เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 30 ตอนสั้นพิเศษ

“ ถ้างั้นก็ มาเริ่มต้นฝึกเพื่อให้ได้มาซึ่ง <<ครอสเคาน์เตอร์>> กันตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่ามะ ”

“ ครับ! ”

 

ผ่านมาได้ซักระยะแล้วหลังจากที่ผมถูกเหล่าอาจารย์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในโลกเก็บมาเลี้ยงดู การฝึกวิชาเองก็เริ่มดำเนินไปได้สวยเช่นกัน

ตัวผมที่หันมามุ่งมั่นกับการไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งเอ็กตร้าสกิลเพื่อใช้ในการสอบชิงสิทธิ พลันส่งเสียงตอบรับแก่คุณลีโอเน่อย่างชัดถ้อยชัดคำ

แค่มีสกิลปรากฎขึ้นมาเยอะแยะผมก็ดีใจจนตัวแทบลอยแล้ว ถ้าเป็นการฝึกให้ได้มาซึ่งเอ็กตร้าสกิลนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่มีทางที่จะไม่ตื่นเต้นแอคทีฟหรอก

และแล้วคุณลีโอเน่ก็กล่าวขึ้นกับผมที่ทำแววตาเป็นประกาย

 

“ จะใช้จริงให้ดูก่อนก็แล้วกันนะ ลองฟาดดาบเข้ามาใส่ฉันซักเปรี้ยงนึงสิ ”

“ ขะ ครับ! ——ย่า! ”

 

ผมจับดาบสั้นพุ่งเข้าสะบั้นฟาดฟันใส่คุณลีโอเน่ตามที่เค้าบอก

และในฉับพลันให้หลัง

วู่มม!

 

“ ฮึก!? ”

 

พริบตานั้น ไม่อาจเข้าใจได้เลยด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ในทันทีที่เห็นเหมือนว่าคุณลีโอเน่หายวับไปจากจุดที่ฟาดฟันเข้าใส่ ร่างกายนั่นก็พลันพุ่งเฉียดดาบสั้นทะลวงลึกและล้ำเข้ามายังสีข้างของผมทันตา

และดาบสำหรับใช้ในการฝึกของคุณลีโอเน่ก็ถูกจ่อตรงเข้ามาใส่คอหอยของผม

แน่นอนว่าดาบถูกหยุดเอาไว้ก่อนที่จะโดนจริงๆ แต่เพลงดาบอันแสบเฉียบคมนั่นมันก็ก่อให้เกิดสายลมอันรุนแรงเป่าเส้นผมบนหัวยุ่งเหยิงหมด มะ มันอะไรกันน่ะเจ้าอานุภาพนี่……

 

“ เอ้อก็ ประมาณเนี้ยแหละ ถลำเข้าไปให้จังหวะตรงกับการโจมตีของอีกฝั่ง แล้วพอเอี้ยวตัวหลบได้ก็สวนการโจมตีฟาดเข้าไปใส่ อีกฝั่งมันจะโดนการสวนกลับที่ซึมซับเอาอานุภาพการโจมตีของตัวเองมาเสริมทับเข้าร่วมไปด้วย อัดเข้ากลางตัวไปเต็มๆในสภาวะแบบทีเผลอเลย ฉะนั้นมั่นใจชัวร์ได้เลยว่าสร้างความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน ”

 

คุณลีโอเน่อธิบายให้ฟังไปพลาง แสดงวิถีการเคลื่อนไหวที่ใช้เอี้ยวตัวหลบหลีกจากการโจมตีของผมให้เห็นอีกครั้งไปด้วย

 

“ กว่าจะเรียนสกิลนี้ได้ มันต้องใช้ <<หลบหลีกฉุกเฉิน>> หลบการโจมตีแล้วฟาดสกิลโจมตีระยะประชิดอะไรก็ได้ออกมาเป็นการสวนกลับ….เนี่ยต้องทำท่วงท่าแบบนี้ซ้ำๆไปซักประมาณหลายร้อยครั้งเลยนั่นแหละ แต่การกะจังหวะนี่มันค่อนข้างยากพอสมควรเลย แถมยังต้องมีประสบการณ์หลบหลีกการโจมตีหลายๆแพทเทิร์นด้วยอีกตะหาก ว่ากันง่ายๆก็คือมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างฝึกเพื่อให้ได้มาสูงพอตัวเลยนั่นแหละ ระดับที่เค้าพูดกันว่าเป็น [สกิลเฉพาะของคนรวย] ที่ต้องมีไอเท็มไม่ก็สกิลฟื้นฟูติดตัวตลอดเวลาเลยอะนะกว่าจะฝึกจนใช้ได้ ”

 

ระหว่างที่พูดไปนั่นคุณลีโอเน่ก็ยิ้มเยาะออกมาอย่างดุดันด้วย

 

“ แต่ก็แหละน้า ถึงจะเป็นพวกท่านๆคนรวยที่มีปัญญาสามารถฝึกได้สบายก็เหอะ แต่เพราะขั้นตอนการฝึกเพื่อให้ได้มามันโคตรจะโหดบรรลัยเลยนี่แหละ เลยมีแค่ไอ้พวกที่ใจกล้าบ้าบิ่นเพียงหยิบมือเท่านั้นถึงจะใช้สกิลนี้ได้ ก็ต้องบากหน้าพุ่งเข้าไปหาการโจมตีเองเลยนี่นะ ถ้าพลาดขึ้นมาก็เจ็บพอควรเลยเหมือนกันแหละ ”

“ ……..ขึก ”

 

คำพูดนั่นทำเอาผมถึงกับลืมหายใจ

ตลอดจนถึงตอนนี้มีแต่การฝึกสบายๆเต็มไปหมดเลยก็จริง แต่การฝึกเพื่อให้ได้มาซึ่งเอ็กตร้าสกิลนี่มันคงไม่ง่ายแบบนั้นแล้วสินะ

การฝึกสุดโหดของเหล่านักผจญภัยระดับ S ที่ผมวาดฝันจินตนาการเอาไว้นั่นมันกำลังจะเริ่มต้นขึ้นหลังจากนี้แล้ว—–เป็นในจังหวะที่ผมกำลังเตรียมตัวเตรียมใจอยู่นั่นเลย

 

“ เป็นตรงนี้แหละ เฮ้ยเทโลเมียร์ ”

“ จ้~า ถึงคราวออกโรงของฉันแล้วสิน้าา นี่แน่ะ สกิล <<ลดทอนความเจ็บปวด>> ”

“ เอ๊ะ? ”

 

คุณเทโลเมียร์ที่เฝ้ามองดูการอธิบายของคุณลีโอเน่มาตลอดจนถึงเมื่อครู่ พลันร่ายสกิลอะไรบางอย่างเข้าใส่ผม

และในฉับพลันเดียวกันนั้น มืออันเรียบเนียนของคุณเทโลเมียร์เค้าก็ทำการหยิกแขนของผมไปด้วยในตัว ทว่า

 

“ อะ อ้าว!? ไม่เจ็บเลย!? ”

 

สัมผัสได้ว่ากำลังถูกแตะตัวอยู่ แล้วก็รู้ด้วยว่าคุณเทโลเมียร์เค้าใส่แรงหยิก แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้ซักนิดเดียว

 

“ เท่านี้ต่อให้เล็งจังหวะเคาน์เตอร์พลาดอย่างจัง ก็จะไม่ค่อยเจ็บมากมายเท่าไหร่แล้ว ต่อให้บาดเจ็บสาหัสขึ้นมาแต่ถ้ามีนังเทโลเมียร์อยู่ก็รักษาให้หายขาดได้ในทันทีเลย แบบนี้ก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกเข็ดขยาดเกลียดการฝึกด้วย ทุ่มแรงฝึกฝนได้เต็มที่เต็มกำลังแน่ๆล่ะ ”

 

คุณลีโอเน่แสยะยิ้มอย่างดุดันอีกครา

เอะ เอ๋……มันได้ด้วยเหรอครับเนี่ยแบบนี้

 

“ เอ้อแต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก ไม่ได้ปิดกั้นความเจ็บปวดโดยสมบูรณ์ซะหน่อย ฉะนั้นก็ยังจะสัมผัสถึงความเจ็บปวดได้อยู่ดีแหละแค่ลดหลั่นลงมาสุดๆเท่านั้นเอง และฉันก็จะใช้สกิล <<กดดัน>> อัดเข้าใส่แกให้แรงมากยิ่งกว่าตอนสู้ประลองฝีมือกันด้วย ——นี่มันคือการฝึกเพื่อให้มองวิเคราะห์การโจมตีของศัตรูได้โดยไม่พ่ายแพ้แก่ความหวาดกลัวที่จะถูกฟาดเข้าใส่ไง ทำแบบนี้แล้วก็ไม่ได้ก่อให้เกิดผลเสียใดๆเลยซักนิด แถมไอ้การฝึกที่ยิ่งทำยิ่งเจ็บโดยใช่เหตุเนี่ยอะนะ ไว้ค่อยทำกันหลังจากที่ได้ <<ครอสเคาน์เตอร์>> มาแล้วก็ยังไม่สาย ”

 

คุณลีโอเน่กล่าวขึ้นราวกับเป็นการปัดเป่าความงงงวยของผม ก่อนจะ

 

“ เอ้อ เอาเป็นว่าลองดูก่อนเหอะ การฝึกเนี่ยยิ่งสนุกมันก็ยิ่งดีนะ ”

“ ขะ ครับ! ขอฝากตัวด้วยนะครับ! ”

 

ตัวผมที่ราวกับถูกดึงดูดโดยรอยยิ้มอันดิบเถื่อนของคุณลีโอเน่ พลันเริ่มต้นการฝึกพร้อมกับรู้สึกตื่นเต้นนิดๆไปด้วยทันที

และแล้วผมก็พุ่งทะยานตรงเข้าใส่การโจมตีของคุณลีโอเน่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

ช่วงแรกๆเป็นการโจมตีที่แม้แต่ตาผมก็ยังมองตามทัน จากนั้นจึงค่อยๆเพิ่มความเร็วมากขึ้นๆ และผมที่หลบหลีกมันไปเรื่อยๆก็ทดลองใช้สกิลโจมตีสวนกลับดู สำเร็จหลายครั้งอยู่ แต่มีที่ล้มเหลวหลายครั้งมากยิ่งกว่าเป็นสิบเท่าตัว ทว่า การฟาดฟันเหวี่ยงดาบอันไร้ที่สิ้นสุดซึ่งมีความเสี่ยงเพียงแค่ความเจ็บปวดในระดับพอดิบพอดีนั่น มันก็ชวนให้รู้สึกดีเหมือนกับทุกครั้งที่ประลองฝีมืออยู่กับคุณลีโอเน่เลย เพลิดเพลินราวกับกำลังดื่มด่ำร้องเล่นไปกับการเต้นรำเลยยังไงยังงั้น……..แม้ทั่วทั้งตัวจะแปดเปื้อนดินโคลนไปหมด แม้จะต้องหยุดรับเวทฟื้นฟูเป็นกี่สิบครั้ง แต่ผมก็หยุดตัวเองไม่อยู่เลย มันสนุกมากเกินไป

ทำการฝึกฝนเคาน์เตอร์ที่ตามเดิมแล้วเป็นอะไรที่อันตรายสุดขั้วแบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปหลายวัน และแล้วในที่สุด——

 

“ ………ฮึก! คุณลีโอเน่ครับ เมื่อกี้นี้มัน!? ”

 

ตัวผมซึ่งเป็น <<ไร้อาชีพ>> อันถือเป็นคลาสที่โคตรกากโคตรกระจอกที่สุด….ก็ได้รับเอ็กตร้าสกิลอันแสนทรงพลังนั่นมาครอง

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ยกาลครั้งนึงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อไหร่ ได้มีวีรสตรี 3 คนที่ถูกกล่าวขานล่ำลือกันว่าเป็นตัวตนผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในโลกอยู่ครับ ความแข็งแกร่งของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเหนือมนุษย์เลยเชียว คนนึงสามารถต่อยขุนเขาให้แหลกกระจุยได้ด้วยหมัดเปล่า คนนึงสามารถเป่าร่างของพลทหารนับหมื่นนายให้ลอยปลิวหายไปได้ด้วยการโจมตีจากเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงพิลึกพิลั่นที่เอาเวทฟื้นฟูกับเวทสนับสนุนมาใช้ฆ่าคนได้ เลยกลายเป็นตัวตนที่ถูกหวาดกลัวไปตามระเบียบ แค่เพียงคนเดียวก็โหดพอจะทำให้ประเทศหนึ่งถึงการล่มสลายได้อย่างง่ายดายแล้ว ยิ่งถ้าเหล่าวีรสตรี 3 คนนั้นมาสุมหัวรวมตัวไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วนี่คงอาจต้องเรียกว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้ การหวนคืนชีพของเทพมาร หรือในบางพื้นที่ก็อาจจะระบุตัวตนของพวกเธอเป็นเทพผู้ชั่วร้ายกันเลยก็เป็นได้…..หากอาศัยใช้งานความแข็งแกร่งนั่นซะอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรก็คงบันดาลให้เป็นดั่งที่ใจพวกเธอต้องการได้เกือบทั้งหมดเลยกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสิ่งที่แม้แต่สามคนนั้นเอง ก็ยังไม่อาจได้มาครอบครองอยู่ครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset