มุกดาคอยชมชลธีสุดฤทธิ์ ทำให้นัทธ์ที่อยู่ข้างๆก็ยังรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของคุณนายกับคุณชายดีมาโดยตลอด
“แต่มุก ทำไมลูกถึงถูก ธีรเมทคนนั้นทิ้งเอาได้?ลูกสาวพ่อดีเยี่ยมขนาดนี้ พ่อคิดไม่ตกเลยจริงๆ!”ลูกสาวคบกับธีรเมทมาสามปี ถึงแม้ในสามปีนี้ ธีรเมทไม่ได้ดีกับตัวเองสักเท่าไหร่ แต่ว่าเห็นแก่ลูกสาวก็เลยทนเอาไว้ คิดไม่ถึงเลยว่าเขายังจะทิ้งลูกสาวตัวเองอีก
“พ่อมีอะไรที่คิดไม่ตกด้วยคะ โบราณกล่าวไว้อย่างดีไม่ใช่เหรอคะว่าสูญเสียม้า แต่กลับเป็นโชคอันยิ่งใหญ่ พ่อดูสิคะ ตอนนี้หนูก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากเลยไม่ใช่เหรอคะ?”มุกดาให้ณิชพนดูตัวเอง
“เฮ้อ” ณิชพนเห็นลูกสาวมีชีวิตความเป็นอยู่ดีอยู่ แต่ไม่รู้ลูกสาวแต่งงานกับคนยังไง ถ้าเกิดเป็นตาแก่คนหนึ่ง หรือว่าแก่กว่าตัวเอง จะไปสู้หน้าแม่ของเธอได้ยังไง
“พ่อตาถึงแล้วเหรอครับ?ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีเช้านี้ผมติดประชุม เลยไม่มีเวลาไปรับคุณพ่อเองครับ” ชลธีรีบกลับมาในเวลานี้ เขาไม่ให้มุกดาไป แต่ตัวเองก็ติดประชุมที่สำคัญมาก เจียดเวลาไปไม่ได้
ณิชพนหันมามองแล้วตกใจจนเกือบล้มไปกองพื้น ผู้ชายคนนี้ เรียกตัวเองว่าพ่อตา นี่ไม่ใช่ชลธีเหรอ?
“ประธาน ประธาน ประธานชลธี?”ณิชพนพูดจาสะเปะสะปะไปหมด นั่นเป็นถึงราชาของพระนครเชียวนะ เมื่อก่อนเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าจะสามารถร่วมงานกับบริษัทฮอนดากรุ๊ป แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนี้กลับเรียกตัวเองว่าพ่อตา
“พ่อตาเกรงใจเกินไปแล้วครับ เรียกผมชลก็พอแล้วครับ” ชลธีเดินมาที่ข้างกายของมุกดา และสอบถามอาการวันนี้ของเธอ
ณิชพนอ้าปากค้าง เขายังยอมรับความจริงของตรงหน้าไม่ได้
“พ่อคะ นี่เป็นลูกเขยของพ่อ ชลธีค่ะ พ่อก็อย่าตกใจไปเลยค่ะ หนูเคยบอกพ่อแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าลูกสาวพ่อดวงดี!” มุกดาคอยปลอบใจณิชพน คราวนี้ณิชพนถึงหุบปากลง
ถ้าลูกสาวตัวเองถูก ธีรเมททิ้ง แต่กลับได้แต่งงานกับชลธี เป็นบุญวาสนาของลูกสาวจริงๆด้วย!
“พ่อตานั่งเครื่องมานานขนาดนี้ ไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเถอะครับ นัทธ์ พาพ่อตาไปพักผ่อนที่ห้อง” ชลธีพูดกับณิชพนอย่างเอาอกเอาใจมาก
“อืมๆ ดีๆๆ งั้นพ่อไปพักผ่อนหน่อยนะ”เวลานี้ณิชพนได้ยกภูเขาออกจากอกเสียที ดีจังเลย ลูกสาวมีบุญวาสนาแบบนี้เขาก็ดีใจแทนเธอด้วย
ณิชพนได้มองมุกดาอีกครั้ง รู้สึกรอยยิ้มบนใบหน้าเธอจริงใจ ทีนี้ถึงได้ไปพักผ่อนอย่างวางใจ
ณิชพนไปปุ๊บ มุกดาก็ได้เก็บรอยยิ้มบนใบหน้าไว้
เมื่อครู่เพื่อให้พ่อวางใจ เธอใช้เรี่ยวแรงที่มีจนหมด ตอนนี้เธอรู้สึกตัวเองเหนื่อยมาก
“คุณเหนื่อยใช่มั้ย ผมอุ้มคุณขึ้นไปนะ” ชลธีมองใบหน้าของมุกดามีความเหนื่อยล้า ก็ได้โน้มตัวไปอุ้มเธอ
“ไม่ต้องค่ะ ฉันเดินเองได้ ตั้งครรภ์ต้องเดินเยอะๆหน่อย ตอนคลอดจะได้คลอดง่าย” มุกดาเกรงใจที่จะให้ชลธีอุ้มตัวเองต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้
“จะเดินก็ผ่านไปหลายเดือนก่อนค่อยว่ากัน ตอนนี้คุณแพ้ท้องหนักขนาดนี้ พยายามขยับตัวน้อยๆหน่อยจะดีกว่า” ชลธีไม่สนเยอะแยะขนาดนั้นหรอก เขาได้อุ้มมุกดาขึ้นไปชั้นบนโดยตรง
มุกดาตัวเบามาก ดูก็ไม่เตี้ยหนิ แต่พออุ้มแล้วยังไม่ถึงห้าสิบกิโลเลย
“คุณผอมมากเลยต้องกินเยอะๆหน่อย ไม่งั้นร่างกายของลูกก็จะไม่แข็งแรงด้วยนะ” ชลธีมากระซิบที่ข้างหูเธอ
พริบตาเดียวใบหน้าของมุกดาก็แดงก่ำ ลมหายใจเร่าร้อนของเขาเป่าอยู่ที่ข้างหูเธอ คันยุบยิบมาก
มองหน้าตาเขินอายของมุกดา ชลธีอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ ตัวเองจะเป็นพ่อคนแล้ว ต้องดูแลแม่ของลูกดีๆหน่อย
ตั้งแต่รู้ว่ามุกดาท้อง ชลธีก็นอนที่ห้องนอนเล็กมาโดยตลอด ทุกคืนเขาจะลุกไปดูมุกดาอยู่หลายครั้ง แต่มุกดาล้วนไม่รู้เลย
“มุกดา ช่วงนี้เธอหายสาบสูญไปไหนเนี่ย?ฉันโทรหาเธอๆก็ไม่รับสายเลย” พอมุกดารับสายปุ๊บ จันวิภาก็พูดฉอดๆๆใส่ในสายเลย
“ไม่ใช่ เพราะมือถือไม่ได้อยู่กับฉัน เลยไม่ค่อยได้รับสายอยู่เป็นประจำ” พอตั้งครรภ์ ชลธีก็คุมมือถือของเธอเข้มงวดมาก เธอเลยไม่ได้ยินเสียงเรียกเข้าอยู่เป็นประจำ พอเห็นก็ค่อยโทรกลับไปใหม่
“เธอถูกชลธีกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือไง?ทำไมต้องคุมเธอเข้มขนาดนี้ด้วย ถ้าไม่ไหวฉันกับแสนดีมาช่วยเธอเอง” จันวิภาฟังแล้วยังนึกว่าชลธีไม่ดีกับมุกดาเสียอีก
แต่มุกดาบอกจันวิภาไม่ได้ว่าตัวเองท้อง ถ้าจันวิภารู้ โธรณีก็จะรู้ ถ้าโธรณีรู้เข้า นีรชาก็ต้องรู้เหมือนกัน
“ไม่ใช่ ช่วงนี้ฉันปวดตา เขาก็เลยไม่ค่อยให้ฉันเล่นมือถือ” มุกดาหาเหตุผลที่ดีมากเหตุผลหนึ่ง
“เฮ้อ ช่วงนี้อยู่บริษัทน่าเบื่อจังเลย ทำไมเธอถึงไม่มาทำงานสักทีนะ ฉันรู้สึกชีวิตก็ไม่มีความสนุกสนานอะไรแล้ว” มุกดาไม่ได้ไปทำงานนานมากแล้ว หลังจากชลธีประกาศในบริษัทฮอนดากรุ๊ปว่ามุกดาคือภรรยาของตัวเอง มุกดาก็ไม่ได้ไปทำงานอีกเลย เธอรู้สึกตัวเองไม่มีหน้าไปเจอทุกคนแล้วจริงๆ
“จันทร์ ตอนนี้ฉันยังออกไปไม่ได้ ช่วงนี้ร่างกายฉันไม่ค่อยดี ถ้าเธอคิดถึงฉัน เธอกับแสนดีก็มาเยี่ยมฉันที่บ้านเลย” มุกดาก็คิดถึงจันวิภากับแสนดีเหมือนกัน ไม่ได้เจอหน้ากันมาสัปดาห์กว่าแล้ว
“จริงหรอ ฉันไปเยี่ยมเธอได้เหรอ ดีจังเลยๆ งั้นเลิกงานเย็นนี้ ฉันกับแสนดีก็มาเยี่ยมเธอเลยนะ ร่างกายเธอเป็นไงบ้าง ฉันเป็นห่วงจังเลย”ที่ผ่านมาจันวิภาเป็นห่วงมุกดามาโดยตลอด
“ไม่มีอะไรมากหรอก งั้นมาเที่ยวหาฉันเลยนะ” มุกดาก็ไม่สนแล้วว่าชลธีจะคิดยังไง เพราะยังไงก็ป่าวประกาศไปแล้วว่าตัวเองแต่งงานกับเขาแล้ว บ้านหลังนี้ก็เป็นของตัวเองเหมือนกัน บวกกับตัวเองก็ตั้งครรภ์อยู่ ชลธีคงไม่ด่าตัวเองหรอกมั้ง?
แต่มุกดายังคงคิดว่าควรบอกชลธีสักคำดีกว่า เธอจึงได้โทรหาชลธี
“ฮัลโหล ประธานชลธี”
“ฮัลโหล มุก มีอะไร?” ชลธีกำลังประชุมอยู่ เขาได้ทำท่าเงียบทันที ให้ทุกคนอย่าพูดจา
“ฉันอยากให้จันทร์กับแสนดีมาเที่ยวหาที่บ้านค่ะ ฉันโทรมาถามคุณดูว่าได้หรือเปล่าคะ?”เสียงของมุกดามีความอ้อนวอน
ใบหน้าของชลธีมีรอยยิ้มโผล่ขึ้นมาทันที “ได้สิครับ นั่นก็เป็นบ้านของคุณเหมือนกัน เพื่อนของคุณอยากมาเมื่อไหร่ก็ได้ อยากทานอะไรก็บอกกับลุงนัทธ์เลยนะ”เสียงของชลธีอ่อนโยนจะแย่อยู่แล้ว
“งั้นได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” มุกดาได้ยินแค่ชลธีเห็นด้วย ส่วนน้ำเสียงของชลธี เธอตื่นเต้นเกินไปไม่ได้สังเกตเลยด้วยซ้ำ
สมาชิกที่นั่งประชุมคณะกรรมการบริษัทอยู่ ต่างก็ตกใจจนอ้าปากค้าง ผู้ชายที่อ่อนโยนดั่งน้ำคนนี้ ใช่ประธานที่เลือดเย็นของพวกเขาเหรอ?รอยยิ้มเอ็นดูของเมื่อครู่ ตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า?
“เอาล่ะ เรามาคุยปัญหาของฝ่ายขายหน่อย!”ชลธีวางสายทิ้ง ทันใดนั้นใบหน้าได้ก่อตัวด้วยน้ำแข็งอีก
ทุกคนล้วนปล่อยวางแล้ว เมื่อครู่ต้องตาฝาดแน่ๆเลย