แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 48 ใครกันแน่ที่เป็นหงส์ และใครกันแน่ที่เป็นกา ?

คิดดูแล้วก็สมเหตุสมผลดี จะว่าไปเธอก็เคยถูกมู่เฉินฮ่าวแตะเนื้อต้องตัวมาหลายครั้งหลายหนแล้ว แค่กอดแค่นี้จะเป็นไรไป ?

 

ดังนั้นเธอจึงขยับเข้าไปใกล้แขนของมู่เฉินฮ่าวอีกนิด

 

ครั้นรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของเซี่ยฉิงกง มู่เฉินฮ่าวก็แตะจมูกของตน เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขัน แขนที่มั่นคงของเขาพลันกอดเอวเซี่ยฉิงกงไว้แน่น

 

การปรากฏตัวของเซี่ยฉิงกงในวันนี้ ได้กลายเป็นศัตรูสำหรับผู้หญิงทุกคนในงานไปเสียแล้ว สายตาที่ไม่เป็นมิตรจำนวนนับไม่ถ้วนตวัดมามองเธอหลายต่อหลายครั้ง

 

และด้วยสายตาที่เฉียบคมของเซี่ยชิงฉวน เธอก็สามารถเห็นคนทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว เธอกระตุกเสื้อของเจินเมี่ยวหยูพลางกระซิบข้างหูว่า

 

“คุณแม่ นังแพศยานั่นกับนายน้อยมู่มาถึงที่นี่แล้ว”

 

เจินเมี่ยวหยูพยักหน้าอย่างสงบ ก่อนจะหันไปพูดกับเซี่ยเจิ้งหัวที่กำลังคุยกับจางเจี้ยน ซีอีโอของธนาคารคิวซีแห่งนครเซี่ยงไฮ้

 

“เจิ้งหัว ฉิงกงกับนายน้อยมู่มาถึงแล้ว”

 

เซี่ยเจิ้งหัวหันมองไปตามทิศทางที่เจินเมี่ยวหยูบอก แล้วเขาก็เห็นมู่เฉินฮ่าวกับเซี่ยฉิงกง

 

“เอาล่ะ คุณจางไว้เราค่อยมาคุยกันต่อภายหลัง ลูกสาวกับลูกเขยของผมมาแล้ว ผมขอตัวไปต้อนรับพวกเขาก่อน”

 

เมื่อได้เอ่ยถึงลูกเขย เซี่ยเจิ้งหัวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุข

 

จางเจี้ยนหันไปมอง เขาก็พบว่านั่นคือมู่เฉินฮ่าวจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีหญิงสาวที่น่าหลงใหลคนหนึ่งอยู่ในอ้อมแขนของมู่เฉินฮ่าว เพียงแค่นี้ เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเป็นคุณหนูใหญ่ที่หายไปนานของตระกูลเซี่ย

 

หลังจากมองไปรอบ ๆ จางเจี้ยนก็ยิ้มอย่างใจเย็นพลางพยักหน้า

 

“โอเค เจ้าบ้านเซี่ยไว้คุยกันใหม่”

 

ในขณะนี้ คนทั้งสองกำลังก้มศีรษะกระหนุงกระหนิงกันอย่างใกล้ชิด แขนของมู่เฉินฮ่าวโอบรอบเอวของเซี่ยฉิงกง และดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ดีมาก ๆ ด้วย

 

ดูเหมือนว่ามู่เฉินฮ่าวกำลังคุยเรื่องขบขันอยู่กับเซี่ยฉิงกง ยามนี้เซี่ยฉิงกงกำลังก้มหน้าน้อย ๆ พร้อมกับยิ้ม ด้วยรูปลักษณ์เด็กสาวขี้อาย ก็เพียงพอที่จะทำให้เซี่ยเจิ้งหัวสบายใจขึ้นมาก

 

เดิมทีเซี่ยเจิ้งหัวรู้สึกผิดต่อเซี่ยฉิงกง เพราะทันทีที่เซี่ยฉิงกงได้กลับมาที่ตระกูลเซี่ย เธอก็ต้องแต่งงานกับคนที่เธอไม่รู้จักเสียแล้ว

 

แม้ว่า มู่เฉินฮ่าวจะดูดีมากในสายตาของทุกผู้คน หากแต่เซี่ยเจิ้งหัวก็เชื่อว่าการบังคับให้เซี่ยฉิงกงแต่งงานกับมู่เฉินฮ่าวนั้นอาจทำให้เซี่ยฉิงกงต้องผิดหวัง

 

ทว่าตอนนี้ เมื่อได้เห็นเซี่ยฉิงกงกับมู่เฉินฮ่าวเข้ากันได้ดีเช่นนี้ เซี่ยเจิ้งหัวก็โล่งใจ ความรู้สึกผิดในใจของเขาพลันลดน้อยลงเช่นกัน

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงเห็นเซี่ยเจิ้งหัว, เจินเมี่ยวหยู และเซี่ยชิงฉวนเดินมา เธอก็ลุกขึ้นจากที่นั่งทันที เธอกล่าวทักพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ ว่า

 

“คุณพ่อ”

 

“ฉิงกง มาแล้วเหรอ ? หนูไปอยู่บ้านสกุลมู่หลายวันแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ?”

 

ครั้นเจินเมี่ยวหยูเห็นเซี่ยฉิงกง เธอก็ทำราวกับเธอได้พบลูกสาวของตนเอง

 

เซี่ยฉิงกงยิ้มพลางพยักหน้าด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย เธอยกแขนขึ้นเกาะเกี่ยวแขนของมู่เฉินฮ่าว

 

“ก็ดีค่ะ มู่เฉินฮ่าวดีกับหนูมาก ขอบคุณคุณพ่อที่ให้หนูแต่งงานกับคนที่ดีเช่นนี้”

 

เซี่ยเจิ้งหัวตบไหล่เซี่ยฉิงกง แววตาของเขาอดไม่ได้ที่จะแสดงความพึงพอใจ หลังจากแต่งตัวเช่นนี้แล้ว ลูกสาวของเขาก็สวยมาก ไม่ว่าจะเป็นบุคลิก ท่าทาง การสนทนา หรือความเฉียบแหลมทางธุรกิจ เธอแตกต่างจากเซี่ยชิงฉวน ลูกสาวคนรองของเขามาก

 

เซี่ยเจิ้งหัวรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ทำไมเขาไม่รับเธอกลับมาให้เร็วกว่านี้

 

ทว่าภาพนี้กลับทำให้เซี่ยชิงฉวนกัดฟันกรอด นัยน์ตาที่เคยสวยงามของเธอจ้องมองเซี่ยฉิงกงไม่ต่างจากงูพิษ

 

เซี่ยฉิงกงใช้มนตร์เสน่ห์แบบไหนมัดใจนายน้อยมู่กันนะ ? แค่เพียงไม่กี่วันนายน้อยมู่ก็แสดงสีหน้าท่าทางอ่อนโยนต่อเซี่ยฉิงกงขนาดนี้แล้ว

 

ผู้หญิงชาวบ้านชั้นต่ำจากชนบทคนนี้จะมาเทียบกับเธอได้อย่างไร ? เมื่อปีก่อนเซี่ยฉิงกงยังเป็นแค่ตัวอะไรก็ไม่รู้ วันนี้มาทำเป็นเชิดหน้าชูตา เดี๋ยวก็ได้รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นหงส์ และใครกันแน่ที่เป็นกา ?

 

ครั้นนึกถึงแผนการที่แม่ของเธอจัดเตรียมไว้เมื่อตอนเย็น ปากของเซี่ยชิงฉวนก็ยกโค้งเผยรอยยิ้มเย็นชา คืนนี้แหละ … เซี่ยฉิงกงอาจจะถูกขับออกจากตระกูลเซี่ย และตระกูลมู่ก็ต้องล้มเลิกสัญญาการแต่งงาน..เชอะ !

 

และเมื่อถึงเวลานั้น..ก็ต้องเป็นเซี่ยชิงฉวนที่ได้แต่งงานกับมู่เฉินฮ่าว !

 

***จบตอน ใครกันแน่ที่เป็นหงส์ และใครกันแน่ที่เป็นกา ?***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset