เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก – ตอนที่ 19

‘ฉันฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะอยู่ในอันดับที่ 2 งั้นหรอ!’

 

เบียทริซยังคงเหยียดแขน ขณะที่เธอมองไปที่หอกที่อยู่ห่างออกไป 210 เมตร แม้ว่ามันจะสูญเสียความเร็วไปอย่างรวดเร็ว เมื่อลมที่ล้อมรอบมันหายไป แต่มันก็ยังคงแทงทะลุพื้นพอที่จะติดแน่นลงไปที่พื้น

 

เสียงกระซิบของนักเรียนเริ่มดังไปถึงหูของเบียทริซ ขณะที่เธอสงบสติอารมณ์ลงเรื่อยๆรอยยิ้มพึงพอใจเกิดขึ้นบนใบหน้าของเธอเล็กน้อย

 

“ทำได้ดีมาก!”

 

มิสเตอร์จาค็อบส์เดินเข้ามาหาเธอ พร้อมกับยกนิ้วให้

 

“ฉันไม่คิดว่าจะมีใครทำได้ในปีนี้ ดูเหมือนฉันจะชนะอีกแล้วในปีนี้” มิสเตอร์จาค็อบส์หัวเราะและให้นักเรียนคนต่อไปขึ้นไปที่แท่นขว้างหอก

 

“นั่นยอดเยี่ยมมากเลยเบียทริซ!” ฮาร์วีย์ปรบมือทันทีที่เบียทริซกลับขึ้นไปบนอัฒจันทร์

 

“ขอบคุณ”

 

เบียทริซจับแว่นตาของเธอขณะที่เธอพยักหน้าไปทางฮาร์วีย์ จากนั้นเธอก็มองไปที่แวนส์จากระยะไกล

 

และตามที่คาดไว้นักเรียนที่มาหลังจากเบียทริซไม่สามารถเอาชนะสถิติของเธอได้ คนเดียวที่เข้ามาใกล้ก็คือผู้ควบคุมระบบประเภทเพิ่มประสิทธิภาพที่ระยะ 196m เป็นเด็กผมแดงจากชั้นเรียนของมิสเตอร์หลาง

 

‘ในที่สุดก็ได้ที่ 1!’ เบียทริซถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะที่เธอกำหมัด

 

หลังจากนั้นฮาร์วีย์ก็ตะโกนว่า

 

“หมัดทำลายดวงดาว!” ฮาร์วีย์ได้คะแนนต่ำสุดที่ 16 เมตร บางทีมันอาจจะไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดที่เขาจะค้นพบว่าการขว้างหอกด้วยหมัดของเขานั้นไม่ใช่ความคิดที่ดี ตอนนี้เขาอยู่ข้างๆแวนส์ที่ได้รับการรักษาจากผู้รักษาในช่วงที่ยังพักอยู่

“นายเห็นไหม” ฮาร์วีย์หัวเราะ

 

“ฉันสาบานว่าถ้าฉันไม่ลื่นมันจะทะลุกำแพงไปแล้ว!”

“ฉัน…ฉันเข้าใจ” แวนส์ทำได้เพียงตอบออกไป ขณะที่ฮาร์วีย์พยายามแตะไหล่ของเขา

 

‘แต่ที่นายทำมันไม่ได้เรียกว่าหลุดมือ’ นั่นเป็นความคิดของทุกคนที่ได้ยินเขา

 

“อย่าขยับมาก!”

 

“…ขอโทษ” ฮาร์วีย์เงียบลงทันที เมื่อได้รับคำต่อว่าจากผู้รักษาแอกเนส

 

“อะไรทำให้นายคิดว่าการทำแบบนั้นเป็นความคิดที่ดี”

 

เบียทริซที่กำลังมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูมานาของเธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฮาร์วีย์ด้วยการเลิกคิ้ว

 

“เพราะมันดูเท่” ฮาร์วีย์พูดโดยไม่มีร่องรอยของความลังเลบนใบหน้าของเขา

 

“ผู้ชายควรทำทุกอย่างอย่างมีสไตล์เสมอ”

“มันทำให้นายเป็นที่สุดท้ายแล้ว” เบียทริซส่ายหัวขณะที่เธอถอนหายใจ

 

“หืม”

 

ฮาร์วีย์ตะคอกเมื่อได้ยินคำพูดของเบียทริซ

 

“ใครจะสนใจเกี่ยวกับการจัดอันดับเมื่อเธอมีสไตล์…”

 

เขาพูดขณะที่เกร็งกล้ามเนื้อและยืนอยู่บนอัฒจันทร์

 

ผู้รักษาแอกเนสทำได้เพียงแค่คร่ำครวญด้วยความหงุดหงิด ขณะที่เธอติดตามเขาในขณะที่เธอยังไม่ได้ทำการรักษามือของเขา

 

“ใช้กำปั้นของฉันต่อยไปที่จุดสูงสุด..” จากนั้นฮาร์วีย์ก็พูดขึ้นในขณะที่เขาชูกำปั้นขึ้นไปในอากาศอย่างหลงใหล

 

“…ฉันจะแสดงให้เธอเห็นว่าฉันจะแก้มือให้ตัวเองได้อย่างไร โดยการครองเกมต่อไป!”

ดวงตาของฮาร์วีย์เต็มไปด้วยไฟขณะที่เขากำหมัดแน่น อย่างไรก็ตาม…

 

“นายไม่สามารถเข้าร่วมในเกมถัดไปได้”

 

ผู้รักษาแอกเนสกล่าวขณะที่เธอปล่อยเสียงหัวเราะเบาๆทางจมูกของเธอ

 

“ฉันยังรักษามือของนายไม่เสร็จ”

 

ความเสียหายในมือของฮาร์วีย์เกิดจากการที่เขาต่อยไปที่ท้ายของหอกและพลาดทำให้มันพาดอยู่บนหลังมือของเขา ท้ายของหอกฉีกหนังและเนื้อออกจากกัน มันทำให้ผู้รักษาแอกเนส งุนงงว่าทำไมฮาร์วีย์ถึงไม่สะดุ้งหรือแสดงอาการเจ็บปวดใดๆจากการได้รับบาดแผลนี้

“…”

 

ฮาร์วีย์ทำได้เพียงนั่งลงอย่างงุ่มง่าม เมื่อได้ยินคำพูดของผู้รักษาแอกเนส

 

“…พยายามอย่างเต็มที่เพื่อฉันด้วยนะ ทั้งสองคน”

 

ฮาร์วีย์มองไปที่เบียทริซและแวนส์ด้วยสายตาที่หนักอึ้ง แล้วหลับตาลงไป จากนั้นเขาก็ค่อยๆปล่อยร่างของเขาตกลงไปบนอัฒจันทร์

 

“ฉันจะปล่อยมัน…ให้พวกนาย” เขาพูดเบาๆขณะหลับตาปล่อยลมหายใจเฮือกสุดท้าย

“นายไม่ได้ตาย!” เบียทริซพูดขึ้น และหยิกขาของฮาร์วีย์

 

“โอ๊ยโอ๊ย!”

 

ฮาร์วีย์ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วทำราวกับว่าการบีบนิ้วของเบียทริซนั้นเจ็บปวดมากกว่าความเจ็บปวดในมือของเขา

 

แวนส์ทำได้เพียงแค่ขมวดคิ้วขณะที่เขามองดูทั้งสองว่า ‘คนในเมืองเป็นแบบนี้กันหมดเลยเหรอ?’ เขาคิด

 

“เวลาพักหมดแล้ว!”

 

“ไปกันเถอะแวนส์!”

 

เบียทริซรีบวิ่งไปที่สนาม ขณะที่เธอได้ยินเสียงเรียกของมิสเตอร์จาค็อบส์

 

‘ครั้งนี้ฉันจะไม่แพ้นาย!’ เธอคร่ำครวญในใจ ขณะที่เธอมองกลับไปที่แวนส์

เมื่อเห็นสายตาที่แข่งขันของเบียทริซ แวนส์ก็ทำได้แต่ถอนหายใจ ขณะที่เขาลุกขึ้นจากอัฒจันทร์ แต่ก่อนที่เขาจะเดินไปได้ไกลนัก คำพูดของฮาร์วีย์ก็ดังขึ้นที่หูของเขา

 

“อย่าเก็บไว้” ฮาร์วีย์พูดน้ำเสียงขี้เล่นก่อนหน้านี้ของเขาแล้วน้ำเสียงนั้นก็หายไปจากนั้นเขาก็พูดว่า

 

“มันจะช่วยให้เธอพยายามมากขึ้น ถ้าเธอรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ระดับไหน”

แวนส์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของฮาร์วีย์ แต่ถึงอย่างนั้นแวนส์ก็ไม่ได้หันหน้ากลับไปมองเขา เพียงแต่พยักหน้าก่อนจะเดินต่อไปยังจุดที่นักเรียนคนอื่นรวมตัวกัน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่คนเดียวที่สังเกตเห็นความหลงใหลในดวงตาของเบียทริซ

 

แวนส์ถอนหายใจขณะที่เขายืนอยู่ข้างๆเบียทริซ

 

‘การมีเพื่อน…มันซับซ้อนเกินไป’ แต่เขาคิดว่า

 

‘แต่มันก็ค่อนข้าง…รู้สึกดี’ แวนส์ไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่เขากำลังรู้สึก และโดยที่เขาไม่รู้ตัวเขายิ้มเล็กน้อยขณะมองไปที่พื้น

 

“ตอนนี้พวกเธฮทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว ให้เราอธิบายกฎของเกม” มิสเตอร์หลางกล่าว ขณะที่เขาเดินถอยหลังออกไป ห่างจากนักเรียนเล็กน้อย

 

“ไม่โจมตีตรงกลางหว่างขาและอย่าต่อสู้โดยมีเจตนาฆ่าคู่ต่อสู้ของพวกเธอ ให้จำไว้ว่านี่เป็นเพียงเกมเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นพวกเธอก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะทำร้ายคู่ต่อสู้ของพวกเธอ เพราะบาดแผลร้ายแรงใดๆที่พวกเธอได้รับสามารถรักษาให้หายได้ ถึงแม้ว่าแขนขาของพวกเธอจะหายไปก็ตาม

มิสเตอร์หลางยกมือขึ้นกลางอากาศ และทันทีที่เขาทำเช่นนั้นสนามโดยรอบที่เขายืนอยู่ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จากนั้นก็ยกตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นแท่นวงกลมขนาดใหญ่ที่ทำจากดิน

 

“พวกเธอจะชนะก็ต่อเมื่อคู่ต่อสู้ของเธอไม่สามารถทำการต่อสู้ต่อไปได้ หรือเมื่อเราบอกว่าเธอชนะ นอกจากนี้เธอจะแพ้โดยอัตโนมัติ หากเธอตกจากพื้นที่นี้”

 

มิสเตอร์หลางกล่าว ก่อนที่จะก้าวออกจากเวที

 

“เริ่มเกม นายขึ้นไปบนเวที” จากนั้นเขาก็ชี้ให้นักเรียนคนหนึ่งของเขาขึ้นมาที่เวที

 

แม้ว่านักเรียนจะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ถูกเรียกก่อน แต่เขาก็รีบเตรียมตัวขณะที่เขากระโดดขึ้นไปบนเวที

 

“อืมม…” มิสเตอร์จาค็อบส์วางมือบนคางของเขาขณะที่เขาสแกนนักเรียนของเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่แวนส์

 

“เนื่องจากนายไม่ได้มีโอกาสแสดงความสามารถเมื่อก่อนหน้านี้ งั้นนายไปก่อน”

 

เขากวักมือเรียกให้แวนส์ขึ้นมาจากด้านข้าง

 

“ทำให้ดีที่สุด และทำให้นักเรียนของหลางอับอายอีกครั้ง ฮ่าๆๆ!”

“โอ…โอเค” แวนส์ทำได้เพียงพยักหน้าอึกอักเล็กน้อย ขณะที่เขาปีนขึ้นไปบนเวที

นักเรียนเกือบทั้งหมดและตัวแทนกิลด์ที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะเงียบลง เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนต่อสู้ในชั้นเรียนของมิสเตอร์จาค็อบส์

 

เบลลิกเรียกบอลบันทึกของเขาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว และสั่งให้โฟกัสไปที่แวนส์ พวกเขาทุกคนรอคอยด้วยความคาดหวังว่าเด็กตัวเล็กๆคนนี้จะแสดงทักษะอะไรให้พวกเขาเห็นอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ของแวนส์ทำได้เพียงกัดฟัน เมื่อเขารู้ว่าเขากำลังต่อสู้กับใคร แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็หายใจเข้าลึกๆ ถ้าเขาสามารถเอาชนะเด็กตัวผอมที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ ตัวแทนของกิลด์ก็จะมองมาที่เขาเป็นแน่ เขาคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดี

“ฉันชื่อเซดดริก ฉันมีระบบเพิ่มประสิทธิภาพ” เขากล่าวขณะที่เขาทักทายแวนส์

 

“…แวนส์ ระบบเพิ่มประสิทธิภาพ ฉัน…ฉันคิดว่านะ” แวนส์โค้งเข้าหาเซดดริกเล็กน้อย โดยที่มือข้างหนึ่งของเขาซ่อนอยู่ด้านหลังของเขา เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อมองไปที่ผู้คนทั้งหมดที่เฝ้าดูเขา

 

“เอาล่ะ!” มิสเตอร์จาค็อบส์ปรบมือ

 

“ใครชนะในรอบนี้ จะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย

จากนั้นมิสเตอร์จาค็อบส์ก็ฟาดมือของเขาขึ้นไปในอากาศเพื่อส่งสัญญาณเริ่มการแข่งขัน

 

“สู้!”

 

ร่างกายของเซดดริกเริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น เขาคำรามขณะที่เขาคู่หนึ่งเริ่มยื่นออกมาจากหน้าผากของเขา ขาของเขาค่อยๆพะรุงพะรัง

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่เกิดเหตุการณ์นี้แวนส์ก็วิ่งมาหาเขาแล้ว

 

“!?”

 

จากนั้นการมองเห็นของเซดดริกก็มืดลงอย่างรวดเร็วในขณะที่… แวนส์ก็ขว้างเศษดินตรงไปที่ดวงตาของเขา จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างของเขาตกจากเวทีขณะที่แวนส์กระแทกทั้งตัวเข้าหาเขา

“…”

 

“ผะ…ผู้ชนะแวนส์!” น้ำเสียงหนักแน่นของมิสเตอร์จาค็อบติดอ่างเป็นครั้งแรก ในขณะที่เขาประกาศผู้ชนะการแข่งขัน

“…อะไรกัน!”

 

“เมื่อกี้คืออะไร!?”

 

“เจ้านั่นยังแปลงร่างไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ!”

“ไม่มีเกียรติเลย!?”

 

“มันขี้โกง!”

“เขาไม่ใช้ระบบของเขาด้วยซ้ำ!?”

นักเรียนเริ่มบ่นและหัวเราะเยาะใส่แวนส์ทันทีที่การแข่งขันจบลง

 

อย่างไรก็ตามแวนส์เพิ่งปัดฝุ่นสิ่งสกปรกบนมือออกด้วยสีหน้าพึงพอใจ ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของนักเรียนคนอื่นๆด้วยซ้ำ ต้องเข้าใจว่าชีวิตในสลัมกับชีวิตปกติแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

 

My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก

My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก

My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลกSpeedster ในโลกแห่งจินตนาการ เมื่อกว่าพันปีที่แล้วพอร์ทัลได้เปิดขึ้นในโลก กลืนโลกทั้งโลกด้วยสัตว์ร้ายที่ออกมาจากโลก มนุษย์ต่อสู้ดิ้นรนมาหลายปีเพราะอาวุธของพวกมันทำได้แค่เอาตัวรอดได้เท่านั้น แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อพบซุปเปอร์มนุษย์คนแรก เด็กที่เกิดหลังจากประตูมิติปรากฏขึ้น นับจากนั้นเป็นต้นมา มนุษย์ได้ค้นพบว่ามีคนอื่นและพวกเขาทั้งหมดมีพลังเดียวกัน... พลังที่เรียกว่าระบบ และผู้ที่เกิดมาพร้อมกับมันจะถูกเรียกว่า System Holders System Holders ที่มีพลังลึกลับคือคนที่ช่วยกอบกู้โลกจากเหล่ามอนสเตอร์ และตอนนี้ ร้อยปีต่อมา ผู้ถือระบบถือกำเนิดขึ้น ผู้ถือครองระบบ Hermes ผู้รวบรวมวิญญาณ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset