ประวีร์สัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตของชลธีแล้ว แต่เขาก็แค้นมากเหมือนกัน สาวน้อยที่เขาดูแลเหมือนไข่ในหินมานาน กลับแต่งงานกับชลธี เป็นใครก็คงรับไม่ได้เหมือนกัน
“ประธานชลธีก็พูดไป มุกดึงดูดนกยูงตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่จะไปอุทยาน ก็จะมีนกยูงรำแพนหางให้ทุกครั้ง” ประวีร์พูดกับชลธี แต่น้ำเสียงนั้นดูโอ้อวดว่าเขาเติบโตมาพร้อมกับมุกดา
“ตอนนี้ก็เหมือนกัน มุกก็ยังเป็นที่รักอยู่” ชลธีก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อก่อนเขาไม่ได้อยู่ในชีวิตของเธอด้วยก็ไม่เป็นไร แต่ชีวิตต่อจากนี้เขาจะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต
“น้าโรส น้าเจนนี่ อยู่ที่นี่กันหมดเลยเหรอคะ ดูสิคะนกยูงรำแพนห่างกันหมดเลยสวยมากเลยค่ะ พวกเธอสามคนมายืนทำอะไรกันตรงนี้เหรอ?” ธินิดาเดินไปข้างๆคุณนายโรสกับคุณนายเจนนี่ เธอตั้งใจให้สองคนมองไปที่สามคนนั้น
“สามคนนั้นเหมือนกำลังคุยอะไรกันอยู่เลย แต่การเป็นผู้หญิงแล้วยังได้เป็นถึงรองประธาน ทำไมถึงใกล้กับประธานสองคนได้ละคะ?” คุณนายโรสได้ยินธินิดาพูดแบบนี้ ก็รู้สึกอคติกับมุกดาขึ้นมาทันที
“การเป็นรองประธานถ้าสร้างสัมพันธ์ไม่ดีกับประธานละก็ คงไม่ปีนขึ้นไปได้เร็วขนาดนั้น มุกเป็นคนที่ฉลาดมากเลยนะคะ!” ธินิดาตั้งใจพูดแบบนี้ เธอรู้จักคุณนายโรสดี คุณนายโรสตลอดชีวิตนี้ไม่เคยแต่งงานเลย ก็ยิ่งไม่ชอบผู้หญิงที่เอาตัวเข้าแลกเพื่อได้ตำแหน่งมา
“ผู้หญิงต้องพึ่งความสามารถตัวเอง เอาตัวเข้าแลกไม่ใช่ทางออกที่ดี” คุณนายโรสเริ่มมีความรู้สึกอคติกับมุกดาแล้วเล็กน้อย
คุณนายเจนนี่คอยฟังธินิดาที่พยายามยุแยงอยู่เงียบๆ เธอไม่รีบร้อนพูดแทรก แต่รอให้ทั้งสองพูดคุยกันให้เสร็จก่อน
มองดูใบหน้าที่ได้ใจของธินิดา เพราะดีใจที่ยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างมุกดากับคุณนายโรสได้สำเร็จ ในตอนนี้เองคุณนายเจนนี่ก็พูดขึ้น
“โรส ฉันว่าฉันน่าจะบอกกับเธอไว้ก่อนนะ รองประธานมุกดาเป็นภรรยาของประธานชลธี ประธานประวีร์น่ะเป็นเพื่อนบ้านรองประธานมุกดามาแต่เด็กแล้ว ทั้งสามคนพูดคุยกัน ก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก”
“อะไรนะ? รองประธานมุกดาเป็นภรรยาของประธานชลธีงั้นเหรอ?” คุณนายโรสตกใจมาก ชลธีคนที่มีเงินเยอะขนาดนั้น คนที่เป็นภรรยาเขาส่วนมากก็เห็นแก่เงินและความสบายทั้งนั้น แต่มุกดากลับได้เป็นถึงรองประธาน นั่นเป็นเพราะมีความสามารถ ชลธีถึงได้ให้ตำแหน่งนี้
มุกดาสวยขนาดนั้น ถ้าไม่มีความสามารถที่โดดเด่นมากจริงๆ ชลธีก็คงไม่ให้ตำแหน่งรองประธานนี้กับเธอหรอก แต่ว่ามุกดามีความสามารถยังไงกันแน่ ทำให้คุณนายโรสสนใจในตัวเธออีกครั้ง
คุณนายโรสมองค้อนธินิดา เมื่อกี้เธอพยายามจะพูดอะไรกันแน่? มุกดาเป็นภรรยาของชลธี ธินิดาน่าจะรู้เรื่องนี้ดี ในเมื่อรู้ว่าคนอื่นเขาเป็นสามีภรรยากัน เธอยังพยายามพูดยุแยงให้เข้าใจผิดกันอีก เจตนาความคิดของเธอร้ายจริงๆ
ธินิดาไม่คิดว่าคุณนายเจนนี่จะช่วยมุกดา เธอยังคิดว่าคุณนายเจนนี่จะเงียบไปตลอดเสียอีก แต่ตอนนี้บรรยากาศน่าอึดอัดมากจริงๆ
“น้าโรส หนูผิดเองค่ะที่ไม่ทำความเข้าใจก่อน น้าอย่าโกรธเลยนะ” ธินิดารีบทำท่าน่าสงสาร ทำให้คุณนายโรสพูดอะไรไม่ได้อีก
“เอาล่ะ ต่อไปถ้าไม่รู้เรื่องอะไรจริงก็อย่าพูดล่ะ” คุณนายโรสจับมือคุณนายเจนนี่แล้วเดินออกไป ตอนนี้เธอไม่อยากเห็นหน้าธินิดาอีกแล้ว
ธินิดาถูกทิ้งไว้ด้านหลัง เธอรู้สึกกังวล คุณนายเจนนี่หยิ่งยโสมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงช่วยมุกดาล่ะ? ไม่ได้การ เธอจะต้องทำลายความสัมพันธ์ของมุกดากับคุณนายโรสให้ได้
มุกดาสบายเท้ามากเมื่อถอดรองเท้าส้นสูงทิ้งไป งานเลี้ยงในวันนี้ค่อนข้างยาวนานน่าจะห้าชั่วโมงได้ เธอสวมรองเท้าส้นสูงเดินทั้งวัน ตอนนี้เธอรู้สึกเมื่อยตัวไปหมดแล้ว
“มา เดี๋ยวฉันนวดให้ วันนี้คงเหนื่อยแย่เลยสิ” ชลธีนวดเท้าเล็กๆของมุกดาเบาๆ
“เห้อ ทำธุรกิจนี่ไม่ง่ายเลยนะ ชล นายจะต้องพบปะผู้คนแบบนี้ตลอดเลยเหรอ นายคงเหนื่อยน่าดูเลยนะ” แค่ครั้งเดียวยังทำให้มุกดาเหนื่อยขนาดนี้ แต่ชลธีออกไปพบปะผู้คนแบบนี้บ่อยๆ ไม่รู้ว่าเขาจะเหนื่อยแค่ไหน เธอรู้สึกสงสารชลธีจับใจ
“ฉันชินแล้วล่ะ ตอนแรกที่เพิ่งรับหน้าที่ทำงานในบริษัทฮอนดากรุ๊ป ก็รู้สึกไม่ชินเหมือนกัน บางทีก็อยากทิ้งทุกอย่างและหนีไป แต่ฉันจะทิ้งทุกคนที่คาดหวังในตัวฉันไปได้ยังไง ฉันทำไม่ได้หรอกนะ” ชลธีนวดเท้าให้มุกดาอย่างอ่อนโยน เท้าของเธอทั้งขาวทั้งนุ่ม จับไว้ที่มือเหมือนหยกก้อนหนึ่งเลย
มุกดาเข้าใจความรู้สึกชลธีดี พ่อของเธอณิชพนก็ไม่อยากทำธุรกิจเหมือนกัน แถมยังเคยถูกหลอกในด้านธุรกิจอีก ณิชพนไม่เหมาะสมกับงานนี้จริงๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้มุกดามีอยู่มีกินมีชีวิตที่สุขสบาย ณิชพนคงไม่สู้ขนาดนั้นหรอก
“เอาล่ะ ถึงบ้านแล้ว” ไม่นานรถก็มาถึงที่บ้าน มุกดาควานหารองเท้าอยากจะลงรถ
“เดี๋ยวฉันอุ้มเธอไปเอง เธอจะได้พักผ่อน ให้ฉันดูแลเธอเถอะนะ” ชลธีห้ามมุกดาเอาไว้
เขาลงรถไปก่อน เปิดประตูรถแล้วอุ้มมุกดาขึ้นมา มือก็ถือรองเท้าของเธอเอาไว้ด้วย
“แบบนี้ไม่ดีหรอกมั้ง เดี๋ยวคุณยายมาเห็นเข้าหรอก” มุกดาขยับเข้าไปกระซิบข้างหูชลธี
“ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้แล้วคงหลับกันหมดแล้ว” ชลธีพูดอย่างมั่นใจ
นี่มันก็เที่ยงคืนแล้ว ใครจะมีอารมณ์รอพวกเขากลับบ้านกัน
แต่ก็ยังมีคนว่างรอพวกเขากลับมาอยู่ในห้องรับแขก
ย่านิ่มกับสิริกรนั่งรออยู่ในห้องรับแขก ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง พอเห็นชลธีอุ้มมุกดาเข้าบ้าน เธอก็ไม่พอใจทันที
“ไม่มีขาหรือไง ถึงให้ผู้ชายอุ้มเข้ามาแบบนั้น ต้องดัดจริตมากแค่ไหนกัน!” ย่านิ่มตบโต๊ะชาเสียงดัง “ปัง” ทำเอาสิริกรสะดุ้งตกใจจนแทบกระเด้งตัวขึ้นมา
สิริกรมาหลายวันแล้ว เธอค่อนข้างที่จะนอบน้อม เพราะเพิ่งมาจึงไม่ค่อยคุ้นเคยกับที่นี่
นีรชากลับไปบ้านแม่ บ้านนี้หล่อนคงอยู่ไม่ไหว ย่านิ่มเอาแต่หาเรื่องนีรชาไม่เว้นวัน ทุกวันก็เอาแต่ทะเลาะกับหล่อน
“คุณยายครับ ยังไม่นอนเหรอครับ วันนี้มุกใส่รองเท้าส้นสูงมาทั้งวัน เมื่อยเท้ามาก ผมเลยอุ้มเธอเข้ามาครับ” ชลธีไม่สนใจสีหน้าที่บึ้งตึงของย่านิ่ม ภรรยาของเขาเขาจะตามใจยังไงก็เรื่องของเขา
ย่านิ่มไม่กล้าด่าชลธีอยู่แล้ว ทั้งครอบครัวต้องเพิ่งรายได้จากชลธี
แต่เธอก็ยังคงเข้มงวดกับมุกดาเสมอ
“ผู้ชายของตัวเองยังไม่เป็นห่วง แล้วยังให้เขาอุ้มอีก ไม่รู้จักกาลเทศะบ้างเลย!” ย่านิ่มพูดขึ้นอีกครั้ง มุกดาอยากจะลงมา ถ้าให้ย่านิ่มพูดต่อไปแบบนี้คงไม่ดี
“ชล ให้ฉันลงมาเถอะ” มุกดาพูดกับชลธี
“เธอจะลงไปได้ยังไง เท้าเธอถลอกเลยนะ ไม่ต้องไปสนใจพวกเขาหรอก” ชลธีอุ้มมุกดาเดินผ่านห้องรับแขกไป
“หน้าไม่อายจริงๆ ในบ้านนี้คำพูดของฉันไม่มีอำนาจแล้วหรือไง? น่าโมโหจริงๆเลย? ทั้งคนโตทั้งคนเล็กไม่มีใครทำให้ฉันหมดห่วงเลย” ย่านิ่มเห็นว่ามุกดาไม่ฟังตัวเอง เธอก็เริ่มด่าทันที