นักเรียนทุกคนมองไปที่ที่ปรึกษาของพวกเขา มิสเตอร์จาค็อบส์เขาเหมือนเป็นคนบ้า
เพราะตามปกติแล้ววันนี้ควรที่จะให้นักเรียนแนะนำตัวเพื่อให้นักเรียนรู้จักกัน และสร้างสายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพที่ไม่มีวันจบสิ้นไม่ใช่หรอ?
พวกเขาไม่ได้แนะนำตัวกันในชั้นเรียนด้วยซ้ำ!
แล้วทำไมพวกเขาถึงได้เข้าสู่คลาสการประลองตั้งแต่วันแรกเลยละ? สิ่งนี้จะทำให้ได้รับ ‘ประสบการณ์ที่เข้มข้น’ ไปอีกระดับงั้นหรอ
“รออะไรอยู่!? ห๊ะ!?”
เมื่อเห็นว่านักเรียนของเขาไม่ได้ขยับตัว และมองหน้ากัน มิสเตอร์จาค็อบส์กระแทกกำปั้นของเขาลงบนกระดานทำให้มันแตกเป็นเสี่ยง ๆ
สิ่งนี้ทำให้นักเรียนสะดุ้งทันที ขณะที่พวกเขาทุกคนลุกขึ้นยืนในเวลาเดียวกัน
แต่ก่อนที่พวกเด็กๆจะลุกจากที่นั่งน้ำเสียงที่หนักแน่นของมิสเตอร์จาคอบส์ก็ดังก้องไปทั่วห้องเรียน
“ถ้าพวกแกสามารถทำตัวให้เป็นที่ต้องการได้… ”
เขากล่าวว่า
“ที่ลานประลองจะมีนักสำรวจ 4 คนที่จะดูการแข่งขันครั้งนี้!”
“!!!”
ทันทีที่นักเรียนได้ยินสิ่งนี้ใบหน้าแห่งความลังเลก่อนหน้าของพวกเขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกเขาทั้งหมดรีบออกไปนอกห้องเรียนเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบ
มีนักเรียนเพียงคนเดียวที่ไม่ขยับเขยื้อนจากที่นั่งของเธอ และเพิ่งกลับไปนอนนักเรียนหญิงที่นั่งข้างๆแวนส์
“อืม…ขอโทษนะ?”
แวนส์กระซิบ ขณะที่เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้นักเรียนหญิงเล็กน้อย
“ครูคนนั้นจะเห็นเธอนอนได้นะ ถ้าเธอยังอยู่ตรงนี้…”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบมิสเตอร์จาค็อบส์ก็เริ่มเดินเข้าไปหาพวกเขา
“โอ้..ไม่นะ!”
คำพูดของแวนส์เริ่มดังขึ้น เมื่อเขาเรียกนักเรียนหญิงที่กำลังหลับอยู่
“เขากำลังมาแล้ว รีบตื่นเร็ว!”
เมื่อเสียงของแวนส์ดังขึ้นนักเรียนหญิงก็ค่อยๆเงยหน้าของเธอขึ้นมามองเขา
มิสเตอร์จาค็อบส์มีสีหน้าโกรธเคือง ขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้ทั้งสองคน แต่เมื่อเห็นใบหน้าของนักเรียนหญิงเขาก็รีบกระแอม และมองไปทางอื่นทันที แวนส์ค่อนข้างคุ้นเคยกับการแสดงออกของมิสเตอร์จาค็อบส์ นั่นคือความกลัว
“ไปกันเถอะ ปล่อยเธอไว้ตรงนั้นแหละ!”
มิสเตอร์จาค็อบส์พูดอย่างเชื่องช้า ขณะกวักมือเรียกให้แวนส์ออกจากห้อง
“…ทำไมละ”
แวนส์รู้สึกแปลกๆในตอนแรก ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เขาเหลือบไปมองนักเรียนหญิงคนนั้นเป็นครั้งสุดท้ายซึ่งนักเรียนหญิงยังคงมองมาที่เขา แวนส์ทำได้เพียงก้มหน้าอย่างเชื่องช้า ขณะโบกมืออำลานักเรียนหญิง
ฮาร์วีย์ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อเรียกความสนใจของแวนส์ ซึ่งดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามหาพวกเขา
“อ๊ะพวกนาย!”
แวนส์วิ่งเข้าหาทั้งสองคน
“แวนส์ ทำไมนายใช้เวลานานขนาดนี้!?”
“อาจารย์ที่ปรึกษาดุนายรึเปล่า?”
“เปล่ามัน…ไม่มีอะไร”
เขาพูดขณะที่ส่ายหัว
แวนส์ไม่พูดถึงนักเรียนหญิงคนนั้น เพราะเขาไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร เขาคิดว่าสถาบันนี้…แปลกจริงๆ
นักเรียนตีคนที่อ่อนแอ คนธรรมดาส่งเสริมความรุนแรง และตอนนี้ครูคนหนึ่งกำลังกลัวนักเรียน
นั่นคือสิ่งที่เขาต้องเรียนรู้…เพื่อให้เขาอยู่รอดในโลกของผู้ควบคุมระบบ และนักสำรวจ
พวกเขาทั้งหมดมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่สิ่งเดียวนั่นคือความแข็งแกร่ง
เพื่อที่จะอยู่รอดและเป็นเลิศในโลกใหม่ที่เขาก้าวเข้ามา เขาต้องการความแข็งแกร่ง นี่เป็นการแก้ไขปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของแวนส์ เงินและความแข็งแกร่งนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ
“…แวนส์?”
เบียทริซตบไหล่แวนส์
“นายโอเคไหม?”
“หืม…โอเค?”
แวนส์ตื่นขึ้นจากความคิดของเขาอย่างรวดเร็วขณะที่เขาได้ยินเสียงของเบียทริซ
“นายหลงอยู่ในโลกของตัวเองอีกแล้ว”
เบียทริซพูดขณะที่เธอหัวเราะเบาๆ
“…ขอโทษ”
แวนส์พูดติดอ่างขณะที่เขาเกาหัว
“เห้อ ทำไมนายต้องขอโทษด้วย”
ฮาร์วีย์ตีเขาเบาๆที่ท้อง
“นายไม่ควรขอโทษกอริลล่า!”
“นายพูดอะไรน่ะ!?”
“นี่! ไม่แตกแถว!”
แวนส์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆในขณะที่เขาเฝ้าดูเพื่อนใหม่สองคนของเขาถูกที่ปรึกษาตำหนิ
***
“โอ้นี่เป็นครั้งแรกที่สมาคมส่งเธอมาดูการแข่งขันที่ไร้สาระของจาค็อบส์และหลางงั้นหรอ?”
ในสนามฝึกซ้อมขนาดมหึมาแห่งหนึ่งของสถาบัน ชายคนหนึ่งที่เสยผมอย่างเรียบร้อยเดินเข้าไปหาผู้หญิงที่กำลังนั่งเฉยๆอยู่ด้านข้างของสนาม
ผู้หญิงที่นั่งอยู่เมื่อเห็นชายคนนั้นเดินมาหาเธอ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ขณะที่เธอกอดอกและหันกลับไปมองที่สนามอันว่างเปล่า
“เธอกำลังเมินฉันหรอ ซาร่าห์”
ชายคนนั้นพูดขณะที่เขานั่งลงข้างเธออย่างแรง และวางแขนของเขาไว้บนไหล่ของซาร่าห์
“เอามือออก ไม่งั้นฉันจะตัดมันทิ้งซะ”
ผู้หญิงคนนี้คือซาร่าห์สมาชิกของสมาคมนักสำรวจที่ช่วยแวนส์เข้าสถาบัน และเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเขาฆ่าพ่อของเขาเอง
“โอ้…ฮ่าๆ เธอยังเย็นชาเหมือนเคยเลยนะ”
ชายคนนั้นยกมือขึ้น และจับผมของเขาอย่างสนุกสนาน จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างจริงจังในขณะที่เขามองไปที่สนามที่ว่างเปล่า
“งั้น…เธอจะบอกฉันได้ไหมว่านักเรียนคนไหนที่เธอกำลังจับตามองอยู่ หื้ม?”
“มันไม่ใช่ธุระอะไรของนายเบลลิก”
ซาร่าห์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะที่เธอลุกขึ้นยืน เบลลิกเฝ้าดูเธอเดินจากไปและไปนั่งที่อื่น
“อืม…”
เบลลิคดึงผมที่หลุดแล้วไปไว้ด้านหลัง
“…นี่เริ่มน่าสนใจแล้วสิ”
เขาพึมพำขณะมองดูนักเรียนที่เข้ามาในสนามอย่างช้าๆ
แม้ว่าเขาจะเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการแข่งขันที่ไร้สาระ เนื่องจากนักศึกษาส่วนใหญ่ที่นี่ยังควบคุมระบบของพวกเขาไม่ได้ แต่นี่ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขาที่จะได้เห็นว่าใครมีศักยภาพหรือไม่
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เขากำลังสอดแนมนักสำรวจในอนาคตสำหรับกิลด์ของเขา
***
“นี่มัน…ใหญ่เกินไป”
แวนส์อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัวขณะที่เขามองไปรอบๆ สนามที่มีหลังคาคลุมขนาดใหญ่ เขาอาศัยอยู่ในสุสานของเก่าซึ่งเป็นสลัมมาตลอดชีวิต สนามที่เขากำลังยืนอยู่นี้ใหญ่และหรูหรากว่าสถานที่ที่เขาเคยอยู่เป็นอย่างมาก
“เราต้องมาทำอะไรที่นี่”
“อ๊าก…เรามีโอกาสที่จะแสดงพลังของเราแล้ว มันจะมีความหมายมากเลย ถ้าเราชนะได้”
“จะดีกว่า ถ้านายนั่งอยู่ตรงนี้นะเด็กน้อย อย่าทำให้ชั้นต้องอับอาย!”
“นายแน่ใจว่านายอยู่ในชั้นเรียนที่เหมาะสมนะเด็กน้อย!?”
“เห้อ…ทำไมถึงมีคนบ้านนอกในสถาบันด้วย”
เมื่อเห็นการแสดงความกลัวของแวนส์ นักเรียนในชั้นเรียนอื่นๆ ก็เริ่มเยาะเย้ยและดูถูกเขา
“นายหมายถึงใคร!?”
เบียทริซโบกมือของเธอ ขณะที่เธอมองไปที่นักเรียนที่ล้อเลียนแวนส์
“ฉัน…ไม่เป็นไรเบียทริซ!”
แวนส์ทำให้เบียทริซสงบลงอย่างรวดเร็ว
“… ฉันไม่เป็นไรจริงๆ”
“ฉันว่าพวกนายหุบปากดีกว่าไม่งั้นกอริลล่าจะกินนายนะ!”
ฮาร์วีย์พูดในขณะที่เขาชูกำปั้นไปยังนักเรียนที่มาจากอีกชั้นเรียนหนึ่ง จากนั้นเขาก็จับไหล่ของแวนส์
“เอาคางของนายขึ้น เมื่อนายเป็นแบบนั้นมันจะทำให้ขวัญกำลังใจของทั้งชั้นเรียนเสีย! ทำตัวก้าวร้าวให้มากขึ้นหน่อย!”
“โอ…โอเค”
เมื่อได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์เขาหายใจเข้าลึกๆขณะที่เขาเอียงคางขึ้นเล็กน้อย
‘ชีวิตใหม่…นี่คือชีวิตใหม่ของฉัน’ แวนส์ย้ำคำพูดในใจว่า ‘จงก้าวร้าว…ก้าวร้าวมากขึ้น’
และหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ปล่อยลมหายใจ และมองไปที่อีกชั้นเรียนหนึ่ง คิ้วของเขาขมวดลง
“ฉันจะฆ่านาย ไอ้พวกบ้า!”
เขาพูดในขณะที่เขายกนิ้วกลางทั้งสองข้างขึ้น และส่งไปให้นักเรียนที่อยู่ในอีกชั้นเรียน
“กลับบ้านไปหาแม่ของแกซะ แล้วไปเลียตูดแม่แกนู้น!!”
“…”
“… “
“…ไม่ต้องก้าวร้าวขนาดนั้นก็ได้”
ต้องเข้าใจ…ชีวิตในสลัมกับที่นี่แตกต่างกันมาก