“คุณซาร่าห์!”
“ขอแสดงความยินดีที่ได้รับคริสตัลมากมายขนาดนี้ในวันแรกของเธอนะแวนส์”
แวนส์มีความประทับใจในตัวซาร่าห์มาก ท้ายที่สุดเธอเป็นคนที่ทำให้ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้
เมื่อเห็นว่าใครเข้ามาใกล้แวนส์ ตัวแทนคนอื่นๆที่เดินไปหาแวนส์ต่างก็วิ่งหนีเหมือนหนู แวนส์รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในตอนแรกที่คริสตัลทั้งหมดกำลังจะจากไป
“สวัสดีคุณซาร่าห์ คุณ…มาทำอะไรที่นี่?” แวนส์อดไม่ได้ที่จะถาม ขณะที่ซาร่าห์เดินนำหน้าเขา
“ฉันมีบางอย่างจะให้เธอ” ซาร่าห์รีบพูด
“ฉันจะรอเธออยู่ที่นอกสถาบันหลังจากเลิกเรียนแล้ว”
“หลังเลิกเรียน?” แวนส์เอียงศีรษะ
“อื้ม” ซาร่าห์พยักหน้า
“ค่าตอบแทนของสมาคมนักสำรวจยังไม่หมด”
“…ยังมีอีกเหรอ?” แวนส์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“เธอสามารถพูดได้ว่านี่คือค่าตอบแทนของจริง” ซาราห์หัวเราะเบาๆขณะที่ผมสีทองของเธอหล่นลงมาจากบ่า
“มาพบฉันที่ประตูหลังเลิกเรียน เพื่อนของเธอดูเหมือนจะรอเธออยู่”
“อ่า…ตกลงครับ” แวนส์โค้งคำนับอย่างรวดเร็วขณะที่ซาร่าห์โบกมือและจากไป
“โอโฮ นั่นใครหรอแวนส์”
ทันทีที่ซาร่าห์จากไปฮาร์วีย์กระแทกไปที่ท้องของแวนส์เบาๆด้วยข้อศอก
“แฟนของนายหรอ เขาเป็นแฟนของนายงั้นหรอ??”
“ไม่ใช่” แวนส์ปฏิเสธอย่างเชื่องช้า
“เธอคือคุณซาร่าห์ เธอช่วยให้ฉันได้เข้ามาเรียนที่สถาบันนี้”
“ซาร่าห์?” เบียทริซวางมือบนคางของเธอ ชื่อของเธอฟังดูคุ้นเคยอย่างมาก แต่เธอส่ายหัวอย่างรวดเร็วนั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญในตอนนี้ เธอมีเรื่องที่จะคุยกับแวนส์อย่างจริงจัง
“แวนส์…ฉันมีคำถาม” เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ขณะเรียกร้องความสนใจของแวนส์
“หืม?” แวนส์เลิกคิ้วอย่างรวดเร็ว
“เหตุการณ์เมื่อกี้คืออะไร?”
“…นายจะจิ้มไปที่ตาของฉันจริงๆรึเปล่า ถ้ามิสเตอร์จาค็อบส์ไม่หยุดนาย?!“
เมื่อได้ยินคำถามนี้แวนส์กระพริบตาสองสามครั้ง และหลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจเขาก็ตอบออกมา
“แน่นอน”
“!!!”
แม้แต่ฮาร์วีย์ที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ ขณะเดินไปที่ชั้นเรียนต่อไปก็แทบสำลัก
“ยังไงเธอก็จะถูกรักษาโดยผู้รักษาอยู่ดี” แวนส์พูดอย่างเมินเฉย
“ฉัน…ฉันเข้าใจ” เบียทริซอดไม่ได้ที่จะอึกอัก เมื่อเธอได้ยินคำตอบที่ตรงไปตรงมาของแวนส์ เธอเงียบไปเล็กน้อยความกลัวกำลังฉาบอยู่บนใบหน้าของเธอ อย่างไรก็ตามคำพูดต่อไปของแวนส์ก็พาพวกเขาออกจากอาการแบบนั้นทันที
“เธอแข็งแกร่งเบียทริซ” แวนส์พูด
“ถ้าฉันให้เวลาเธอร่ายเวทมนต์ ฉันคงแพ้ไปแล้ว”
มันเป็นความจริง เมื่อมิสเตอร์จาค็อบส์ยกมือขึ้นกลางอากาศก่อนหน้านี้ เขาก็ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิดเดียว หากปราศจากความเร็วของเขาแวนส์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และเขาก็รู้เรื่องนั้น ถ้าเขาถูกเบียทริซจับได้แม้แต่ครั้งเดียว เขาจะถูกเบียทริซผลักด้วยทักษะลมของเธออย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าผลจะไม่ออกมาเป็นเช่นนั้น แต่การประเมินตัวเองสูงไปเป็นเรื่องไม่ดี ผู้คนที่ใช้ชีวิตในสุสานของเก่าส่วนใหญ่ตายเพราะเหตุผลนั้น
เมื่อได้ยินคำพูดที่ให้ความมั่นใจของแวนส์แสงสว่างเล็กน้อยก็เปล่งประกายในดวงตาของเบียทริซอีกครั้ง ฮาร์วีย์ได้แต่ถอนหายใจ
“นั่นเป็นความจริง…เราไม่ควรโดนกอริลลาจับได้” จากนั้นเขาก็รีบหนีไปทันที
“…นาย!” เบียทริซใช้ทักษะของเธอไล่ล่าฮาร์วีย์อย่างรวดเร็ว
แวนส์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆขณะที่เขาเดินตามทั้งสองกลับไปที่ชั้นเรียน โดยใช้ความเร็วเล็กน้อยเป็นครั้งคราวเพื่อไล่ตามพวกเขา
ฉากที่อยู่ตรงหน้า มันเป็นฉากที่เกินคำบรรยายไปมาก ฮาร์วีย์ฝังรอยเท้าของเขาไว้ที่พื้น เบียทริซไล่เขาจากด้านหลัง เธอลอยอยู่กลางอากาศและกำลังวิ่ง แวนส์กระพริบตาจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งขณะที่เขาตามทั้งสองคนไป
ส่วนที่เหลือของชั้นเรียนไม่มีอะไรอีก มันเป็นเพียงการแนะนำตัวของอาจารย์กับนักเรียน และอธิบายสิ่งที่พวกเขาจะได้เรียนรู้ในชั้นเรียน และตามที่คาดไว้พวกเขาส่วนใหญ่เหนื่อยเกินกว่าจะฟัง และทันทีที่ระฆังดังนักเรียนก็รีบตื่นจากอาการมึนงง เพราะมันถึงเวลาแล้ว
“ได้เวลาบุกหอพักแล้ว!” ฮาร์วีย์กระโดดขึ้นจากที่นั่ง และวิ่งไปหาแวนส์
“ไปที่หอพักของเบียทริซก่อนแล้วต่อไปเป็นของนาย!” ฮาร์วีย์พูดขณะที่เขาชี้ไปที่เบียทริซที่กำลังเดินไปหาทั้งสองคน
“เอ่อ นายไปที่หอพักของผู้หญิงไม่ได้!” เบียทริซรีบดันแว่นตาของเธอ
“อ่า เราจะแอบเข้ามาตอนกลางคืน” ฮาร์วีย์พูดในขณะที่น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปอย่างจริงจังก่อนที่จะมองไปที่แวนส์
“หอพักเหรอ” เมื่อได้ยินแบบนั้น ตาของแวนส์ก็เบิกกว้าง
“ฉัน…ฉันไม่มี”
“…อะไรนะ!?”
โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก แวนส์จึงเดินมา เขาตื่นเต้นมากสำหรับวันแรกที่ได้ไปโรงเรียนจนลืมไปหมดแล้วว่าควรจะกลับไปที่ไหน เขาควรใช้ระบบของเขาเพื่อกลับบ้านไปที่สุสานของเก่าหรือเปล่า? เพราะพ่อของเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไปแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นเราจะต้องหาให้นายให้ได้!” ฮาร์วีย์ปรบมืออย่างรวดเร็ว
“ไปก่อนที่เราจะโดนจับได้กันเถอะ!”
“…ไม่ได้” แวนส์ส่ายหัว เขายังคงสัญญาว่าจะพบกับซาร่าห์หลังเลิกเรียน
“ไว้ไปกัน หลังจากที่ฉันกลับมา” แวนส์พูด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฮาร์วีย์ก็ได้แต่ถอนหายใจ ขณะที่เขามองไปที่เบียทริซ
“…ไปที่หอพักของฉันกันเถอะ?”
แน่นอนคำตอบของเบียทริซคือไม่! เธอตะโกนออกมาเสียงดัง
แวนส์โบกมือลาทั้งสองอย่างรวดเร็วก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มทะเลาะกัน แวนส์รีบตรงไปที่ประตูสถาบันเพราะเขาไม่ต้องการให้ซาร่าห์รอ
“อีแวนส์!” ซาร่าห์โบกมือเรียกแวนส์ทันทีที่เธอเห็นเขา
แวนส์อดไม่ได้ที่จะมองขณะที่เขาเดินไปหาซาร่าห์ เขามองไปที่ฝูงชนจำนวนมากที่อยู่ข้างหลังเธอและสงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นั่น แต่ทันทีที่เขาเข้าใกล้ซาร่าห์ แวนส์ก็รู้ว่าทำไมมีนักเรียนจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่ข้างหลังเธอ
“นั่น…” ตาของแวนส์เบิกกว้างอย่างรวดเร็ว
“…รถจริง!? รถจริงๆงั้นหรอ!?”
แวนส์จำรูปร่างของมันได้ทันที มันมีจำนวนมากในสุสานของเก่าแต่พวกมันเป็นเพียงเปลือกนอกของรถยนต์เท่านั้น และส่วนที่เหลือคือเศษซาก
นี่เป็นครั้งแรกที่แวนส์ได้เห็นของจริงที่มีสภาพสมบูรณ์ แม้กระทั่งตอนที่เขาเดินจากบ้านมาที่สถาบัน เขาก็ไม่เห็นแม้แต่คันเดียว ตอนนี้มีเพียงไม่กี่คนในโลกทั้งโลกที่รู้วิธีที่จะทำให้พวกมันทำงานได้และผลิตมันได้ มันกลายเป็นของที่หายากมาก
คนส่วนใหญ่ใช้รถม้าลาก กริฟฟอนและสัตว์บินชนิดอื่นๆที่เชื่อง เพื่อที่จะไปยังสถานที่ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
รถยนต์วินเทจเป็นสินค้าหรูหรา จำเป็นต้องผ่านกระบวนการหลายสิบขั้นตอน และเผาผลาญเงินเป็นอย่างมากก่อนที่คุณจะสามารถเป็นเจ้าของได้ ไม่ต้องพูดถึงความสามารถในการใช้งานได้จริง แวนส์จะไม่แปลกใจเลยถ้านี่เป็นรถคันเดียวในประเทศ
“เข้าไปสิ” ซาร่าห์พูดอย่างเรียบเฉย ขณะที่เธอเปิดประตูไปที่รถ
“รถคันนี้เป็นของคุณหรอ!?” ตาของแวนส์เบิกกว้างขึ้น
นักเรียนที่มารวมตัวกันอย่างรวดเร็วมองแวนส์ด้วยสายตาอิจฉาและหวาดกลัว แวนส์อดไม่ได้ที่จะอึกอักเมื่อเห็นภายในรถมีรูปร่างแปลกๆและมีแสงไฟแปลกๆ ออกมาราวกับว่ามันกำลังมองมาที่เขา
“ใช่” ซาร่าห์พยักหน้า
“เข้าไปข้างใน แล้วนั่ง”
“ฉัน…ข้างในหรอ ไม่ใช่ต้องอยู่ข้างบนเหรอ?” ร่างของแวนส์สั่นระริก ขณะที่เขาเดินไปที่รถช้าๆ เขารู้สึกกลัวเล็กน้อย เนื่องจากเขาคิดว่ารถคันนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตในประตูมิติและเขาก็เข้าไปข้างในนั้น
“มันจะไม่กินเธอหรอก” ซาราห์หัวเราะเบาๆ
“เข้าไปก่อนที่จะมีคนมารวมตัวกันมากกว่านี้”
“โอ…โอเค” แวนส์รวบรวมความกล้าและเข้าไปในรถได้ในที่สุด เขาสะดุ้งเมื่อซาร่าห์ปิดประตูด้านข้าง
ขณะนี้ร่างกายของแวนส์เต็มไปด้วยเหงื่อ ขณะที่เขามองไปรอบๆราวกับว่าเขาอยู่ในโลกที่ต่างออกไปเขาคิด
‘นี่…คือสิ่งที่ผู้คนเคยใช้เดินทางมาก่อนจะเกิดเหตุการณ์ของประตูมิติหรอ?’ เขาสั่นสะท้านด้วยความคิด
*บรู้มม*
“นั่นอะไร!?” แวนส์ตื่นตระหนกอย่างรวดเร็วขณะที่เสียงคำรามแปลกๆ ดังก้องอยู่ในหูของเขา
“ผ่อนคลายหน่อย…” ซาร่าห์หัวเราะเบาๆ
“ก็แค่สตาร์ทรถเท่านั้นเอง…”
“ฉัน…ฉันเข้าใจแล้ว” แวนส์ถอนหายใจอย่างโล่งอก
แต่แล้วเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาขยับถอยหลัง ขณะที่รถเริ่มเคลื่อนตัว ถ้าเขาไม่ชินกับอาการวิงเวียนศีรษะที่รู้สึกได้ทุกครั้งที่เปิดใช้งาน [การรับรู้เวลา] เขาคงจะอ้วกเข้าไปในรถแน่ๆ การเดินทางของพวกเขากินเวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่ซาร่าห์จะหยุดรถ
“เรามาถึงแล้ว” เธอพูดขณะที่เธอลงจากรถอย่างรวดเร็ว
“หื้ม…ถึงแล้ว?” แวนส์ยังคงตกใจเล็กน้อยจากการนั่งรถขณะที่ซาร่าห์เปิดประตูให้เขา เขากระพริบตาสองสามครั้งขณะก้าวออกไปอย่างเชื่องช้า
จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆตัวเขา และเห็นบ้านหลายหลังที่ทำด้วยคอนกรีต และหินอ่อนซึ่งแตกต่างจากบ้านในสุสานของเก่า
จากนั้นซาร่าห์ก็เปิดประตูบ้านหลังหนึ่ง หลังจากทำเช่นนั้นเธอก็เข้าไปหาแวนส์และยื่นกุญแจให้เขา
“อะไรหรอคุณซาร่าห์?” แวนส์อดไม่ได้ที่จะเอียงศีรษะด้วยความสับสน
“บ้านหลังนี้เป็นของเธอ”
“…อะไรนะ?”