แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 134 ตระกูลบุญเยี่ยมล้มละลาย

วรรณวิมลกำลังใช้ความคิด และก็ได้ยินเสียงดัง “เพียะเพียะ” สองเสียง ทว่าเธอไม่เห็นว่าเป็นมุกดาที่โดนตบ กลับเป็นแก้มของเธอเองที่แสบร้อนไปหมด

“คุณมาตบภรรยาผมได้ยังไงกัน?” ธีร์ธวัชเห็นคุณนายโจนส์ตบเมียตัวเองแล้วไม่พอใจเท่าไหร่

“แกเป็นใคร ที่ฉันตบเจ้าหล่อนไปน่ะยังเบาไปด้วยซ้ำ ฉันไม่ไปฟ้องเธอถือว่าไว้หน้า5ของพวกแกแล้ว เธอคนนี้บอกฉันว่าคุณโจนส์อยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งบนห้องนี้ เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรอีก ยัยคนนี้เป็นคนกำกับละครเรื่องนี้เองน่ะสิ” คุณนายโจนส์พูดกับธีร์ธวัชอย่างดูหมิ่น

“ไม่ใช่ฉันนะคะ ฉันก็ฟังมาจากคนอื่นเหมือนกัน คุณมาใส่ร้ายฉันได้ยังไงกัน?” วรรณวิมลร้องไห้ออกมา ท่าทางไร้ทางสู้ของเธอทำให้ธีร์ธวัชเห็นแล้วสงสารจับใจ

“ฟังมาจากคนอื่น? ฉันจำได้ว่าเธอนามสกุลบุญเยี่ยมใช่มั้ย? คุณหนูบุญเยี่ยม เธอแค่ฟังมาจากคนอื่นยังพาคนมาได้มากมายขนาดนี้หรอ? เธอเห็นพวกเราเป็นไอ้โง่หมดเลยใช่มั้ย? ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอไม่ได้เป็นคนจัดฉาก” คุณนายโจนส์เห็นหมอมาจึงหลีกให้หมอเข้าไป ส่วนตัวเธอเองอุดอยู่หน้าประตูสั่งสอนวรรณวิมล

“คุณนายโจนส์คะ คุณอย่าโมโหนักเลย เข้ามาให้หายโมโหหน่อยเถอะ” นีรชาเห็นคุณนายโจนส์โมโหมากจริงๆ ถึงตัวเธอเองก็นึกโกรธในใจอยู่มากเหมือนกัน แต่อย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องอื้อฉาวของที่บ้าน ลูกสะใภ้ตัวเองวางแผนใส่ร้ายลูกสะใภ้อีกคนหนึ่ง ช่างน่าขายหน้าจริงๆ

“พวกแกออกไปให้หมด ถ้าหลังจากนี้ยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกอย่าโทษฉันที่ต้องเอากฎตระกูลออกมาใช้แล้วกัน” นีรชาปวดหัวกับลูกสองคนของภรรยาคนเก่าชุติภาสมากเหมือนกัน

วรรณวิมลยังอยากพูดอะไร แต่โดนธีร์ธวัชลากออกไปก่อน คนที่มีตาดูออกหมดว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือวรรณวิมล แต่คนๆนี้เป็นเมียเขา และเขารักและตามใจวรรณวิมลมาตลอด จึงไม่อาจว่าอะไรได้

“ธวัชคะ คุณเชื่อฉันมั้ย ฉันไม่ได้ทำนะคะ” วรรณวิมลยังอยากให้สามีของตัวเองเชื่อในความดีและความงดงามของเธอ

ธีร์ธวัชไม่อาจพูดอะไรได้ ทำได้เพียงพยักหน้า

“ผมเชื่อคุณ” เขาดึงวรรณวิมลเข้ามากอด วรรณวิมลหงุดหงิดใจสุดๆ วางแผนใส่ร้ายมุกดาครั้งนี้จริงๆต้องไม่มีข้อผิดพลาดเลย แต่คิดไม่ถึงว่าคุณโจนส์กลับไม่สะทกสะท้านกับลาภที่ป้อนเข้าปาก

คุณนายโจนส์นั่นก็มหัศจรรย์เหลือเกิน ไม่ถามสามีตัวเองเลยว่าทำไมถึงอยู่กับมุกดา กลับเดินตรงดิ่งไปหามุกดาแทน หรือจะมีเหตุผลอย่างอื่น?

“ที่รัก คุณว่าทำไมคุณนายโจนส์ถึงดีกับมุกดาขนาดนั้นคะ ท่าทางกังวลนั่นอย่างกับเป็นลูกตัวเองอย่างงั้นแหละ” วรรณวิมลคิดไม่ตกจึงถามธีร์ธวัช

ธีร์ธวัชก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด “อาจเพราะคุณนายโจนส์มีแผนอย่างอื่นก็ได้แค่เราไม่รู้ ช่างมันเถอะที่รัก คุณอย่าคิดมากไปเลย คิดมากไปแก่ไวนะ แก่แล้วก็ไม่สวยแล้ว” ธีร์ธวัชใช้คำพูดที่เขาชอบพูดอยู่เสมอ

“โอ๊ย โอ๊ย ฉันแก่แล้วหรือคะ?” วิธีนี้ได้ผลทุกครั้งจริงๆ ขอแค่ธีร์ธวัชพูดประโยคนี้ วรรณวิมลก็จะไปส่องกระจกเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป และเวลานั้นเป็นเวลาสงบของเขา

แต่ถ้าคุณนายโจนส์มีความรู้สึกอย่างอื่นกับมุกดาจริงๆ ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้ไปล่วงเกินคุณนายโจนส์เข้าบุญเยี่ยมกรุ๊ปแย่แน่

ธีร์ธวัชคิดมาถึงนี่จึงรู้สึกว่าควรไปเตือนพ่อตาเสียหน่อย ช่วงก่อนไม่รู้ว่าว่องประเสิรฐการกรุ๊ปไปล่วงเกินคุณนายโจนส์เข้าอีท่าไหน โปรเจ็กต์ที่ตั้งใจจะทำร่วมกันโดนตัดออกซะอย่างนั้น

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก ธวัชเอ๊ย ตระกูลบุญเยี่ยมของเราไม่ได้ร่วมงานด้านใดกับโจนส์กรุ๊ปเลย เธอหาเรื่องฉันไม่ได้หรอก” ศรัณยพงศ์ท่าทางไม่แคร์ บริษัทของเขาไม่ได้ใหญ่มาก ยังไม่ได้ถึงขั้นข้องแวะกับโจนส์กรุ๊ป

“อื้ม หวังว่าจะเป็นแบบนั้นครับ อย่างไรซะพ่อก็ระวังตัวด้วยนะครับ” ธีร์ธวัชรู้ว่าตระกูลบุญเยี่ยมไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับโจนส์กรุ๊ปนักหรอก เขาจิ๊บจ้อยเกินไปในสายตาโจนส์กรุ๊ป

วางโทรศัพท์ไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง วรรณวิมลก็ร้องห่มร้องไห้เข้ามาหาธีร์ธวัช

“ธวัช ธวัช เกิดอะไรขึ้นคะ หุ้นของตระกูลบุญเยี่ยมเราร่วงดิ่งเลย ตระกูลบุญเยี่ยมจะล้มละลายอยู่แล้ว”

ธีร์ธวัชรู้สึกหัวโต เมื่อกี้เขาเพิ่งโทรหาพ่อตา นี่มันไม่เร็วไปหน่อยหรอ ครึ่งชั่วโมง ฝีมือขนาดนี้นอกจากโจนส์กรุ๊ปก็มีแต่ตระกูลสุวรรณเลิศที่ทำได้

“อ่อน คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไปนะ อย่าเพิ่งร้อนใจไป เดี๋ยวผมหาทางดู” ธีร์ธวัชก็จนปัญญา โจนส์กรุ๊ปและตระกูลสุวรรณเลิศสูสีกัน ในบางด้านโจนส์กรุ๊ปเหนือกว่าอย่างฉิวเฉียดด้วย

บวกกับธีร์ธวัชไม่ใช่ประธานของตระกูลสุวรรณเลิศ เขาเป็นเพียงผู้จัดการของบริษัทสาขาเท่านั้น เขาเองก็ไร้ซึ่งหนทางจะไปช่วยตระกูลบุญเยี่ยม

“คุณคิดเร็วสิคิดเร็ว” วรรณวิมลเร่งเร้าธีร์ธวัชอย่างร้อนใจ ขณะนั้นศรัณยพงศ์โทรมาหาธีร์ธวัช

“ธวัช ธวัชเอ๊ย แกต้องช่วยตระกูลบุญเยี่ยมของเรานะ เราจะล้มละลายอยู่แล้ว ราคาหุ้นตกไปถึงจุดต่ำสุด” เวลานี้ศรัณยพงศ์ไม่สนเรื่องหน้าตาแล้ว เขายอมขอร้องธีร์ธวัช

“พ่อครับ ขอโทษด้วย ผมเองก็จนปัญญา” ไตร่ตรองอยู่พักหนึ่ง ธีร์ธวัชรู้สึกว่าตัวเองก็อับจนหนทาง ถ้าชลยังอยู่อาจจะดีกว่านี้ แต่วันนี้คนที่วรรณวิมลวางแผนใส่ร้ายคือภรรยาของชล ต่อให้ชลอยู่ก็ไม่มีทางยื่นมือช่วย

โบราณว่าไว้ยังไงนะ? กระทำกรรมเองไม่อาจรอด วรรณวิมลก็เป็นตัวอย่างของประโยคนี้ แต่ธีร์ธวัชไม่กล้าว่าเธอ เพราะเขารักเธอมากเกินไป

“ทำไมแกจะช่วยไม่ได้ แกเป็นคนตระกูลสุวรรณเลิศเลยนะ ตระกูลสุวรรณเลิศช่วยพวกเราไม่ได้รึไง? ฉันว่าแกไม่อยากช่วยล่ะสิ ฉันไม่น่าให้ลูกสาวแต่งงานกับแกเลย” ศรัณยพงศ์โกรธขึ้นมาแล้วเหมือนกัน เวลานี้ถ้าใครช่วยเขาได้เขายอมคุกเข่าเรียกคนคนนั้นว่าพ่อเลยล่ะ

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ทุกอย่างสงบลง ตระกูลบุญเยี่ยมหายออกไปจากสายตาของทุกคนในพระนคร และหายไปอย่างสิ้นเชิง

งานวันเกิดปู่ปรัณใกล้เลิกแล้ว มีคนมากมายกลับไปด้วยความดีอกดีใจ ในสถานที่แบบนี้มีคนจำนวนมากที่ตกลงธุรกิจโปรเจ็กต์ใหญ่ๆได้

แต่ก็มีบางคนที่อึดอัดไม่น้อย งานเลี้ยงครั้งนี้มีอะไรเกิดขึ้นมากมายจริงๆ

“ที่รัก ที่รัก พูดอะไรหน่อยสิ” ธีร์ธวัชพูดกับวรรณวิมล

“ที่รัก คุณจะให้ฉันพูดอะไรคะ บ้านของฉันล้มละลายไปแบบนั้น แต่คุณในฐานะหนึ่งในตระกูลสุวรรณเลิศกลับได้แค่มอง ทำอะไรไม่ได้เลย คุณจะให้ฉันพูดอะไรอีกคะ” วรรณวิมลมองธีร์ธวัชอย่างขุ่นเคือง

ธีร์ธวัชรู้สึกกระอักกระอ่วนมาก ฐานะของเขาในตอนนี้กระอักกระอ่วนจริงๆนั่นแหละ แต่ไม่เป็นไร เขาเชื่อว่าอีกไม่นานทุกคนต้องแหงนหน้ามองเขาเป็นแน่

เรื่องพวกนี้เขาบอกวรรณวิมลไม่ได้ เขาอยากให้เธอเซอร์ไพรส์

“ก็ได้ ถ้าคุณไม่อยากพูดอะไรก็ไม่ต้องพูด ไม่ว่าคุณจะทำอะไรผมจะอยู่เคียงข้างคุณไปตลอดนะครับ” ธีร์ธวัชดึงวรรณวิมลเข้ามาในอ้อมกอด หวังจะให้เธอรู้สึกปลอดภัย แต่สิ่งที่เขาทำกลับยิ่งทำให้วรรณวิมลรู้สึกไม่ชอบใจ

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset