“อีแวนส์…นายพูดภาษาจีนได้หรอ”
“…อะไรนะ?”
แวนส์ขมวดคิ้ว ขณะที่มองไปที่ใบหน้าของแอนเดรียซึ่งดูขาวโพลนไปหมดด้วยความตกใจ อาแซมตกตะลึงอย่างที่สุดในขณะที่เขาตัวแข็งค้างในที่นั้น
“…นายพูดภาษาจีนได้!” ดวงตาของแอนเดรียเบิกกว้างยิ่งขึ้นไปอีก
“ฉัน…ทำแบบนั้นหรอ?” แวนส์อดไม่ได้ที่จะอึกอักอย่างประหม่า เขาไม่ได้ตระหนักถึงมัน ทักษะของเขาเปิดใช้งานด้วยตัวเองงั้นหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีควบคุมมันจริงๆ เพราะตอนแรกเขาได้ใช้มันในการพยายามตาหาชาย 4 คนที่ปล้นบ้านของเขาโดยการถามสัตว์จนจัดบางตัวที่อยู่ตามท้องถนนและนั่นเป็นประสบการณ์ที่แปลกสำหรับเขามาก
“ว้าว” อาแซมปรบมือให้กับแวนส์
“นายพูดภาษาจีนกลางได้งั้นหรอ นี่อาจเป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันที่ได้ยินคนอเมริกันพูดภาษาของเราได้คล่องขนาดนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเกรงขาม
“…ใช่” แวนส์ทำได้เพียงพยักหน้า
“พวกเขาสอนเป็นคลาสพิเศษในสถาบัน”
“อ๊ะ!” แอนเดรียชี้นิ้วไปที่แวนส์
“นายทำได้อีกแล้ว!” จากนั้นเธอก็ปรบมือ
เขาต้องการวิธีควบคุมมันจริงๆเขาคิดขณะถอนหายใจเล็กน้อย
“ฮ่าๆๆ!” อาแซมหัวเราะลั่น
“ฉันจะบอกเจ้านายให้ลดราคาให้นาย โอเค๊!” เขาหันไปหาแอนเดรียก่อนจะรีบไปที่ห้องครัว
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็กลับออกมาและพาพนักงานทั้งหมดออกมาและแนะนำให้แวนส์รู้จัก
ไม่จำเป็นต้องพูด ทุกคนรู้สึกทึ่ง และร่าเริงเมื่อได้ฟังแวนส์พูดภาษาของพวกเขา เขากลายเป็นคนดังของคนในร้านอาหารในทันที ใช้เวลาสองสามนาทีก่อนที่ความโกลาหลจะสงบลง และพวกเขาทั้งหมดก็กลับไปที่ประจำตำแหน่งของตัวเอง
แอนเดรียอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มที่น่าอึดอัดของแวนส์ขณะที่เขาทักทายผู้คน
“นายรู้ไหม อีแวนส์…” จากนั้นเธอก็ลดเสียงลงขณะที่มองมาที่แวนส์
“งานของฉัน…ชีวิตใหม่ของฉัน เพื่อนใหม่ของฉัน…ฉันเป็นหนี้นายทั้งหมดเลย” เธอกล่าว
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของแอนเดรีย แวนส์ไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เธอทำเองทั้งหมดต่างหาก…” แวนส์กระซิบ
“เธอเป็นคนดีแอนเดรีย ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอดึงดูดผู้คนจำนวนมากมาหาเธอ”
“โอ้โห?” แอนเดรียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ
“นายรู้วิธีพูดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ฮาร์วีย์สอนนายมางั้นหรอ?” จากนั้นเธอก็พูดอย่างสนุกสนาน
“หืม” แวนส์รีบเยาะเย้ยความคิดนั้น
“แต่ถ้าจะพูดเรื่องนั้นแล้วละก็ เธอเป็นหนี้บุญคุณคุณซาร่าห์มากกว่า” แวนส์หัวเราะเบาๆ
ทั้งสองยังคงคุยกันต่อไปจนในที่สุดพนักงานเสิร์ฟหญิงก็นำอาหารออกมาวางบนโต๊ะ
“นี่ แอนเดรีย” เธอพูด
“คราวนี้เธอไม่ได้อยู่กับสาวสวยคนนั้นเหรอ”
“ไม่…ไม่” ดวงตาของแอนเดรียเบิกกว้าง ขณะที่เธอพูดติดอ่าง
ทันทีที่แวนส์ได้ยินเรื่องนี้ เขาก็หรี่ตาลง
“เข้าใจแล้ว” พนักงานเสิร์ฟหญิงพยักหน้า
“บอกเธอว่าฉันขอบคุณสำหรับคำแนะนำ โอเคไหม” เธอพูดก่อนจะจากไป
“โอ…โอเค” เมื่อสังเกตเห็นว่าแวนส์กำลังจ้องมองเธออย่างแรง แอนเดรียก็โบกมือทันที
“มาเถอะ…กินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน!” เธอพูดก่อนจะเติมอาหารเข้าไปในปากเพื่อที่เธอจะตอบไม่ได้ถ้าแวนส์มีคำถามอะไรเกี่ยวกับเธอ
‘…น่าสงสัย’ แวนส์คิด แต่เขาก็ไม่ได้พยายามหาคำตอบอะไร และเริ่มกินอาหาร ถ้าแอนเดรียไม่ได้อยากบอกว่าเธอกำลังปิดบังอะไรอยู่ เขาก็คงจะไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนั้น
“…โอ้” แวนส์อดไม่ได้ที่จะส่งเสียง ขณะชิมอาหาร ซุปอุ่นๆที่ห่อหุ้มด้วยเกี๊ยวระเบิดในปากของเขา มันเต็มไปด้วยน้ำซุปเข้มข้นและเนื้อที่ละลายในทันที
“ดีใช่มั้ย” แอนเดรียพูด
“อืม…” แวนส์พยักหน้าอย่างรวดเร็ว บางทีเขาน่าจะพาเบียทริซกับฮาร์วีย์มาที่นี่บ้าง
ทั้งสองคุยกันต่อระหว่างทานอาหาร
***
“นี่เรื่องจริงเหรอ?”
“…ครับท่านประธาน”
คริสอยู่ในห้องทำงานที่กว้างขวาง ท่าทางของเขาตรงไปตรงมาและน้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพขณะพูดคุยกับชายชราที่มีเคราสีเทา
“เรามีหลักฐานว่าเด็กคนนั้นทำจริงๆไหม” ชายชราที่เรียกกันว่าประธานเลิกคิ้วเมื่อได้ยินรายงานของคริส
ประธานมีรอยแผลเช่นเดียวกับคริส เขามีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่บนใบหน้าของเขา โดยแยกเคราสีเทาของเขาที่แก้มซ้าย
“เรามีพยานหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ได้ว่าเด็กคนนั้นคือคนที่เอาชนะคนของลอเดอร์ได้ไหม?” เขาทวนซ้ำ
“…ไม่มีครับ” คริสส่ายหัว
“แต่ผมแน่ใจว่าเป็นเขา เขาเป็นคนเดียวที่มีแรงจูงใจให้ทำเช่นนั้นตามรายงานครับท่าน”
“…และเขาก็มาจากสุสานของเก่าด้วย” เขากล่าวเสริม
“จาก…สุสานงั้นหรอ?” ประธานขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำพูดของคริส
“ใช่ครับ”
“อืม…ผู้คนที่นั่นมักใช้ความรุนแรง” ประธานสูดหายใจเข้าลึกๆ
“…ไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามันเป็นสถานที่ของคนบาป” เขากล่าวขณะที่วางมือบนเครา
“มีคนของลอเดอร์พูดอะไรหรือเปล่า” ประธานถาม
“…ผมยังไม่ได้รับรายงานว่าพวกเขาพูดอะไรครับ” คริสพูดน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
“ทำให้พวกเขาพูด และถ้านายรู้ความจริงจากปากของพวกเขาโดยตรงให้จัดการกับเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยของเมือง…และจับกุมเด็กชายคนนั้นทันที”
เมื่อได้ยินคำพูดของประธาน คริสก็ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ด้วยสิ่งนี้เขาจะสามารถกำจัดศัตรูพืชที่ไร้ประโยชน์ออกจากซาร่าห์ได้ เธอไม่รู้ตัวหรอกว่าคนจากสลัมจะทำให้ความั่งคั่งของเธอเหือดหายไปอย่างรวดเร็ว
เขากำลังทำสิ่งนี้เพื่อเธอ
“ดีแล้วที่นายรายงานเรื่องนี้ให้ฉันฟัง คริส” ประธานกล่าวขณะที่ตบไหล่คริส
“หลานสาวของฉัน…ค่อนข้างซับซ้อน เป็นการดีที่นายอยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องเธอ”
“นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิดไว้อยู่แล้ว ท่านประธาน ผมจะปฏิบัติกับซาร่าห์เหมือนกับเป็นพี่สาวของผมเอง” คริสโค้งคำนับก่อนจะจากไป
***
“อา…นั่นเป็นอาหารที่ดีจริงๆ ใช่ไหม?”
“ใช่”
แวนส์ และแอนเดรียกำลังเดินกลับบ้านจากตลาดหลังจากรับประทานอาหาร ท้องของพวกเขาเกือบจะแตกออกมาจากการกินทุกอย่างเข้าไป พวกเขานึกไม่ถึงจริงๆว่าสักวันนึงพวกเขาจะได้มารับประทานอาหารอย่างหรูหราในร้านอาหารแบบนี้
และขณะที่พวกเขากำลังเดินอยู่ คำพูดของอาจารย์ใหญ่เกี่ยวกับแม่ของแวนส์ก็วนกลับมาอยู่ในใจอีกครั้ง
“แอนเดรีย…”
“หืม?”
“…เธอจำอะไรเกี่ยวกับแม่ของฉันได้บ้าง”