ชลธีจูงมือมุกดาลงไปชั้นล่าง พอมาถึงห้องอาหาร นอกจากปู่ปรัณ คนอื่นๆ ก็มากันครบหมดแล้ว เพราะเห็นว่าชลธีกับมุกดาลงมา สีหน้าของทุกคนก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ แต่ว่าวันนี้ย่านิ่มก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เธอพูดแค่ว่ามากินข้าวกัน หลังจากนั้นทุกคนกำลังกินข้าว
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ชลธีกับมุกดาก็บอกย่านิ่ม แล้วก็ออกจากบ้านไป วันนี้พวกเขามีเรื่องให้ต้องจัดการเยอะมาก
ย่านิ่มทำเสียงหึ ก็ถือว่าเป็นการตอบรับแล้ว แต่ว่าเช้านี้เธอก็ไม่ได้มีคำพูดแปลกๆ มันทำให้มุกดารู้สึกไม่ปกติเท่าไหร่
พอมาส่งมุกดาถึงโรงแรมที่คุณนายโรสกับคุณยูริสพักอยู่ มุกดาก็ทำตามที่ตกลงกันไว้ ขึ้นไปคุยกันที่ห้องของคุณนายโรส ส่วนชลธีก็ตามขึ้นไปด้วย
คุณนายโรสเห็นว่ามุกดาตรงต่อเวลามาก เธอไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าความประทับใจที่มีต่อมุกดานั้นมันมากขึ้นเรื่อยๆ
ในระหว่างที่มุกดาคุยกับคุณนายโรสอยู่นั้น ชลธีกับคุณยูริสก็นั่งคุยกันอยู่ด้านนอก
มุกดาหยิบสัญญาที่ตัวเองเตรียมไว้เมื่อคืนออกมา พูดในมุมมองของตัวเอง แล้วก็ถามความคิดเห็นจากคุณนายโรส ทุกสิ่งทุกจัดการอยากไม่มีรั่วไหล
คุณนายโรสก็ไม่ได้เซ็นสัญญาในทันที เธอหยิบสัญญาไปแล้วก็พูดกับมุกดาว่า “มุก สัญญาที่ควรเตรียมมาเดี๋ยวฉันจะอ่านมันคืนนี้ ตอนนี้เวลาค่อนข้างที่จะกระชั้นชิด ถึงแม้ว่าคุณจะพูดเยอะ แต่ว่าฉันก็ไม่สามารถตกลงได้ภายในเวลาสั้นๆ ฉันขอไตร่ตรองหน่อยได้ไหม?”
“ได้ค่ะ ฉันเองก็ไม่ได้รีบร้อน ก็แค่เอาสัญญามาให้คนดูเฉยๆ ถ้าเกิดว่ามีอะไรอยากเสริมหรือว่าแก้ไขก็บอกฉันได้เลยนะคะ” มุกดายังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเหมือนเดิม
ถ้าเกิดว่าเป็นคนอื่นคงคิดว่าคุณนายโรสกำลังเล่นแง่กับตัวเองอยู่ แต่ว่ามุกดากลับไม่ได้คิดแบบนั้น เธอกลับคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดี
“อืม มุก ฉันรู้สึกว่าคุณเหมือนเพื่อนฉันคนหนึ่งเลย สไตล์ทำงานและโทนเสียงในการพูดนั้นคล้ายกันมาก”พอคุยเรื่องงานเสร็จ คุณนายโรสก็พูดกับมุกดา
“คนที่สามารถอยู่กับคุณนายโรสได้นั้นต้องถือว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ฉันจะไปเที่ยวได้ยังไงคะ คุณนายโรสคุณก็พูดตลกไปแล้ว” ตัวเองเพิ่งจะเหยียบเข้ามาในแวดวงธุรกิจ จะไปเทียบกับนักธุรกิจเก่าแก่ได้อย่างไรกัน
คุณนายโรสก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเปรียบเทียบอยู่ในใจ และรู้สึกว่ามันคล้ายกันมาก ไม่ว่าจะมองยังไงก็คล้ายกัน แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกว่าหน้าตาของพวกเธอก็ขายกันนิดหน่อย น่าจะเป็นเพราะความรู้สึกของเธอเองมากกว่า
พอคุยกับคุณนายโรสเรียบร้อยแล้ว มุกดาก็ไปคุยกับคุณยูริสเล็กน้อย ผลก็เหมือนกัน ก็คือต้องอ่านสัญญาก่อน แล้วค่อยมาคุยกันเรื่องอื่น
“โอเคค่ะ ธุระของฉันเรียบร้อยแล้ว ไม่รบกวนเวลาพวกคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ อีกเดี๋ยวคุณธินิดาจะมารับพวกคุณแล้ว ฉันไปก่อนนะคะ” มุกดายืนขึ้น พร้อมกับบอกลาคุณนายโรสและคุณยูริส
พอขึ้นรถ มุกดาก็หลับไปอีกครั้ง เมื่อกี้เธอเต็มไปด้วยพลังงานมาก ท่าทางที่มีระเบียบแบบแผนของเธอในเมื่อกี้นั้นแตกต่างกลับตอนนี้ราวฟ้ากับเหว
ชลธีก็ไม่ไปรบกวนเธอ ปล่อยให้เธอหลับสบาย
พอมาถึงบริษัทฮอนดากรุ๊ป ภายใต้สายตาของทุกคน ชลธีก็อุ้มมุกดาเข้าไปในบริษัท
เวลานี้มุกดาก็ตื่นขึ้นมา เธอมองดูชลธี ตัวเองยังคงสะลึมสะลืออยู่ เธอหลับตาลงไปอีกครั้งและนอนด้วยท่าทางสบายๆ บนตัวของชลธี พร้อมกับผล็อยหลับไปอีกครั้ง
ข่าวที่ชลธีอุ้มมุกดาเข้าบริษัทนั้น มันบินไปทั่วทุกมุมของบริษัทฮอนดากรุ๊ปราวกลับมีปีก ทุกคนรู้สึกอิจฉาอย่างมาก
“เฮ้อ จันทร์ ท่านประธานกับรองประธานของเรานี้ช่างสวีทกันจริงๆ เธอไม่รู้หรอก ว่ารองประธานถูกท่านประธานอุ้มลงจากรถ ไม่รู้ว่าเพราะว่าเมื่อคืนดุเดือดเกินไปหรือเปล่า ทำให้รองประธานเข้างานมายังง่วงขนาดนี้” แผนกการตลาดก็ต่างเข้ามาล้อมจันวิภา ทุกคนต่างก็รู้ว่ารองประธานก็คือเพื่อนสนิทของจันวิภา
“ปกติพวกเขาก็สวีทกันอยู่แล้ว มีอะไรแปลกเลยเหรอ? “จันวิภามองดูคนพวกนี้ซุบซิบกัน รู้สึกว่ามันเหลือเชื่อมาก เรื่องของคนอื่นจะสวีทกันหรือไม่สวีทกันก็กลายมาเป็นหัวข้อในการพูดคุยของพวกเขาได้
แน่นอนว่าตัวเธอเองก็เป็นคนขี้เมาท์มาก เธอยังชอบฟังมาก ขอแค่ได้ยินเรื่องที่ดีเกี่ยวกับมุกดา เธอก็มีความสุขแล้ว
“ก็ต้องแปลกสิ เธอไม่รู้เหรอกว่าเมื่อก่อนน่ะในใจของประธานชลธีมีเพียงแค่คุณธินิดาเท่านั้น แม้แต่บนโต๊ะหรือในกระเป๋าตังค์ก็มีแต่รูปของคุณธินิดา แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในกระเป๋าตังค์ของท่านประธานจะเป็นรูปของใคร” คนที่ขี้ซุบซิบมักจะรับรู้ข่าวไวเสมอ
“ก็ต้องเป็นรูปของมุกของพวกเราแน่นอนสิ มีอะไรให้ต้องสงสัยอีก”จันวิภาตัดสินใจแทนคนอื่นในทันที ที่จริงเธอก็ไม่รู้หรอกนะว่าในกระเป๋าตังค์ของชลธีเป็นรูปใครกันแน่ แต่ว่านี่มันก็ปลุกความสงสัยของเธอ เพราะว่าเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าในกระเป๋าตังค์ของชลธีมีรูปของใครอยู่กันแน่
พอเข้าไปในห้องทำงาน ชลธีก็วางมุกดาลงบนโซฟา พร้อมกับไปหยิบผ้าห่มให้เธอ ตอนนี้เองมุกดาก็ตื่นขึ้นมา เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองขึ้นมาข้างบนได้ยังไง
พอมองดูบรรยากาศรอบๆ ก็เหมือนกับว่าเป็นห้องทำงานของตัวเอง แล้วก็เหมือนกับว่าไม่ใช่ สุดท้ายเธอก็แน่ใจ วันนี้มันไม่ใช่ห้องทำงานของตัวเอง สถานที่ที่ดูเย็นชาไปทุกหนแห่งแบบนี้ก็คงจะเป็นห้องทำงานของชลธีสินะ
เธอยื่นมือออกไปบิดขี้เกียจแล้วก็ลุกขึ้น ตอนนี้เองชลธีก็ถือผ้าห่มเดินเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอ?”ชลธีวางผ้าห่มลงบนโซฟา
“อืม สบายมากเลย ตอนนี้ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาแล้ว มีเรื่องอะไรจะให้ฉันทำหรือเปล่า?”มุกดามองดูโต๊ะทำงานของชลธี โชคดีที่ไม่ได้มีเอกสารอะไรมาก
“ไม่มี วันนี้ผมไม่ได้มีเอกสารอะไร มันถูกจัดการเสร็จไปหมดแล้ว มุก ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณหน่อย” ชลธีกอดมุกดาไว้ในอ้อมแขน
“ถามอะไรเหรอ?” ทอมมุกดารู้ว่าวันนี้เธอได้จัดการธุระกับคุณนายโรสและคุณยูริสเสร็จแล้ว ดังนั้นเธอก็เลยรู้สึกมีความสุขมาก
“เรื่องสัญญาที่คุณทำเมื่อคืนนี้ ผมเห็นว่าคุณนายโรสและคุณยูริสไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเลย แล้วทำไมคุณถึงได้หลับสบายขนาดนั้น?”ชลธีก็อยากจะทำงานร่วมกับคุณนายโรสและคุณยูริสมาโดยตลอด แต่ว่ายังไม่มีโครงการที่เหมาะสมเท่านั้นเอง
แต่ว่ามุกดากลับทำให้บอสใหญ่ของธุรกิจเครื่องประดับและอาหาร มาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชลธีไม่อยากจะเชื่อเลย นั่นมันข้ามขอบเขตไปแล้ว พวกเขาจะตกลงไหม?
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงเลย คุณเคยบอกฉันแล้วไม่ใช่เหรอ ดูจากตัวเองและรู้จักศัตรูให้ดี รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง ฉันไปสืบหาเกี่ยวกับนิสัยและงานอดิเรกของคุณนายโรสและคุณยูริสมาเรียบร้อยแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันให้พวกเขามาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของพวกเรา เพราะว่าระหว่างพวกเขาสองคนนั้นถ้าเกิดว่ามีคนหนึ่งอยากลงทุน อีกคนหนึ่งก็จะลงทุนเหมือนกัน”มุกดาพูดไปแล้วก็ให้ชลธีเทน้ำให้เธอ
ชลธีเทน้ำให้มุกดาอย่างกระตือรือร้น ภรรยาของเธอนี่ช่างมีหัวคิดจริงๆ วิเคราะห์เรื่องต่างๆ ได้อย่างชัดเจนและมีตรรกะ
“ฉันไปสืบมาแล้ว ว่าคุณนายโรสเตรียมจะลงทุนในธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้ ไม่ใช่แค่เฉพาะธุรกิจเรื่องเครื่องประดับและอาหาร และบริษัทฮอนดากรุ๊ปของพวกเราก็มีประสบการณ์ทางด้านอสังหาริมทรัพย์มาตั้งหลายปี สามารถยืนหยัดอยู่ในพระนครได้ ก็เป็นเพราะความสามารถของบริษัทฮอนดากรุ๊ป เรื่องนี้พวกเขาก็สามารถเห็นได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นฉันก็เลยเสนอให้พวกเขามาลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์กับบริษัทฮอนดากรุ๊ป”