“บ้านหลังนี้เป็นของเธอ”
“…อะไรนะ?”
แวนส์อดไม่ได้ที่จะกระพริบตาสองสามครั้ง ขณะที่ซาร่าห์ยื่นกุญแจชุดหนึ่งให้เขา เขาได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย?
“มันเป็นของเธอ” ซาราห์กระพริบตาขณะที่เธอมองไปที่แวนส์
“มัน…เป็นของฉันเหรอ” แวนส์อดไม่ได้ที่จะมองไปที่กุญแจในมือ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน เขามองดูบ้านในละแวกนั้น แม้ว่าบ้านตรงหน้าเขาจะเล็กกว่าหลังอื่นๆ แต่ก็ยังใหญ่กว่าบ้านของเขาที่ทำจากเศษเหล็กในสุสานของเก่าเสียอีก
“เธอกำลังรออะไรอยู่ล่ะ?”
ความคิดของแวนส์ถูกรบกวนอย่างรวดเร็วด้วยเสียงของซาร่าห์
“เปิดประตูสิ ฉันจะเป็นแขกคนแรกของเธอ”
ทั้งสองจ้องหน้ากันสักพัก แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีแวนส์ก็เลิกคิ้ว
“คุณต้องการอะไรจากฉัน” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“คุณคงไม่ได้ให้สิ่งนี้โดยที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนใช่มั้ย?”
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของแวนส์ ซาร่าห์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ
“ฉันบอกเธอแล้ว…” เธอพูด
“…มันเป็นค่าตอบแทนจากสมาคมนักสำรวจ”
“แต่คุณได้ช่วยฉันลงทะเบียนในสถาบันการศึกษาแล้ว” แวนส์ขมวดคิ้วของเขามากขึ้น
ซาร่าห์ทำได้เพียงถอนหายใจอีกครั้งขณะที่เธอกลอกตาเล็กน้อย
“การสมัครเข้าสถาบันเป็นเงินของฉันเอง” เธอพูดขณะที่มองไปที่ผมสีทองของเธอ
“ค่าตอบแทนที่แท้จริงสำหรับครอบครัวที่ถูกมอนสเตอร์จากประตูมิติรุกรานจะเป็นที่อยู่อาศัยใหม่”
“แต่…”
“ไม่ใช่บ้านแบบนี้” ซาราห์พูดต่อก่อนที่แวนส์จะพูดอะไร
“ฉันอัพเกรดมันให้เธอนิดหน่อยด้วยเงินของฉันเองอีกเหมือนกัน”
“…อะไรกัน” แวนส์อ้าปากค้าง
“ถ้าอย่างนั้นทำไมละ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงทำเพื่อฉันขนาดนี้”
“เพราะฉันสามารถทำได้” ซาราห์มองแวนส์ตรงตาด้วยน้ำเสียงที่ยืนกราน
“นี่…” การแสดงออกที่ซับซ้อนเริ่มฉาบไปทั่วใบหน้าของแวนส์
“ฉันไม่สามารถรับความช่วยเหลือของคุณได้อีกแล้ว” เขาพูดขณะที่เขาพยายามคืนกุญแจให้ซาร่าห์
“เธอค่อนข้างเป็นเด็กดื้อเลยนะเนี่ย” ซาร่าห์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครั้ง
“ฉันทำทั้งหมดนี้เพราะเธอมีศักยภาพที่ดี มันเป็นหน้าที่สำคัญของสมาคมนักสำรวจเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะหายดี อย่างที่ทราบกันดีว่าเป้าหมายของนักสำรวจคือการสำรวจประตูมิติ แต่เหตุผลหลักก็เพื่อปกป้องประเทศเป็นอันดับแรกและนั่นเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุด “
“ประเทศนี้อาจต้องการให้เธอปกป้องมันในสักวันหนึ่ง…” เธอพูดต่อ
“…ฉันแค่มองไปที่อนาคต”
กรามของแวนส์ลดลงเล็กน้อยขณะที่เขาจ้องไปที่ดวงตาที่แน่วแน่ของซาร่าห์ มันทำให้เขานึกถึงตอนที่เขายังคงให้ความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อนักสำรวจและผู้ควบคุมระบบ มันเป็นความรู้สึกแบบนี้ที่พวกเขาเปล่งออกมาทำให้แวนส์อยากเป็นหนึ่งเดียวกันกับพวกเขา
“นั่นเป็นเหตุผลที่ดีพอสำหรับเธอหรือเปล่า” ซาร่าห์ปรบมือ
“ตอนนี้เปิดบ้านให้ฉันได้แล้ว ฉันปวดปัสสาวะมาได้สักพักแล้ว”
“โอ…โอเค” เมื่อได้ยินคำพูดที่เร่งรีบของซาร่าห์ แวนส์ก็รีบปลดล็อกประตูบ้านและเปิดออก ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันทีเมื่อเห็นการตกแต่งภายในบ้าน มันช่าง…กว้างขวางจริงๆ เขาจะอยู่ที่นี่ต่อจากนี้ไป? โอ้พระเจ้า?
“หลบไปหน่อย”
การครุ่นคิดของแวนส์ถูกขัดจังหวะทันทีเมื่อซาร่าห์ผลักเขาไปด้านข้างเล็กน้อย ขณะที่เธอรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ เขาได้สัมผัสบางสิ่งบางอย่างที่ผนังซึ่งทำให้ภายในบ้านสว่างขึ้น
“!!!” แวนส์ถอยออกไปเล็กน้อยด้วยความตกใจเพราะบ้านทั้งหลังเต็มไปด้วยแสง เป็นไปได้ไหม…บ้านทั้งหลังนี้ใช้พลังงานจากคริสตัลหรอ!?
‘นี่มัน … สิ้นเปลืองเกินไปหรือเปล่า’ แวนส์อดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึกๆ เขารู้สึกว่ามันมากเกินไป แม้แต่ในสถาบันห้องโถงส่วนใหญ่ก็สว่างไสวไปด้วยคบไฟและแสงแดดจากธรรมชาติ มีเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกเท่านั้นที่ขับเคลื่อนด้วยคริสตัล
รถ บ้านที่ขับเคลื่อนด้วยคริสตัล แวนส์รู้สึกเหมือนเขาอยู่ในอนาคต…หรืออาจจะเป็นเหมือนอดีตที่ยังรุ่งเรืองมากกว่า?
“เป็นยังไงบ้าง” เสียงนุ่มๆของซาราห์ดังก้องไปทั่วบ้าน
“นี่…เป็นของฉันเหรอ” แวนส์ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้เขามีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว
“ใช่” ซาราห์พยักหน้า
“อืม…มันเป็นของเธอจนกว่าเธอจะเรียนจบ หลังจากนั้นเธอต้องซื้อมันต่อจากฉัน” เธอหัวเราะเบาๆ
“นั่น…” แวนส์ถอยออกไปเล็กน้อยในขณะที่เขากำมือแน่น
“คุณเป็นนายทุนหน้าเลือดงั้นหรอ!?” จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ซาร่าห์พร้อมกับกุญแจที่สั่นอยู่ในมือของเขา นี่คือเป้าหมายของเธอมาตลอดหรือเปล่า? เพื่อเพิ่มดอกเบี้ยและให้เขาชดใช้!? แวนส์คิด
อย่างไรก็ตามซาร่าห์เพียงแต่หัวเราะทันทีที่เธอเห็นการแสดงออกของแวนส์
“มันก็เป็นเพียงแค่นโยบายของสมาคมเท่านั้นแหละ ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันจะให้ส่วนลดมากมายกับเธอเอง” ซาราห์พูดขณะที่เธอขยิบตา
“นอกจากนี้ด้วยคริสตัลที่เธอได้รับในวันแรกของเธอที่เข้าเรียนในสถาบันการศึกษา ฉันคิดว่าหลังจากนี้เธอคงจะร่ำรวยพอที่จะซื้อแม้กระทั่งบ้านทั้งหมดในละแวกใกล้เคียงได้เมื่อเธอจบการศึกษา”
“ฉัน…มันเป็นไปไม่ได้” แวนส์รีบปฏิเสธ อย่างไรก็ตามรอยยิ้มค่อยๆคืบคลานบนใบหน้าของเขา
ในขณะที่เขาตื่นเต้นกับความคิดที่จะร่ำรวยพอที่จะซื้อบ้านทั้งละแวกนั้นได้
“ก็นั่นแหละ” ซาร่าห์ปรบมือ
“ฉันมีประชุมที่ต้องไปเข้าร่วม ฉันต้องไปก่อนนะ”
“โอ…โอเค” แวนส์พยักหน้าขณะที่เขาพาซาร่าห์ไปที่ประตู
“อ้อ อาหาร…” ซาร่าห์เหลือบมองกลับไปที่แวนส์ก่อนจะเดินผ่านประตู
“มีตลาดอยู่ใกล้ๆนี้ ถามคนแถวๆนี้เอาแล้วกัน ฉันจะมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว ถ้าฉันอยู่แถวๆนี้นะ”
แวนส์พยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็อำลาโดยที่แวนส์ยังไม่เชื่อว่าตอนนี้เขามีบ้านเป็นของตัวเอง มันมากเกินไปสำหรับเขา เขารีบปิดประตูและกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
“ฉันจะอยู่ที่นี่ต่อจากนี้ไปจริงๆเหรอ?” เขาถามตัวเองอีกครั้งขณะมองไปที่บ้านที่ว่างเปล่า วันเดียว เพียงวันเดียวในฐานะผู้ควบคุมระบบอย่างเป็นทางการ ชีวิตของเขาก็พลิกผันไปแล้ว
เขาได้เพื่อนใหม่ เขาได้บ้านและเขายังได้นั่งของที่ระลึกจากอดีตที่อาจจะแพงกว่าบ้านหลังนี้ ชีวิตของผู้ควบคุมระบบเป็นชีวิตที่ดีจริงๆใช่มั้ย? มันเป็นไปตามที่เขาจินตนาการมาตลอด
เขาเดินไปรอบๆบ้านอย่างไร้จุดหมายเป็นเวลาหนึ่งนาทีจากนั้นเขาก็หัวเราะเบาๆ และในไม่ช้าเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น
จากนั้นเขาก็ทิ้งตัวลงที่พื้น ขณะที่เขายังคงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาเริ่มไหลตามใบหน้าของเขาขณะที่ความคิดมากมายแล่นเข้ามาในใจของเขา
หากเพียงระบบของเขาปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้
ถ้าเขาไม่ได้เกิดในสลัมสุสานของเก่า
อย่างนั้นบางทีเขาอาจจะหนีพ่อของเขาได้เร็วกว่านี้ หรือบางทีพ่อของเขาอาจจะไม่เป็นแบบนั้นตั้งแต่แรกและเขาก็ไม่ต้องหนี
“เดี๋ยวก่อน…ถูกต้องแล้ว”
ด้วยความคิดถึงพ่อของเขา เขาจึงจำสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
‘เปิดหน้าต่างระบบ’ เขาคิดในใจ หลังจากนั้นหน้าต่างมากมายก็มาลอยอยู่ตรงหน้าเขา เขาให้ความสนใจไปที่หน้าต่างบานเล็กที่มุมล่างขวา
[รวบรวมวิญญาณ: 1]
เขามองดูเปลวไฟสีดำที่ริบหรี่ที่กำลังเต้นอยู่บนหน้าต่างบานเล็ก เขาถูกขัดจังหวะก่อนหน้านี้เมื่อเขากำลังตรวจสอบคราวนี้จะไม่มีใครมาขัดขวางการตรวจสอบของเขาอีก
เขาคลิกที่เปลวไฟสีดำ และตัวเลือกสามตัวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาอีกครั้ง
[โปรดเลือกสถานที่ที่จะส่งวิญญาณแห่งความมืดไป:
ลานแห่งการลงโทษ | ทุ่งหญ้าดอกไม้แห่งความตาย | สวรรค์]
เขาเคยเห็นตัวเลือกแรกแล้วเขาจึงกดอันที่สองเพื่อดูว่ามันจะเป็นยังไง
และที่นั่นเขาเห็นพ่อของเขา…ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข การกินการนอนการทำงาน ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก แวนส์เลิกคิ้วขึ้นอย่างรวดเร็วขณะที่เขาหมดความสนใจและปิดหน้าต่างลง
จากนั้นเขาก็เลือกอันสุดท้าย เขาเห็นพ่อของเขายิ้มและถูกล้อมรอบไปด้วยคนรับใช้ที่ให้อาหารเขาด้วยอาหารที่หรูหราที่สุด แวนส์ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาทันทีก่อนจะปิดปากของเขา
จากนั้นเขาก็ส่ายหัวในขณะที่เขาปิดหน้าต่างอย่างรวดเร็ว พยายามที่จะหยุดเสียงหัวเราะที่ยังคงออกมาจากเขา
จากนั้นเขาก็กลับไปที่ตัวเลือกแรกโดยไม่ลังเล
[ส่งวิญญาณมืดไปยังลานแห่งการลงโทษ?
ใช่ | ไม่]
และด้วยรอยยิ้มเขากระซิบเบาๆว่า
“นี่…เป็นการจากลาของเรา ลาก่อนพ่อ”
ทันทีที่เขาเลือก ‘ใช่’ เปลวไฟสีดำก็ดิ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้องอยู่ในหูของแวนส์ แต่ถึงกระนั้นรอยยิ้มก็ยังคงอยู่บนใบหน้าของเขา เขาจ้องมองไปที่เปลวไฟสีดำที่ดิ้นรนจนกว่ามันจะดับลงอย่างสมบูรณ์
[ส่งวิญญาณแห่งความมืด Lv.0 ไปที่ลานแห่งการลงโทษสำเร็จแล้ว]
[เนื่องจากผู้คุมวิญญาณได้ส่งวิญญาณแห่งความมืดไปยังชีวิตหลังความตายเป็นครั้งแรกจึงได้รับโบนัส EXP เพิ่ม]
[Lv.ของคุณเพิ่มขึ้น!]
[Lv.ของระบบของคุณเพิ่มขึ้น!]
หน้าต่างมากมายโผล่ขึ้นมาตรงหน้าเขา เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าพวกเขากำลังพูดอะไรสิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือ…
การมองเห็นของเขาเริ่มมืดลง
“…อะ” เขาพึมพำก่อนที่ดวงตาของเขาจะปิดลงอย่างสมบูรณ์ใบหน้าของเขาล้มลงก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงกับพื้น
[…]
[…เทพแห่งโอลิมปัสกำลังเฝ้าดูคุณอยู่ตอนนี้]