เซี่ยชิวเต๋อหัวเสียในทันที เขาแสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าฉันไม่ได้เสียพนัน ไม่เข้าใจรึไงยัยเด็กโง่ ?”
เซี่ยฉิงกงถามสามครั้ง ที่สุดเธอก็ตัดสินได้จากคำตอบของเซี่ยชิวเต๋อ ว่าเขาต้องเสียเงินนั่นไปกับการพนันอย่างแน่นอน
จากมุมมองทางจิตวิทยา หากมีคนถามคำถามเดียวกันแล้วคนตอบโกหก เขาจะตอบคำถามแค่สองครั้ง ในสองครั้งแรกคำตอบของเขาจะยังคงเหมือนเดิมทุกประการ ระหว่างช่วงเวลาก่อนจะถามครั้งที่สาม ร่างกายของพวกเขาก็จะสงบนิ่งขึ้น พวกเขาคิดว่าหลอกสำเร็จแล้ว ทำให้ปฏิกิริยาทางสรีรวิทยาทั้งหมดผ่อนลง ร่างกายก็ผ่อนคลายเข้าสู่สภาวะปกติ และเมื่อผ่านไปอีกไม่กี่นาทีหากคนเหล่านั้นถูกตั้งคำถามด้วยคำถามเดิมทุกประการ การถามคำถามเดิม ๆ ในเวลานี้จะทำให้พวกเขาหงุดหงิดขึ้นทันที
เซี่ยชิวเต๋อผู้ซึ่งอยู่ต่อหน้าเธอยามนี้กำลังโกรธอย่างเห็นได้ชัด
“เซี่ยฉิงกงหยิบถ้วยน้ำของเซี่ยฉิวเจินมาถือไว้ในมือ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋า จากนั้นก็หันไปคล้องแขนของมู่เฉินฮ่าว พลางพูดว่า
“เอาล่ะ ในเมื่อคุณไม่ยอมรับ ก็เป็นเรื่องของคุณ แต่ฉันจะไม่ให้เงินคุณแม้แต่หยวนเดียว”
เซี่ยฉิงกงหันหน้าไปพบกับสายตาที่กำลังจ้องมองมาของมู่เฉินฮ่าว
“คุณช่วยหาโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้ให้แม่ของฉันหน่อยได้ไหม เอาแบบที่คนอื่น ๆ ไม่สามารถเข้ามาพบแม่ฉันได้น่ะ”
มู่เฉินฮ่าวแตะศีรษะของเซี่ยฉิงกงพลางพยักหน้า ได้สิ ผมจัดการให้แล้ว อาเจิ้งกำลังมารอรับคุณป้าไปส่งโรงพยาบาลเอกชนของตระกูลมู่แล้ว”
“ขอบคุณค่ะ”
ชั่วขณะนั้นเซี่ยฉิงกงก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี เธอรู้สึกสะเทือนใจ นัยน์ตาของเธอชื้นขึ้นเล็กน้อย
ทันทีที่เธอและมู่เฉินฮ่าวก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งนี้ มู่เฉินฮ่าวก็ได้ส่งข้อความถึงอาเจิ้ง บอกให้อาเจิ้งมารับคนที่นี่แล้ว
สิบห้านาทีต่อมา อาเจิ้งก็พาพยาบาลจากโรงพยาบาลเอกชนสกุลมู่ช่วยขนย้ายเซี่ยฉิวเจินไปที่รถพยาบาลอย่างระมัดระวัง จากนั้นเซี่ยฉิงกง และมู่เฉินฮ่าวก็ขึ้นรถและจากไป
ทันทีที่เซี่ยฉิงกงก้าวขึ้นไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ เซี่ยชิวเต๋อก็รีบวิ่งมาขวางรถ เขาคุกเข่าลงกับพื้น
“ฉิงกง หลานสาวที่รักของน้า น้ายอมรับก็ได้ว่า น้าเสียเงิน 300,000 หยวนไปกับการพนัน หากแต่น้าสัญญาว่าน้าจะไม่เล่นการพนันอีกแล้ว ขอเพียงแค่หลานเมตตาช่วยน้าด้วยเถอะ”
เซี่ยฉิงกงรู้สึกปวดหัวตุ้บ เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้
“ฉันได้ยินคำพูดพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก จนหูฉันอื้อหมดแล้ว”
แม้ว่าภายนอกจะดูสงบ แต่แท้จริงแล้วอารมณ์ที่เคยดีมาตลอดวันของเซี่ยฉิงกงได้ถูก ‘น้า’ ตรงหน้าคนนี้ทำลายจนหมดสิ้นแล้ว
เซี่ยชิวเต๋อเคยเสียเงินไม่กี่ร้อยหยวน อย่างมากก็แค่สองสามพันหยวน และเมื่อเขามาขอเซี่ยฉิวเจิน เซี่ยฉิงกงก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หลับตาข้างลืมตาข้าง
หากแต่ครั้งนี้ 300,000 หยวนเลยงั้นหรือ ?
“นี่ ครั้งนี้น้าพูดจริง ๆ นะขอแค่ครั้งนี้หนูช่วยน้า วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว หากน้าไม่จ่ายเงินให้พวกเขา พวกเขาบอกว่าจะตัดแขนข้างหนึ่งของน้า และเทเลือดสุนัขที่หน้าประตูบ้าน ลี่ลี่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย เธอไม่ควรต้องมาเจอเรื่องพวกนี้”
คราวนี้เซี่ยฉิงกงใจแข็งมาก เธอจะไม่มีวันใจอ่อนเพียงเพราะคำพูดพวกนี้
“อาเจิ้งไปเอาเงินมาให้เขา 300,000 หยวน”
เสียงของมู่เฉินฮ่าวดังขึ้นจากด้านข้างราวกับพระโพธิสัตว์ที่มีชีวิตของเซี่ยชิวเต๋อ
“ขอรับ นายน้อย”
เซี่ยฉิงกงหันหน้าไปมองเขา เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“มู่เฉินฮ่าว คุณ … “
“เอาน่าที่รัก แค่ 300,000 หยวนเอง ให้เขาไปเถอะ ถือเสียว่าเป็นการทำทานก่อนงานแต่งงานของเรา”
มู่เฉินฮ่าววางมือลงบนพวงมาลัย เขาสตาร์ทรถ จากนั้นก็หันไปมองเซี่ยชิวเต๋อ สายตาของเขาทำให้เซี่ยชิวเต๋อแทบเป็นลมล้มทั้งยืน เขารีบคลายมือที่เกาะประตูรถออก
และแล้วบูเก็ตติเวย์รอนก็แล่นออกไป
เซี่ยชิวเต๋อมองตามท้ายรถคันนั้น การแสดงออกที่จริงใจบนใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไปในทันที เขาถ่มน้ำลายลงบนพื้นอย่างแรง จากนั้นก็เตะมัน พร้อมกับก่นด่า
“ถุย ที่ข้ามาขอเงินพวกแกก็นับว่าให้เกียรติพวกแกแล้ว ไม่งั้นคนอย่างพวกแกไม่คู่ควรกับการขอร้องของฉันหรอกโว้ย !”
***จบตอน ฉันช่วยคุณไม่ได้หรอก***