“หยุด!”
แวนส์อยากเล่าเรื่องราวของเขาเกี่ยวกับหนูและหนอน แต่ดูเหมือนว่าเบียทริซและฮาร์วีย์ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ของเรื่องราวอีกต่อไป มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเล่าชีวิตของเขาในสถาบัน ดังนั้นเขาจึงต้องการแบ่งปันความทรงจำของเขากับเพื่อนๆของเขา แต่น่าเศร้าที่พวกเขาดูเหมือนจะไม่อยากได้ยินเรื่องพวกนี้
“งั้นเอาเป็นเรื่องราวในตอนที่ฉันต้องดื่มน้ำจากท่อระบายน้ำล่ะ…”
“โอเค” เบียทริซปรบมือของเธอขณะที่เธอยืนขึ้น
“เรายังต้องล้างจาน” จากนั้นเธอก็พูดขณะที่เธอหยิบจานขึ้นมาจากโต๊ะ
“ฉันทำเองดีกว่านะ” แอนเดรียพูดขณะที่เธอรีบคว้าจานที่เหลือ
“ไม่ ให้ฉันช่วยเถอะ” เบียทริซส่ายหัวขณะที่เธอเดินไปที่อ่างล้างจานอย่างรวดเร็ว โดยไม่แม้แต่จะรอแอนเดรีย
เมื่อเห็นเบียทริซจากไป ฮาร์วีย์ก็อดหัวเราะไม่ได้
“ดูเหมือนว่าเรื่องราวของนายจะน่ากลัวที่สุดแล้ว แวนส์” เขาพูดขณะที่ตีขาสองสามครั้ง
“พวกเขาออกไปก่อนนายจะเริ่มด้วยซ้ำ!”
เบียทริซทำได้เพียงถอนหายใจเมื่อเสียงหัวเราะของฮาร์วีย์ส่งไปถึงพวกเธอที่อยู่ในห้องครัว
“ขอโทษที่บุกรุกกะทันหันนะ” เธอพูดขณะที่ล้างจานต่อไป
“ไม่เป็นไรหรอก” แอนเดรียส่ายหัว
“ในห้องของฉันมีที่ว่างเยอะแยะ ฉันจะนอนบนพื้นเอง”
“อะไรนะ” เบียทริซเลิกคิ้ว
“ไม่ ถ้าใครจะไปนอนบนพื้นก็ควรเป็นฉัน เรานอนข้างกันได้ไหม?”
“เธอแน่ใจเหรอ” แอนเดรียหัวเราะเบาๆ
“ฉันชอบเพศเดียวกันนะ”
“นั่น…” เบียทริซสับสนในตอนแรกว่าแอนเดรียหมายถึงอะไร แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร
“…แน่ใจนะว่าบอกฉันได้”
“อืมเพื่อนของอีแวนส์ก็เป็นเพื่อนของฉันเหมือนกัน” แอนเดรียยิ้ม การมีความสัมพันธ์กับเพศเดียวกันนั้นผิดกฎหมายในรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากปัจจุบันจำนวนประชากรลดลงอย่างมาก คนๆหนึ่งอาจต้องเผชิญกับการติดคุกหากถูกจับได้ว่า…พวกเขากำลังพัวพันกับเพศเดียวกัน
“เธอเก็บเป็นความลับได้ใช่ไหม?”
“โอ้…แน่นอน” แม้ว่าใบหน้าของเบียทริซจะยังคงแดงระเรื่ออยู่บ้าง แต่เธอก็ยังพยักหน้าอย่างแน่วแน่
“…แต่เรื่องเตียงนอน ขอฉันเป็นคนนอนบนพื้นนะ”
“ไปนอนบนเตียงกันเถอะ” แอนเดรียพูด
“เธอไม่ต้องกังวลหรอก เธอเด็กเกินไปสำหรับรสนิยมของฉัน” จากนั้นเธอก็หัวเราะเสียงดัง
“และตอนนี้ฉันก็กำลังคบกับคนอื่นอยู่เหมือนกัน” จากนั้นเธอก็ขยิบตา
“ฉัน…ฉันเข้าใจ” เบียทริซก็หัวเราะอย่างเชื่องช้า
“แล้วเธอล่ะ?”
“หืม?”
“เธอชอบคนไหนในสองคนนี้” แอนเดรียพูดขณะที่เอียงศีรษะเล็กน้อย ชี้ไปทางแวนส์และฮาร์วีย์
“มะ…ไม่ได้ชอบใครเลย!” เบียทริซหน้าแดงอีกครั้งขณะที่เธอพูดติดอ่าง
“…เราเป็นเพื่อนกัน!”
“…โอ้?” แอนเดรียหัวเราะเบาๆ
“อีแวนส์เป็นเด็กน่ารักนะ เธอไม่สนใจเขาเหรอ”
“ไม่…ไม่!” เบียทริซส่ายหัวอย่างรุนแรง แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอก็หยุดกะทันหันขณะที่เธอมองไปที่จานที่เพิ่งล้างใหม่ๆตรงหน้าเธอ จานสะท้อนใบหน้าที่แดงก่ำของเธอออกมา
“แต่…ฉันชื่นชมเขา” เธอกล่าว
“เขาเป็นคนที่ฉันต้องเหนือกว่า…” เธอหายใจเข้าลึกๆขณะที่ดวงตาของเธอเริ่มแน่วแน่ขึ้น
“ฉันเข้าใจแล้ว…” แอนเดรียถอนหายใจเล็กน้อย
“…อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่ในจุดที่จะเลือกระหว่างเพื่อนหรือเป้าหมายของเธอ” เธอพูดขณะจิ้มจมูกของเบียทริซ
“อืม” เบียทริซพยักหน้าตอบรับ เป้าหมายของเธอมีความสำคัญ แต่เธอก็รู้ถึงคุณค่าของการมีเพื่อน
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกัน แวนส์และฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะจ้องไปที่ด้านหลังของพวกเขา
“ล้างจานไปกี่ใบกันแน่ ทำไมมันถึงได้นานขนาดนี้”
“อืม…”
หลังจากผ่านไปอีกไม่กี่นาที แอนเดรียและเบียทริซก็ล้างจานเสร็จ ทั้งสี่คุยกันอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนจะไปยังห้องของตน
ผ่านไปไม่ถึงนาทีเมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องก็มีเสียงดังเกิดขึ้น
“อะไร! นี่เสื้อผ้าของใครกัน!?” ฮาร์วีย์พบเสื้อผ้าผู้หญิงในตู้เสื้อผ้าของแวนส์
“ฉัน…ฉันคิดว่าแอนเดรียเป็นครอบครัวนายซะอีก!?” ฮาร์วียตะโกนเสียงดังออกมา แต่เขาก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีและเลิกคิ้วขณะที่เขามองไปที่แวนส์
“เว้นแต่…นายเป็นเกย์หรือเปล่า”
แวนส์ไม่ตอบอะไรเพราะเขาคิดว่าคำถามนี้มันบ้าบอเกินไป ฮาร์วีย์ใช้เวลาพักหนึ่งเพื่อสงบสติอารมณ์ ด้วยเหตุผลบางอย่างทั้งคู่ก็เลือกที่จะนอนบนพื้น
เมื่อความเงียบผ่านไปในอีกหลายๆนาทีต่อมา ในขณะที่แวนส์คิดว่าในที่สุดเขาก็สามารถหลับได้ซะที ช่วงที่สติของเขาเริ่มหลับไหลไปอย่างช้าๆ แต่แล้วฮาร์วีย์ก็พูดขึ้นมาทันที
“แวนส์…” เขากระซิบ
“กลุ่มที่ทุบตีนาย”
“…หืม?” แวนส์ขมวดคิ้ว
“ได้โปรดบอกความจริงกับฉัน” ฮาร์วีย์ก็ลุกขึ้นนั่งขณะที่เขามองไปที่แวนส์
“พี่ชายของฉันเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนั้นหรือเปล่า”
“…”
“ใช่”
คำเดียวจากปากของแวนส์ ทำให้เสียงทั้งหมดในห้องเงียบลงทันที แม้แต่เสียงกระซิบที่แวนส์มักจะได้ยินก็เงียบลง มีเพียงเสียงหายใจที่ดังก้องอยู่ในห้องเท่านั้น
ฮาร์วีย์หายใจเข้าลึกๆขณะที่เขาสูดจมูกเบาๆ
“…ฉันก็คิดอย่างนั้น” เขากระซิบ
ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน แวนส์กำลังจะเปิดใช้สกิล [การรับรู้เวลา] แต่แล้วก็มีเสียงดังก้องไปทั่วทั้งห้องขณะที่ฮาร์วีย์ตบหน้าตัวเองอย่างแรง เสียงนั้นดังถึงขนาดที่ทำให้กระจกหน้าต่างสั่นสะเทือนเล็กน้อย
“!!!” แวนส์ขมวดคิ้วขณะยืนขึ้น
“นายทำอะไร…”
ก่อนที่แวนส์จะพูดจบ ฮาร์วีย์ก็คุกเข่าลงบนพื้นและเริ่มสะอื้น
“ได้โปรด…โปรดยกโทษให้เขาด้วย!”
“อีแวนส์!?”
เสียงดังอีกเสียงดังก้องอยู่ในห้อง ขณะที่แอนเดรียบุกเข้ามาในห้องด้วยความตื่นตระหนก ทำให้ประตูกระแทกกับผนัง
“เป็นอะไรไป…”
เธอจบคำพูดด้วยอาการหอบทันทีที่เห็นฮาร์วีย์คุกเข่าอยู่บนพื้น จมูกของเขามีเลือดออกมา เบียทริซเป็นคนต่อมาที่เข้ามาในห้อง ผมของเธอโบกเพราะลมที่พัดผ่านร่างกายของเธอ
“ได้โปรดแวนส์!” ฮาร์วีย์ตบหน้าเขาอีกครั้ง
“ได้โปรดยกโทษให้พี่ชายของฉันที่ทำอย่างนั้นกับนาย!”
“อีแวนส์…เกิดอะไรขึ้น” แอนเดรียถามอีกครั้ง
“…”
“ฉันไม่รู้จะตอบอะไรจริงๆ ฮาร์วีย์” หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีที่แวนส์จ้องมองฮาร์วีย์ ในที่สุดแวนส์ก็เปิดปากพูด เขาตอบกลับฮาร์วีย์ว่า
“เพราะว่า…พี่ชายของนายทิ้งฉันให้ตาย”
“…อะไรนะ” แอนเดรียขมวดคิ้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของแวนส์ ดวงตาของเบียทริซก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
“ฮาร์วีย์ เป็นไปได้ไหมว่า…?”
“…เกิดอะไรขึ้น!?” แอนเดรียตะโกนด้วยความหงุดหงิด