แวนส์มองไปรอบๆตัว ขณะที่ดวงตาของเขาเริ่มปรับแสงได้ จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยทำให้น้ำตาของแอนเดรียหยดลงบนใบหน้าของเขา เมื่อรู้สึกถึงความรู้สึกอบอุ่นบนใบหน้าของเขาแวนส์ก็รู้ว่าเขากลับมาข้างนอกแล้ว
“นาธาน!”
แวนส์เช็ดน้ำตาของแอนเดรียออกจากใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขามองไปยังเสียงที่คุ้นเคยนั่นคือของนิชา
แวนส์ขมวดคิ้วขณะจ้องมองนิชาที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขา
“นาธานคุณยังมีชีวิตอยู่!”
“คุณ…” แวนส์ถอยออกไปเล็กน้อย ขณะที่เขาค่อยๆดึงแขนของแอนเดรีย คิ้วของเขาก็สั่นขณะที่เขามองตรงไปที่ดวงตาของนิชาอย่างน่ากลัว
“คริสตัลของฉันอยู่ที่ไหน!?
นิชาหยุดก้าวของเธอในขณะที่กระพริบตาสองสามครั้ง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสับสน
“…อะไรนะ?”
“คุณเอาคริสตัลของฉันไป แล้วหายไป!” แวนส์โบกมือพร้อมที่จะเปิดใช้ทักษะ [การรับรู้เวลา] ได้ทุกเมื่อ
“อีแวนส์…คุณกำลังพูดอะไร” แอนเดรียอดไม่ได้ที่จะมองไปมาระหว่างแวนส์กับนักสำรวจหญิงที่สวมผ้าพันคอ นอกจากนี้เธอยังค่อนข้างสงสัยว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงเรียกแวนส์ว่านาธาน
“คนพวกนี้ปล่อยให้ฉันตาย และเอาคริสตัลทั้งหมดของฉันไป!” แวนส์ตะคอก
“อะไรนะ!?” นิชาเลิกคิ้ว
“นายคือคนที่หายตัวไป!” เธอตะโกน
“ตอนที่เราเอาชนะบอสจากประตูมิติ นายก็หายไปแล้ว!”
แวนส์เดาะลิ้นของเขาขณะที่เขาเข้าไปหานิชาช้าๆ เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วเขาก็รู้สึกสั่นๆอยู่ในกระเป๋าของเขา แวนส์เหล่ตาเล็กน้อยในขณะที่เขาหยิบกระเป๋าออกมาจากกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่คุ้นเคยที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมี เขาเปิดมันและดู คริสตัลของเขาอยู่ในนั้น
“…อะไรกัน” แวนส์แลบลิ้นออกมาเล็กน้อยก่อนจะดุนมันไปมาและยิ้มให้นิชาอย่างเชื่องช้า
“… ขอโทษนะ” เขาพูดอย่างแผ่วเบา ถึงกระนั้นความสับสนของเขาก็เพิ่มมากขึ้น เขาแน่ใจว่ากระเป๋าของเขาว่างเปล่าในครั้งสุดท้ายที่เขาตรวจสอบมัน เมื่อเขากำลัง…ต่อสู้กับบอสของประตูมิติ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
นิชาก็มองแวนส์อย่างสงสัย แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็ถอนหายใจ
“ยังไงก็…ทำไมเธอถึงเพิ่งออกมาตอนนี้ล่ะ” เธอพูดขณะที่เช็ดเหงื่อที่คอเบาๆ
“เราทุกคนคิดว่านายออกจากประตูมิติไปก่อนหน้าเราแล้ว แต่เมื่อเราเอาชนะแมงมุมปีศาจได้ และออกมา นายก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น ไม่มีใครเห็นนายออกมาจากประตูมิติเลย แต่ประตูมิติก็ยังคงเปิดอยู่ดังนั้นเราจึงคิดว่านายยังอยู่ข้างใน”
แวนส์ขมวดคิ้วมากขึ้น
“คุณ…เอาชนะบอสของประตูมิติได้แล้วเหรอ?”
“…อือ” นิชายักไหล่อย่างเมินเฉย
“คุณฆ่ามันได้ยังไง?” ตาของแวนส์เบิกกว้างด้วยความตกใจ
“มันพูดอะไรกับคุณก่อนที่มันจะตายหรือเปล่า?”
“…พูดอะไรเหรอ นายหมายความว่ายังไง” นิชาเลิกคิ้ว
“หัวกระแทกมารึไง มอนสเตอร์พวกนั้นมัน…พูดไม่ได้” ตอนนี้นิชามองแวนส์เหมือนเขาเป็นคนบ้า ครั้งแรกที่เธอเห็นแวนส์คือเขาหัวเราะอยู่บนซากศพของมอนสเตอร์ จากนั้นก็โจมตีเธอในภายหลัง บางที…เขาอาจเป็นคนบ้าจริงๆ?
“…อะไรนะ” ความสับสนของแวนส์กำลังมาถึงจุดสูงสุด เมื่อมีความคิดมากมายปรากฏขึ้นในใจของเขา
พวกเขาต่อสู้กับบอสของประตูมิติตัวอื่นงั้นหรอ? พวกเขาหายไปทันทีก่อนหน้านี้ อาจเป็นไปได้ว่ามีประตูมิติที่มองไม่เห็นซึ่งถ่ายโอนไปยังที่อื่นอีกรึเปล่า? ถ้าเป็นเช่นนั้นมันจะเกิดขึ้นอีกครั้งได้หรือไม่?
เขายังจำได้ว่าบอสของประตูมิติได้มอบขนนกให้เขา มันอยู่ในมือของเขาก่อนที่วิสัยทัศน์ของเขาจะดับลง แต่ตอนนี้มันไม่มีแล้ว
ทำไมประตูมิตินี้ถึงซับซ้อนแบบนี้? เขาเข้ามาด้วยจิตใจที่แจ่มใส แต่ตอนนี้ทั้งหมดที่เขามีคือคำถามมากมาย
เมื่อเห็นการแสดงออกบนใบหน้าของแวนส์ แอนเดรียก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาขณะที่เธอดึงแวนส์ออกไปเล็กน้อย
“บางทีคุณควรพักผ่อนบ้างนะอีแวนส์” เธอพูด
แต่ก่อนที่พวกเขาจะก้าวไปแม้แต่ก้าวเดียว นิชาก็บอกให้พวกเขารอด้วยน้ำเสียงที่รีบร้อนของเธอ จากนั้นเธอก็ถอดผ้าพันคอออกพร้อมกับสะบัดศีรษะเผยให้เห็นผมสีเทาขี้เถ้าอันฉ่ำวาวของเธอ
“กิลด์เซอร์เบอรัส 7 หัวกำลังรับสมัครสมาชิกที่มีแนวโน้มที่ดีในอนาคต” นิชาพูดขณะที่สะบัดผม
“นายอยากลองเข้าร่วมกับเราไหม”
“…” แวนส์มองเธอด้วยสีหน้าว่างเปล่า เธอ…พยายามหลอกล่อให้เขาเข้าร่วมกิลด์หรือเปล่า? บางทีถ้าแวนส์ไม่ได้เห็นใบหน้าและร่างกายของบอสประตูมิติก่อนหน้านี้ เทคนิคการสะบัดผมของนิชาอาจจะใช้ได้ผลกับแวนส์เล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับแมงมุมปีศาจแล้วอยู่นิชากับมันอยู่คนละระดับ
นิชากำลังจะเปิดปากของเธออีกครั้ง แต่ก่อนที่เธอจะทำเช่นนั้นเสียงกรีดร้องก็ดังกึกก้องไปทั่วสุสานของเก่า ทุกคนหันหน้าไปยังทิศทางของเสียงดัง เมื่อทุกคนหันไปก็เห็นรถคันหนึ่งหยุดอยู่ตรงหน้าเครื่องกีดขวางที่หน่วยแสตนด์บายป้อมปราการสร้างขึ้น
“นั่น…นั่นคือของในสมัยก่อนสำหรับการขนส่ง!” ผู้คนเริ่มส่งเสียงโห่ร้องและกระซิบกระซาบกัน
การขนส่งที่เรียกว่ารถ แวนส์คุ้นเคยเป็นอย่างดีมันคือรถยนต์และมีเพียงคนเดียวที่เขารู้ว่าใครเป็นเจ้าของอะไรแบบนั้น
จากนั้นประตูรถก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว มีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากรถ และเป็นไปตามที่แวนส์คิดคนๆนั้นคือซาร่าห์
หัวหน้าหน่วยแสตนด์บายรีบตรงไปหาซาร่าห์และยื่นมือออกไป
“ม…มิสซาราห์เราไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับคุณที่นี่!” หัวหน้าหน่วยสแตนด์บายกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเคารพ
อย่างไรก็ตามซาร่าห์เพียงโบกมือและเริ่มเดินไปหาแวนส์ เสียงถอนหายใจของเธอสามารถได้ยินได้จากระยะไกล
“ฉันคิดอยู่แล้วว่าจะต้องเป็นนาย” เธอพูดขณะที่ส่ายหัว
“ฉันได้รับรายงานว่ามีนักเรียนคนหนึ่งเข้าไปในประตูมิติในสุสานของเก่า” ซาร่าห์มองแวนส์ตรงไปที่ดวงตา
“และจะเป็นใครได้อีกนอกจากนาย” เธอถอนหายใจอีกครั้ง
แม้ว่านิชาจะตกใจเล็กน้อยกับการปรากฏตัวของ…ผู้หญิงเผด็จการคนนี้ แต่ก็ยังไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าเธออยู่ระหว่างเชิญแวนส์เข้ากิลด์ของเธอ
“นี่” เธอพูดอย่างหยิ่งผยอง
“ไม่เห็นหรอ ฉันกำลังคุยกับ…”
แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบสก็อต์ก็ปิดปากเธอไว้และเธอก็ถูกเพื่อนร่วมกิลด์ลากออกไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนจากหน่วยสแตนบายที่ก่อนหน้านี้จ้องมองแวนส์อย่างอยากรู้อยากเห็นทุกคนต่างมองออกไปทางอื่น
แวนส์มองไปรอบๆตัวเขา นี่เป็นครั้งที่สองที่ผู้คนหลีกเลี่ยงเขาอย่างกะทันหันเพราะซาร่าห์
…ตัวตนของซาร่าห์คืออะไรกันแน่? แวนส์คิดขณะที่เขามอง ทำไมเธออยู่ทุกที่เลยละเนี่ย!? เธอกับเจมม่าเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า?
“คุณซาร่าห์” แอนเดรียรีบเช็ดมือของเธอ แล้วยื่นไปทางซาร่าห์
เมื่อเห็นสิ่งนี้ซาร่าห์ก็ยิ้มขณะจับมือของแอนเดรีย
“เจอกันอีกแล้วนะแอนเดรีย”