัวของผมเอง นี่เรากำลังทำอะไรกันล่ะเนี่ย?

 

ผมนั้นเพิ่งจะกลับมาจากบ้านของอาจารย์ซันโจจิ แต่ผมก็ได้ทำมันลงไปแล้วด้วยสิ ก็เพราะว่าผมนั้นรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเอง ก็เลยได้บอกกับอาจารย์ซันโจจิไปว่าผมน่ะเห็นชุดชั้นในของเธอแล้วนะ และเรื่องมันก็ควรจะจบลงแค่ตรงนั้น แต่ว่าผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอน่ะคิดอะไรอยู่ แต่เธอก็ได้พูดออกมาว่า “ฉันขอโทษทีนะ ก็นายน่ะเป็นนักเรียนมัธยมปลายแล้วนี่ และถ้านายใส่ใจในเรื่องนั้น…… นายสามารถถ่ายรูปไปได้ แต่ว่าห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดเลยนะ!” นั่นล่ะที่เธอบอกกับผม ผมไม่เข้าใจเอาซะเลย ผมจะขอบอกอีกครั้งนะ ผมน่ะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอจะสื่อเอาซะเลย

 

ด้วยเหตุนี้ ภาพแบบนั้นจึงไม่ได้ถูกเก็บเอาไว้ในความทรงจำ แต่มันกลับอยู่ในหน่วยความจำของโทรศัพท์หรือที่เรียกว่าที่เก็บข้อมูล และในกรณีนี้ เนื่องจากมันเป็นภาพ แต่ว่านี่มันก็จำเป็นจะต้องมีการเก็บไว้ในฐานะภาพต้องห้าม ซึ่งผมคงจะไม่สามารถแสดงให้ใครเห็นได้ มันอันตรายเกินไป ถ้าหากว่ามีใครมาเห็นเข้า ผมคงจะต้องมีปัญหากับอาจารย์ซันโจจิแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในฐานะ DT แล้วผมเองก็ไม่สามารถที่จะทำสิ่งที่เลวร้าย อย่างการลบภาพนี้ออกไปได้……แล้วผมก็คิดนะว่าเป็นอาจารย์ซันโจจินั่นล่ะ ที่เป็นฝ่ายผิด ผมไม่ผิดนะ ใช่ไหม?

 

“วันนี้นายไปไหนมาน่ะ?” (ยูริ)

 

แล้วก็ดังเช่นเป็นปกติ มันไม่เคยมีความคิดในเรื่องการเคาะประตูก่อนกับพี่สาวของผม ที่ได้ตรงมาที่ห้องของผมหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ และคนเดียวที่สามารถแอบดูโทรศัพท์ของผมได้อย่างไร้ความปราณี นั่นก็คือคือพี่สาวของผม ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าจะซ่อนมันได้ยังไง..……. เหะ เดี๋ยวก๊อน! ขอเวลาาาาาาาาาาาาา แป๊บบบบบ!

 

“ทำไมถึงไม่ใส่กางเกงมาดีๆล่ะเนี่ย?” (ยูกิโตะ)

 

“ก็เพราะมันเป็นกางเกงนอกแล้วไง” (ยูริ)

 

“นี่พี่ดูจะเหลาะแหละกับเรื่องนั้นมากไปนะ! มันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมาขณะอยู่ในสภาพแบบนี้ซะหน่อย!” (ยูกิโตะ)

 

พอทีเถอะ ก็เธอน่ะสวมเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นกุดแบบเค้าชอบใส่ในช่วงกลางฤดูร้อน และเธอก็กำลังดื่มนมต่อได้อย่างคล่องแคล่ว นี่ตาของผมถึงกับส่ายวนไปทั่วทุกที่แล้วนะ และผมก็รู้ว่าผมคิดถูกแล้วเกี่ยวกับกางเกงน่ะ(Pant&Punch ในตอนที่แล้ว)! แล้วผมจะไปบ่นกับพวกชิโอริทีหลัง

 

“ก็ไม่ได้เป็นไรนี่ นายเองก็ชอบเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” (ยูริ)

 

“ขอทีครับ อย่ามาตัดสินใจด้วยตัวเองจะได้ไหม?” (ยูกิโตะ)

 

“แล้วนายมีสีโปรดไหมล่ะ? ฉันจะยอมใส่มันเพื่อนายเลยนะ” (ยูริ)

 

“ผมคิดว่าพี่กำลังใช้ความอ่อนโยนไปในทางที่ผิดแล้วนะ” (ยูกิโตะ)

 

“และผมว่าพี่เริ่มจะไม่อ่อนโยนแล้วล่ะ” (ยูกิโตะ)

 

“อะ-? นี่นายไม่ชอบหรอกเหรอ?” (ยูริ)

 

“ผมต้องชอบสิ” (ยูกิโตะ)

 

 แล้วนี่ทำไมผมถึงต้องตอบกลับเรื่องแบบนั้นออกไปกันด้วยเนี่ย? แต่สาบานได้นะว่านั่นมันเป็นกางเกงน่ะ

 

“แล้วนายไปไหนมาแต่เช้าล่ะ” (ยูริ)

 

“ผมไปบ้านอาจารย์ซันโจจิมา……” (ยูกิโตะ)

 

“อะไรกัน? นี่นายได้ถูกเรียกไปบ้านครูในวันหยุดหน้าร้อนงั้นเหรอ?” (ยูริ)

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ผมน่ะไม่ได้ถูกโมโหใส่หรอกนะ” (ยูกิโตะ)

 

“นั่นไม่ใช่ประเด็นนะ ฉันคงจะต้องขอฟังนายล่ะ บอกทุกอย่างมาให้ฉันรู้ที” (ยูริ)

 

ดูเหมือนพี่สาวของผมสนใจที่จะถามผมในทุกๆเรื่อง บางทีเธออาจจะกำลังพยายามชดเชยการที่เราไม่เคยได้พูดคุยกันมาก่อน และผมเองก็ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบัง ก็เลยตัดสินใจที่จะบอกเธอไปตามตรง

 

“อ้อ ฉันจำได้ สมัยอยู่ชั้นประถมมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น มันบังเอิญไปหน่อยนะที่เธอน่ะคือครูประจำชั้นของนายน่ะ” (ยูริ)

 

“มันก็นานมาแล้วและผมเองก็ลืมมันไปแล้วด้วย และเธอก็ได้ขอโทษสำหรับเรื่องนั้นแล้ว แต่ผมก็ต้องขอบคุณเธอนะ” (ยูกิโตะ)

 

“นายนี่ใจดีจัง” (ยูริ)

 

“ก็เธอได้บอกเรื่องให้ผมมากมายที่เกี่ยวกับอดีต ดังนั้นมันก็ออกจะคุ้มค่าน่ะ” (ยูกิโตะ)

 

“อืม.. แต่เดี๋ยวก่อนนะ… ฉันกำลังคิดถึงครูที่ฝึกงานคนนั้น…..” (ยูริ)

 

“มีอะไรติดใจงั้นหรือครับ?” (ยูกิโตะ)

 

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก แต่ฉันมั่นใจว่าเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อนสักแห่ง…..” (ยูริ)

 

 แล้วพี่สาวของผมก็ขมวดคิ้วด้วยความข้องใจ แต่ผมก็เดาว่าเธอคงจะนึกไม่ออก เพราะเห็นรีบยอมแพ้ไปอย่างรวดเร็ว

 

“ก็ช่างมันเถอะ นายจะไปน้ำพุร้อนด้วยกันใช่ไหมล่ะ? เยี่ยมมากเลย แล้วพวกเราควรไปว่ายน้ำด้วยกัน” (ยูริ)

 

“ผมน่ะมาได้ถึงขีดจำกัดในฤดูนี้แล้ว ดังนั้น…” (ยูกิโตะ)

 

“อะ-? จะไม่ไปด้วยกับฉันเหรอ?” (ยูริ)

 

“ผมจะขอไปด้วย” (ยูกิโตะ)

 

“นายวางใจได้เลยล่ะ” (ยูริ)

 

“ครับ” (ยูกิโตะ)

 

ผมนั้นก็แค่รู้สึกประหลาดใจที่ตำแหน่งของผมในครอบครัวนั้นมันช่างต่ำต้อยเพียงใดก็เท่านั้น

 

———————————————————

 

 

[มุมมองของแม่]

 

(ฉันเคยตัวจากการทำงานที่บ้านซะแล้วสิ เลยรู้สึกขี้เกียจที่จะต้องออกไปทำงานแบบนี้……)

 

เหตุผลที่ฉันรู้สึกขี้เกียจมากซะจนมันแสดงออกที่หน้าเป็นบางครั้งแบบนี้ ก็คงอาจเป็นเพราะฉันนั้นสบายเกินไปจากการอยู่ที่บ้าน และการออกไปแบบนี้มันก็ต้องแต่งหน้าด้วย แล้วฉันถอนหายใจออกมาอย่างลับๆเมื่อเสร็จงาน ยังคงมีอีกหลายสิ่งที่ฉันต้องทำทันทีที่มาถึงสำนักงาน เช่น การตรวจสอบเอกสารที่สามารถทำได้ที่สำนักงานเท่านั้น และรวมถึงการเข้าประชุมสามัญ มันจึงเป็นการยากที่จะปิดงานทั้งหมดนี้ได้ แต่กับตัวงานเองนั้นก็รู้สึกได้ว่ามันคุ้มค่าและสนุกมาก

 

“เราออกไปทานอาหารเย็นด้วยกันไหมครับ” (???)

 

ฉันได้รับการปฏิสัมพันธ์จากเพื่อนร่วมงานในระหว่างกำลังเดินทางกลับบ้าน ไม่จำเป็นต้องเช็คเลยว่าใคร และนี่ก็เป็นบุคคลที่ได้ติดต่อฉันมาแล้วสามครั้ง ที่ชวนฉันออกไปในวันนี้ ฉันปฏิเสธมันทั้งหมดเพราะอยากจะกลับบ้านให้เร็ว และเมื่อหันหลังกลับพบว่ามี เป็นใครบางคนจากแผนกอื่นที่ชอบเรียกฉันทุกครั้งที่มาทำงาน

 

“ต้องขอตัวนะคะ ลูกๆของฉันน่ะอยู่บ้านช่วงปิดเทอมหน้าร้อน ฉันต้องกลับบ้านไปทำกับข้าวให้พวกเขาน่ะค่ะ” (แม่)

 

ถึงแม้ว่าฉันจะหย่าร้างไป แต่ฉันยังคงเป็นแม่ของลูกสองคนนะ แล้วชายคนนั้นก็ยังคงพูดต่อไปโดยไม่สนใจความรู้สึกของฉัน

 

“ผมคิดว่าพวกเขาก็เป็นนักเรียนมัธยมปลายแล้วนะ และกับคุณแล้ว ด้วยอายุเท่านี้ คุณจะไม่คิดว่ามันโอเคบ้างเหรอ ที่จะฝากให้พวกเขาดูแลตัวเองไป โดยไม่มารบกวนมากเกินไปน่ะ? ผมแน่ใจว่าพวกเขาสามารถจัดการเรื่องอาหารของตัวเองได้แล้วนะ” (???)

 

“พอดีฉันบอกพวกเขาไปแล้วว่าวันนี้ฉันจะกลับบ้านน่ะ” (แม่)

 

“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ก็เราเจอกันแล้วนี่นา คุณจะพูดอะไรแบบนั้น? ผมน่ะรู้จักร้านอาหารอิตาเลียนดีๆอยู่นะ นานๆทีก็ลืมพวกลูกๆและไปมีเวลาของผู้ใหญ่บ้าง—–” (???)

 

“ช่วยกรุณาอย่าพูดอะไรอีกเลยนะคะ และขอให้เป็นวันที่ดีค่ะ” (แม่)

 

“โอ้ ผมขอโทษ! แล้วเจอกันใหม่นะ” (???)

 

“ฉันคงไม่คิดอย่างนั้นหรอกค่ะ” (แม่)

 

ฉันกำลังจะอารมณ์เสียและอยากจะตะโกนใส่เขา แต่ฉันก็ระงับตัวเองไว้ได้อย่างหวุดหวิด ฉันรู้สึกอึดอัดอย่างไม่น่าเชื่อ และราวกับเพื่อที่จะสลัดเอาความรู้สึกไม่สบายใจนี้ออกไป ฉันจึงเดินกลับบ้านอย่างเร็วขึ้นกว่าปกติ นี่เขาช่างไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวฉันบ้างเลย ให้ลืมพวกเด็กๆเรอะ? อย่ามางี่เง่าไปหน่อยเลย พวกเขาน่ะมีความหมายกับฉันมากกว่าสิ่งอื่นใดเลยนะ ฉันกำลังหงุดหงิดมาก นี่ฉันควรจะกลับบ้านและขอให้ลูกชายมาปลอบฉัน เพราะพวกเรานั้นคุยกันบ่อยขึ้นมาแล้วในช่วงนี้ ก็เท่านั้นแหล่ะที่ทำให้ฉันถึงจะมีความสุขและสมหวัง

 

หลังจากช้อปปิ้งแบบด่วนๆ ฉันก็ได้กลับบ้านต่อและก็เห็นลูกชายอยู่ที่หน้าทางเข้าอพาร์ตเมนต์ของเรา เขาสวมเสื้อเจอร์ซีย์(เสื้อออกำลังกาย)อยู่ เขาคงจะต้องกลับบ้านหลังจากการวิ่งแน่ แล้วฉันก็สงสัยกับตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งในวันนี้ฉันนั้นก็ต้องรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างประหลาด เพราะสิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับฉันมาก่อน มันอาจจะเป็นเพราะฉันเปลี่ยนวิธีในการเผชิญกับสิ่งต่างๆ หรือมันอาจเป็นเพราะลูกชายของฉันนั้นเริ่มที่จะเข้าหาฉัน ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอันไหนกันแน่ แต่ก็คงเป็นเพราะอย่างใดอย่างหนึ่งนั่นล่ะ และเมื่อฉันกำลังจะเดินไปหาลูกชาย ฉันก็เห็นเขากำลังคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วพวกเขาก็ออกเดินไปพร้อมกัน

 

“ไม่มีทาง….ทำไม? ผู้ชายคนนั้น……?” (แม่)

 

————————————————————-

 

 

เนื่องจากว่ามันเป็นฤดูร้อน ในชั่วโมงนี้มันก็ยังจึงสว่างอยู่ อุณหภูมินั้นก็แทบจะไม่ลดลง และเหงื่อก็ยังคงไหลออกจากตัวผม และในระหว่างทางกลับบ้านหลังจากวิ่งเสร็จเป็นประจำในแต่ละวัน ก็ได้มีชายแปลกหน้าคนนึงเข้ามาหาผมที่ทางเข้า

 

“ขอโทษนะ คุณรู้ไหมว่าโคโคโนเอะอาศัยอยู่ที่ไหนน่ะ” (ชายแปลกหน้า)

 

“คุณเป็นคนน่าสงสัยงั้นสินะ?” (ยูกิโตะ)

 

“ถ้าหากฉันเป็น ฉันจะไม่มายืนอยู่ตรงนี้อย่างเปิดเผยหรอกนะ! ฉันน่ะรู้จักกับซากุระฮานะ โคโคโนเอะ นะ” (ชายแปลกหน้า)

 

“และนั่นก็คือสิ่งที่พวกคนที่น่าสงสัยทุกคนชอบพูดกันนะ” (ยูกิโตะ)

 

“ถึงคุณจะพูดอย่างนั้น……. แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันบอกว่าฉันเป็นคนน่าสงสัยล่ะ” (ชายแปลกหน้า)

 

“อืม ผมก็จะแจ้งตำรวจไง” (ยูกิโตะ)

 

“นี่คุณทำอย่างนั้นไม่ได้นะ!” (ชายแปลกหน้า)

 

ผมเฝ้ามองชายคนนั้นอย่างจริงจัง เขาเองนั้นดูไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง สิ่งสำคัญก็คือจะต้องรู้ว่าเค้านั้นรู้จักกับแม่แบบไหน มันไม่ควรรีบพาคนแบบเขานั้นที่มาที่บ้านของคุณ คุณจะต้องคอยระวังให้ดี แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากเป็นคนรู้จักที่ใกล้ชิดกัน มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่พวกเขานั้นไม่รู้ว่าคุณน่ะอาศัยอยู่ที่ไหน และสุดท้ายเขานั้นเป็นคนที่ดูไม่น่าเชื่อถือ และสมควรแก่การระมัดระวังอย่างแน่นอน

 

“ซากุระฮานะ โคโคโนเอะเป็นแม่ของผมน่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?” (ยูกิโตะ)

 

ถ้านี่เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถบอกฉันได้ที่นี่ ก็ไม่จำเป็นจะต้องจัดการกับมัน และนอกจากนี้ผมยังแอบกดปุ่มบันทึกเสียงบนโทรศัพท์ของผมด้วย แล้วเดี๋ยวผมไปจะขอให้แม่ช่วยตรวจสอบทีหลังเอง

 

“…… นั่นเป็นนายเองเหรอ? โอ้ นายคือยูกิโตะ! ฮ่าฮ่า ช่างได้จังหวะดีจริงๆ! เพราะวันนี้ฉันมาหานายน่ะ” (ชายแปลกหน้า)

 

“ครับ?” (ยูกิโตะ)

 

ตาลุงคนนี้กำลังพูดถึงอะไรน่ะ? ผมเป็นคนเก็บตัวและไม่ค่อยมีใครรู้จักมากมายนักนะ  แม้กระทั่งพวกคนอายุพอๆกับผมก็ตาม และผมเองก็ไม่เคยเจอตาลุงอย่างเขามาก่อนเลย ซึ่งก็ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน จู่ๆเขาก็ดูจะเป็นมิตรกับผมมาก นี่มันน่าขนลุกนะ และพอผมเห็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุขที่เขาส่งมาให้ ตาลุงก็ได้เสนอสิ่งที่คาดไม่ถึงออกมา

 

“ฉันชื่อ ชิอุน มิกุโมะ ฉันน่ะเป็นพ่อของนายนะ นายอยากที่จะมาอยู่กับฉันไหม?” (ชิอุน)

 

เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ

เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย เหล่าผู้หญิงที่ทำให้ผมช้ำชอกใจต่างก็จับจ้องมาที่ผม แต่ผมเกรงว่ามันน่าจะสายไปแล้วล่ะผมไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงอยากจะมาบอกกับผมในเรื่องนี้ บางทีเธอคงจะคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของเพื่อนสมัยเด็กละนะ แล้วผมก็อ่านความคิดของอื่นไม่ได้ซะด้วยสิ ในทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้นของเธอมันก็ได้ทำร้ายผมไปมากกว่าสิ่งที่เคยผ่านมาทั้งหมดเสียอีก ผมจำไม่ได้นะว่าพวกเราเคยไปสัญญาว่าจะแต่งงานอะไรกันไว้รึเปล่า ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นให้เห็นได้บ่อยๆกับหลายๆคนที่เป็นเพื่อนสมัยเด็ก แต่ยังไงเธอนั้นก็พิเศษสำหรับผม เธอคงมีเหตุผลนั่นแหล่ะ แล้วผมก็ถูกผลักให้ตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของผมเลย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset