“โอ้โห สมกับเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของพระนครจริงๆ บ้านหลังนี้ก็ใหญ่เกินไปแล้วมั้ง ใหญ่กว่าบ้านของพี่ประวีร์เสียอีก!” จันวิภามองวิลล่าที่มุกดาพักอาศัยอยู่ พร้อมชื่นชมจากใจจริง
“มุก ฉันรู้สึกที่จริงเธอพักอยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกันนะ สภาพแวดล้อมดี บ้านก็ใหญ่โตมโหฬาร เสียก็แต่การจราจรไม่ค่อยสะดวก แต่ตอนที่พวกเธอออกไปข้างนอกล้วนมีรถอยู่ นี่ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว” จันวิภาดูห้องรับแขกเสร็จ ยังไม่ได้ไปดูที่อื่น ก็ถูกผลไม้ที่สวยสดเหล่านั้นดึงดูดแล้ว
“พวกเรามีลาภปากจริงๆ นี่เป็นสตรอเบอร์รี่ที่เพิ่งออกใหม่เชียวนะ ยังมีมังคุดอันนี้อีก ว้าว เป็นของที่ฉันชอบทั้งนั้นเลย” จันวิภาตาลุกวาว
“แสนดี บ้านเธอก็รวยเกินไปแล้วมั้ง วันหลังเธอต้องเลี้ยงข้าวมื้อใหญ่พวกเรานะ ไม่จัดหนักๆสักมื้อให้เธอกระเป๋าแฟบ ฉันรู้สึกไม่พอใจ!”จันวิภากินผลไม้ไปด้วยพร้อมพูดไปด้วย
“ฮ่าๆๆ ได้สิ เธออยากจัดหนักยังไงก็ได้” โธรณีรับปากอย่างไว
ผู้หญิงสามคนเจ๊าะแจ๊ะด้วยกันอยู่ในบ้าน ตอนที่ทั้งสามอยู่ด้วยกัน มักจะรู้สึกว่าเสียงหัวเราะไม่ขาดสายเลย
“มาแล้วๆ กุ้งอบน้ำมันที่สดๆร้อนๆ เป็นเมนูที่พวกหนูชอบทานที่สุดเลย” ณิชพนออกมาจากห้องครัว มือของเขาถือกุ้งอบน้ำมันหม้อใหญ่ไว้ ฝีมือการทำอาหารของณิชพนดีมาก เขาเลี้ยงมุกดาโตมาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นทั้งพ่อและแม่ในคนเดียวกัน ดังนั้นเลยได้ฝึกฝนฝีมือการทำอาหารที่ไม่ธรรมดา
“ว้าว นี่ นี่อาณิชพนใช่มั้ยคะ อาณิชพนกลับมาเมื่อไหร่คะ?”เวลานี้จันวิภาถึงเห็นณิชพน เธอวิ่งไปด้วยความตื่นเต้น
“จันทร์ หนูคือแสนดีใช่มั้ย ได้ยินมุกบอกว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอจะมา ลุงก็เลยไปเตรียมเมนูอาหารที่ถนัด เห็นคนเยาว์วัยอย่างพวกหนู ลุงรู้สึกว่าลุงหนุ่มขึ้นเยอะเลย!” ณิชพนตบไหล่ของจันวิภาเบาๆ เขาเห็นเด็กสามคนนี้โตมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก พวกเธอก็เหมือนเป็นลูกคนหนึ่งของตัวเองเลย
“เดิมทีอาณิชพนก็หนุ่มอยู่แล้วค่ะ” จันวิภากับโธรณีต่างก็ชมณิชพนพร้อมเพรียงกัน
“โอเคๆ พวกหนูนั่งนะ ลุงยังมีอีกสองเมนูที่ใกล้เสร็จแล้ว”ตอนนี้ร่างกายหายดีแล้ว แถมไม่มีเรื่องของธุรกิจมาคอยเดือดร้อนตัวเอง ณิชพนรู้สึกตัวเองชิวมาก
“อืม ได้ค่ะ พวกเราจะรออย่างเชื่อฟังค่ะ ฝีมือของอาณิชพนเยี่ยมที่สุดเลย แม่ฉันฝึกทำอาหารกับคุณอาได้หลายเมนูเลย!” จันวิภาพูดกับโธรณี
“อิจฉามุกจังเลย มีพ่อที่เก่งขนาดนี้”ปากของโธรณีคอยพูด แต่มือกลับได้ยื่นไปที่กุ้งอบน้ำมันแล้ว
“โห อร่อยจังเลย”พอโธรณีกินแล้วก็หยุดไม่ได้เลย อร่อยจังเลย อร่อยกว่าที่แม่ตัวเองทำตั้งเยอะ วันหลังให้แม่มาฝึกวิชาการทำอาหารดีกว่า
จันวิภาเห็นโธรณีกินอย่างมีความสุขมาก ก็ได้รีบเข้าร่วมด้วย กลัวเดี๋ยวช้าเกินไปกุ้งอบน้ำมันจะหมดเสียก่อน
มุกดาไม่อยากกิน แค่ได้กลิ่นก็รู้สึกไม่ค่อยสบายแล้ว แต่นี่ก็ใกล้จะสองเดือนแล้ว บวกกับได้ทานยาไปด้วย เลยไม่ค่อยมีปฏิกิริยารุนแรงอะไร
“มุก เธอกินสิ ทำไมเธอไม่กินเลย ถ้ายังไม่กินอีกจะถูกพวกเรากวาดเรียบแล้วนะ”ทั้งสองมัวแต่กิน แต่ยังไม่ลืมแกะกุ้งให้มุกดาอีก
“โอเคๆ พวกเธอกินเลย พ่อฉันอยู่นี่ ฉันกินเมื่อไหร่ก็ได้” มุกดาเอากุ้งที่พวกเธอแกะให้ตัวเอง คืนให้กับพวกเธออีก
ผู้หญิงตะกละสองคนนี้ฟังแล้วก็รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ จึงไม่ได้สนใจมุกดาอีก ทั้งสองได้กินอย่างหนำใจต่อ
ถ้าไม่ใช่กะละมังยังวางอยู่บนโต๊ะ ณิชพนก็ชักจะสงสัยแล้วว่าตัวเองได้ยกกุ้งอบน้ำมันออกมาแล้วหรือยัง ในกะละมังนั้นไม่มีเงาของกุ้งแล้ว แต่บนโต๊ะเนี่ยสิมีเปลือกกุ้งวางกองอยู่เต็มเลย
“อาณิชพนทำได้อร่อยมากเลยค่ะ พวกเรากินจนหมดเกลี้ยงเลย”ผู้หญิงตะกละสองคนนี้พูดกับณิชพนด้วยความเก้อเขิน
“กินหมดก็ดีสิ กินหมดแสดงว่าฝีมือของอาณิชพนยังไม่ตก เอานี่คือหัวสิงโตน้ำแดง กับปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว และซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน” ณิชพนทำกับข้าวที่พวกเธอชอบทานมากมาย แต่มุกดาไม่อยากทานเลยสักอย่าง
“นี่คือรากบัวน้ำผึ้งและเยลลี่ลำไยที่มุกชอบกินที่สุด”ทีนี้ณิชพนถึงได้ยกอาหารที่มุกดาชอบมาเสิร์ฟ เมนูที่เธอชอบยุ่งยากที่สุด เลยค่อนข้างช้า ลูกสาวตัวเองชอบทาน ถึงจะยุ่งยากแค่ไหน เขาก็จะทำให้ทาน
ก็เพราะของหวานสองอย่างนี้ยกออกมาช้า สองคนนั้นต่างก็ทานอิ่มพอสมควรแล้ว มุกดาถึงมีโอกาสหยิบเข้าปาก
ในอาหารรสเลิศนั้นมีรสชาติของพ่ออยู่ มุกดากินอย่างมีความสุขมาก ไม่ได้ทานฝีมือพ่อมานานมากแล้ว ตั้งแต่พ่อถูกยั่วโมโหจนเป็นโรคหัวใจเข้าโรงพยาบาล มุกดาก็เหมือนเด็กที่ไม่มีคนเอา
“มุก ฉันรู้สึกเธอผิดสังเกตนิดหน่อยนะ!” จันวิภาพูดกับมุกดากะทันหัน โธรณีที่กำลังซดน้ำซุปอยู่ก็ได้เงยหน้าขึ้นมามองพวกเธอ
“ทำไมเหรอ?” มุกดานึกว่าจันวิภาดูออกว่าตัวเองตั้งครรภ์เสียอีก เธอยังคิดอยู่เลยว่าจะอธิบายกับพวกเธอยังไง
“เธอกำลังคอยต้อนรับแขกโดยที่อดเอาไว้ไม่กินอยู่ใช่มั้ย?ของมากมายที่เธอชอบเธอล้วนไม่กินเลย ให้พวกเรากินหมด ฉันซึ้งจังเลย!” จันวิภากอดมุกดาไว้
ทีนี้มุกดาถึงโล่งอกไปที ยัยบ๊องคนนี้หนิ พูดไม่คิดอยู่เรื่อยเลย
“ใช่ ฉันกำลังคอยต้อนรับแขกโดยที่อดเอาไว้ไม่กิน วันนี้พวกเธอเป็นแขก เพราะฉะนั้นก็ต้องให้พวกเธอกินอย่างมีความสุขสิ อีกอย่าง แสนดีกินกับข้าวที่พ่อฉันทำเป็นครั้งแรก แถมยังชอบขนาดนี้ ก็ต้องให้พวกเธอกินให้หนำใจสิ” มุกดาทำหน้าใจกว้างมาก
“มุก ฉันรักเธอจังเลย” โธรณีก็ยิ้มตาหยี วันนี้เธอกินอย่างมีความสุขมาก พึงพอใจมาก กินจนพุงกางเลย
พอทานข้าวเสร็จ ทั้งสามคนได้ไปดูห้องนอนของมุกดา โธรณีเคยมาอยู่ จันวิภาถือว่าได้เปิดหูเปิดตาเสียที นี่คือห้องนอนเหรอเนี่ย?ใหญ่กว่าบ้านทั้งหลังของเธอเสียอีก เตียงใหญ่เตียงนั้นสบายจังเลย
จันวิภาได้นอนลงไปสัมผัสเตียงอย่างไม่เกรงใจเลย
“เห็นเธอแบบนี้ ฉันก็วางใจแล้ว มุก เธอก็ไม่ต้องไปทำงานแล้ว ได้ยินเหมือนว่าธินิดาจะเข้าโรงพยาบาล แต่พรุ่งนี้ก็มาทำงานแล้ว เธอเห็นหล่อนก็มีแต่จะหงุดหงิด อยู่บ้านกับอาณิชพนก็ดีเหมือนกัน” จันวิภารู้สึกชลธีก็ดีกับมุกดาอยู่นะ สภาพแวดล้อมของที่นี่ไม่เลวเลยจริงๆ
“อืม ดูก่อนเถอะ ช่วงนี้ฉันยังไม่ไปทำงาน อยู่บริษัทฉันก็รู้สึกอึดอัดมากเหมือนกัน” มุกดาก็ไม่อยากไปทำงานแล้ว ตอนนี้เธอมีงานที่ค่อนข้างมั่นคงงานหนึ่งแล้ว
ทั้งสามคนได้ซุบซิบอยู่บนเตียงใหญ่ของมุกดาไปอีกพักหนึ่ง เตียงนอนของมุกดากว้างมาก ถึงนอนกันสามคนก็ยังกว้างมากอยู่ดี
ท้องฟ้าใกล้มืดแล้ว จันวิภากับโธรณีก็จะกลับบ้านแล้ว
มุกดาส่งพวกเธอมาถึงหน้าบ้านอย่างอาลัยอาวรณ์
“มุก เธอดูแลตัวเองดีๆล่ะ ถ้าพวกเรามีธุระค่อยโทรหาเธอ ฉันดูเธอก็ค่อนข้างเหนื่อยล้า พักฟื้นร่างกายดีๆนะ”ตอนที่จันวิภากับโธรณีไปยังคอยกำชับมุกดาไม่หยุด