ตอนที่ 89 ยูนิฟอร์ม
“ถอยไป..นี่ไม่ใช่การต่อสู้ของนาย”
“แต่ท่านเฮนรี่ เขาโจมตีพวกเรา!”
“ พวกนายไม่ฟังรายงานบ้างเลยหรอ”
แวนส์เพ่งความสนใจไปที่ชายที่เขาผลักออกไป เฮนรี่ เขาดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอะไรมาก เขาแค่ปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของเขาและเดินออกมาจากซากปรักหักพังและปักฝุ่นที่ติดอยู่ที่ตัวเขา
“คนที่เราต้องดูแลอาศัยอยู่กับเด็กชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง” เฮนรี่หมุนไหล่และหักคอของเขา
“คุณซาร่าห์บอกเราว่าเขาเป็นคนที่ร่าเริง”
“ซาร่าห์?” แอนเดรียเลิกคิ้วทันทีที่ได้ยินชื่อซาร่าห์
“นายคืออีแวนส์ใช่ไหม” เฮนรี่ถอนหายใจขณะที่เขามองไปที่แวนส์
“เราเป็นผู้คุ้มกันที่ถูกส่งมาที่นี่เพื่อปกป้องมิสแอนเดรีย”
“จริงเหรอ?” แวนส์หรี่ตาด้วยความสงสัย เขารู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเขาดูเหมือนจะไม่ใช่คนดี จากนั้นแวนส์ก็เหลือบมองไปทางแอนเดรียเล็กน้อยและถามว่า
“คุณซาร่าห์บอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า?”
“ปะ…เปล่า”
“เธอ…”
“คุณแอนเดรีย!”
ก่อนที่เฮนรี่จะพูดได้อีก เสียงของเบียทริซก็ดังก้องไปทั่วถนน เธอรีบเข้าไปช่วยแอนเดรีย ตามด้วยวิคตอเรีย และฮาร์วีย์ ซึ่งยืนอยู่ข้างๆแวนส์อย่างรวดเร็วและพยายามปกป้องแอนเดรีย
“พวกแกเป็นใคร!?” ฮาร์วีย์วางเท้าลงบนพื้นอย่างมั่นคง
“พวกแก…พี่ชายฉันส่งมาอีกแล้วเหรอ?” เขาพูดก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
เฮนรี่ถอนหายใจเมื่อเด็กๆในชุดเครื่องแบบเพิ่มขึ้นมา
”เปล่า” เขาส่ายหัวขณะที่ชี้ฝ่ามือไปทางกลุ่ม
“ฉันบอกไปแล้วว่าเราถูกส่งมาโดยคุณซาร่าห์”
เมื่อเห็นว่าคิ้วของแวนส์ขมวดมากขึ้น เฮนรี่ก็ถอนหายใจอีกครั้ง
“คุณแอนเดรีย คุณมีไฝคั่นระหว่าง…”
” หยุด!”
ด้วยคําพูดที่ไม่คาดฝันของเฮนรี่ แอนเดรียอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงการกระแทกที่คืบคลานไปทั่วร่างกายของเธอ แต่ก่อนที่เฮนรี่จะพูดอะไรอีก เธอก็ขัดจังหวะเขาเสียก่อน
“นายรู้ได้ยังไง!?”
”หืม?” แวนส์มองกลับไปกลับมาระหว่างแอนเดรียกับชายกล้ามโตที่ไร้เหตุผล เขาค่อยๆลดการป้องกันลงเมื่อเขาตระหนักว่าชายที่ชื่อเฮนรี่กําลังพูดความจริง
“เรารู้เรื่องของคุณหมดแล้ว มิสแอนเดรีย” เฮนรี่วางมือบนคางของเขา
“คุณซาร่าห์บอกเราทุกรายละเอียดเพื่อที่เราจะได้รู้”
” หยุด!”
แอนเดรียกลบคําพูดของเฮนรี่ด้วยตัวเธอเองอีกครั้ง ครั้งต่อไปที่เธอเห็นซาร่าห์ เธอคงจะต้องดุเธอหน่อยแล้วที่บอกสิ่งที่ไม่จําเป็นเหล่านั้นกับคนแปลกหน้า แม้ว่าจะเป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะปกป้องเธอ แต่พวกเขาก็ไม่จําเป็นต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ! แอนเดรียบ่นในใจ
” โอ้โฮ” ฮาร์วีย์ก็ลดการป้องกันลง ขณะที่เขาค่อยๆเข้าหาเฮนรี่
“ข้อมูลที่คุณพูดถึงคืออะไรงั้นหรอ เราก็ปกป้องมิสแอนเดรียด้วยเหมือนกัน บางทีคุณอาจจะ…”
” พอออออ!”
เสียงกรีดร้องของแอนเดรียส่งไปถึงส่วนลึกของตลาด ในที่สุดเฮนรี่ก็อธิบายทุกอย่างถึงสิ่งที่พวกเขาได้รับมอบหมายให้ปกป้องแอนเดรีย และพวกเขาควรอยู่ห่างจากเธอไม่เกิน 10 เมตร พวกเขายังจะปกป้องบ้านทุกครั้งที่แอนเดรียอยู่บ้าน
แน่นอนว่าแอนเดรียบอกให้ทุกคนกลับบ้าน แต่พวกเขาไม่กลับและไม่ขยับเยื้อนออกจากที่เดิมเลยด้วยซ้ํา
นั่นทําให้ต่อจากนี้ไปจะมีคน 4 คนยืนเฝ้าอยู่หน้าบ้านแวนส์
แอนเดรียยังคงไม่เห็นด้วย แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่พูดอะไรในเรื่องนี้อีกต่อไป สิ่งเดียวที่เธอทําได้คือถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ฉันคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ดีค่ะ คุณแอนเดรีย” เบียทริซพูดขณะที่เธอกับวิคตอเรียช่วยแอนเดรียจัดจาน ในตอนแรกวิคตอเรียต้องการช่วยทําอาหารด้วย แต่หลังจากที่เธอทําสิ่งที่ดูเหมือนมอนสเตอร์ประตูมิติออกมาจากสิ่งที่เธอควรจะทํามันให้เป็นปลาย่าง เธอก็ถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในครัวอีกต่อไป
“พอพูดถึงเรื่องผู้คุมกันแล้ว ก็ต้องพูดถึงเรื่องที่พวกเรากําลังจะเข้าไปในประตูมิติเร็วๆนี้” ฮาร์วีย์ปรบมือเพื่อเรียกความสนใจของทุกคน
” อะไรนะ!?” แอนเดรียอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงครวญคราง
” ทําไม!?”
“มัน..มันเป็นกิจกรรมของโรงเรียน!” ฮาร์วีย์โบกมืออย่างรวดเร็วเพื่อขจัดความเข้าใจผิดที่แอนเดรียอาจมี
“เราจะได้รับการดูแลและปกป้องโดยที่ปรึกษาของเรา!”
“ฉันเข้าใจแล้ว” แอนเดรียถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะที่เธอนั่งลง
“ถ้าอย่างนั้นก็พยายามอย่าทําอะไรโดยประมาทเมื่อนายอยู่ข้างใน ตกลงไหม?”
“ฮิฮิ ฉันไม่เคยประมาท!” ฮาร์วีย์หัวเราะเบาๆ
“ฉันอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น รู้ไหม! นี่เป็นครั้งแรกของฉันและแวนส์ที่จะเข้าไปในประตูมิติ มิตรภาพของเราจะยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อเราข้ามผ่านอันตรายจากสิ่งที่ไม่รู้จักไปด้วยกัน!” เขาพูดขณะโบกมือขึ้นไปในอากาศ น้ําเสียงของเขาเต็มไปด้วยไฟและความหลงใหล
“แต่แวนส์เคยเข้าไปในประตูมิติมาก่อนไม่ใช่หรอ?”
”..อะไรนะ?”
ฮาร์วีย์ชะงักทันทีที่ได้ยินคําพูดของแอนเดรีย ในทางกลับกันแวนส์อดไม่ได้ที่จะบีบสันจมูกของเขา
“หืม?” แอนเดรียกระพริบตาสองสามครั้งขณะที่เธอมองดูใบหน้าของคนอื่นๆ
“นายยังไม่ได้บอกเพื่อนของนายหรอ?”
“แต่นายบอกว่านายไม่เคยไปที่ประตูมิติมาก่อน!” ฮาร์วีย์ตบมือบนโต๊ะเบาๆก่อนจะชี้ไปที่แวนส์ด้วยมือสั่นๆของเขา
“ฉันคิดว่าเราคู่หูการเข้าประตูมิติเป็นครั้งแรก!”
” ฉันโกหก”
“นาย…นายทรยศ!”
ดังนั้นความคับข้องใจและความเศร้าโศกของชายหนุ่มที่ถูกทรยศจึงได้เดินทางไปทั่วละแวกบ้าน
“พวกคุณบางคนอาจสงสัยว่าทําไมฉันถึงเรียกประชุมฉุกเฉินในครั้งนี้”
วันรุ่งขึ้นแวนส์ถูกดึงออกมากลางชั้นเรียนในขณะที่ผู้สอนกําลังพูดถึงสิ่งที่สําคัญเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทําเมื่อพวกเขาถูกทิ้งให้อยู่ตามลําพังในประตูมิติ แต่ก่อนที่คําพูดของผู้สอนจะไปถึงหู เขาก็ถูกเรียกตัวไปก่อน
เขาคิดว่ามีบางอย่างที่สําคัญเกิดขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นเพียงสภานักเรียนเท่านั้นที่เรียกพวกเขามา
“ถ้าพวกเขามีอํานาจมากขนาดนี้แม้กระทั่งสามารถดึงนักเรียนในชั้นเรียนออกมาได้ พวกเขาควรจะเป็นที่รู้จักในสถาบันมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ?” แวนส์คิดในขณะที่เขาถอนหายใจเงียบๆ
“มีอะไรเหรอเพรส” เจมม่าถามขณะที่หาวเสียงดัง เธอกําลังเตรียมพร้อมที่จะงีบหลับในคลาสเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่เธอถูกเรียกให้ไปประชุม
“อาจารย์ใหญ่” ประธานฮันนาห์หลับตาขณะที่เธอสูดหายใจเข้าลึกๆน้ําเสียงของเธอดูเจ็บปวดอย่างชัดเจน
“สถาบันการศึกษาไม่อนุญาตให้เราจัดงานเทศกาล”
“อะไร ทําไม!?” เกรตายืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอเปล่งเสียงแสดงความไม่พอใจ ผมสั้นสีชมพูของเธอกระทบไหล่ของเธอ
“อาจารย์ใหญ่บอกว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของประเพณีของสถาบันการศึกษาที่จะจัดงานเฉลิมฉลองดังกล่าว”
“อะไรนะ ถ้ายังงั้นมันก็ถึงเวลาที่จะต้องเริ่มแล้ว!”
เมื่อได้ยินข้อร้องเรียนของสมาชิกของเธอ ประธานฮันนาห์ทําได้เพียงส่ายหัว เธอเองก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะจัดงานให้กับทั้งโรงเรียนเช่นกัน
“อาจารย์ใหญ่อาจมีเหตุผลอื่นที่เขาไม่สามารถบอกเราได้” ประธานฮันนาห์ถอนหายใจอีกครั้งด้วยความพ่ายแพ้
“มันแย่จังที่เธอจะไม่ได้ร้องเพลง เจนิซ”
เมื่อได้ยินชื่อของเธอถูกเอ่ยถึง เจนิซก็สะดุ้ง โบกมืออย่างเชื่องช้าและบอกว่าไม่เป็นไร แต่ความจริงแล้ว เธออยากจะร้องเพลงต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนจริงๆ
สาวๆของสภานักเรียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความผิดหวังพร้อมกัน น่าเสียดายที่เทศกาลนี้ไม่ได้เกิดขึ้นและดูเหมือนว่าทุกคนต่างตั้งตารอคอย
“คุณเรียกหาเราเพราะเรื่องนั้นงั้นเหรอ?” เจอรัลด์ที่กําลังพิงกําแพงอยู่อดไม่ได้ที่จะคร่ําครวญด้วยความหงุดหงิด
“คุณแค่ประกาศแทนที่จะดึงเราออกจากชั้นเรียน”
“ไม่” ประธานฮันนาห์รีบส่ายหัว
“ฉันมาที่นี่เพื่อบอกทุกคนว่าเรามีงานที่อาจารย์ใหญ่มอบหมายมา”
“เอ่อ…” เจมม่าก้มหน้าลง
“เขาไม่อนุญาตให้เราจัดงานเทศกาล และตอนนี้เขามอบหมายงานให้เราแล้วเหรอ?”
“อืม…” ประธานฮันนาห์เพียงพยักหน้าตอบ
“การเดินทางของนักเรียนใหม่กําลังจะมาถึงเร็วๆนี้
“แวนส์ นายรู้ไหมว่าชั้นเรียนของนายจะเป็นกลุ่มแรกที่เข้าไปในประตูมิติ”
เมื่อพิจารณาว่าฮาร์วีย์พูดซ้ํากับเขากี่ครั้งแล้ว แน่นอนว่าเขารู้
“สภานักเรียนได้รับมอบหมายให้ดูแลนักเรียนใหม่พร้อมกับที่ปรึกษาของพวกเขา”
“อะไรนะ!?” เมื่อได้ยินคําพูดของประธานฮันนาห์ เจมม่าก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและตบฝ่ามือของเธอลงบนโต๊ะ
“ทําไมอาจารย์ใหญ่ถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”
อย่างแรกมันทําให้เจอรัลด์อยู่กลุ่มเดียวกับแวนส์ทั้งๆที่รู้ว่ามีเรื่องที่ไม่ดีระหว่างคนทั้งสอง และตอนนี้เขากําลังวางแวนส์และเจอรัลด์ไว้ในประตูมิติเดียวกัน!? อาจารย์ใหญ่กําลังพยายามทําอะไร!?
เจมม่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าลมหายใจของเธอร้อนระอุ ความคิดมากมายแล่นเข้ามาในหัวของเธอ
“ฉันไม่รู้” ประธานฮันนาห์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะที่เธอส่ายหัว
“ใครจะไปรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหัวโล้นๆของเขาคนนั้น”
เจอรัลด์ยังรู้ว่าอาจารย์ใหญ่กําลังทําอะไรอยู่ แต่เจอรัลด์รู้ตัวว่าเขาไม่สามารถทําอะไรกับแวนส์ได้อีกต่อไป ผู้หญิงที่บุกรุกที่ดินของพวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลานสาวของประธานสมาคมนักสํารวจ
แวนส์อาศัยอยู่ในบ้านของเธอ นั่นหมายความว่าเธอกําลังหนุนหลังเขาอยู่
“อย่าคิดมาก ไอ้โรคจิต” เจมม่าที่สังเกตเห็นว่าเจอรัลด์จ้องแวนส์รีบเข้ามายืนขวางทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว
“ชิ” เจอรัลด์ทําได้เพียงแต่เดาะลิ้นของเขา ในขณะที่เขาหลบสายตาที่เร่าร้อนของเจมม่าลง
“ยังไงก็ตาม” ประธานฮันนาห์กระแอมเพื่อเรียกความสนใจของทุกคนกลับคืนมา
“งานหลักของเราคือช่วยอาจารย์ที่ปรึกษาของชั้นเรียน”
“แต่ที่สําคัญที่สุด…” ประธานฮันนาห์ค่อยๆลุกขึ้นยืนขณะที่เธอหายใจเข้าลึกๆ
“ก่อนอื่นเราต้องการชุดยูนิฟอร์ม”
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์
สารบัญ กําเนิดใหม่ทายาทจอมมาร (Lucifer’s Descendant System)