เบลลิกที่คาดการณ์ไว้ว่าแวนส์จะแสดงทักษะแบบไหน ก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกตาด้วยความผิดหวัง เขารีบสั่งให้ลูกบอลสีดำของเขาปิดด้วยความหงุดหงิด
เขาคิดว่าเขากำลังจะได้เห็นอะไรบางอย่างที่น่าทึ่ง แต่ดูเหมือนว่าแวนส์จะไม่ได้ใช้ระบบของเขา เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาด้วยซ้ำ
ไม่นี่เป็นสิ่งที่ดี ไม่ใช่เหรอ? มันแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเขาในการปรับตัว ถูกต้อง นั่นอาจเป็นไปได้ เบลลิกยังคงพยักหน้า ขณะที่เขาเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง
“อนุญาตให้ทำแบบนั้นด้วยหรอ!?”
“…ขี้โกง!”
เสียงร้องของนักเรียนของมิสเตอร์หลางดังอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พวกเขาบ่นว่าแวนส์ ที่ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ชนะ พวกเขายังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแวนส์จะขว้างสิ่งสกปรกใส่หน้าคู่ต่อสู้ของเขาก่อนที่เขาจะพร้อม
“พอแล้ว!”
อย่างไรก็ตามคำตอบที่พวกเขาได้รับจากที่ปรึกษาคือคำตักเตือน
“การต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้วทันทีที่มิสเตอร์จาค็อบส์ส่งสัญญาณ”
เขากล่าวขณะมองไปที่นักเรียน ดวงตาของเขาขมวดคิ้วด้วยความผิดหวัง
“มันเป็นความผิดของเขาที่ไม่แปลงร่างก่อนที่เขาจะปีนขึ้นไปบนเวที ฉันจะบอกอะไรให้พวกเธอรู้ มอนสเตอร์ที่พวกเธออาจจะเจอ มันไม่สนใจว่าพวกเธอจะพร้อมรับการโจมตีมั้ย แต่มันจะโจมตีพวกเธอทันทีที่มันเห็น ถ้าแวนส์เป็นมอนสเตอร์ เพื่อนร่วมชั้นของพวกเธอก็ตายไปแล้ว! “
เมื่อได้ยินคำพูดที่รุนแรงของมิสเตอร์หลางนักเรียนของเขาก็อดไม่ได้ที่จะกดริมฝีปากเข้าหากัน ขณะที่พวกเขาหันศีรษะลง
“เฮอะ”
มิสเตอร์หลางแสดงอาการขัดใจของเขา ขณะที่จ้องไปที่นักเรียนของเขา ดูเหมือนว่านักเรียนของเขาในปีนี้จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากเป็นเด็กน้อยที่คอยปรนเปรอที่ไร้ประโยชน์ การเล่นเกมต่อไปจะทำให้เขาอับอายต่อหน้ากิลด์นักสำรวจเท่านั้น
แต่การยอมจำนนต่อมิสเตอร์จาค็อบส์จะเป็นสิ่งที่เขาไม่มีวันทำ
ดังนั้นเกมจึงดำเนินต่อไป
เพื่อนร่วมชั้นของแวนส์ อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งเข้าหาเขาขณะที่เขาปีนลงจากเวที
“นายทำได้อย่างไร!?”
“นายมีเวลาเอาดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่!?!”
“นายไม่ได้ใช้ระบบของนาย?”
“นายมีแฟนไหม!?”
“นายช่วยสอนพวกเราได้ไหม!?”
“มันน่าทึ่งมาก!”
เมื่อได้ยินคำชมเชยจากเพื่อนร่วมชั้น แวนส์ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เขาสามารถรับมือกับเสียงเยาะเย้ย และการเยาะเย้ย ได้เนื่องจากเขาเคยชินกับมันในสุสานของเก่า แต่เมื่อถูกฝูงชนเข้าหาด้วยความยินดี เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองด้วยความสงสัยสงสัยว่าพวกเขาต้องการอะไรจากเขา
เขาเคยบูชาผู้ควบคุมระบบ และตื่นเต้นกับความคิดที่จะได้พบกับพวกเขา แต่หลังจากสิ่งที่เจอรัลด์ทำกับเขา สิ่งนั้นก็หายไป
พวกเขาต้องการเป็นเพื่อนกับเขาหรือเปล่า? ด้วยความคิดนั้นแวนส์ก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว การได้คุยกับเบียทริซและฮาร์วีย์นั้นเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้ นอกจากนี้เพื่อนของเขา ดันมีคนที่รังแกเขาเป็นพี่ชาย
ความปั่นป่วนจบลงเมื่อมิสเตอร์จาค็อบส์ ประกาศให้นักเรียนคนต่อไปต่อสู้บนเวที
และในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างงี่เง่านักเรียนห้าคนถัดไปจากชั้นเรียนของมิสเตอร์จาค็อบส์ ชนะด้วยการขว้างปาขี้ใส่ตาของฝ่ายตรงข้าม สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคือการทำร้ายร่างกาย เมื่อนักเรียนเกือบทั้งหมดเริ่มต่อสู้กับความสกปรก
มีเพียงไม่กี่คนที่ต่อสู้โดยไม่มีเล่ห์เหลี่ยม รวมถึงเบียทริซที่ครองคู่ต่อสู้ของเธอได้อย่างง่ายดาย การผสมผสานทักษะลมของระบบเข้ากับการต่อสู้ด้วยมือเปล่า
ในที่สุดก็เป็นไปตามที่มิสเตอร์หลางคาดหวังไว้ มีนักเรียนเพียง 3 คนเท่านั้นที่ชนะการแข่งขัน ดังนั้นสำหรับรอบสุดท้ายของเกมส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนของมิสเตอร์จาค็อบส์ที่จะต่อสู้กันเพื่อชิงตำแหน่ง 10 อันดับแรก
เนื่องจากนี่ไม่ใช่กิจกรรมอย่างเป็นทางการของสถาบัน พวกเขาจึงไม่สามารถต่อสู้เพื่อชิงอันดับ 1 ได้ทั้งหมด และมันก็ไม่ได้มีเหตุผลใด ๆ เช่น ‘ควรจะตัดสินภายในสิ้นปีนี้’ หรือ อะไรแบบนั้น. เป็นเพียงเพราะชั้นเรียนอื่นจะใช้สนามในไม่ช้า
ตามความเป็นจริงผู้สอนหญิงคนหนึ่งจู้จี้จาค็อบส์และหลางให้จบเกมได้แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นการต่อสู้เพื่อ 10 อันดับแรกก็ยังต้องดำเนินต่อไปตามประเพณี
ดังนั้นการแข่งขันของพวกเขายังคงดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตามตัวแทนของนักสำรวจ และแม้แต่นักเรียนที่แพ้ไปแล้ว ก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการแข่งขันที่เกิดขึ้น
สิ่งที่พวกเขาต้องการเห็นคือการแข่งขันรอบสุดท้าย
มิสเตอร์จาค็อบส์มีทั้งผู้ชนะจากสองเกมแรกคือแวนส์ที่ชนะเกมแรก กับเบียทริซซึ่งชนะเกมที่สอง
เขาวางสองคนนั้นไว้ในนัดสุดท้าย โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะโฆษณากับตัวแทนนักสำรวจที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้าง และแน่นอนว่าจะต้องดีใจมากขึ้นไปอีกที่เอาชนะมิสเตอร์หลางได้
ตอนนี้แวนส์และเบียทริซอยู่ที่ปลายแต่ละด้านของแท่น ยืนนิ่ง ขณะที่พวกเขาจ้องมองกันและกัน
“ใส่มาให้เต็มที่เลยนะแวนส์ ได้โปรดอย่าออมมือ” เบียทริซพูดขณะที่เธอยืนขึ้นผมของเธอโบกสะบัดขณะที่เธอใช้ความสามารถของเธอ
เมื่อได้ยินคำพูดของเบียทริซแวนส์ก็ทำได้แค่เกาคาง ทั้งฮาร์วีย์และเธอทำไมทั้งสองคนถึงบอกเขาว่าอย่าออมมือ?
เขากำลังอยู่ที่ไหนกันแน่เนี่ย…
“ระ…!”
…การออมมือไม่ใช่ทางเลือกงั้นหรอ
ก่อนที่มิสเตอร์จาค็อบส์จะปิดปาก แวนส์ก็เปิดใช้งานสกิล [การับรู้เวลา] ของเขา แวนส์รู้สึกวูบขึ้นมาทันที แต่เขาก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสงบสติอารมณ์ ขณะที่เขากระพริบตาของเขา เขาก็เริ่มปล่อยประกายสีทอง พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างทันที
อาการคลื่นไส้ที่ไต่ผ่านศีรษะของเขาหายไปทันที แทนที่ด้วยความรู้สึกเร่งรีบและตื่นเต้น ปีกแห่งแสงปรากฏขึ้นข้างเท้าของเขา
เขาหายใจเข้าลึกๆจากนั้นเขาก็วิ่งไปหาเบียทริซ ไปข้างหลังเธอ
“ขอโทษด้วยนะ” เขากระซิบขณะดึงคอเสื้อของเบียทริซเบาๆจากนั้นเขาก็เตะเข่าของเธอเบา ๆ ก่อนที่จะยกเลิกทักษะทั้งหมดของเขาทั้งหมด
“เริ่ม!” และทันที หลังจากเสียงตะโกนของมิสเตอร์จาค็อบส์เสียงตะโกนจากเบียทริซก็ดังขึ้นทันที
“อ้ากก!”
เธอร้องเสียงหลง ในขณะที่รู้สึกว่าการมองเห็นเปลี่ยนไป ศีรษะและลำตัวของเธอก็แกว่งไปข้างหลังเธอ เธฮหลับตาโดยสัญชาตญาณ ขณะที่ขาข้างหนึ่งยื่นออกไป
เธอสามารถรู้สึกตัวได้ แต่เมื่อลืมตาขึ้นมา นิ้วคู่หนึ่งก็อยู่เหนือใบหน้าของเธอ แล้วห่างจากการจิ้มตาเพียงไม่กี่นิ้ว เธออ้าปากค้างเล็กน้อย ขณะมองไปที่ใบหน้าของแวนส์ซึ่งปราศจากอารมณ์ใดๆ
จากนั้นนิ้วของแวนก็ค่อยๆเลื่อนลงมาที่ดวงตาของเธอ
“!!!” เบียทริซสะดุ้งขณะหลับตาลงอย่างรวดเร็ว
“หยุด!”
แต่ก่อนที่นิ้วของแวนส์จะโดนดวงตาของเบียทริซ มิสเตอร์จาค็อบส์ก็คว้ามือของแวนส์แล้วยกขึ้นกลางอากาศ
“ผู้ชนะ แวนส์!”