เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก – ตอนที่ 52

แวนส์ฟังในชั้นเรียนอย่างตั้งใจ และเป็นครั้งแรกที่เขาสามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในที่สุด แน่นอนว่ายังมีบางอย่างที่ทำให้เขาสับสน เช่น ตอนที่ผู้สอนเริ่มคูณตัวเลข แต่แวนส์ก็ไม่ได้คำนึงถึงมันมากนัก เพราะตอนนี้ก็เพียงพอแล้วที่เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นธรรมชาติ

 

ฮาร์วีย์และเบียทริซกำลังฟังอยู่ในชั้นเรียน พวกเขาสามารถทักทายกันได้เฉพาะเมื่อมิสเตอร์จาค็อบส์เข้ามาคุยกันก่อนเวลา เบียทริซยังคงกังวลเกี่ยวกับฮาร์วีย์เล็กน้อย เนื่องจากครั้งสุดท้ายที่พวกเขาแยกทางกันดูเหมือนว่าเขาจะรับข่าวเกี่ยวกับพี่ของเขาและมันส่งผลต่อเขาอย่างหนัก

 

ตอนจบชั้นเรียน แวนส์กำลังจะออกจากห้องเรียนโดยไม่ได้พูดอะไรกับทั้งสองคน แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกไปนอกชั้นเรียน คำพูดของฮาร์วีย์ก็ดังเข้ามาที่หูของเขา

 

อันที่จริงมันดังเข้าหูของทุกคน ในขณะที่เสียงของเขาดังก้องอยู่นอกโถงทางเดิน

 

“รอพวกเราด้วย!” เขาตะโกน

 

“หืม?” แวนส์อดไม่ได้ที่จะกระพริบตาสองสามครั้ง ขณะที่เขาหันไปมองฮาร์วีย์ นอกจากนี้เขายังมองไปที่เบียทริซซึ่งเธอทำได้เพียงแค่ยักไหล่ ขณะที่เธอเดินเข้ามาหาแวนส์ทั้งสองได้แต่มองหน้ากันเพราะทั้งคู่คิดว่าฮาร์วีย์ต้องใช้เวลาอยู่คนเดียว แต่ดูเหมือนว่า…เขาสบายดีอยู่แล้ว?

 

“ทำไมนายถึงออกมาคนเดียว!?” ฮาร์วีย์ปล่อยลมหายใจดังๆขณะที่เขาเดาะลิ้นของเขาหลายครั้ง

 

“เกี่ยวกับเรื่องนั้น…”

 

“ฉันเดาว่าเราไม่สามารถหยุดสอนนายได้ในตอนนี้ เมื่อนายพัฒนาอย่างรวดเร็ว”

 

 

แวนส์กำลังจะบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องเรียนการรู้การอ่านหรือเขียนหนังสืออีกต่อไป แต่ก่อนที่เขาจะทำได้เบียทริซก็ปรบมือดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

 

แวนส์ทำได้แต่ถอนหายใจและทั้งสามคนก็เริ่มเดินไปที่บ้านของแวนส์ ขณะที่พวกเขาออกจากประตูของสถาบัน เจอรัลด์และกลุ่มของเขาอยู่ที่มุมถนนและมองพวกเขาจากระยะไกล คิ้วของเจอรัลด์ลดลงอย่างมาก ขณะที่เขายังคงจ้องมองไปที่แผ่นหลังของน้องชายเขา

 

แวนส์และคนอื่นๆเดินไปยังละแวกนั้น และฮาร์วีย์ไม่ได้ปิดปากของเขาตั้งแต่พวกเขาออกจากสถาบัน แต่เขาไม่เคยพูดถึงอะไรเกี่ยวกับพี่ชายของเขาเลยสักครั้ง ตอนนี้เขาจะสบายดีหรือเปล่าหรือเขาแค่ซ่อนความเจ็บปวดไว้? เบียทริซอดไม่ได้ที่จะจับแว่นตาของเธอขณะที่เธอจ้องไปที่ฮาร์วีย์

 

ในที่สุดหลังจากฟังการพูดอย่างไม่รู้จบของฮาร์วีย์อีกสองสามนาทีพวกเขาก็มาถึงหน้าบ้านของแวนส์ แวนส์กำลังจะเปิดประตู แต่แล้วเขาก็หันหน้าไปทางเบียทริซและฮาร์วีย์แล้วพูดว่า

 

“เออใช่…” เขากระซิบ

 

“ฉันลืมบอกพวกนายว่า…”

 

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะแวนส์!”

 

ก่อนที่แวนส์จะพูดจบเสียงก็ดังก้องไปทั่วบ้านและประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านใน จากนั้นเสียงปรบมือก็ตามมาและเสียงนั้นหยุดทันทีที่ประตูเปิดจนสุด

 

“…”

 

“…เอ๊ะ”

 

“มีคนอื่นอยู่ในบ้าน” แวนส์ได้แต่ถอนหายใจขณะที่เขามองไปที่แอนเดรียที่ถูกแช่แข็งจากความลำบากใจ

 

“…ใครกันน่ะ!?” ฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะถอยห่างออกไปเล็กน้อย

 

“นี่ใคร!? แฟนของนายหรอ!?” จู่ๆฮาร์วีย์ก็คว้าไหล่ของแวนส์

 

“ไม่ใช่” แวนส์แทบสำลักน้ำลายจากคำพูดของฮาร์วีย์ แต่ถึงกระนั้นคำถามของฮาร์วีย์ก็เป็นคำถามที่ถูกต้องใช่มั้ย? แอนเดรียเป็นอะไรกับเขา?

 

แวนส์ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี แต่หลังจากนั้นเขาก็บอกไปว่า

 

“เธอเป็นเหมือนพี่สาวของฉัน”

 

“…พวกเขาคือใครหรอ?” หลังจากได้ยินคำพูดของแวนส์แอนเดรียก็ตื่นขึ้นจากอาการมึนงงขณะที่เธอเดินเข้าไปหาแวนส์อย่างช้าๆ

 

“สวัสดี” เบียทริซรีบยื่นแขนไปทางแอนเดรีย

 

“ฉันคือเบียทริซเพื่อนของแวนส์”

 

“โอ้ฉัน…” แอนเดรียพึมพำขณะที่เธอจับมือเบียทริซ

 

“ไม่จำเป็นต้องเป็นทางการมากนักก็ได้” เธอกล่าว หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีทันทีที่ฮาร์วีย์ได้ยินเสียงของเธอ เขาก็คุกเข่าลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว และจับมือข้างที่ว่างของแอนเดรียอย่างเบามือ

 

“ฉันคือฮาร์วีย์” เขาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ จากนั้นเขาก็มองไปที่แวนส์ในขณะที่ยังจับมือของแอนเดรีย

 

“แวนส์นายอาจต้องเรียกฉันว่าพี่เขยเร็วๆนี้”

 

“อ๋อ?” แอนเดรียอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ

 

“น่าเศร้า นายไม่ใช่แบบที่ฉันชอบ” เธอค่อยๆเอามือออก

 

“นายมีเพื่อนที่มีชีวิตชีวาดีนี่หน่าแวนส์” จากนั้นเธอก็พูดขณะที่มองไปทางแวนส์

 

“ดีเลย ฉันทำอาหารไว้เยอะมาก”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของแอนเดรีย แวนส์ก็รีบหันหน้าไปมองที่โต๊ะ และที่แปลกใจคือจานแทบจะใส่ไม่ได้

 

“เธอ…ทำอาหารหรอ? เธอทำได้ยังไงกัน”

 

“โอ้ซาร่าห์มาที่นี่” แอนเดรียพูดอย่างสบายๆขณะที่เธอทำท่าให้ฮาร์วีย์และเบียทริซเข้ามาข้างใน

 

“เราซื้อของจากตลาด”

 

“ดูสิเตานี้ใช้พลังงานจากคริสตัล!” เธอชี้ไปที่…อุปกรณ์ใหม่ในบ้านของพวกเขาอย่างภาคภูมิใจ

 

“ซาร่าห์…”

 

“อาหารจะเย็นแล้วมากินกันก่อนเถอะ!”

 

ก่อนที่แวนส์จะได้สอบถามเพิ่มเติมแอนเดรียก็ปรบมือ จากนั้นฮาร์วีย์รีบดึงที่นั่งให้แอนเดรีย

 

“นั่งเลยครับ” เขาโค้งคำนับเล็กน้อย

 

“โอ้ ขอบคุณ” แอนเดรียหัวเราะเบาๆอีกครั้งขณะที่เธอนั่งลง

 

ซาร่าห์อยู่ที่นี่รึเปล่า? แวนส์อดไม่ได้ที่จะมองไปที่แอนเดรียอย่างสงสัย เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?

 

อย่างไรก็ตามแอนเดรียไม่ได้พูดอะไรอีก เธอสัมผัสแก้มของเธอด้วยความยินดีขณะที่อาหารละลายในปากของเธอ เช่นเดียวกับแวนส์เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เขาไม่ได้กินอาหารที่เหมาะสม และครั้งสุดท้ายที่เขาได้กินของดีๆสิ่งนั้นยังน่าสนใจน้อยกว่านี้มาก

 

เบียทริซและฮาร์วีย์เริ่มถามคำถามมากมายเกี่ยวกับแวนส์ แวนส์ไม่อยากพูดคุยชีวิตของเขาภายในสถาบันการศึกษามากขนาดนั้น แต่เขาก็ทำอะไรไม่ถูกในขณะที่แอนเดรียเริ่มเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเขาในพวกฮาร์วีย์และเบียทริซฟัง

 

หลังจากอาหารหมดลงบทสนทนาของพวกเขาก็จบลงเช่นกัน และแอนเดรียก็เปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่จริงจังมากขึ้น

 

“พวกเธอสองคนรู้จักสถานที่ทำงานที่ฉันสามารถทำได้ใกล้ๆที่นี่ไหม?” แอนเดรียถามขณะที่เธอจิบกาแฟ

 

“หืม” เบียทริซวางมือบนคางของเธอ

 

“ก่อนหน้านี้เธอเคยทำงานอะไรมาบ้าง”

 

“อืม…” แอนเดรียพูดขณะที่เธอเอียงศีรษะ

 

“ทุกอย่าง” จากนั้นเธอก็พูดขณะที่เธอยิ้ม

 

เบียทริซกำลังจะถามรายละเอียดเพิ่มเติม แต่แล้วเธอก็รู้ว่าแอนเดรียหมายถึงอะไรจากคำพูดของเธอและปิดปาก

 

ฮาร์วีย์ก็เงียบเช่นกัน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็ปรบมือ

 

“เรามีร้านค้ามากมายในตลาดใกล้ๆนี่ ฉันอาจถามผู้จัดการที่นั่นว่าพวกเขามีงานให้คุณไหม”

 

“โอ้จริงเหรอ” แอนเดรียยิ้ม

 

“ขอบคุณล่วงหน้าแล้วกันนะ”

 

“ได้เสมอสำหรับคุณ…คุณแอนเดรีย” ทันใดนั้นฮาร์วีย์ก็ลุกขึ้นยืน ในขณะที่เขาเกร็งกล้ามเนื้อโดยบังเอิญทำแก้วน้ำหกใส่เครื่องแบบของเบียทริซ

 

“…”

 

“ฮ…ฮาร์วีย์!”

 

กลุ่มนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งเมื่อเบียทริซเริ่มไล่ตามฮาร์วีย์ไปรอบๆบ้าน ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาทั้งสองตัดสินใจออกไปเพราะมันสายเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่ากับแอนเดรียตอนนี้พวกเขามีเรื่องต้องคุยกันมากขึ้น

 

“นายมี…เพื่อนบางคนที่ซับซ้อนนะ” แอนเดรียพูดขณะที่เธอเฝ้าดูทั้งสองคนออกไป

 

เมื่อได้ยินคำพูดของแอนเดรีย แวนส์ก็ปล่อยลมหายใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาของแอนเดรียได้

 

“…เธอก็คิดเหมือนกันเหรอ?”

 

วันเวลาผ่านไป ในท้ายที่สุดแอนเดรียก็ปรับตัวเข้ากับพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย เธอได้งานในตำแหน่งพนักงานขายในตลาดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเธออาศัยอยู่ในย่านที่เป็นที่รู้จักเธอจึงไม่ได้หางานยากเลย

 

และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เธอเกิด…

 

…ที่ชีวิตของเธอไม่ได้เกี่ยวกับการเอาชีวิตรอด

My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก

My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก

My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง My Hermes System ฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลกSpeedster ในโลกแห่งจินตนาการ เมื่อกว่าพันปีที่แล้วพอร์ทัลได้เปิดขึ้นในโลก กลืนโลกทั้งโลกด้วยสัตว์ร้ายที่ออกมาจากโลก มนุษย์ต่อสู้ดิ้นรนมาหลายปีเพราะอาวุธของพวกมันทำได้แค่เอาตัวรอดได้เท่านั้น แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อพบซุปเปอร์มนุษย์คนแรก เด็กที่เกิดหลังจากประตูมิติปรากฏขึ้น นับจากนั้นเป็นต้นมา มนุษย์ได้ค้นพบว่ามีคนอื่นและพวกเขาทั้งหมดมีพลังเดียวกัน... พลังที่เรียกว่าระบบ และผู้ที่เกิดมาพร้อมกับมันจะถูกเรียกว่า System Holders System Holders ที่มีพลังลึกลับคือคนที่ช่วยกอบกู้โลกจากเหล่ามอนสเตอร์ และตอนนี้ ร้อยปีต่อมา ผู้ถือระบบถือกำเนิดขึ้น ผู้ถือครองระบบ Hermes ผู้รวบรวมวิญญาณ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset