เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก – ตอนที่ 21

“ผู้ชนะ แวนส์!”

 

นักเรียนทุกคนที่นั่นยังไม่ได้ส่งเสียงเพื่อเชียร์ใครคนใดคนหนึ่งหรืออาจจะดีกว่าถ้าบอกว่าพวกเขาไม่มีโอกาสได้เชียร์ พวกเขาจ้องไปที่มือของแวนส์ที่มิสเตอร์จาค็อบส์ชูขึ้นมาในอากาศ

 

ต่างจากครั้งแรกที่พวกเขาเห็นอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น และนั่นทำให้พวกเขาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการต่อสู้กันอย่างมากมาย…แต่ในครั้งนี้ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที ดังนั้นพวกเขาทำได้เพียงนิ่งเฉย

 

มิสเตอร์จาค็อบส์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจขณะที่เขามองไปที่แวนส์ ระดับพลังของเขาเขาหยุดแวนส์ได้อย่างง่ายดายก่อนที่นิ้วของเขาจะไปถึงตาของเบียทริซ  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เขาไม่สามารถทำอะไรได้ หรือแม้แต่จะตอบสนองการเคลื่อนไหวของแวนส์เขาก็ทำไม่ได้เลยสักนิดเดียว

 

ตอนที่แวนส์วิ่งในการแข่งขันรอบแรก มันนานพอที่สายตาของเขาจะปรับเข้ากับความเร็วของแวนส์ได้ แต่คราวนี้เนื่องจากพื้นที่มีขนาดเล็กลงมากสิ่งที่เขาเห็นคือแสงสีทองที่พร่าเลือนไปทั่วเวที

 

‘นี่…มันบ้ามาก’ มิสเตอร์จาคอบส์อดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กน้อย ขณะที่หยดเหงื่อผุดขึ้นจากใบหน้าของเขา

 

แน่นอนคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสิ่งที่เกิดขึ้นคือเบียทริซ เธอกระพริบตาสองสามครั้งขณะจ้องมองไปที่เพดานของสนาม คอของเธอวางอยู่บนมือของแวนส์ขณะที่เขายังคงจับคอเสื้อของเธออยู่

 

“…โอ้ขอโทษนะ” เมื่อสังเกตเห็นการแสดงออกที่ตะลึงงันของเบียทริซ แวนส์ดันตัวขึ้นเล็กน้อยและปล่อยคอเสื้อเครื่องแบบของเธอ

 

“เธอโอเคไหม” เขาถาม

 

“…โอเค” เบียทริซตอบได้เพียงเบาๆในขณะที่เธอยังค่อนข้างเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอเพิ่งจะแพ้? แต่เธอยังไม่มีโอกาสได้ทำอะไรเลย

 

…ความแตกต่างมันมากขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอมีชะตากรรมที่จะเป็นเพียงหมายเลข 2 เพราะการมีอยู่ของแวนส์งั้นหรอ? แล้วที่เธอฝึกมาตลอดล่ะ?

 

‘ฉัน…ไร้ประโยชน์’ เธอคิดขณะที่มองไปที่พื้น

 

ก่อนที่ความคิดที่ขุ่นมัวจะเข้ามาในใจเธออีกต่อไปมิสเตอร์จาค็อบส์ก็ปรบมือดังๆ

 

“และนั่นคือบทสรุปของการประลองสำหรับปีนี้!” มิสเตอร์จาค็อบส์ยกมือขึ้นเพื่อชัยชนะขณะที่เขาร้องโหยหวนด้วยความดีใจ

 

“และตามที่คาดไว้ ฉันชนะอีกครั้งในปีนี้ มิสเตอร์หลาง!” จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วพร้อมกับมองลงไปที่มิสเตอร์หลาง

 

มิสเตอร์หลางชูนิ้วกลางขึ้นมาเท่านั้น ลานต่อสู้ขยับลงสู่พื้นดินตามปกติ ทำให้สนามกลับสู่สภาพเดิม ยกเว้นที่ที่มิสเตอร์จาค็อบส์ยืนอยู่ ส่วนนั้นของสนามก็ลอยขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้มิสเตอร์จาค็อบส์พุ่งขึ้นไปในอากาศ

 

มิสเตอร์จาค็อบส์ลงมาข้างอาจารย์หญิงที่ควรจะใช้สนามนี้ในวันนี้ และแน่นอนสิ่งที่เขาได้รับจากอาจารย์หญิงคือ เสียงบ่นจู้จี้

 

“ออกไป! นักเรียนของฉันรอมาเกือบชั่วโมงแล้ว!” อาจารย์หญิงพูดขณะชี้มือออกไปนอกสนาม

 

“โอเค โอเค” มิสเตอร์จาค็อบส์ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความพ่ายแพ้

 

“ไปรับรางวัลของพวกคุณกันเถอะ!” จากนั้นเขาก็วิ่งไปหานักเรียนของเขา และเริ่มผลักพวกเขาออกจากสนาม และไปยังทางออกที่ตัวแทนกิลด์นักสำรวจกำลังรออยู่แล้ว

 

“เฮ้พวก” ฮาร์วีย์โบกมืออย่างเชื่องช้า ขณะที่แวนส์และเบียทริซเดินผ่านเขา

 

“มะมะ… มันเป็นการแข่งขันที่เยี่ยมมาก” เขาพูดติดอ่าง

 

เขามองไปที่เบียทริซซึ่งตอนนี้กำลังมองไปที่พื้น จากนั้นเขาก็มองไปที่แวนส์ด้วยสีหน้าซับซ้อน

 

แน่นอนว่าเขาเป็นคนแรกที่บอกให้แวนส์ไม่ต้องออมมือ แต่เขาไม่ได้บอกว่าให้ชนะเธออย่างรวดเร็วขนาดนั้น นั่นอาจทำให้เธอเสียความภาคภูมิใจไป

 

แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เบียทริซก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับหายใจเข้าลึกๆจากนั้นเธอก็มองไปที่แวนส์ตรงๆและพูดว่า

 

“ครั้งหน้าฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ที่ 1!”

 

เพื่อตอบสนองต่อสิ่งนี้แวนส์เพียงแต่พยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าของเขา

 

“สวัสดี สวัสดี!”

 

“เรามาจากกิลด์ กริฟฟอนหกหัว!”

 

“บางทีเธออาจสนใจที่จะเข้าร่วม…”

 

ทันทีที่นักเรียนเดินผ่านประตูออกไป ตัวแทนของกิลด์ก็ยื่นมือเข้ามาเพื่อพยายามสรรหาสมาชิกกิลด์ที่มีศักยภาพ

 

กิลด์เล็กๆไม่ได้เข้าใกล้แวนส์และเบียทริซด้วยซ้ำ เพราะพวกเขารู้ว่ากิลด์ใหญ่ๆก็มองมาที่พวกแวนส์และเบียทริซเช่นกัน เพราะถึงพวกเขาจะเสียทรัพยากรในการแย่งชิงพวกเขาก็ไม่มีทางชนะกิลด์ใหญ่ๆได้อยู่ดี

 

ไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะได้รับเบียทิซหรือแวนส์เป็นสมาชิก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถรับสมัครเพื่อนของเขาได้

 

“เธออยากลองเข้าร่วมกิลด์ของเราไหม?”

 

“เรามีสิ่งต่างๆให้เธอมากมาย!”

 

“เธอสามารถมีของพวกนี้ได้ เพียงแค่ไปที่กิลด์ของเรา!”

 

ตอนนี้ฮาร์วีย์กำลังถูกกระหน่ำด้วยข้อเสนอ และของขวัญมากมาย แต่เขาปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด

 

“ฉันมีเป็นพันๆ” ฮาร์วีย์พูดอย่างเมินเฉย ขณะมองไปที่คริสตัลที่อยู่ในมือของผู้แทน

 

เบียทริซและแวนส์คิดว่าเขาเป็นเด็กที่ร่ำรวยตามความคาดหมาย

 

คริสตัลมีหลายประเภท แบ่งออกเป็น เขียว เหลือง น้ำเงิน ม่วง แล้วดำ ค่าของพวกมันจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณเมื่อมีการควบแน่นมากขึ้น โดยคริสตัลสีใสเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยที่สุด และสามารถดรอปได้จากมอนสเตอร์ทั่วไปในประตูมิติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีค่าต่อผู้ควบคุมระบบ

 

ดังนั้นการที่ฮาร์วีย์ปฏิเสธพวกเขา ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่าครอบครัวของเขาร่ำรวยเพียงใด

 

กิลด์เล็กๆ หนึ่งหรือสองกิลด์พยายามเข้าใกล้เบียทริซเช่นกัน แต่พวกเขาถูกปฏิเสธทันที พ่อแม่ของเธอเป็นเจ้าของกิลด์เล็กๆอยู่แล้ว และเธอสัญญากับตัวเองว่าเธอจะสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักเมื่อเธอกลายเป็นนักสำรวจ

 

อย่างไรก็ตามแวนส์เป็นคนที่ยอมรับทุกอย่างที่เบียทริซ และฮาร์วีย์ปฏิเสธ เขาบอกว่าจะลองเอาไปคิดดูทีหลัง แน่นอนว่ากิลด์ที่เล็กกว่านั้นมอบข้อเสนอให้กับแวนส์อย่างมีความสุข นี่เป็นโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับเขาด้วย

 

และจากนั้นกิลด์ใหญ่ก็มาถึง พวกเขายื่นกระดาษให้แวนส์พร้อมข้อเสนอ และผลประโยชน์ที่แวนส์จะได้รับหากเข้าร่วมกิลด์

 

“…” แวนส์ได้แต่มองไปที่เศษกระดาษพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

ตัวแทนที่เห็นการแสดงออกของแวนส์ก็ตื่นตระหนกอย่างรวดเร็ว

 

“แน่นอนว่าต่อรองได้แน่นอน!” พวกเขาพูด

 

“…เมื่อเราคุยกับหัวหน้ากิลด์ของเรา ฉันแน่ใจว่าเราสามารถเสนออะไรได้มากกว่านี้!”

 

ถ้าพวกเขารู้ว่าสาเหตุที่แวนส์ขมวดคิ้วคือเขาไม่รู้วิธีอ่านแล้วละก็

 

แต่ถ้าเขาสามารถอ่านสิ่งที่เขียนในกระดาษที่ถูกยื่นมาได้ เขาอาจจะยอมรับกิลด์แรกที่เข้าหาเขาทันที แต่โชคชะตาไม่ได้อยู่กับพวกเขาที่จะได้แวนส์ไปเป็นสมาชิก

 

และในขณะที่ตัวแทนคนอื่นๆกำลังตื่นตระหนก เบลลิกก็เข้ามามีบทบาท เขาส่งคริสตัลสีเหลือง 3 อันให้แวนส์อย่างรวดเร็ว

 

“!!!”

 

ดวงตาของแวนส์เบิกกว้างอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ ขณะที่มือของเขาจับคริสตัลทั้ง 3 โดยสัญชาตญาณ และใส่เข้าไปในกระเป๋าของเขา เขายังมองไปรอบๆพยายามดูว่ามีใครบางคนกำลังมองมาที่เขา และต้องการที่จะฉกคริสตัลของเขาไปรึเปล่า

 

การกระทำของเขาเป็นที่เข้าใจได้ คริสตัลสีเหลืองเพียงก้อนเดียวก็เพียงพอที่จะเลี้ยงประชากรทั้งหมดของสุสานของเก่าได้เป็นเวลาหนึ่งเดือน

 

“ฉันชื่อแบรนดอน เบลลิก” เบลลิกพูดขณะที่เขาโค้งคำนับเล็กน้อย

 

“นั่นเป็นของขวัญจากกิลด์มิโนทอร์ทองคำของเรา ขอให้เธอจำชื่อกิลด์ของเราไว้ และพิจารณาเกี่ยวกับการเข้าร่วมกิลด์ของเราเมื่อเธอต้องการ”

 

จากนั้นเบลลิกโบกมือลา ขณะที่เขาจากไปอย่างรวดเร็ว นี่เป็นหนึ่งในเทคนิคที่เขาได้เรียนรู้เมื่อทำการชักจูงนักเรียนที่เขาต้องการ เขามักจะจู่โจมอย่างรวดเร็วด้วยวิธีนี้ ด้วยวิธีนี้จะทำให้เกิดความประทับใจกับนักเรียนที่เขาต้องการอย่างไม่รู้ลืม

 

และแน่นอนว่ามันได้ผลกับแวนส์ ขณะที่เขาพยักหน้า แต่สิ่งที่เขาจำได้และใส่ใจอยู่นั้นกลับเป็นเพียงแค่คริสตัลสีเหลือง 3 อันที่กำลังอยู่ในมือสั่นๆของเขา เขาไม่ได้ยินสิ่งที่เบลลิกพูดไว้หลังจากนั้นเลย

 

‘ควร…ฉันควรส่งไปให้แอนเดรียนาดีไหม?’

 

‘ตอนนี้ฉันรวยแล้วหรือยัง?’

 

‘ฉันควรขายทั้งหมดหรือใช้มัน?’

 

‘บางทีถ้าฉันส่งบางส่วนไปที่สุสานของเก่า พวกเขาก็สามารถนำมันไปขายและแจกจ่ายให้กันได้’

 

ความคิดมากมายแล่นเข้ามาในจิตใจของแวนส์ ขณะที่มือของเขายังคงสั่น

 

“…อีแวนส์”

 

แวนส์เพิ่งตื่นจากอาการมึนงง เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเดินเข้ามาหาเขา

 

“โอ้…คุณซาร่าห์!”

 

My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก

My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก

My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลกSpeedster ในโลกแห่งจินตนาการ เมื่อกว่าพันปีที่แล้วพอร์ทัลได้เปิดขึ้นในโลก กลืนโลกทั้งโลกด้วยสัตว์ร้ายที่ออกมาจากโลก มนุษย์ต่อสู้ดิ้นรนมาหลายปีเพราะอาวุธของพวกมันทำได้แค่เอาตัวรอดได้เท่านั้น แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อพบซุปเปอร์มนุษย์คนแรก เด็กที่เกิดหลังจากประตูมิติปรากฏขึ้น นับจากนั้นเป็นต้นมา มนุษย์ได้ค้นพบว่ามีคนอื่นและพวกเขาทั้งหมดมีพลังเดียวกัน... พลังที่เรียกว่าระบบ และผู้ที่เกิดมาพร้อมกับมันจะถูกเรียกว่า System Holders System Holders ที่มีพลังลึกลับคือคนที่ช่วยกอบกู้โลกจากเหล่ามอนสเตอร์ และตอนนี้ ร้อยปีต่อมา ผู้ถือระบบถือกำเนิดขึ้น ผู้ถือครองระบบ Hermes ผู้รวบรวมวิญญาณ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset