แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 64 นั่นคุณจะทำอะไร มู่เฉินฮ่าว

มู่เฉินฮ่าวกลับถึงบ้านก็ให้อาเจิ้งนำโน้ตบุ๊คมาให้ เขาเริ่มจัดการกับกิจการของบริษัท แม้ว่าวันนี้มู่เฉินฮ่าวจะถูกมือปืนซุ่มโจมตีระหว่างทางกลับบ้าน หากแต่ก็นับว่ายังโชคดีที่เซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงเห็นสภาพจิตใจของมู่เฉินฮ่าวที่ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งใดผิดปกติไปเลย เธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้น

 

นอกจากนี้ อาเจิ้งก็ยังอยู่กับมู่เฉินฮ่าวตลอด คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเป็นแน่

 

เซี่ยฉิงกงจึงตัดสินใจเข้าครัวไปต้มไข่สองสามฟอง จากนั้นก็นำไข่ต้มพร้อมด้วยถุงน้ำแข็งไปหาหมั่นโถว

 

ซิงเหวินจิ้งตบหน้าหมั่นโถวอย่างแรง และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกเสียใจ

 

ห้องของหมั่นโถวอยู่ไม่ไกลจากห้องของเธอกับมู่เฉินฮ่าวนัก

 

เซี่ยฉิงกงเคาะประตูห้องของหมั่นโถว

 

หมั่นโถวเปิดประตูออกมาทันที ครั้นเห็นในมือของเซี่ยฉิงกงมีไข่และถุงน้ำแข็ง หมั่นโถวก็รู้สึกซาบซึ้งใจ

 

“นายหญิงน้อย คุณมาที่นี่ทำไม ?”

 

หมั่นโถวเบี่ยงตัวหลบ เพื่อให้เซี่ยฉิงกงก้าวเข้ามาในห้อง

 

ครั้นเซี่ยฉิงกงก้าวเข้าไปในห้อง เธอก็กวาดตามองโดยรอบ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเข้ามาในห้องส่วนตัวของหมั่นโถว ห้องของหมั่นโถวสะอาดสะอ้าน หากแต่นอกจากนั้นแล้ว เธอก็มองไม่เห็นอะไรที่แสดงออกว่าเป็นห้องของเด็กผู้หญิงเลย

 

ผ้านวมสีเขียวไม่ต่างจากผ้านวมทหารในกองทัพพับวางเรียงเป็นตั้งซ้อนกันอยู่ที่มุมห้อง

 

รองเท้าที่เธอใส่อยู่เป็นประจำก็วางไว้อย่างเรียบร้อย

 

บนโต๊ะไม่มีอะไรเลยนอกจากถ้วยชา

 

“หมั่นโถว … นี่เธอเคยเป็นทหารมาก่อนงั้นหรือ ?”

 

เซี่ยฉิงกงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

 

หมั่นโถวพยักหน้าเอ่ยตอบเบา ๆ

 

“ฉันอยู่ในทีมหน่วยรบพิเศษของกองทัพมาเจ็ดปีแล้วค่ะ”

 

ยามนี้ ปากเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกงพลันหวอจนกลายเป็นเลข 0 … ไม่ใช่แค่เจ็ดปีนะ หากแต่ยังเป็นเจ็ดปีที่อยู่ในหน่วยรบพิเศษของกองทัพอีกด้วย …

 

ไม่น่าแปลกใจที่มู่เฉินฮ่าวเคยบอกว่า เขาสั่งให้หมั่นโถวคอยปกป้องเธอ

 

ตอนนั้นเซี่ยฉิงกงยังหัวเราะเยาะ ทั้งยังบอกว่าหมั่นโถวมีแขน และขาที่ผอมกว่าเธอ เธอน่าจะเป็นฝ่ายปกป้องหมั่นโถวเสียมากกว่า…

 

“หมั่นโถวฉันขอโทษนะ ที่วันนี้ทำให้เธอถูกตบ ฉันสัญญาว่าจะไม่มีวันให้ใครทำร้ายเธอแบบนี้อีก ! โดยเฉพาะต่อหน้าฉัน !”

 

เซี่ยฉิงกงส่งถุงน้ำแข็งให้หมั่นโถว จากนั้นเธอก็เริ่มปอกเปลือกไข่

 

ใบหน้าของหมั่นโถวยังคงบวมเป่ง และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงยิ่งเสียใจมากขึ้นไปอีก

 

“ไม่เป็นไร นายหญิงน้อย ฉันมีหน้าที่ปกป้องคุณ”

 

หมั่นโถวยิ้มพลางเกาหัวอย่างเก้อ ๆ

 

“อืม ขอบใจจ้ะ”

 

เซี่ยฉิงกงหัวเราะเบา ๆ พลางใช้ผ้าขาวห่อไข่ที่ปอกเรียบร้อยแล้ว นำไปคลึงบนใบหน้าของหมั่นโถวอย่างเบามือ

 

คงไม่ดีเป็นแน่ หากจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้าที่สวยงามเช่นนี้ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตามที

 

หลังจากคลึงใบหน้าให้หมั่นโถวเสร็จ ก็เป็นเวลาตีหนึ่งกว่า ๆ แล้ว เซี่ยฉิงกงหาว เธอวางแผนจะกลับไปนอนที่ห้อง

 

จริง ๆ คืนนี้เซี่ยฉิงกงหลับไปแล้ว หากแต่ต้องตื่น เพราะได้รับทราบข่าวการบาดเจ็บของมู่เฉินฮ่าว

 

ตอนนี้เธอง่วงเสียเหลือเกิน

 

เมื่อกลับเข้ามาในห้อง ก็เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินฮ่าวกำลังนั่งรอเธออยู่บนหัวเตียง

 

“ไปไหนมางั้นรึ ?”

 

“หมั่นโถวถูกแม่ของคุณตบหน้า ฉันก็เลยไปช่วยประคบหน้าให้เธอ”

 

เซี่ยฉิงกงตอบตามความเป็นจริง

 

มู่เฉินฮ่าวพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นก็ใช้มือตบตรงตำแหน่งข้าง ๆ เขา

 

“เอาล่ะ งั้นเข้านอนกันเถอะ”

 

เซี่ยฉิงกงต้องการจะถามว่า วันนี้เกิดอะไรขึ้นตอนที่เขาออกไปเซ็นสัญญา แต่ครั้นเห็นแววเหนื่อยล้าจาง ๆ ในดวงตาของเขา เธอก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมอีก

 

เธอถอดเสื้อคลุมออก จากนั้นก็ก้าวขึ้นเตียงอีกฟากหนึ่ง ก่อนจะหันหลังให้มู่เฉินฮ่าว แล้วดึงผ้าห่มผืนเล็กขึ้นมาคลุมตัวเธอเบา ๆ

 

ทันทีที่เธอเอนกายลงนอน เธอก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดลงข้าง ๆ ตัวเธอ มู่เฉินฮ่าวโอบกอดเธอจากด้านหลัง ลมหายใจแผ่วเบาปะทะลำคอของเธอ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย พลันความรู้สึกบางอย่างก็เอ่อล้นออกมาจากร่างกายของเธอ

 

“นั่นคุณจะทำอะไร มู่เฉินฮ่าว อย่าแตะต้องฉันนะ !”

 

เซี่ยฉิงกงไม่กล้าที่จะขยับ เพราะเกรงว่าจะชนแขนที่ได้รับบาดเจ็บของมู่เฉินฮ่าวโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

***จบตอน นั่นคุณจะทำอะไร มู่เฉินฮ่าว***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset