หลังจากที่คลาสเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแวนส์จบลงอย่างกะทันหัน เนื่องจากการปรากฏตัวของวิคตอเรีย เกตส์ ชาร์ตและเฟร็ดก็อำลาเขาอย่างรวดเร็ว โดยขี่กิ้งก่ายักษ์ออกไป
มันก็ถึงเวลาที่แวนส์ต้องกลับบ้านเช่นกัน เขาถอนหายใจหนึ่งครั้งและเขาก็เริ่มใช้ทักษะ เขาเริ่มขยับเท้าและทิ้งควันไว้ด้านหน้าคลาสเรียนเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะถึงประตูเขาได้ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วจนเกือบจะเหมือนกับว่าเขาวิ่งเหยาะๆ
“นี่…?” แวนส์อดไม่ได้ที่จะกระพริบตาสองสามครั้ง ฮาร์วีย์และเบียทริซอยู่หน้าประตูขนาดมหึมาของสถาบัน
“อ๊าก!” ฮาร์วีย์ร้องเสียงหลงและกระโดดขึ้นไปบนอากาศด้วยความตกใจ ขณะที่แวนส์ที่ดูเหมือนอยู่ๆก็โผล่ขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้
“พวกเธอสองคนกำลังจะไปไหนรึเปล่า?” แวนส์ถาม
“ใช่” เบียทริซดันแว่นของเธอ
“ไปบ้านนายไง จะที่ไหนอีก”
“อะไรกัน” แวนส์เลิกคิ้วด้วยความสับสน พวกเขากำลังรอเขาอยู่? แวนส์รู้ว่าพวกเขาไม่ได้รอนานขนาดนั้นนั่นเป็นเพราะชั้นเรียนนอกหลักสูตรของเขาจบลงเร็วเกินไป ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นหมายความว่าพวกเขาจะรอเขาอยู่ที่ประตูนานกว่าหนึ่งชั่วโมงเลยหรอ?
“แน่นอน” ฮาร์วีย์กระแอมในลำคอ
“เราไม่มีอะไรทำหลังเลิกเรียนนอกจากไปบ้านนาย” ฮาร์วีย์ยักไหล่
“อืมๆ” เบียทริซพยักหน้าเห็นด้วย
“นายไม่สามารถข้ามบทเรียนได้แค่เพราะนายมีเรียนนอกหลักสูตรในวันนี้”
“ฉัน…รู้” แวนส์ก้มลงเล็กน้อยรอยยิ้มค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“งั้นเราไปกันเลยไหม?”
ทั้งสามจึงเดินต่อไปที่บ้านของแวนส์ แต่เมื่อพวกเขาอยู่หน้าบ้านของแวนส์ทั้งสามก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเพราะรู้สึกว่ามีคนติดตามพวกเขามาตลอดตั้งแต่ที่พวกเขาออกจากสถาบัน แวนส์อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดขณะที่เขาเปิดใช้ทักษะของเขา
จากนั้นเขาก็วิ่งไปด้านหลังคนที่กำลังตามพวกเขามา
“เธอกำลังทำอะไรอยู่หรอเจมม่า?”
“หยา!”
เจมม่าแทบชนเสาที่เธอซ่อนอยู่ข้างหลัง เมื่อเธอรู้สึกว่ามีใครมาแตะที่ไหล่ของเธอ แต่ทันทีที่เธอเห็นว่าเป็นใครเธอก็กระแอมและตบเครื่องแบบของเธอ
“ฉันบอกนายแล้วว่า…” เธอพึมพำ
“ฉันจะไม่ไปไหน ก่อนที่ฉันจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายบนเวทีวันนั้น”
“แวนส์ ทุกอย่างโอเคไหม”
เบียทริซและฮาร์วีย์รีบวิ่งไปหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงตะโกนของเจมม่า
“นี่คือ…?” เบียทริซเอียงศีรษะขณะที่เธอมองไปที่เจมม่า
“อ๊ะ! เธอเป็นคนผมสีแดงที่เราเจอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว!” ฮาร์วีย์รีบชี้ไปที่เจมม่า จากนั้นเขาก็หรี่ตาด้วยความสงสัย
“…เธอกำลังสะกดรอยตามแวนส์หรือเปล่า?”
“อะไรนะ!?” เจมม่ารีบโบกมือ
“ไม่!” เธอปฏิเสธอย่างรวดเร็ว แต่ในใจของเธอ เธอก็เริ่มคิดว่าเธออาจจะสะกดรอยตามแวนส์ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในนามของความยุติธรรม
“ก็ดี” ถ้าเจมม่าตามเขามาที่นี่ เธอก็คงไม่หยุดจนกว่าแวนส์จะบอกอะไรบางอย่างเพื่อตอบสนองการแสวงหาความจริงของเธอ เขาถอนหายใจ
“…เข้ามาข้างในก่อนสิ” เขาเชิญเจมม่าเข้าไปในบ้าน
***
“มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ!?”
ในที่สุดแวนส์ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา เมื่อเขามาที่สถาบันเมื่อครึ่งเดือนที่แล้วเพื่อขอความช่วยเหลือในการปลดล็อกระบบของเขา แต่เขาถูกนำไปที่เวทีและถูกนักเรียนอันธพาลทุบตี
ฮาร์วีย์และเบียทริซอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความโกรธ
“นายรู้ไหมว่าพวกเขาเป็นใคร!?”
ทันทีที่แวนส์ได้ยินคำถามนี้เขาก็เหลือบไปมองฮาร์วีย์เล็กน้อยก่อนจะส่ายหัว
“ไม่…ฉันจำหน้าพวกเขาไม่ได้” แน่นอนเขาจำได้ เขาจำใบหน้าของพวกเขาแต่ละคนได้ แต่จนถึงตอนนี้เขาได้พบเจอรัลด์เพียงคนเดียว
“ไม่แม้แต่สีผมเหรอ” เจมม่าวางมือบนคางของเธอ
“ไม่เลย” แวนส์ถอนหายใจลึก ๆ
“เชอะ” ฮาร์วีย์แสดงอาการไม่พอใจ
“ถ้าเรารู้ว่าเขาเป็นใครเราจะเอาชนะพวกเขาให้ได้!”
แวนส์ทำได้เพียงหัวเราะเบาๆขณะที่เขาได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์ ถ้าเขารู้ว่าเป็นพี่ชายของเขา เขาจะยังพูดเหมือนเดิมไหม?
“อย่างไรก็ตาม…” เจมม่าลุกขึ้นจากโซฟา
“เรายังไม่ได้แนะนำตัวอย่างเหมาะสมเลย…ฉันชื่อเจมม่า ฮอปกินส์ เป็นนักเรียนปีที่สองและเป็นหนึ่งในสภานักเรียน”
“สภานักเรียน โรงเรียนมีอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ?” ฮาร์วีย์กระพริบตาด้วยความไม่เชื่อสองสามครั้ง
“…ใช่” เจมม่าขมวดคิ้ว” คนที่อธิบายเกี่ยวกับระบบระหว่างพิธีเข้าเรียนของพวกเธอคือประธานของเรา”
“อย่าไปสนใจเขาเลย เขาไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรหรอก” เบียทริซขัดจังหวะ
“ฉันคือเบียทริซ วิลเลียมส์เพื่อนร่วมชั้นของแวนส์” เธอพูดเบาๆขณะจับมือของเจมม่า
“ยินดีที่ได้พบ…”
“และฉัน…!”
ก่อนที่ทั้งสองจะแนะนำตัวต่อไปทันใดนั้นฮาร์วีย์ก็ยกแขนขึ้นในอากาศ
“ฮาร์วีย์ ลอเดอร์นักเรียนใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ” เขาพูดขณะที่เกร็งกล้ามเนื้อ
“เธออาจรู้จักพี่ชายของฉัน เพราะเขาเป็นนักเรียนปีสอง…เจอรัลด์?”
“เจอรัลด์” ทันทีที่เจมม่าได้ยินชื่อเธอก็เลิกคิ้วทันที
“ไอ้โรคจิตนั่นเป็นพี่ชายของนายเหรอ ไม่น่าเชื่อ” เธอพูดน้ำเสียงของเธอที่แฝงไปด้วยความสงสารเล็กน้อย
“…โรคจิตเหรอ” ฮาร์วีย์ค่อยๆคลายกล้ามเนื้อขณะที่เขากลับไปนั่ง
“หืม?” เจมม่าเอียงศีรษะ
“ในช่วงปีแรกเขาฆ่ากริฟฟอนน้อยเพียงเพราะมันบินไม่ได้”
“!!!”
“อะไรนะ!?”
เบียทริซและฮาร์วีย์เบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดของเจมม่า แม้แต่แวนส์ที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเจอรัลด์ก็ยังแปลกใจเล็กน้อย
“มันเป็นแบบนั้น…” เจมม่าตกใจเล็กน้อย
“…นายไม่รู้เหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้!” ฮาร์วีย์โบกมือเหงือกของเขาแทบเลือดออกขณะที่เขากัดฟัน
“พี่ชายของฉัน…พี่ชายของฉันจะไม่ทำอะไรแบบนั้น!”
เมื่อเห็นการปฏิเสธในดวงตาของฮาร์วีย์ เจมม่าทำได้เพียงส่ายหัว
“ลองถามคนที่อยู่ปีสองดู พวกเขาก็จะบอกนายเหมือนกัน…” เจมม่าพูด
“…หรือบางทีพวกเขาอาจจะไม่บอก เพราะความกลัว”
“ถ้านั่นเป็นเรื่องจริง…” เบียทริซก้าวเข้ามาปลอบฮาร์วีย์
“ตอนนี้เขาควรจะถูกไล่ออก แต่เขาก็ยังอยู่นี่!”
“…ขับไล่ลอเดอร์เนี่ยนะ?” เจมม่าตะคอก
“ขับไล่ทายาทของหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศงั้นหรอ?”
“เอ่อ…” เมื่อได้ยินคำพูดเย็นชาของเจมม่าเบียทริซก็ทำได้แต่นั่งลง
เจมม่าถอนหายใจเมื่อเห็นว่าเขาอารมณ์เสีย บางทีเธอควรปิดปากเป็นครั้งคราวเธอคิดยังงั้นกับตัวเอง
“อย่างไรก็ตาม ฉันยังคงต้องกลับไปที่สถาบันแล้วละ” เจมม่าปรบมือเบาๆขณะที่เธอค่อยๆก้าวออกไปอย่างเชื่องช้า
“มาหาฉันเมื่อนายจำได้ว่าใครทำแบบนั้นกับนาย” เธอกระซิบข้างหูของแวนส์ก่อนจะเดินไปที่ประตู
“ขอโทษที่ทำให้นายต้องรู้เรื่องอะไรแบบนี้นะ ฮาร์วีย์” เธอพึมพำก่อนออกจากบ้าน
“…”
บ้านทั้งหลังเงียบลง ฮาร์วีย์ซึ่งก่อนหน้านี้มักจะพูดอะไรก็ก้มหน้าลง
ในท้ายที่สุดเบียทริซก็ไม่สามารถมีสมาธิในการสอนแวนส์ได้เนื่องจากอารมณ์บูดบึ้ง เบียทริซและฮาร์วีย์จึงกลับไปที่สถาบันด้วยความหดหู่ใจอย่างที่สุด
เมื่อพวกเขาเดินไหล่ตก แวนส์ก็ถอนหายใจ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าเจอรัลด์เป็นคนแบบไหน เขาเป็นสัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาดที่ชอบล่าเหยื่อที่อ่อนแอ
แวนส์กลับไปที่ห้องนั่งเล่น และนั่งลงบนโซฟา เขามองไปรอบๆบ้านอีกครั้งเพื่อสังเกตว่ามันว่างเปล่า
“พรุ่งนี้…เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์เหรอ” เขาพึมพำ
สถาบันไม่มีชั้นเรียนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อให้นักเรียนได้พักผ่อนและอาจฝึกฝนด้วยตัวเอง เนื่องจากฮาร์วีย์และเบียทริซกลับไปอย่างกะทันหัน พวกเขาไม่มีโอกาสได้วางแผนสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์เลย
แวนส์จึงหายใจเข้าลึกๆขณะที่คิดแผนของตัวเอง ไปเยี่ยมแอนเดรียนและขอให้เธอมาอยู่กับเขาดีมั้ยนะ
‘หรือ…วันนี้ควรจะพักผ่อนก่อนดีนะ’